DWO City
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Go down
Gudomana
Gudomana
Posts : 52
Join date : 2018-08-20

Envision Game  Empty Envision Game

Wed Aug 29, 2018 7:08 pm
สารบัญ

Hisato Shigeru
Prologue


Last edited by Gudomana on Wed Aug 29, 2018 7:12 pm; edited 2 times in total
Gudomana
Gudomana
Posts : 52
Join date : 2018-08-20

Envision Game  Empty Hisato Shigeru - Prologue

Wed Aug 29, 2018 7:09 pm
A Man With Blood

ชายสองคนยืนเผชิญหน้ากันบนพื้นเบาะสีม่วงที่มีขนาดกว้าง เบาะสีม่วงถูกปูรองพื้นไม้ที่เชื่อมกับกำแพงไม้ บนกำแพงแขวนแผ่นกระดาษที่มีตัวอักษรเขียนอยู่ รอบพวกเขามีผู้คนมากมายที่จับจ้องพวกเขาอยู่ คนพวกนี้แต่งตัวคล้ายๆกัน คือเสื้อยืดสีขาวและกางเกงวอร์มสีดำ ชายคนหนึ่งที่ยืนบนเวทีเป็นชายที่มีรูปร่างกำยำ ดูจากกล้ามเนื้อของแขน ขา และลำตัวของเขา ใบหน้าของเขาหนุ่มคนนี้แสดงให้เห็นถึงความอ่อนเยาว์ ผิวของเขาเป็นสีแทนตามหนุ่มเอเซีย ผมของเป็นสีน้ำตาล มันเป็นทรงผมที่สั้นและเป็นระเบียบ ตรงข้ามกับชายคนนี้เป็นชายที่กำยำกว่าตัวของชายผมน้ำตาล แต่ใบหน้าของเขาดูแก่กว่าไม่ปีก็สองปี ผมของเขาเป็นทรงสกรีนเฮ้ด ทั้งสองคนต่างยืนตั้งการ์ดเตรียมเผชิญหน้ากัน


“ย๊ากกก” ชายที่แก่กว่าคำรามพร้อมกับเหวี่ยงหมัดไปข้างหน้า


ทว่าเป้าหมายของเขาหลบหมัดได้อย่างง่ายดาย มือของชายผมน้ำตาลจับไปที่แขนของคู่ต่อสู้ และออกแรงทุ่มลงไปกับพื้น แม้ชายทรงสกรีนเฮ้ดจะตัวใหญ่กว่ามาก แต่หนุ่มผมน้ำตาลคนนี้จับทุ่มคู่ต่อสู้ของเขาได้สบายๆ


“ตึง” เสียงของหลังชายร่างยักษ์กระแทกกับพื้นเบาะดังก้องขึ้นมา ชายผมน้ำตาลถอยออกไป ชายที่ถูกทุ่มใช้มือยันเบาะสีม่วงและดันร่างเขาขึ้นมา ใบหน้าของดูไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก
“ชิเงรุ….แก!!” ชายคนเดิมตะโกนสุดเสียงด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว พร้อมกับวิ่งตรงไปกับหมูป่าที่บ้าคลั่ง


ทว่าชายที่ถูกเรียกว่าชิเงรุหมุนตัวก่อนจะเตะเข้าไปที่ลำคอของชายผู้บ้าคลั่ง แรงเตะเพียงครั้งเดียว ทำให้ร่างอันใหญ่ยักษ์หยุดและยืนโงนเงน ชิเงรุกำหมัดแน่นและส่งหมัดของเขาตรงเข้าไปยังหน้าท้องของรุ่นพี่ของเขา รุ่นพี่เขาล้มลงไปและนอนกุมท้องบนพื้นเบาะ ชายอีกคนที่ยืนใกล้กับเวทีที่สุดวิ่งตรงมาและทำท่าเหมือนหยุดการต่อสู้ครั้งนี้


