- NARA
- Posts : 30
Join date : 2018-08-20
<L__=O=__{SAILING IN THE SUNSET STORY}__=O=__L>
Sun Oct 07, 2018 1:00 pm
Prologue :
' [9th Generation Audition] ประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านการออดิชั่นรอบแรก ตรวจสอบรายชื่อ : คลิ๊กที่นี่'
บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ของหญิงสาวกำลังปรากฏรายชื่อของผู้ที่สมัครเป็นสมาชิกหรือ'เมมเบอร์'ของวงไอด้อลชื่อดังในประเทศไทยที่ผ่านการออดิชั่นรอบแรกได้สำเร็จ
สาวสวยหน้าคมวัยมัธยมปลายนั่งตัวติดกับเก้าอี้ แววตากำลังจ้องมองไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะตัวสีขาวด้านหน้าของเธอ เธอค่อยๆไล่รายชื่อลงมาเรื่อยๆ นิ้วชี้ค่อยๆบรรจงเลื่อนเม้าส์ลงมาอย่างประณีต ในขณะที่ฝ่ามือกำลังสั่นไหว
ไฟล์เอกสารที่รวมรายชื่อของผู้ที่ผ่านการออดิชั่นรอบแรกนั้นมีประมาณสิบกว่าหน้าได้ โดยก่อนหน้านี้มีผู้สมัครเข้ามาเป็นหมื่นๆคน ทว่าตอนนี้คัดเหลือเด็กสาวเพียงสามร้อยกว่าชีวิตที่มีความใฝ่ฝันอยากที่จะเจิดจรัสบนเวที และแน่นอนว่าความฝันของเด็กสาวอีกกว่าหมื่นคนก็ยังคงไม่เป็นความจริงในวันนี้
รายชื่อที่อยู่ตรงหน้ายังคงเลื่อนลงมาอย่างช้าๆ หญิงสาวจ้องมองแสงสีขาวที่อยู่ด้านหน้าอย่างไม่กระพริบตา เธอจะไม่หยุดเลื่อนลงไปจนกว่าจะพบชื่อและนามสกุลย่อๆของเธอ
บนผนังสีขาวๆรอบๆห้องของเธอนั้นเต็มไปด้วยโปสเตอร์ของวงไอด้อลชื่อดังกลุ่มนี้ติดอยู่หลายใบ ไล่ตั้งแต่โปสเตอร์สีชมพูอ่อนที่มีชื่อซิงเกิ้ลๆแรกของวงไอด้อลกรุ๊ปนี้แปะอยู่ตัวใหญ่ๆด้านหน้าและบริเวณรอบๆตัวอักษรนั้นก็เป็นรูปของสมาชิกหรือ'เมมเบอร์'ที่กำลังยืนโพสท่าด้วยความน่ารักสดใสและเปล่งประกายด้วยบุคลิกเฉพาะตัวที่แตกต่างออกไปของแต่ละคน บางคนมีลุคที่น่ารักและมีรอยยิ้มที่สดใส บางคนมีแววตาที่ดูลึกลับน่าค้นหาชวนให้อยากติดตาม ในขณะที่บางคนก็มีคาแรกเตอร์ที่ดูสุขุมเรียบร้อยเป็นบุคลิกของคนที่มีความเป็นผู้นำหรือ'ลีดเดอร์'ของกรุ๊ป
นอกจากแผ่นโปสเตอร์ที่ติดอยู่เต็มผนังห้องแล้ว ก็ยังมีของที่ระลึกต่างๆรวมไปถึงของสะสมที่เกี่ยวกับวงไอด้อลกรุ๊ปนี้วางเรียงรายกันอยู่บนชั้นวางของที่มีอยู่กว่า 9 ชั้น ที่อยู่ข้างๆโต๊ะคอมพิวเตอร์ตัวนี้ก็เช่นกัน มีภาพโฟโต้เซ็ทที่เธอเก็บสะสมเป็นคอลเล็คชั่นวางเอาไว้อยู่ นอกจากนั้นยังมีแถบข้อมือหรือ'ริสแบนด์'สีสันต่างๆอีกเพียบ
เธอเชื่อว่าของสะสมและรูปภาพของเด็กสาวผู้เปล่งประกายเหล่านี้ คือรุ่นพี่..ที่จะช่วยเป็นแรงผลักดัน เป็นกำลังใจ ที่จะนำพาเธอไปสู่ปลายทางและทำความฝันของเธอให้เป็นจริงได้สำเร็จ เธอมองพวกเขาเหล่านั้นเป็นดั่งจุดหมาย ที่ว่าซักวันหนึ่งเธอจะต้องคว้าประกายแสงเหล่านั้นมาไว้ในกำมือและเจิดจรัสอยู่เหนือเวทีแบบหญิงสาวกลุ่มนั้นให้ได้
...
"ธ--ธารา ! นี่ไงชื่อของชั้น ! ในที่สุด...หลังจากฝึกซ้อมอย่างหนักมาได้กว่า 2 ปี...ในที่สุดก็ติดออดิชั่นรอบแรกแล้ว----- เอ๊ะ !"
หญิงสาวชูไม้ชูมือดีใจอยู่คนเดียวจนเกือบจะตกเก้าอี้โต๊ะคอม แต่ทว่าระหว่างที่กำลังจะเฮลั่นให้สุดเสียงด้วยความดีใจนั้น ระหว่างที่เธอกำลังจะปรบมือด้วยความปลื้มปิติอยู่นั้นเอง... เมื่อเสียงแปะจากมือสองข้างที่กระทบเข้าหากันดังขึ้นไปเพียงแค่ครั้งเดียว สาวสวยม.ปลายผมสีดำก็หยุดชะงักลง... ก่อนที่จะพบว่า
"น---นามสกุล... ไม่ตรงกันนี่หว่า..."
สิ่งที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอเป็นชื่อจริงของเด็กสาวอีกคนที่สะกดตรงกับเธอแต่ทว่านามสกุลที่ต่อท้ายอยู่ด้านหลังอีกช่องนึงนั้นมันไม่ใช่
"แค่พยางค์แรกของนามสกุลก็ไม่ตรงกันแล้ว..."
