DWO City
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Go down
IamKurtCobian
IamKurtCobian
Posts : 108
Join date : 2018-08-20
Age : 26

Hongdae Club : มันเริ่มที่ฮงแด Empty Hongdae Club : มันเริ่มที่ฮงแด

Tue Aug 28, 2018 11:12 pm
28/8/2018


22.00 น.


เทศกาลดนตรี แฟร์เวล ซัมเมอร์


Hongdae Club : มันเริ่มที่ฮงแด 2014_KASABIAN_DB_0371290614_2




“เสียงดนตรีที่กึกก้อง”




“ผู้คนที่ปล่อยใจไปกับเสียงเพลง”




       นี่เป็นบรรยากาศที่ดีที่สุดในชีวิตของผม เบื้องหน้าของผมคืองานแสดงคอนเสิร์ตของวงดนตรีวงหนึ่ง วงที่ผมเห็นมาตั้งแต่พวกเขายังทำอะไรไม่เป็น ตั้งแต่พวกเขายังมีคนดูแค่หลักหน่วย มาถึงวันนี้มีผู้คนมาดูพวกเขามากมาย มันเป็นคอนเสิร์ตกลางแจ้ง ที่บนท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวในยามค่ำคืน พวกเขาได้รับความรักและความนิยมอย่างสูง พวกเขาเล่นเพลงที่ทั้งสนุกสนานที่ทำให้ผู้ชมโดดกันตัวโยน และสลับด้วยเพลงช้าๆที่ซึ้งกินใจจนบางคนเสียน้ำตา และกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ผมรู้ดีว่าพวกเขาจะต้องผ่านอะไรมาบ้าง  




“ขอบคุณทุกคนมากๆที่มาในวันนี้” นักร้องนำบนเวทีพูดขึ้น






“ถ้าหากย้อนกลับไป ในวันเก่าๆ…”






“พวกเราฝันถึงวันนี้มาโดยตลอด..”






“วันที่พวกเราจะได้แสดงต่อหน้าทุกๆคน…”





“เฮฮฮฮฮฮ” เสียงคนดูโห่ร้องกึกก้อง





“เอาล่ะ นี่คือเพลงสุดท้าย” นักร้องนำพูดต่อ





“เราขอมอบมันให้เพื่อนที่สำคัญของเราคนนึง…”





“แม้ว่าเขาจะไม่ได้ยืนอยู่บนเวทีกับเรา”





“แต่ถ้าไม่มีเขาก็ไม่มีเรา…”





“และนี่คือเพลงที่เขาเป็นคนแต่ง”





“ฮงแดสตรีท”




--------------------------------------------


หนึ่งปีที่แล้ว


13/8/2017


  8.00 น. 



อพาร์ตเม้นต์โทรมๆย่านมาโป




Hongdae Club : มันเริ่มที่ฮงแด 37487368_facade_of_old_apartment_in_seoul_korea






“อย่ามาเถียงนะอีเลว!!”



         เสียงของชายผู้บ้าคลั่งตะโกนขึ้นอย่างดุดัน เป็นเรื่องธรรมดาที่นาฬิกาปลุกของผมจะเป็นเสียงของพ่อเลี้ยงขี้เหล้า ผมไม่ใช่คุณหนูที่ไหน ผมเป็นเด็กผู้ชายธรรมดาคนนึงที่ชีวิตไม่ได้สวยงามนัก เสียงที่ทะเลาะกันของพ่อเลี้ยงกับแม่ผม ปลุกผมให้ลุกขึ้นจากเตียงและตรงไปที่ห้องน้ำในห้องของผมเพื่ออาบน้ำไปโรงเรียน ที่ๆไม่มีใครต้องการผมและผมก็ไม่ต้องการพวกเขาเช่นกัน ครูที่โรงเรียนเรียกผมว่าเด็กเหลือขอ บางคนก็บอกว่าผมจะโตไปเป็นอาชญากร รู้มั้ยผมไม่รู้สึกว่าเรื่องที่เขาพูดเป็นเรื่องที่ผิดเลย 



