DWO City
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Go down
Gudomana
Gudomana
Posts : 52
Join date : 2018-08-20

Edge Empty Edge

Tue Aug 21, 2018 5:55 pm
กริ๊งงง”

เสียงของโทรศัพท์ดังขึ้นมา เด็กน้อยผมดำลุกจากหน้าคอมพิวเตอร์ของเขาเมื่อเขาได้ยินเสียงโทรศัพท์ครั้งนี้ หากดูใบหน้าและรูปร่างของชายคนนี้แล้ว ก็คงประมาณสิบกว่าปีได้ เขาเป็นชายที่มีรูปร่างและส่วนสูงสมส่วนตามวัย ผิวของเขาไม่สว่างและมืดจนเกินไป หนุ่มคนนี้ยื่นมือไปหาโทรศัพท์สีดำที่ตั้งอยู่บนแท่นของมัน เขากดปุ่มสีเขียและยกโทรศัพท์ขึ้นมาข้างหูเขา

“ครับ?” เด็กหนุ่มพูดขึ้นก่อนที่ปลายสายจะพูดออกมา
“นี่ใช่บ้านของคุณกีรติรึเปล่าครับ?” เสียงปลายสายที่ไม่คุ้นหูดังขึ้นมาจากปลายสาย
“นั่นคุณพ่อผมครับ มีอะไรรึเปล่าครับ?” ลูกชายของกีรติตอบด้วยน้ำเสียงธรรมดาๆของเขา

“...คุณพ่อของเสียชีวิตในอุบัติเหตุทางรถยนต์นะครับ” เสียงปลายสายแจ้งข่าวขึ้นมา
“ห๊ะ?” หนุ่มน้อยอุทานออกมาเมื่อได้ยิน
“ใครโทรมาวะ ถ้าล้อเล่นไม่ตลกนะเว้ย” เด็กหนุ่มเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงโมโห เขาคงคิดว่านี่เป็นการล้อเล่นขำจากเพื่อนของเขา

“อันนี้ไม่ได้เป็นเรื่องล้อเล่นครับ อันนี้เป็นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรมาครับ” ปลายสายซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตอบกลับ
“....” เด็กหนุ่มไม่ได้พูดอะไร เขาได้แต่ยืนเงียบสนิท

โลกของเขาหยุด แม้เขาจะยังคงได้ยินเสียงจากปลายสายของเขาพูด แต่เขาไม่สามารถจับใจความอะไรได้เลยแม้แต่น้อย หนุ่มคนนี้รู้สึกว่าร่างกายของเขาอ่อนล้าและอ่อนแรง เหมือนกับร่างของเขาพร้อมพังทลายอยู่ทุกขณะ

-----

เด็กหนุ่มคนเดิมนั่งอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมสีขาว มันเป็นห้องแอร์ท่ีมีอากาศเย็น ลมเย็นๆปัดความร้อนออกจากห้องไปจนหมด ในห้องมีเก้าอี้และโต๊ะจำนวนมากเรียงกันเป็นแถวตรง เก้าอี้ทุกด้านที่ล้อมเขาล้วนแต่มีคนนั่งจับจองอยู่ ทั้งชายและหญิง นักเรียนแต่ละคนใส่เครื่องแบบต่างกันไป พวกเขามาจากโรงเรียนที่ต่างกัน มือของทุกคนที่อยู่รอบๆเขา ขยับอย่างไม่หยุด เสียงของปากกาที่ถูกขีดเขียนบนแผ่นกระดาษดังก้องในห้องที่เงียบ  ทว่าเด็กหนุ่มคนนี้กลับนั่งนิ่งอยู่กับที่ แม้มือของเขาจะจับปากกาสีดำไว้ แต่มือของเขาหยุดนิ่งราวกับถูกสะกดไว้กับที่ ดวงตาของเขามองกระดาษแผ่นสีขาวที่อยู่ตรงหน้า เขาอ่านข้อความสีดำที่ถูกพิมพ์ไว้บนกระดาษซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้เขาจะอ่านข้อความออก แต่เขาไม่สามารถมองหาคำตอบของคำถามได้

“กึกๆ”

เสียงของเข็มนาฬิกาที่ถูกแขวนอยู่เหนือนกระดาษดำเดินไปอย่างช้าๆดังก้องในหูของเขา มันเหมือนกับเป็นเสียงชีพจรที่เต้นอย่างแผ่วเบา ราวกับว่าชีวิตของเขากำลังจะจบลงแล้ว เด็กหนุ่มคนนี้กำปากกาแน่นพร้อมกับกัดริมฝีปากของตน เขาอยากจะต่อสู้กับชะตากรรมของเขา แต่ทว่าสภาพของเขาในตอนนี้ เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย สมองของเขาว่างเปล่า ตั้งแต่วันทีเขาสูญเสียพ่อของเขาไปเมื่อสองสัปดาห์ก่อน เขาก็ไม่สามารถตั้งสมาธิอีกเลย

“บ้าเอ๊ย..” เด็กคนนี้สบถออกมาเบาๆ พร้อมกับหลับตาลง

-----

ท้องฟ้านั้นมืดมิด มันเป็นค่ำคืนที่ไร้จันทราหรือดวงดาราที่ระยิบระยับไปบนท้องฟ้า พวกมันถูกบดบังด้วยเมฆสีดำสนิท เด็กหนุ่มและหญิงที่วัยสามสิบปลายๆผู้มีใบหน้าคล้ายเคียงกับเด็กคนนี้ ยืนอยู่เคียงข้างกัน ทั้งสองใส่ชุดสีดำและยืนอยู่ในวัดที่เต็มไปด้วยบรรยากาศโศกเศร้า เสียร่ำไห้ของคนโดยรอบดังกึกก้องไปทั่ว ทว่าเด็กหนุ่มคนนี้เข้าไม่ร้องไห้ มันไม่มีหยดน้ำตาเลยแม้แต่ซักหยด เขามองไปข้างหน้าของเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดแค้น

“ไนท์ ลูกไม่ต้องกังวลนะ เราจะไม่เป็นไร” หญิงที่เป็นแม่หันมาพูด
“ต่อให้ลูกสอบไม่ติด เราก็หาโรงเรียนใหม่ให้ลูกได้” เธอพูดต่อ

ทว่าไนท์ไม่ได้พูดอะไร เขาเงียบ ในใจของเขาตอนนี้สุมไปด้วยไฟแค้นและเต็มไปด้วยความเคียดแค้นต่อโชคชะตาที่พาเขามาสู่เส้นทางชีวิตที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก

“ทำไมต้องเป็นชั้นด้วย?” เขาถามกับผู้ควบคุมชะตาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น
Back to top
Permissions in this forum:
You cannot reply to topics in this forum