บนใบหน้าของหญิงสาวปรากฏเป็นรอยยิ้มขึ้นมา แต่ว่ามันเป็นรอยยิ้มของความผิดหวังซึ่งมาพร้อมกับเสียงหัวเราะแห้งๆเล็กๆ ในขณะที่ความรู้สึกที่อยู่ด้านในของสาวม.ปลายคนนี้ได้แตกสลายและพังทลายลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
น้ำตาคลอออกมาเล็กน้อยที่นัยน์ตาสีม่วงอ่อนๆในแววตาที่เฉียวโค้งได้รูปของเธอ เธอไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟายแบบคนที่กำลังพ่ายแพ้ ภายในแววตานั้นยังคงปรากฏความเข้มแข็งที่อยู่ด้านในตัวเธอ...
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ได้ปฏิเสธความคิดที่ปรากฏขึ้นมาภายในจิตใจทันทีที่เธอเห็นว่าท้ายที่สุดบนหน้าจอนั้นก็ไม่มีรายชื่อของเธอ
ความคิดที่มาพร้อมกับคำถาม ที่กำลังดังกึกก้องถามใจของเธออยู่ในตอนนี้ว่า 'ถึงเวลาแล้วยังที่เธอควรจะพอ'
‘พอแล้วดีไหม’
‘ถ้าทำแบบนี้จะเรียกว่าเป็นยอมแพ้หรือเปล่านะ’
‘มีเรื่องในชีวิตอีกมากมายที่ฉันจะต้องลุกขึ้นไปทำอีกไม่ใช่หรอ...’
หญิงผมสีดำยาววัยม.5 ค่อยๆลุกขึ้นยืนจากโต๊ะ เธออยู่ในชุดเครื่องแบบนักเรียนสีขาวของโรงเรียนเอกชนนานาชาติย่านชานเมืองของเธอ
หญิงสาวผู้มีน้ำตาคลออยู่เต็มเบ้าแต่ที่ริมฝีปากยังคงปรากฏรอยยิ้มที่แสนจะเลือนลาง ค่อยๆเดินไปที่ประตูห้องของเธอ
เธอยิ้มให้กับแผ่นกระดาษขนาดใหญ่สีขาวที่แปะติดอยู่กับบานประตูห้อง ซึ่งด้านบนนั้นคือตารางซ้อมเต้น ตารางเรียนร้องเพลงรวมไปถึงตารางกิจวัตรประจำวันของเธอ...
...
แกรก...
...
นักเรียนสาวม.ปลายผมดำบิดกลอนประตูห้องก่อนที่จะดึงเข้าหาตัวเอง พร้อมกับค่อยๆเดินออกจากห้องไป...
"เส้นทางที่เรากำลังเดินอยู่ มีอยู่จริงหรือไม่กันนะ"
"เหมือนกำลังล่องเรืออยู่บนสายน้ำที่ไม่มีที่สิ้นสุด มืดมน ไร้จุดหมาย"
"ได้แต่ไล่ตามแสงจันทร์ที่อยู่เหนือท้องนภาเหล่านั้นไปเรื่อยๆ"
"แต่ก็ไร้ซึ่งปลายทาง เหมือนกับว่ามันไม่เคยมีอยู่จริง"
...
...
...
"แต่จากดินแดนที่เคยรกร้างว่างเปล่า จากที่ไม่เคยมีอะไร..."
"ณ วันนี้ ยังคงมีประกายแสงรอเราอยู่..."
"จากที่เชื่อว่าไม่มีวันตามหาพบ ในตอนนี้เราจะคว้ามันไว้ให้ได้ !"
"มองไปที่ปลายขอบฟ้าด้านหน้า ณ ปลายสุดของทะเล พวกเราเกิดขึ้นมาจากที่ตรงนั้น !"
"จุดหมายปลายทางของพวกเราน่ะไม่มีจริงหรอก... เทพนิยายที่กำลังรอเราอยู่ไม่เคยมีอยู่จริงหรอก..."
"...แต่จะสร้างเรื่องราวของพวกเราทั้ง 9 คนให้เป็นจริง..."
"ด้วยประกายแสงที่เราเชื่อมั่นนี้ !"
...
...
...
"เหมือนกำลังล่องเรืออยู่บนสายน้ำที่ไม่มีที่สิ้นสุด มืดมน ไร้จุดหมาย"
"ได้แต่ไล่ตามแสงจันทร์ที่อยู่เหนือท้องนภาเหล่านั้นไปเรื่อยๆ"
"แต่ก็ไร้ซึ่งปลายทาง เหมือนกับว่ามันไม่เคยมีอยู่จริง"
...
...
...
"แต่จากดินแดนที่เคยรกร้างว่างเปล่า จากที่ไม่เคยมีอะไร..."
"ณ วันนี้ ยังคงมีประกายแสงรอเราอยู่..."
"จากที่เชื่อว่าไม่มีวันตามหาพบ ในตอนนี้เราจะคว้ามันไว้ให้ได้ !"
"มองไปที่ปลายขอบฟ้าด้านหน้า ณ ปลายสุดของทะเล พวกเราเกิดขึ้นมาจากที่ตรงนั้น !"
"จุดหมายปลายทางของพวกเราน่ะไม่มีจริงหรอก... เทพนิยายที่กำลังรอเราอยู่ไม่เคยมีอยู่จริงหรอก..."
"...แต่จะสร้างเรื่องราวของพวกเราทั้ง 9 คนให้เป็นจริง..."
"ด้วยประกายแสงที่เราเชื่อมั่นนี้ !"
...
...
...