         ผมมองหน้าตัวเองในกระจก ผมชื่อว่า คัง โดฮัน.. ถามว่าผมเกลียดส่วนไหนของตัวเองมากที่สุด ผมจะตอบว่า “สีผม” สีผมที่เป็นสีทองของผม สีผมที่พ่อเฮงซวยของผมทิ้งไว้ให้ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตตั้งแต่ผมยังจำความไม่ได้ ผมเกลียดเขาที่ทำให้ผมเกิดขึ้นมาแต่ไม่อยู่เลี้ยงดูผม



         ผมอาบน้ำอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะเปลี่ยนชุดในห้องของตัวเองและเปิดประตูห้องนอนของผมออกไปสู่ภาพที่ผมเห็นจนชินตา คุณคาดหวังอะไรจากผม? ขนมปังหรอ? อาหารเช้า? ไม่มีของแบบนั้นในอพาร์ตเม้นต์เองซวยแบบนี้หรอก เพราะมันมีแต่พ่อเลี้ยงที่เกลียดขี้หน้าผม ใบหน้าของมันเหมือนคนเมายังไม่สร่าง มันแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่ยับยู่ยี่ที่มีรอยลิปสติกที่คอเสื้อ และแม่ของผมที่ใบหน้าฟกช้ำดำเขียวไปหมด เธอร้องไห้ออกมาอย่างที่เป็นมาตลอด ไม่เคยมีครั้งไหนที่ผมเห็นแม่แบบที่ไม่ได้กำลังร้องไห้อยู่






“จะไปโรงเรียนแล้วหรอลูก?” เธอรีบปาดน้ำตาก่อนจะถามผม






“อืม...”






“ม่ะ.. มีเงินรึเปล่า” เธอถามผมทั้งๆที่เธอเองก็ไม่มี






“ถ้าแม่มีเงินก็เก็บไว้ซื้อยาทาแผลเถอะ”






“แล้วก็คุณน่ะ..” ผมหันไปพูดกับพ่อเลี้ยงของผม






“ถ้ายังไม่เลิกทำร้ายแม่ผม...”






“…ผมฆ่าคุณจริงๆนะ…”






“…….”เขาเงียบและเดินเข้ามาใกล้ๆก่อนจะยื่นหน้ามาที่ผม






“ถ้าแกทำได้อ่ะนะ...”






“...ไอ้เด็กไม่มีพ่ออย่างแก…”




 
          เขาพูดพร้อมๆกับจ้องมาที่ดวงตาของผม ในตอนนั้นผมอยากจะต่อยมันใจจะขาด แต่ผมรู้ดีว่าถ้าผมทำให้มันบาดเจ็บ มันจะเก็บความแค้นที่มีต่อผม ไปลงกับแม่ผมซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก ผมจะไม่ยอมให้มันทำร้ายแม่ผมโดยเอาเรื่องของผมมาเป็นข้ออ้างในการทำแบบนั้น






“……”






 “ม่ะ แม่ว่ารีบไปเรียนเถอะ โดฮัน” เสียงของแม่บอกให้ผมรีบไปเรียน






“อืม...” ผมพยักหน้าให้เธอก่อนจะเริ่มเดินออกจากห้องไป






“สุดท้ายแกก็หลบอยู่หลังแม่ของแกเหมือนเคย!!”






“ไปเลยไอ้เด็กเวร!!”






“ไปแล้วอย่ากลับมาอีก!!”






          พ่อเลี้ยงตะโกนด่าผมอย่างหยาบคายโดยที่ไม่สนเพื่อนบ้านห้องอื่นๆที่สุดจะเอือมระอากับพฤติกรรมของครอบครัวผม พวกเขาถึงขนาดมีคำพูดที่ว่า “ถึงครอบครัวชั้นจะมีปัญหาแต่ก็ยังไม่เท่าครอบครัวของโดฮัน” ถ้าจะถามว่ามันเริ่มขึ้นตอนไหนงั้นหรอ? ถ้าผมจำไม่ผิดมันน่าจะเกิดในช่วงที่ผมใกล้จะจบชั้นประถม วันนึงผมกลับมาที่บ้านและเจอแม่ที่ยิ้มให้ผมอย่างร่าเริงพร้อมๆกับบอกผมว่า ผมจะมีพ่อแล้ว ซึ่งผมไม่ได้รู้สึกดีใจอะไรทั้งนั้นในตอนนั้น และจนถึงตอนนี้ผมก็ยิ่งแน่ใจว่าผมเป็นคนมีลางสังหรณ์ที่แม่นยำ เพราะว่าในวันนั้น คือวันที่ท้ายที่ผมเห็นแม่ยิ้ม...