“ดูเหมือนผมจะชนะอีกแล้วนะครับ รุ่นพี่” ชิเงรุพูดขึ้นมาในขณะที่เขามองคู่ต่อสู้ที่นอนเจ็บอยู่บนพื้น
“ผมก็เตือนรุ่นพี่หลายครั้ง แล้วว่าผมเก่งกว่า แต่รุ่นพี่ก็ดูจะดันทุรังเหลือเกิน” ชายผมน้ำตาลพูดต่อ
“แก…” ชายสกรีนเฮ้ดกำหมัดแน่น เขาพยายามดันตัวเองจากพื้น แต่ความเจ็บปวดรั้งไว้เขาไว้
“ถ้างั้นผมขอตัวก่อนละกันครับ” ชิเงรุก้มหัวโค้งเป็นการให้เกียรติ แม้คำพูดของเขาจะดูสวนทางก็ตาม


ชิเงรุเดินออกจากโรงฝึกและเดินไปยังข้างหลัง มันมีก๊อกน้ำจำนวนหนึ่งเรียงติดกันอยู่ ชิเงรุบิดก๊อกน้ำออก น้ำไหลจากก๊อก เขาเอามือมารองไว้และนำน้ำมันสัมผัสกับใบหน้าของเขา เพื่อชำระล้างเหงื่อออก ในขณะที่เขาหยิบผ้าขนหนูสีขาวมาเช็ดหน้าของเขาให้แห้ง เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนเดินตรงมายังเขา ชิเงรุแหงนหน้าขึ้นช้าๆ เขาเห็นหญิงร่างบาง ที่มีใบหน้าเด็ก เธอมีสีผมเหมือนกับชายที่ยืนอยู่ข้างหน้าเธอ ผมของเธอเป็นสีน้ำตาล เธอผูกหางม้าไว้ เธอสวมเครื่องแบบของโรงเรียนนั่นคือเสื้อสีดำและกระโปรงสีแดง


“มีอะไรหรอ ซาโอริ?” ชิเงรุถามพลางเอื้อมมือไปปิดก๊อกน้ำ
“พี่เอาอีกแล้วนะ” ซาโอริพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“นี่เธอแอบดูพี่ซ้อมอีกแล้วหรอ?” แม้เนื้อความที่ซาโอริพูดจะดูไม่ค่อยเข้าใจ แต่พี่ชายของเธอก็สามารถรับรู้ได้ว่าเธอกำลังสื่ออะไร


“อันนั้นไม่น่าเรียกว่าซ้อมนะ น่าจะเรียกว่าทะเลาะวิวาทมากกว่า” น้องสาวของเขาไม่เห็นด้วย
“นี่ชมรมศิลปะการต่อสู้นะ ถ้าพี่ไม่ชกชาวบ้าน แล้วจะให้พี่ทำอะไร?”
“อีกอย่าง เจ้าหมอนั่นดูถูกศิลปะการต่อสู้พวกเรามาหลายครั้งแล้ว พี่ก็ต้องพิสูจน์ให้มันเห็นหน่อย” ชิเงรุตอบ
“ก็ช่างเขาซิค่ะ คำพูดของเขาทำอะไรเราไม่ได้หรอก” ซาโอริพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ


“เก๊ง” เสียงขอระฆังดังขึ้นมา


“ถ้างั้นพี่ขอตัวล่ะ เจอกันที่หน้าทางเข้าหลังเลิกเรียนนะ” ชิเงรุโบกมือพร้อมกับเดินจากน้องสาวของเขาไป
“เดี๋ยวพี่” ซาโอริพยายาจะเรียกพี่ชายเธอกลับมาพูดคุยกันต่อ แต่เธอทำไม่สำเร็จ


ในขณะที่ชิเงรุเดินจากไปเขาก็ก้มมองกำปั้นของเขา


---


“ลุกขึ้นมา ชิเงรุ!!” ชายวัยชราที่ร่างกายแข็งแรงตะโกนขึ้นด้วยน้ำเสียงที่น่าเกรงขาม