' [9th Generation Audition] ประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านการออดิชั่นรอบแรก ตรวจสอบรายชื่อ : คลิ๊กที่นี่'
บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ของหญิงสาวกำลังปรากฏรายชื่อของผู้ที่สมัครเป็นสมาชิกหรือ'เมมเบอร์'ของวงไอด้อลชื่อดังในประเทศไทยที่ผ่านการออดิชั่นรอบแรกได้สำเร็จ
สาวสวยหน้าคมวัยมัธยมปลายนั่งตัวติดกับเก้าอี้ แววตากำลังจ้องมองไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะตัวสีขาวด้านหน้าของเธอ เธอค่อยๆไล่รายชื่อลงมาเรื่อยๆ นิ้วชี้ค่อยๆบรรจงเลื่อนเม้าส์ลงมาอย่างประณีต ในขณะที่ฝ่ามือกำลังสั่นไหว
ไฟล์เอกสารที่รวมรายชื่อของผู้ที่ผ่านการออดิชั่นรอบแรกนั้นมีประมาณสิบกว่าหน้าได้ โดยก่อนหน้านี้มีผู้สมัครเข้ามาเป็นหมื่นๆคน ทว่าตอนนี้คัดเหลือเด็กสาวเพียงสามร้อยกว่าชีวิตที่มีความใฝ่ฝันอยากที่จะเจิดจรัสบนเวที และแน่นอนว่าความฝันของเด็กสาวอีกกว่าหมื่นคนก็ยังคงไม่เป็นความจริงในวันนี้
รายชื่อที่อยู่ตรงหน้ายังคงเลื่อนลงมาอย่างช้าๆ หญิงสาวจ้องมองแสงสีขาวที่อยู่ด้านหน้าอย่างไม่กระพริบตา เธอจะไม่หยุดเลื่อนลงไปจนกว่าจะพบชื่อและนามสกุลย่อๆของเธอ
บนผนังสีขาวๆรอบๆห้องของเธอนั้นเต็มไปด้วยโปสเตอร์ของวงไอด้อลชื่อดังกลุ่มนี้ติดอยู่หลายใบ ไล่ตั้งแต่โปสเตอร์สีชมพูอ่อนที่มีชื่อซิงเกิ้ลๆแรกของวงไอด้อลกรุ๊ปนี้แปะอยู่ตัวใหญ่ๆด้านหน้าและบริเวณรอบๆตัวอักษรนั้นก็เป็นรูปของสมาชิกหรือ'เมมเบอร์'ที่กำลังยืนโพสท่าด้วยความน่ารักสดใสและเปล่งประกายด้วยบุคลิกเฉพาะตัวที่แตกต่างออกไปของแต่ละคน บางคนมีลุคที่น่ารักและมีรอยยิ้มที่สดใส บางคนมีแววตาที่ดูลึกลับน่าค้นหาชวนให้อยากติดตาม ในขณะที่บางคนก็มีคาแรกเตอร์ที่ดูสุขุมเรียบร้อยเป็นบุคลิกของคนที่มีความเป็นผู้นำหรือ'ลีดเดอร์'ของกรุ๊ป
นอกจากแผ่นโปสเตอร์ที่ติดอยู่เต็มผนังห้องแล้ว ก็ยังมีของที่ระลึกต่างๆรวมไปถึงของสะสมที่เกี่ยวกับวงไอด้อลกรุ๊ปนี้วางเรียงรายกันอยู่บนชั้นวางของที่มีอยู่กว่า 9 ชั้น ที่อยู่ข้างๆโต๊ะคอมพิวเตอร์ตัวนี้ก็เช่นกัน มีภาพโฟโต้เซ็ทที่เธอเก็บสะสมเป็นคอลเล็คชั่นวางเอาไว้อยู่ นอกจากนั้นยังมีแถบข้อมือหรือ'ริสแบนด์'สีสันต่างๆอีกเพียบ
เธอเชื่อว่าของสะสมและรูปภาพของเด็กสาวผู้เปล่งประกายเหล่านี้ คือรุ่นพี่..ที่จะช่วยเป็นแรงผลักดัน เป็นกำลังใจ ที่จะนำพาเธอไปสู่ปลายทางและทำความฝันของเธอให้เป็นจริงได้สำเร็จ เธอมองพวกเขาเหล่านั้นเป็นดั่งจุดหมาย ที่ว่าซักวันหนึ่งเธอจะต้องคว้าประกายแสงเหล่านั้นมาไว้ในกำมือและเจิดจรัสอยู่เหนือเวทีแบบหญิงสาวกลุ่มนั้นให้ได้
...
"ธ--ธารา ! นี่ไงชื่อของชั้น ! ในที่สุด...หลังจากฝึกซ้อมอย่างหนักมาได้กว่า 2 ปี...ในที่สุดก็ติดออดิชั่นรอบแรกแล้ว----- เอ๊ะ !"
หญิงสาวชูไม้ชูมือดีใจอยู่คนเดียวจนเกือบจะตกเก้าอี้โต๊ะคอม แต่ทว่าระหว่างที่กำลังจะเฮลั่นให้สุดเสียงด้วยความดีใจนั้น ระหว่างที่เธอกำลังจะปรบมือด้วยความปลื้มปิติอยู่นั้นเอง... เมื่อเสียงแปะจากมือสองข้างที่กระทบเข้าหากันดังขึ้นไปเพียงแค่ครั้งเดียว สาวสวยม.ปลายผมสีดำก็หยุดชะงักลง... ก่อนที่จะพบว่า
"น---นามสกุล... ไม่ตรงกันนี่หว่า..."
สิ่งที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอเป็นชื่อจริงของเด็กสาวอีกคนที่สะกดตรงกับเธอแต่ทว่านามสกุลที่ต่อท้ายอยู่ด้านหลังอีกช่องนึงนั้นมันไม่ใช่
"แค่พยางค์แรกของนามสกุลก็ไม่ตรงกันแล้ว..."
บนใบหน้าของหญิงสาวปรากฏเป็นรอยยิ้มขึ้นมา แต่ว่ามันเป็นรอยยิ้มของความผิดหวังซึ่งมาพร้อมกับเสียงหัวเราะแห้งๆเล็กๆ ในขณะที่ความรู้สึกที่อยู่ด้านในของสาวม.ปลายคนนี้ได้แตกสลายและพังทลายลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
น้ำตาคลอออกมาเล็กน้อยที่นัยน์ตาสีม่วงอ่อนๆในแววตาที่เฉียวโค้งได้รูปของเธอ เธอไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟายแบบคนที่กำลังพ่ายแพ้ ภายในแววตานั้นยังคงปรากฏความเข้มแข็งที่อยู่ด้านในตัวเธอ...
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ได้ปฏิเสธความคิดที่ปรากฏขึ้นมาภายในจิตใจทันทีที่เธอเห็นว่าท้ายที่สุดบนหน้าจอนั้นก็ไม่มีรายชื่อของเธอ
ความคิดที่มาพร้อมกับคำถาม ที่กำลังดังกึกก้องถามใจของเธออยู่ในตอนนี้ว่า 'ถึงเวลาแล้วยังที่เธอควรจะพอ'
‘พอแล้วดีไหม’
‘ถ้าทำแบบนี้จะเรียกว่าเป็นยอมแพ้หรือเปล่านะ’
‘มีเรื่องในชีวิตอีกมากมายที่ฉันจะต้องลุกขึ้นไปทำอีกไม่ใช่หรอ...’