          ผมเดินลงบันไดลงมาเรื่อยๆจนถึงชั้นล่างสุด ผมเดินออกจากซอยที่เป็นที่ตั้งของอพาร์ตเม้นต์ของผม ผมอยู่ในเขตมาโป มันเป็นเขตที่มีความเจริญใช้ได้ มันเป็นที่ตั้งของย่านท่องเที่ยวที่โด่งดัง “ฮงแด” แต่ว่าไม่ใช่ทุกที่ในมาโปที่จะเป็นแบบนั้น ที่ๆผมอยู่มันไม่ได้สวยงามซักเท่าไร ผมเดินมาเรื่อยๆจนถึงป้ายรถบัสเพื่อรถบัสที่จะพาผมไปที่โรงเรียนในวันนี้ ผมเรียนที่โรงเรียนมัธยมทาโจ ที่แปลว่านกกระจอกเทศ ไม่รู้ว่าใครตั้งชื่อโรงเรียนที่ห่วยแตกขนาดนี้ขึ้นมา




          และไม่กี่อึดใจ รถบัสประจำทางก็เดินทางมาหยุดตรงหน้าผม วันเวลานี้ช่างแสนน่าเบื่อ ผมต้องเดินทางไปในที่ๆผมไม่อยากจะไปและผมก็ไม่ชอบรถโดยสารที่อัดแน่นไปด้วยผู้คนเอาซะเลย ทุกครั้งๆ ผมหวังให้รถบ้านี่พังกลางทาง หรือไม่ก็พลิกคว่ำอะไรแบบนั้น เพื่อที่ผมจะได้ไม่ต้องไปโรงเรียนได้อย่างภาคภูมิใจ ไม่ต้องโกหกว่าแกล้งป่วย แล้วก็ไม่โดนตัดคะแนนด้วย






“คัง โดฮัน?” เสียงปริศนาพูดชื่อผมขึ้นมา






“.......”






“นายใช่คังโดฮันที่เคยอยู่ยงซานรึเปล่า?” ท่ามกลางผู้คนที่อัดแน่นเจ้าของเสียงปริศนาค่อยๆขยับมาหาผม






“ชั้นมีเพื่อนสมัยเด็กที่เคยอยู่ยงซาน”






“ที่ชื่อและหน้าเหมือนกับนายเป๊ะ”






         ผมไม่รู้ว่ามันเกิดบ้าอะไรขึ้นที่นี่ ไม่เคยมีใครสนใจว่าผมเป็นใคร เคยอยู่ที่ไหน มันก็ซักพักแล้วที่ไม่มีใครคิดจะทักทายผม เพราะว่าไม่มีใครอยากรู้จักกับเด็กนักเรียนที่มีผมสีทองเหมือนกับเด็กเกเร และผมสาบานได้ว่า ผมไม่เคยเล่าให้เพื่อนคนไหนฟังว่าผมย้ายบ้านมาจากเขตยงซานก่อนที่จะมาลงหลักปักฐานที่มาโป ผมไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลยจริงๆ






“......”






“ใช่.....”






“ผมเคยอยู่ยงซานจริงๆ” ผมพูดพร้อมกับมองเข้าไปในดวงตาของเขา






“...”






“...ใช่นายจริงๆด้วย”






“นายคงจะจำชั้นไม่ได้สินะ โดฮัน” อีกฝ่ายพูดในขณะที่มองเข้ามาในดวงตาของผม





“แหงอยู่แล้ว..” ผมตอบรับเขา





“ถ้างั้นขอถามเลยแล้วกัน”






“คุณ เป็น ใคร?” ผมถามเขา
Back to top
Permissions in this forum:
You cannot reply to topics in this forum