ใบหน้าของชายคนนี้ดูน่าหวาดกลัวแม้จะมีรอยเหี่ยวย่นปรากฏอยู่ตรงหน้ามากมายก็ตาม บนศีรษะของเขาไม่มีเส้นผมซักเส้น เบื้องหน้าของเขาคือเด็กน้อยผมสีน้ำตาลที่นอนหน้าคว่ำอยู่บนพื้นไม้ เขาพยุงร่างตัวเองจากพื้นไม้ที่เย็นยะเยือกออกมา ใบหน้าของชิเจรุในวัยเยาว์เต็มไปด้วยรอยยิ้ม สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่ทว่าเขาต้องลุกขึ้นมาเพราะเสียงตะโกนของชายชราคนนี้ ร่างกายของเขาปวดไปหมด การยืนด้วยสองขาในตอนนี้ถือเป็นเรื่องยากสำหรับเขา ชิเงรุรู้สึกเหมือนร่างกายของเขาเตรียมพร้อมจะแยกออกจากกันทุกเมื่อ เขาตั้งการ์ดขึ้นและเหวี่ยงหมัดไปยังชายชรา หมัดกระแทกกับร่างของชายคนนี้ ทว่าชายที่ถูกต่อยไปไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดเลย เขาก้มมองเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ ชายแก่ส่งเสียงคำรามและใช้เท้ากวาดร่างของเด็กหนุ่มลงไปกับพื้น


“อูย…” ชิเงรุพูดพร้อมกับจับหลังของตัวเอง
“แค่นี้เองหรอ ชิเงรุ...แกเป็นลูกชายคนโตตระกูลฮิซาโตะ แกจะนอนอยู่บนพื้นไม่ได้!!” ชายแก่คนนี้ตะโกน
ซ้ำ
“พวกเราเป็นตระกูลนักสู้ที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น พวกเราจะไม่ยอมให้ตำแหน่งนี้หลุดออกจากมือ และแกคือผู้แบกอนาคตตรงนั้”
“ปู่จะไม่ไปไหน จนกว่าแกจะลุกขึ้นมาได้นั่นแหละ!!” ชายที่เรียกตัวเองว่าปู่ตะโกน


ชิเงรุได้ยินก็ลุกขึ้นมาอีกครั้ง เขาตั้งการ์ดอีกรอบและมองเข้ายังนัยน์ตาของปู่ แววตาของเด็กคนหนุ่มนี้เต็มไปด้วยเปลวเพลิงแห่งความมุ่งมั่น เขาตั้งการ์ดขึ้นอีกครั้ง แม้การตั้งท่าของเขาจะดูไม่หนักแน่น แต่ปู่ของเขาก็ยิ้มออกมา


“ต้องแบบนี้ซิ”


---


ผืนนภาในตอนนี้ไม่สว่างไสวเหมือนตอนเช้า อีกไม่กี่นาทีดวงตะวันก็คงลับขอบฟ้าตามเวลา ชิเงรุในเครื่องแบบนักเรียนสีดำหิ้วกระเป๋าของเขาและเดินไปยังหน้าประตูทางเข้าของโรงเรียน เขาเห็นนักเรียนมากมายที่เดินผ่านประตูและกำลังมุ่งกลับบ้าน แต่ชิเงรุหยุดก่อนที่เท้าของเขาจะก้าวผ่านอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ดวงตาของชายผู้นี้กวาดไปรอบๆ เขามองหาน้องสาวของเขา ทว่าแม้ว่าเขาจะมองไปในทิศทางใด เขาก็ไม่สามารถเห็นน้องสาวของเขาได้