หญิงผมสีดำยาววัยม.5 ค่อยๆลุกขึ้นยืนจากโต๊ะ เธออยู่ในชุดเครื่องแบบนักเรียนสีขาวของโรงเรียนเอกชนนานาชาติย่านชานเมืองของเธอ
หญิงสาวผู้มีน้ำตาคลออยู่เต็มเบ้าแต่ที่ริมฝีปากยังคงปรากฏรอยยิ้มที่แสนจะเลือนลาง ค่อยๆเดินไปที่ประตูห้องของเธอ
เธอยิ้มให้กับแผ่นกระดาษขนาดใหญ่สีขาวที่แปะติดอยู่กับบานประตูห้อง ซึ่งด้านบนนั้นคือตารางซ้อมเต้น ตารางเรียนร้องเพลงรวมไปถึงตารางกิจวัตรประจำวันของเธอ...
...
แกรก...
...
นักเรียนสาวม.ปลายผมดำบิดกลอนประตูห้องก่อนที่จะดึงเข้าหาตัวเอง พร้อมกับค่อยๆเดินออกจากห้องไป...
เรื่องราวแห่งอาทิตย์อัสดง : ริมรั้วชมรมไอด้อล !
- NARA
- Posts : 30
Join date : 2018-08-20
Re: <L__=O=__{SAILING IN THE SUNSET STORY}__=O=__L>
Sun Oct 07, 2018 1:02 pm
- NARA
- Posts : 30
Join date : 2018-08-20
Re: <L__=O=__{SAILING IN THE SUNSET STORY}__=O=__L>
Thu Oct 11, 2018 9:02 pm
...
"เธอเองก็มาดูด้วยอย่างงั้นหรอ..." สภานักเรียนสาวตัวเล็กผมสีขาวแกมม่วงเอ่ยปากถามหญิงสาวขึ้นโดยพลัน ก่อนที่เธอจะผลักประตูที่อยู่ด้านหน้าออกจากหอประชุมไป
หญิงสาวผมสีเหลืองทองในชุดเดรสผู้ดูสูงศักดิ์ค่อยๆหันหน้ากลับมาหาเธอที่ตัวเล็กกว่าพร้อมกับชายตามองด้วยสายตาที่เย่อหยิ่งและเยือกเย็น นางไม่ได้กล่าวอะไรตอบเพียงแต่หยุดนิ่งเป็นปฏิกิริยาที่บ่งบอกให้อีกฝ่ายพูดมาว่าต้องการอะไร เมื่อเห็นดังนั้นนักเรียนสาวตัวเล็กจึงพูดออกมาว่า
"ไหนบอกว่าไม่สนใจโรงเรียนนี้กับไอด้อลแล้วไง ...แต่ทำไมถึงได้กลับมากันล่ะ" ประโยคคำถามถูกเปล่งออกมาผ่านวาจาของมิว เมื่อนั้นเองโรสจึงหันกลับมายืนตัวตรงพร้อมกับจ้องลงมาที่ใบหน้าของสภานักเรียนสาว ถึงแม้ว่าบรรยากาศรอบข้างภายในหอประชุมนี้จะเต็มไปด้วยเสียงจากผู้คนมากมายแต่ทว่าสำหรับหญิงสาวทั้งสองคนแล้ว ราวกับว่าโลกของทั้งสองถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบงันประดุจดั่งสภาวะไร้เสียง
...มิวพูดขึ้นมาอีกครั้งว่า "แล้วเธอรู้สึกยังไงล่ะ... กับการแสดงของรุ่นน้องของพวกเรา"
"...เธอน่ะ...มีความสุขมั้ย?"
หลังจากเสียงพูดของมิวได้ดับเงียบลงไป แดนสนธยาก็กลับมาล้อมรอบท่ามกลางหญิงสาวทั้งสองอีกครั้ง
...เสี้ยววินาทีนั้นเอง โรสก็ได้ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงอันเย็นชาท่ามกลางความเงียบงันระหว่างทั้งสองว่า...
"อ่อนหัด ถ้ายังทำได้แค่นั้นน่ะ ยุบชมรมไปเลยดีกว่า ไม่ได้ถึงเสี้ยวจากที่ควรจะทำได้เลยด้วยซ้ำ..."
...เมื่อสิ้นน้ำเสียงของเธอ หญิงสาวผมทองก็ผลักประตูออก พร้อมกับเดินจากไป ...ทิ้งอดีตเพื่อนสาวตัวเล็กไว้ด้านหลัง...
...
...
...
...
'หลังจากคืนงานวันคริสต์มาส ชั้นก็ได้รับข้อความจากใครบางคนให้ไปพบกับเขาที่ร้านกาแฟสไตล์ลอฟท์ซึ่งค่อนข้างอยู่ไกลจากโรงเรียนพอสมควร แต่คนละทางกับทางไปร้านสกายคาเฟ่'
'ชั้นตัดสินใจเลือกชุดเดรสทรงเอไลน์แขนยาว ทำจากผ้าไหมพรมสีน้ำตาลแดงโทนเข้ม มีระบายย้วยสีขาว และสวมหมวกเบเล่ต์เพื่อออกไปพบกับเขาคนนั้น'
กิ๊งๆ
เสียงกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้น ทันทีที่ก้าวเท้าผ่านประตูเข้ามาเซี๊ยะก็สัมผัสได้กับบรรยากาศร้านกาแฟอย่างที่ร้านกาแฟควรจะเป็นจริงๆ ...ผนังสีเทาดูเก่าๆแต่ก็ให้บรรยากาศของความคลาสสิคและความร่วมสมัย ตู้ไม้เก็บถ้วยกาแฟและภาชนะลวดลายสวยงามที่ตั้งไว้อยู่เหนือบริเวณเคาน์เตอร์ บรรยากาศภายในร้านถูกตกแต่งด้วยโทนเข้มจากสีดำและไม้เนื้อแดงแลดูมีสเน่ห์และให้ความรู้สึกเงียบขรึม มีระดับและความสงบอย่างนุ่มลึก โดยมีแสงสีเหลืองนวลอ่อนจากไฟดาวน์ไลท์ช่วยสร้างความผ่อนคลาย คลอไปด้วยเสียงดนตรีวัยรุ่นเบาๆ
ชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งดูจากหน้าตาแล้วน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับเธอกำลังนั่งพิงโซฟาจิบกาแฟดำรอการมาของเธออยู่ เซี๊ยะรู้ทันทีว่าชายคนนั้นก็คือคนเดียวกับที่นัดเธอมาในวันนี้ สาวผมแดงเข้มนั่งลงบนโซฟาที่อยู่ตรงกันข้าม มีโต๊ะไม้สีดำระหว่างกั้น เมื่อนั้นเองชายหนุ่มคนนั้นจึงหันมาพร้อมกับส่งยิ้มทักทายให้เช่นเดียวกับเซี๊ยะที่ยิ้มตอบตามมารยาท การพบกันของทั้งสอง ถ้าหากมองด้วยสายตาของคนนอกก็ไม่ต่างจากการนัดเจอกันของคู่วัยรุ่นหนุ่มสาว ระหว่างผู้ชายหน้าหล่อกับผู้หญิงหน้าสวย
"สวัสดีครับ... เอ่อ...เซี๊ยะใช่มั้ยครับ" ชายหนุ่มผมตรงสีน้ำตาลเข้มหน้าตาเกลี้ยงเกลาดูสะอาดสะอ้านเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลน่าคบหา เขามีสายตาที่เฉียบแหลมเนื่องด้วยดวงตาที่เรียวเล็กกำลังมองมายังคู่สนทนา ซึ่งให้ความรู้สึกจริงจังและเป็นการเป็นงาน
"อ๋อ ใช่ค่ะ... คุณก็คือ--"
"--แหม่ๆ อยากเรียกว่าคุณเลยครับมันดูห่างเหินน่ะ... อันที่จริงแล้วเราก็อายุรุ่นเดียวกันน่ะครับ เรามาแทนตัวกันแบบคนอายุเท่ากันดีกว่าเนอะ" หนุ่มหน้าตาดีพูดแทรกขึ้นพร้อมด้วยรอยยิ้มจางๆพอเป็นพิธี น้ำเสียงของเขาพยายามทำให้ดูเป็นกันเองที่สุด
"ขอแนะนำตัวอีกรอบก็แล้วกันนะ... เราชื่อคีย์จริงๆแล้วก็อยู่โรงเรียนเดียวกันกับเซี๊ยะนี่แหละ พอดียังไม่ได้บอกเฉยๆ"
"อ-อ้ออ! อ่าวหรอ! ซะอย่างงั้น... ล-แล้ว เธออยู่ชั้นไหนห้องไหนงั้นหรอ แหม่...เรื่องอย่างงี้ทำไมไม่บอกกันตั้งแต่อยู่ในไลน์ล่ะ"
"แอะ-แฮะๆๆ พอดีเราเป็นคนขี้ลืมน่ะ" คีย์ยิ้มขึ้นมาพลางเกาหัวและหัวเราะแบบติดตลก คำแก้ตัวของเขาดูขอไปทีเล็กน้อย ก่อนที่จะพูดต่อว่า “...อยู่ชั้นม.4 ห้องหนึ่งน่ะจะว่าไปเซี๊ยะอยู่ห้องไหนหรอ"
"บังเอิญอีกแล้วนะ... อะ-อ่อ... ลืมไปนี่หว่าว่าเราอายุเท่ากัน ชั้นอยู่ห้องสองน่ะ กรรมเวร! นี่เราอยู่ห้องใกล้ๆกันมาตลอดเลยหรือเนี่ย โลกกลมนะ"
ทั้งสองเริ่มที่จะแนะนำตัวและแลกเปลี่ยนเข้าหากัน
"จะว่าอยู่ห้องใกล้ๆกันก็คงไม่เชิงหรอกมั้ง เพราะห้องหนึ่งมันอยู่ถัดขึ้นไปอีกชั้นนึงไม่ใช่หรอ ถ้าเป็นห้องที่อยู่ใกล้ห้องสองจริงๆน่าจะเป็นห้องสามมากกว่านะ" คีย์ย้อนแสดงความคิดเห็นออกไป
"เออแฮะ... จริงด้วย"
...ก่อนที่ชายหนุ่มจะเข้าเรื่อง ด้วยการเริ่มพูดด้วยเสียงสูง
"ก็... เพื่อไม่ให้เสียเวลา เข้าเรื่องเลยละกันเนาะ"
"อื้ม"
"ก็อย่างที่บอกไปในไลน์อะนะ ว่าเราเป็นโปรดิวเซอร์และแมวมองจากค่ายเพลงดิมรูมเรคคอร์ด (Dim Room Record)" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับยื่นนามบัตร หญิงสาวรับมันมาพร้อมกับจรดมองด้วยสายตาจดจ่อ ซึ่งก่อนหน้านี้เธอได้รับข้อความส่วนตัวจากทางไลน์ ถามว่ามีคนได้ไลน์ส่วนตัวเธอไปได้ยังไง นั่นก็เพราะยัยบ๊องอย่างกุ๊งกิ๊งไม่รู้ประสาเผลอไปแจกไอดีไลน์ส่วนตัวของเมมเบอร์ทุกคนในเพจและบล็อคของชมรม ซึ่งกว่าจะลบทิ้งก็ปาเข้าไปหนึ่งวันเต็มๆแล้ว
ค่ายเพลงดิมรูมเรคคอร์ดจัดว่าเป็นค่ายเพลงใหญ่ค่ายเพลงหนึ่งซึ่งขายแนวเพลงที่ฟังง่าย เข้าได้กับวัยรุ่นทุกเพศทุกสไตล์ ไม่ได้มีแนวทางเพลงที่สุดโต่งและไม่เน้นขายความอินดี้ เรียกได้ว่าผลิตแต่เพลงและศิลปินที่ตลาดต้องการ ซึ่งแน่นอนว่าสาววัยรุ่นอย่างเซี๊ยะก็รู้จัก
"ค-ค่ายดิมรูม... เดี๋ยวนะนี่มันค่ายดังเลยนะ เธอเป็นแมวมองจากค่ายนั้นหรอเนี่ย เจ๋งชะมัด!" ในเวลานี้หญิงสาวกำลังตื่นเต้นจนตัวสั่น
"พอดีพ่อเราเป็นเจ้าของค่ายน่ะ ถ้าเธอสังเกตดูจากนามสกุลอะนะ พ่อเราก็เลยผลักดันเราให้มาทางสายนี้" เซี๊ยะมองไปที่นามบัตรโปรดิวเซอร์ ก็พบว่าที่นามสกุลเป็นคำว่า'ทัศนกุล' ซึ่งเป็นนามสกุลเดียวกับศิลปินชื่อดังผู้ก่อตั้งค่ายเพลงดิมรูมเรคคอร์ด
"แต่ว่า... เธอน่าจะมาสเกาท์ผิดคนแล้วล่ะ ชั้นไม่ใช่ศิลปินสายแต่งเพลงอะไรอย่างงั้นซะหน่อย อันที่จริงเล่นดนตรีอะไรไม่เป็นเลยด้วยซ้ำน่ะ เธอ...จำผิดคนหรือเปล่า" หญิงสาวก้มศีรษะต่ำลงพร้อมกับพูดขึ้นมา ...ทันใดนั้นเองชายหนุ่มก็รีบพูดแทรกขึ้นมาทันควัน
"อ๋อไม่ๆๆๆ ช้าก่อน ออกมาจากตรงนั้นก่อนนะเซี๊ยะ... จุดประสงค์ของชั้นที่นัดเธอมาร้านนี้ไม่ได้จะให้ไปเป็นศิลปินแต่งเพลงอะไรอย่างงั้นเลยแม้แต่น้อย"
"เอ๊ะ ? แล้วเรียกชั้นออกมาทำไมหรอ..." 'เอ๋ ! หรือว่านี่จะเป็นจีบแบบหนุ่มสาว ! นัดมาคุยกันที่ร้านกาแฟ ! บรรยากาศก็แสนจะโรแมนติก ! แล้วต่อจากนั้นก็พาไปดูหนัง ! กินข้าว ! เเเเเอ๋ ! จะว่าไปนายคนนี้ก็หน้าตาไม่แย่นะ อ-ออกจะหล่อเอาการเลยด้วยซ้ำ !'