“หายไปไหนนะ ยัยซาโอริ” พี่ชายบ่นก่อนจะหยุดยืนอยู่กับที่


ตามปกติแล้ว น้องสาวของเขามักจะมาถึงก่อนที่ตัวของชิเงรุจะมาถึงซะอีก แต่มันก็มีบางทีเหมือนกันที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ชายหนุ่มยังคงยืนรอที่เดิมราวกับเป็นรูปปั้นหินที่ถูกสะกดไว้กับที่ เวลายังคงผ่านไปเหมือนสายลมที่เขาไม่สามารถจับต้องได้ ผู้คนเริ่มบางตาลงไป แต่กระนั้นน้องสาวของเขาก็ยังไม่ปรากฏตัว ชิเงรุสัมผัสได้ถึงแรงสั่นจากมือถือของเขา เขาเอื้อมมือลงไปหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง พร้อมกับเปิดดู มันเป็นข้อความที่ถูกมาจาก “ซาโอริ” ชายผมน้ำตาลใช้นิ้วจิ้มเพื่อเปิดข้อความ เมื่อเขาเห็นข้อความ ดวงตาของเขาก็เบิกโพลนขึ้นมา มันเป็นรูปของน้องสาวของเขาถูกมัดไว้กับเสาเหล็ก ปากของเธอถูกมัดด้วยผ้าสีขาว แววตาของเธอเต็มไปด้วยความกลัว ภายใต้ข้อความที่ข้อความสั้นๆว่า


“โกดัง ท่าเรือ A”


ชิเงรุรีบเก็บมือถือของเขาลงไปในกระเป๋ากางเกงและออกวิ่ง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นกลัว ชายหนุ่มคนนี้วิ่งแบบไม่คิดชีวิต สิ่งเดียวที่อยู่ในหัวของเขาตอนนี้ ไม่นานเขาก็มาถึงยัดจุดนัดหมาย มันเป็นโกดังเก่าๆที่ถูกทิ้งร้าง สีของซีดไปตามกาลเวลา ประตูของโกดังถูกแง้มออกเล็กน้อย ชิเงรุรวบรวมแรงและยกประตูโกดังขึ้น แม้เขาจะยกให้มันไปสุดไม่ได้ แต่เขาก็ยกให้มันสูงพอที่จะให้ร่างของชิเงรุเดินผ่านประตูเข้าไปได้ เมื่อเขาเดินเข้าไปเขาก็เจอกับผู้คนจำนวนมากที่ยืนรอเขาอยู่ ภายในสุดมีน้องสาวของเขาที่ถูกไว้แบบในภาพ ชิเงรุมองหน้าของคนเหล่านั้น เขาจำได้ทันทีว่าคนพวกนี้เป็นใคร คนพวกนี้คือคนในชมรมศิลปะการต่อสู้ ดวงตาของคนเหล่านั้นจ้องมองมาที่ชิเงรุด้วยสายตาโกรธแค้น ในกลุ่มพวกนั้นเขาเห็น “รุ่นพี่” ที่เขาพึ่งเอาชนะไปได้เมื่อเช้านี้ ในมือของเขามีไม้เบสบอลเหล็กสีดำด้วย เขากำมันแน่นและมองมายังชิเงรุ


“รุ่นพี่ครับ ถ้านี่ล้อเล่นกันไม่ตลกนะครับ” ชิเงรุพูดในขณะที่เหล่ารุ่นพี่กำลังเดินเข้ามาช้าๆ
“ชิเงรุ...แกทำให้ชั้นขายหน้ามาเยอะแล้ว วันนี้ชั้นจะเอาคืนแก” รุ่นพี่ทรงสกรีนเฮ้ดพูดขึ้น มือของเขากุมไม้เบสบอลสีดำแน่น
“ถ้ารุ่นพี่ทำร้ายผม พวกรุ่นพี่ติดคุกได้นะครับ” ชิเงรุเริ่มตั้งการ์ดขึ้นมาเมื่อคู่ต่อสู้เขาไม่มีทีท่าจะหยุด


หากนับจำนวนด้วยสายตาแล้ว ก็คงมีราวๆ 8 คนได้ ชายสองคนตรงมาหาพร้อมกันด้วยหมัดที่เต็มไปด้วยความพิโรธ ชิเงรุก้มหลบทั้งสองคนก่อนที่เขาจะใช้หมัดของเขาส่งตรงเข้าที่คู่ต่อสู้คนนึง แรงกระแทกทำให้ศัตรูเขาล้มลงไปกับพื้น ชายปองร้ายอีกคนจับหัวไหล่ของเขา ชิเงรุหันกลับไปเจอหมัดของชายคนนี้ ทว่าชิเงรุก้มหลบได้ หมัดที่พลาดไปกระแทกเข้ากับชายอีกคนก่อนหน้านี้ ชายผมน้ำตาลกระโดดแล้วใช้เข่าของเขากระแทกเข้ากับใบหน้าของชายที่จับหัวไหล่ของเขาเมื่อครู่นี้ ชิเงรุตั้งการ์ดและหันกลับไปหารุ่นพี่ห้าคนที่เหลือ ใบหน้าของพวกเริ่มกลัวเมื่อเห็นสามคนก่อนหน้านี้ถูกปราบได้อย่างง่ายดาย


“ตายซะ!!” รุ่นพี่ที่ถือไม้เบสบอลคำรามพร้อมกับวิ่งตรงไปและยกไม้เบสบอลสีดำ


เสียงของไม้เบสบอลหวดใส่ขอนกรีตดังก้องไปทั่ว มันไม่โดนอะไรเลยนอกจากพื้นคอนกรีต ชายผมน้ำตาลใช้เท้าของเขาเตะเข้าใส่ข้อมือของรุ่นพี่เขา รุ่นพี่คนนี้ร้องด้วยความเจ็บปวด ไม้เบสบอลในมือหลุดลอยและตกกระทบกับพื้น มันกลิ้งไปกับพื้นและหยุดลงเมื่อแรงของมันหมด รุ่นพี่ของเขากุมข้อมือ ชิเงรุไม่รอเวลาและใช้หมัดของเขาต่อยเข้าใส่ใบหน้าของรุ่นพี่เต็มแรง มันเป็นแรงหมัดที่ไม่มียั้งมือเลยแม้แต่น้อย รุ่นพี่ของเขาคนนี้โดนต่อยไปถอยออกไป พร้อมกับทรุดลงไป ชิเงรุมองไปรอบด้วยๆสายตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาต พวกเขาแสดงอาการหวาดกลัวออกมาและเหมือนถูกสะกดไว้กับที่


“ชั้นขอโทษชิเงรุ ชั้นแค่ล้อเล่นเท่านั้น” รุ่นพี่คนนี้พนมมือ้อนวอนด้วยสายตาหวาดกลัว ใบหน้าของเขาพกช้ำจากหมัดของชิเงรุ


ชิเงรุกำหมัดแน่น แววตาของเขาเต็มไปด้วยเพลิงแค้น


“ชั้นจะไม่ยุ่งกับนายอีกแล้ว ปล่อยชั้นไปเถอะ” เขายังคงอ้อนวอน


ชิเงรุยืนเงียบ เขาง้างหมัดขึ้น พร้อมกับปล่อยมันตรงเข้าไปหารุ่นพี่คนนี้ รุ่นพี่ยกมือป้องพร้อมหลับตาด้วยความกลัว แต่ทว่าหมัดไม่ได้กระแทกใบหน้าของเขา แต่มันหยุดก่อนที่มันจะกระแทกกับใบหน้าของชายที่อายุมากกว่าเขาปีหรือสองปี ชิเงรุลดมือลง รุ่นพี่ของเขาก็ลดมือลงเช่นเดียวกัน แม้สายตาของชิเงรุยังดูน่ากลัว แต่ทว่าการกระทำของเขาดูขัดแย้งกับสิ่งที่เห็น


“เก้ง” เสียงของไม้เบสบอลหวดเข้าใส่หลังศีรษะของชิเงรุดังขึ้นมา


แรงฟาดทำให้ชิเงรุล้มลงไปกับพื้น ของเหลวสีแดงไหลออกมาและหยดลงพื้น ชายที่ใช้ไม้เบสบอลฟาดใส่ชิเงรุคือกลุ่มรุ่นพี่คนนึงที่ล้มลงไปก่อนหน้านี้ อาการหวาดกลัวของชายทรงสกรีนเฮ้ดหายไปอย่างรวดเร็ว เขายื่นมือขอไม้เบสบอลจากเพื่อนของเขา ไม้เบสบอลสีดำเปื้อนไปด้วยคราบเลือดสีแดงของชิเงรุ ใบหน้าของชายสกรีนเฮ้ดยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเปี่ยมสุข เขาตะโกนเรียกเพื่อนๆของเขาที่นอนอยู่บนพื้นให้ลุกขึ้นมา ชิเงรุพยายามยันตัวเองจากพื้น แต่แรงหวดเมื่อครู่ยังทำให้เขาไม่สามารถลุกขึ้นมาได้