"ที่เราจะมาสเกาท์เซี๊ยะเนี่ย คือสเกาท์ไปอยู่ในฐานะของไอด้อล"
สาวผมแดงสะดุดทันทีพร้อมกับเงี่ยหูฟังเมื่อได้ยินกับคำว่าไอด้อล
"โลกเราเดินไปเรื่อยๆทุกๆวันเซี๊ยะและนับวันๆมันยิ่งจะเดินเร็วขึ้น... ซึ่งวงการบันเทิงก็ต้องเดินและเปลี่ยนแปลงทิศทางตามมันด้วย ...ทุกวันนี้คนเราประสบความเครียดจากการทำงานมากขึ้น อันที่จริงไม่ใช่แค่ในวัยของการทำงาน แต่มันประสบไปทั่วทุกๆวัยไล่ลงมาตั้งแต่วัยเรียนจนไปถึงวัยผู้สูงอายุ ...อันเนื่องมาจากการแข่งขันภายในสังคมที่มากขึ้น ความเข้มข้นของการดำรงชีวิตที่ผู้คนส่วนใหญ่เอาแต่ทำหน้าตาบึ้งตึง เคร่งเครียดใส่กัน จนรอยยิ้มของทุกๆคนเริ่มที่จะเลือนหายไป ...แค่ดนตรีและเสียงเพลงเพียงอย่างเดียวมันอาจจะไม่เพียงพอแล้ว คนเราต้องการสิ่งที่จะมาสร้างความหวัง ช่วยจุดประกายรอยยิ้มในแต่ละวันและไฟแห่งกำลังใจให้กลับคืนมาอีกครั้ง..."
คีย์หยุดพูดก่อนที่จะยกถ้วยกาแฟที่พึ่งถูกนำมาเสิร์ฟข้างๆขึ้นจิบ ก่อนที่จะพูดต่อ ในขณะเดียวกันเซี๊ยะก็กำลังฟังอย่างตั้งใจ
"ทางค่ายดิมรูมเรคคอร์ดจึงได้มีโครงการสร้างวงไอด้อลเกิร์ลกรุ๊ปขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ให้กับความต้องการของทุกๆคน เพื่อเยียวยาทุกๆคน--"
"--หรือก็คือ SSR29 'ซันไชน์รูมทเวนตี้นาย' ค่ายไอด้อลย่อยจากดิมรูมเรคคอร์ดสินะ อืมชั้นกำลังฟังอยู่"
รอยยิ้มกรุ้มกริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคีย์... เนื่องจากเค้าไม่คิดว่าเป้าหมายของเค้าคนนี้จะรู้จักวงไอด้อลเกิร์ลกรุ๊ปวงนี้อยู่แล้ว ซึ่งเมื่อมันเป็นแบบนั้น ทุกๆอย่างก็จะยิ่งง่ายขึ้นไปใหญ่ เขารีบหุบยิ้มของเขาลงก่อนที่จะลดน้ำเสียงลงและพูดต่ออย่างรวดเร็ว
"...ตอนนี้กำลังเปิดรับสมัครออดิชั่นรุ่นที่สิบ...เจนเนเรชั่นเทน ...เราเห็นความสามารถที่เฉิดฉายของเซี๊ยะบนเวทีโรงเรียนแล้วอยากบอกว่า... จะเสียดายมากๆถ้าไม่ได้คนมีความสามารถอย่างเซี๊ยะมาเข้าวงของเรา แค่ได้เห็นรัศมีที่แปล่งประกายบนเวทีของเธอ เท่านี้เธอก็แทบจะผ่านมาตรฐานการออดิชั่นของพวกเราอยู่แล้ว อย่างน้อยที่สุดก็คือเธอได้ใจชั้น"
"...มากับชั้นเถอะ แล้วชั้นจะผลักดันให้เธอขึ้นไปติดเซมบัตสึตั้งแต่เพลงแรกของรุ่นใหม่ได้เลยนะ"
"..."
...จู่ๆความเงียบก็ถาโถมเข้าปกคลุมทั้งสองคน ข้อมูลพร้อมกับความรู้สึกของอะไรหลายๆอย่าง โหมกระหน่ำซัดเข้าใส่ตัวของหญิงสาวอย่างรวดเดียวโดยที่ไม่ทันตั้งตัว ความสับสนอลหม่านที่มาพร้อมกับความหวัง แสงสว่าง ประกายแสงและอะไรต่อมิอะไรที่เธอไม่เคยรู้สึกกับมันมาก่อน ซึ่ง ณ ตอนนี้มันราวกับเหลือแค่เอื้อมที่เธอจะได้สัมผัสมัน ทั้งๆที่เธอไม่เคยคาดหวังมัน ...การได้เป็นคนสำคัญและเป็นที่รักของทุกๆคน คือสิ่งที่เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้รับมันและลึกๆในใจสับสนมาโดยตลอดว่าไม่ต้องการมันหรือขวนขวายหามันมาโดยตลอดหรือไม่ หากแต่ความรู้สึกที่เอ่อล้นเหล่านั้นมันก็ได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นก้อนเนื้อที่หนักอึ้งอยู่ภายในอก ความรู้สึกที่หนักอึ้งแปรเปลี่ยนกลายเป็นความกลัว...
ท้ายที่สุดแล้ว ณ เวลานี้ในหนแรก เธอจึงเลือกที่จะปฏิเสธข้อเสนอนั้นกลับไป
"ข-ขอโทษทีนะ แต่ดูเหมือนว่าชั้นอาจจะยังไม่ไหวกับอะไรอย่างนั้นหรอกน่ะ" น้ำเสียงของเธอนั้นแผ่วเบา สั่นเครือและเต็มไปด้วยความไม่มั่นใจ
คีย์เลิกคิ้วขึ้น ลักษณะท่าทางและอาการของเค้าดูตะหงิดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ถึงอย่างนั้นเค้าก็ยังคงเก็บอาการลงและพูดขึ้นมาว่า "คงจะเป็นเพราะความกลัวสินะ หึๆ ไม่เป็นไรหรอก ส่วนมากก็เป็นแบบนี้กันทุกคนนั่นแหละนะ..."
ก่อนที่ความเงียบจะเข้าปกคลุมทั้งสองคนอีกครั้ง สีหน้าของคีย์บ่งบอกถึงความผิดหวังอย่างไม่ปิดบัง
"...เอาเถอะ... ยังไงซะ ถ้าเธอคิดจะเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ ก็ติดต่อชั้นกลับมาได้เรื่อยๆล่ะนะ"
"ต้องขอโทษด้วยนะที่วันนี้ทำให้คีย์ต้องเสียเวลาเปล่าๆน่ะ--" เซี๊ยะกำลังจะก้มหัวขอโทษทว่าก็โดนห้ามเอาไว้เสียก่อน
"เฮ้ยๆๆ ไม่เป็นไรๆๆ การโดนปฏิเสธของแมวมองน่ะแทบจะเป็นงานและเรื่องปกติไปแล้วล่ะนะ แฮะๆๆ" ชายหนุ่มรั้งหญิงสาวเอาไว้พร้อมกับหัวเราะแห้งๆออกมาพอเป็นพิธี
"จริงๆวันนี้ก็ไม่ได้เสียเปล่าเลยซะหน่อย อย่าลืมสิว่าเราอยู่โรงเรียนเดียวกัน การได้มาเจอกันก็เหมือนได้พบเพื่อนใหม่อีกคนนะ" เขายิ้มอย่างอบอุ่นและส่งสายตาที่แหลมคม จิกลงมาราวกับเหยี่ยว
"เนอะ-นั่นสินะ... คีย์นี่เป็นคนมองโลกในแง่ดีจริงๆเลยนะ" หญิงสาวฉีกยิ้มให้กับความเป็นกันเองของแมวมองตรงหน้ามันเป็นรอยยิ้มที่ดูสดใสแบบสาวน้อยใสซื่อบริสุทธิ์ไร้เสี้ยนหนามซึ่งหาดูได้ยากจากคนที่มีสายตาเปื้อนมลทินอย่างเซี๊ยะ ดูเหมือนว่าวันนี้เธอจะโดนเสน่ห์ของคีย์เล่นงานจนโดนปลดอาวุธไปเสียแล้ว
"แต่ก่อนที่เธอจะไป ชั้นขอเลี้ยงกาแฟซักแก้วให้เธอก่อนเถอะนะ" ชายหนุ่มพูดขึ้นพร้อมกับโบกมือเรียกพนักงานเสิร์ฟ
"เอ๊ะ-ไม่เป็นไรหรอกน่าาา! ก็เมื่อกี้พึ่งพูดไปเองไม่ใช่หรอว่าเราเป็นคนรุ่นเดียวกันน่ะ เลี้ยงกาแฟแพงๆแบบนี้ชั้นเองก็เกรงใจนะ!" หญิงสาวรีบปฏิเสธเสียงสูงขึ้นมา แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ทันเสียแล้ว
"ขอแฟรบปูชิโน่ร้อนแก้วนึงครับ"
...
ผ่านไปจากนั้นประมาณห้านาที กาแฟร้อนสีครีมเนื้อเนียนก็ถูกยกมาเสิร์ฟ แต่อุบัติเหตุเล็กน้อยที่ไม่ควรจะเกิดก็เกิดขึ้น
ผลับบ!
"โอ๊ะ!"
แชะ!
โชคไม่ดีจริงๆที่บริกรสาวเผลอสะดุดกับอะไรซักอย่างที่อยู่ดีๆก็ยื่นออกมา ทำให้เธอเสียหลักและทำกาแฟร้อนหกใส่กระโปรงสีน้ำตาลเข้มที่มีประเป๋าใส่โทรศัพท์มือถือของเซี๊ยะอยู่ใกล้ๆ
"อ๊ะะะะ ! โอ้ยยย ! แสบ ! ร้อน !" สาวน้อยร้องโอดโอยออกมา น้ำเสียงอันเย้ายวนยามส่งเสียงร้องของเธอสะดุดใบหูของชายหนุ่มไม่เบา
"ขอโทษนะคะคุณลูกค้า !" บริกรหญิงรีบร้องออกมาก่อนที่จะลนลานไปชั่วขณะหนึ่ง ทันใดนั้นเองคีย์ก็แสดงความเป็นสุภาพบุรุษด้วยการรีบลุกมาพร้อมกับผ้าผืนหนึ่งเพื่อเข้ามาเช็ดกระโปรงให้
"ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมเช็ดให้เอง" ชายหนุ่มค่อยๆบรรจงเช็ดชายกระโปรงให้กับเซี๊ยะ
"อ-โอ้ย... ข-ขอบคุณนะ เห้ออ...เสื้อตัวโปรดชั้นด้วยสิ" หญิงสาวหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อมีชายหนุ่มหน้าตาดี แต่งตัวดีเข้ามาเช็ดชายกระโปรงให้
เมื่อเช็ดเสร็จเซี๊ยะจึงขอตัวกลับก่อนเพื่อไปซักล้างกระโปรงที่เปื้อนกาแฟครีมให้กลับมาสะอาดอีกครั้ง
"แล้วเจอกันใหม่นะเซี๊ยะ!"
"จ้าาา! ไว้ว่างๆจะแวะไปหานะ"
และแล้วทั้งสองคนก็จากกันด้วยดี ...ช่างเป็นการพบปะกันที่ราบรื่นจนน่าแปลก ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้ว อาจจะมีเรื่องราวบางอย่างเป็นภาพฉายในอดีตที่ซ่อนทับเหตุการณ์ๆนี้อยู่ก็เป็นได้ ...ซึ่งภาพฉายเหล่านั้นกำลังปรากฏอยู่ภายในดวงตาสีเขียวอ่อน ของสาวลูกครึ่งผมสีทองคนหนึ่ง ที่มองเห็นทุกๆอย่างจากหน้าร้าน...