“คิดว่าแกเก่งรึไง ห๊ะ!!” ชายที่ถือไม้เบสบอลตะโกนและใช้เท้าเตะใส่กลางหน้าท้องของชิเงรุ


ชิเงรุกลิ้งพร้อมกุมหน้าท้องของตัวเอง เหล่าเพื่อนๆเขาก็ร่วมใช้เท้าเหยียบเข้าไปยังร่างของชิเงรุเพื่อระบายความโกรธออกมา


“ถ้าแกไม่อวดเก่ง ป่านนี้ชั้นก็ยังคงเป็นนักกีฬาของโรงเรียนอยู่ดี”
“แต่แกแย่งทุกอย่างจากชั้นไปหมด!!” ชายคนนี้ตะโกนพร้อมกับใช้ไม้เบสบอลหวดเข้าใส่กลางท้องของชิเงรุ


ชิเงรุร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด กระนั้นแล้วนั่นก็ไม่หยุดไม้เบสบอลสีดำที่ฟาดลงใส่หน้าท้องของเขาเป็นรอบที่สอง ชายหนุ่มที่ถูกทำร้ายกระอักออกมาเป็นเลือด คราบเลือดติดอยู่บนเครื่องแบบนักเรียนของชิเงรุ


“พวกแกลากมันขึ้นมาซิ” จ่าฝูงสั่ง


เหล่าลูกน้องก็ทำตามคำสั่ง พวกเขาล็อคแขนของชิเงรุขึ้นมานั่ง เลือดไหลผ่านใบหน้าและหยดลงบนพื้นคอนกรีตที่เย็นยะเยือก ภาพของเขาพร่ามัว เขาพยายามดิ้นจากพันธนาการ แต่ด้วยความอ่อนแรงของเขาทำให้เขาไม่สามารถทำได้


“ตาย!!” ชายที่ถือไม้เบสบอลตะโกน


ไอร้อนปล่อยออกมาจากร่างของชิเงรุ ชายที่จับร่างของชิเงรุร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เขาปล่อยมือออกจากร่างชายผมน้ำตาลและก้มมองลงบนผ่ามือของตัวเองที่ถูกแผดเผา ด้วยเสียงร้องคนเหล่านั้น ทำให้ชายที่ถือไม้เบสบอลตกใจ และทำให้เขาหยุด ชิเงรุรีบตั้งสติก่อนที่เขาใช้มือของเขาจับใบหน้าของชายที่ถือไม้เบสบอล ชายที่ถูกกุมหน้าร้องด้วยความเจ็บปวด มันเป็นเสียงร้องที่แผดหูและดูน่ากลัว เขาพยายามดิ้นออกจากฝ่ามือของชิเงรุ แต่ทว่าไม่ว่าเขาจะพยายามทำเช่นไรก็เขาทำไม่ได้ ไม่นานชิเงรุก็ปล่อยมือออก รุ่นพี่ทรงสกรีนเฮ้ดก็ล้มลงไปและนอนบนพื้น เขานอนแน่นิ่ง ใบหน้าของเขาถูกเผาเกรียม ใบหน้าของชิเงรุเต็มไปด้วยความตกใจ เช่นเดียวกันกับใบหน้าของเพื่อนๆของชายที่นอนบนพื้น พวกเขาเริ่มออกวิ่งและทิ้งให้ชิเงรุยืนอยู่คนเดียว เขาหันกลับไปมองใบหน้าของรุ่นพี่ที่ไหม้เกรียม แต่สิ่งแรกที่เขาสนใจคือการวิ่งไปหาน้องสาวของเขาที่ถูกผูกไว้กับเสา


“ไม่เป็นไรนะ ซาโอริ” ชิเงรุถามพลางแก้มัดเชือก
“หนูไม่เป็นไร...แต่รุ่นพี่ล่ะ?” น้องสาวตอบ แต่หลังคำตอบของเธอ เธอก็มองไปยังชายที่นอนนิ่งบนพื้น


ชิเงรุไม่ได้พูดอะไร เขาเดินไปหาร่างที่แน่นิ่งช้าๆ เขาเรียกชื่อของชายคนนี้ ทว่าชายคนนี้ไม่ตอบสนอง ชิเงรุก้มตัวลงไปและใช้นิ้วของเขาสัมผัสลงไปยังลำคอของชายที่นอนบนพื้น ชิเงรุไม่สามารถสัมผัสได้ถึงแรงเต้นของหัวใจได้เลย สีหน้าของชิเงรุซีดลงไปด้วยความกลัว มือไม้ของเขาสั่น เขาพยายามสูดหายใจลึกๆ เพื่อตั้งสติแต่เขาทำไม่ได้


“เขาตายแล้ว” ชิเงรุพูดเบาๆ


ซาโอริเอามือปิดปากของตัวเองด้วยความตกใจเช่นกัน แต่เธอไม่ได้ขยับไปไหนและยังคงปักหลักอยู่ที่เดิม ไม่นานนักประตูโกดังก็ถูกเปิดออก รถสีดำหลายคันขับตรงเข้ามาในที่เกิดเหตุ ดูแล้วรถพวกนี้ไม่ใช่รถของตำรวจแน่นอน น้องสาวของชิเงรุหลบอยู่หลังของพี่ชายตัวเองด้วยแววตาหวาดกลัว ประตูรถแต่ละคันถูกเปิดออก ชายที่ลงมาจากรถส่วนใหญ่เป็นชายในชุดสูทและสวมแว่นดำปกปิดดวงตา คนพวกนี้เหมือนหลุดมาจากหนังสืบสวนอะไรแบบนั้น พวกเขายืนนิ่งราวกับเป็นหุ่น เช่นเดียวกันกับชิเงรุที่กำลังสับสน เหล่าบุรุษในชุดสูทแหวกทางออก และมีชายคนหนึ่งเดินสวนเข้ามา เขาเป็นชายที่มีรูปร่างผอมสูง ผิวของเขาเป็นสีแทน และเขามีผมสีขาว ใบหน้าของคนนี้ดูไม่แก่เท่าไหร่นัก สูทของชายคนนี้มีสีแดง มันเป็นสูทที่ต่างจากคนอื่นๆ เขามองไปยังร่างไร้วิญญาณของรุ่นพี่ที่ใบไหม้เกรียม


“ไม่ต้องห่วง ชั้นไม่ใช่ตำรวจหรอก” ชายสูทแดงพูดกับชิเงรุ
“ชั้นชื่อ คริมสัน ยินดีที่รู้จัก” ชายคนนี้พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉยและดูไม่ตกใจอะไรเลย
“คุณเป็นใคร….” ชิเงรุถามด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว


“ถ้าพวกคนที่หนีไปได้เอาเรื่องนี้ไปบอกตำรวจ นายคงได้ติดคุกหัวโตแน่ๆ”
“ต่อให้นายป้องกันตัวก็เถอะ แต่พอของไอ้หมอนั่นคงไม่ปล่อยนายแน่ๆ” คริมสันไม่ตอบ เขาพูดประเด็นอื่นขึ้นมา ดวงตาของเขามองไปยังร่างไร้วิญญาณ
“แต่ว่านะ ชั้นช่วยนายได้” คริมสันพูดพร้อมกับมองตรงมายังชิเงรุที่ยืนตรงข้าม


“นายต้องการอะไร?” ชิเงรุถามด้วยน้ำเสียงไม่ไว้วางใจ
“หัวไวดีนี่ ชั้นแค่ต้องการให้นายเข้าร่วมเกมของชั้น” คริมสันตอบ
“เกม?” ชิเงรุทวนด้วยความฉงน


“ชั้นเป็นเจ้าของรายการโทรทัศน์ไต้ดินชื่อว่า เอนวิชั้น เกม เป็นรายการโทรทัศน์ที่ชั้นนำผู้เข้าแข่งขันมาสู้กัน”
“และคนที่เหลือรอดคนสุดท้ายก็จะเป็นผู้ชนะและขออะไรก็ได้ จากชั้น” คริมสันอธิบาย
“นายให้พวกเราฆ่ากันงั้นหรอ?” ชิเงรุถาม


“ไม่ๆ นายไม่ต้องฆ่ากันก็ได้ ถ้าหากอีกฝ่ายยอมแพ้ ก็ถือว่านายชนะอยู่ดี แต่ชั้นไม่การันตีสำหรับคนอื่นนะ” คริมสันแสยะยิ้มออกมา
“แล้วถ้าชั้นชนะนายจะช่วยชั้นได้จริงๆหรอ?” ชิเงรุยังไม่ไว้ใจ
“นายอาจจะไม่เชื่อ แต่ชั้นมีอิทธิพลกว่าที่นายคิดนะ” คริมสันยิ้มด้วยความมั่นใจ


“ว่าไงล่ะ ชิเงรุ?” คริมสันพูดชื่อของชิเงรุขึ้นมา
“รู้จักชื่อของชั้นด้วยงั้นหรอ?” ชิเงรุอุทานออกมาด้วยความตกใจ
“พวกเราจับตานายมาได้ซักพักนึงแล้ว แต่ว่านั่นไม่ใช่ประเด็นเท่าไหร่”
“ชั้นอยากฟังคำตอบจากปากนายมากกว่า” คริมสันถามอีกครั้ง


ชิเงรุเงียบ น้องสาวของเขาจับแขนเสื้อของชิเงรุแน่น ชิเงรุหันไปและเห็นน้องสาวของเขาส่ายหน้าเพื่อห้ามไม่ให้ชิเงรุไป


“ตกลง” ชิเงรุตอบ
“พี่!!” ซาโอริอุทานออกมาด้วยความตกใจ
“ยอดเยี่ยมมาก...ขึ้นมาบนรถซิ เดี๋ยวเราจะคุยรายละเอียดกัน” คริมสันพูดในขณะที่ลูกน้องเขาเปิดประตูรถขึ้นมา


“ขอโทษนะ ซาโอริ นี่อาจจะเป็นวิธีเดียวเท่านั้น” ชิเงรุพูดกับน้องสาวเขา
“พี่....” น้ำใสๆไหลออกมาจากดวงตาของน้องสาวชิเงรุ
“ไม่ต้องห่วงหรอก พี่จะกลับมาปลอดภัย พี่สัญญา” ชิเงรุยิ้มให้ แต่ในรอยยิ้มของเขาเต็มไปด้วยความกังวล


เขาก้าวเท้าเดินไปข้างหน้า และตรงเข้าไปยังรถสีดำ เขาก้าวเท้าเข้าไปและนั่งลงในรถ ประตูรถถูกปิด รถพวกนี้เริ่มเคลื่อนที่ออกจากโกดังทีละคัน จนในที่สุดรถพวกนี้หายไปจนหมด ซาโอริทรุดลงไปกับพื้น ในขณะที่เธอมองพี่ชายของเธอจากเธอไป


“เราคงต้องให้คุณสวมเจ้านี้ไว้” คริมสันพูดพลางยื่นถุงผ้าสีดำ
“เพื่ออะไร?” ชิเงรุถาม
“เราไม่อยากให้คุณรู้วาเราเดินทางไปที่ไหน แต่เชื่อเราเถอะ เราไม่ทำอะไรแปลกๆแน่นอน” คริมสันพูด


ชิเงรุเอื้อมมือไปหยิบถุงผ้าและสวมไว้ในศีรษะ เขาไม่เห็นอะไรเลยนอกจากความมืด เขาได้ยินเสียงรถที่ยังเคลื่อนไปข้างหน้า ความมืดที่เขาเห็นนั้นมันเหมือนชีวิตของเขาในตอนนี้ เขาไม่รู้เลยว่าเขาจะต้องเผชิญหน้าอะไรข้างหน้า
Back to top
Permissions in this forum:
You cannot reply to topics in this forum