...
"เธอเองก็มาดูด้วยอย่างงั้นหรอ..." สภานักเรียนสาวตัวเล็กผมสีขาวแกมม่วงเอ่ยปากถามหญิงสาวขึ้นโดยพลัน ก่อนที่เธอจะผลักประตูที่อยู่ด้านหน้าออกจากหอประชุมไป
หญิงสาวผมสีเหลืองทองในชุดเดรสผู้ดูสูงศักดิ์ค่อยๆหันหน้ากลับมาหาเธอที่ตัวเล็กกว่าพร้อมกับชายตามองด้วยสายตาที่เย่อหยิ่งและเยือกเย็น นางไม่ได้กล่าวอะไรตอบเพียงแต่หยุดนิ่งเป็นปฏิกิริยาที่บ่งบอกให้อีกฝ่ายพูดมาว่าต้องการอะไร เมื่อเห็นดังนั้นนักเรียนสาวตัวเล็กจึงพูดออกมาว่า
"ไหนบอกว่าไม่สนใจโรงเรียนนี้กับไอด้อลแล้วไง ...แต่ทำไมถึงได้กลับมากันล่ะ" ประโยคคำถามถูกเปล่งออกมาผ่านวาจาของมิว เมื่อนั้นเองโรสจึงหันกลับมายืนตัวตรงพร้อมกับจ้องลงมาที่ใบหน้าของสภานักเรียนสาว ถึงแม้ว่าบรรยากาศรอบข้างภายในหอประชุมนี้จะเต็มไปด้วยเสียงจากผู้คนมากมายแต่ทว่าสำหรับหญิงสาวทั้งสองคนแล้ว ราวกับว่าโลกของทั้งสองถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบงันประดุจดั่งสภาวะไร้เสียง
...มิวพูดขึ้นมาอีกครั้งว่า "แล้วเธอรู้สึกยังไงล่ะ... กับการแสดงของรุ่นน้องของพวกเรา"
"...เธอน่ะ...มีความสุขมั้ย?"
หลังจากเสียงพูดของมิวได้ดับเงียบลงไป แดนสนธยาก็กลับมาล้อมรอบท่ามกลางหญิงสาวทั้งสองอีกครั้ง
...เสี้ยววินาทีนั้นเอง โรสก็ได้ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงอันเย็นชาท่ามกลางความเงียบงันระหว่างทั้งสองว่า...
"อ่อนหัด ถ้ายังทำได้แค่นั้นน่ะ ยุบชมรมไปเลยดีกว่า ไม่ได้ถึงเสี้ยวจากที่ควรจะทำได้เลยด้วยซ้ำ..."
...เมื่อสิ้นน้ำเสียงของเธอ หญิงสาวผมทองก็ผลักประตูออก พร้อมกับเดินจากไป ...ทิ้งอดีตเพื่อนสาวตัวเล็กไว้ด้านหลัง...
...
...
...
...
'หลังจากคืนงานวันคริสต์มาส ชั้นก็ได้รับข้อความจากใครบางคนให้ไปพบกับเขาที่ร้านกาแฟสไตล์ลอฟท์ซึ่งค่อนข้างอยู่ไกลจากโรงเรียนพอสมควร แต่คนละทางกับทางไปร้านสกายคาเฟ่'
'ชั้นตัดสินใจเลือกชุดเดรสทรงเอไลน์แขนยาว ทำจากผ้าไหมพรมสีน้ำตาลแดงโทนเข้ม มีระบายย้วยสีขาว และสวมหมวกเบเล่ต์เพื่อออกไปพบกับเขาคนนั้น'
กิ๊งๆ
เสียงกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้น ทันทีที่ก้าวเท้าผ่านประตูเข้ามาเซี๊ยะก็สัมผัสได้กับบรรยากาศร้านกาแฟอย่างที่ร้านกาแฟควรจะเป็นจริงๆ ...ผนังสีเทาดูเก่าๆแต่ก็ให้บรรยากาศของความคลาสสิคและความร่วมสมัย ตู้ไม้เก็บถ้วยกาแฟและภาชนะลวดลายสวยงามที่ตั้งไว้อยู่เหนือบริเวณเคาน์เตอร์ บรรยากาศภายในร้านถูกตกแต่งด้วยโทนเข้มจากสีดำและไม้เนื้อแดงแลดูมีสเน่ห์และให้ความรู้สึกเงียบขรึม มีระดับและความสงบอย่างนุ่มลึก โดยมีแสงสีเหลืองนวลอ่อนจากไฟดาวน์ไลท์ช่วยสร้างความผ่อนคลาย คลอไปด้วยเสียงดนตรีวัยรุ่นเบาๆ
ชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งดูจากหน้าตาแล้วน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับเธอกำลังนั่งพิงโซฟาจิบกาแฟดำรอการมาของเธออยู่ เซี๊ยะรู้ทันทีว่าชายคนนั้นก็คือคนเดียวกับที่นัดเธอมาในวันนี้ สาวผมแดงเข้มนั่งลงบนโซฟาที่อยู่ตรงกันข้าม มีโต๊ะไม้สีดำระหว่างกั้น เมื่อนั้นเองชายหนุ่มคนนั้นจึงหันมาพร้อมกับส่งยิ้มทักทายให้เช่นเดียวกับเซี๊ยะที่ยิ้มตอบตามมารยาท การพบกันของทั้งสอง ถ้าหากมองด้วยสายตาของคนนอกก็ไม่ต่างจากการนัดเจอกันของคู่วัยรุ่นหนุ่มสาว ระหว่างผู้ชายหน้าหล่อกับผู้หญิงหน้าสวย
"สวัสดีครับ... เอ่อ...เซี๊ยะใช่มั้ยครับ" ชายหนุ่มผมตรงสีน้ำตาลเข้มหน้าตาเกลี้ยงเกลาดูสะอาดสะอ้านเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลน่าคบหา เขามีสายตาที่เฉียบแหลมเนื่องด้วยดวงตาที่เรียวเล็กกำลังมองมายังคู่สนทนา ซึ่งให้ความรู้สึกจริงจังและเป็นการเป็นงาน
"อ๋อ ใช่ค่ะ... คุณก็คือ--"
"--แหม่ๆ อยากเรียกว่าคุณเลยครับมันดูห่างเหินน่ะ... อันที่จริงแล้วเราก็อายุรุ่นเดียวกันน่ะครับ เรามาแทนตัวกันแบบคนอายุเท่ากันดีกว่าเนอะ" หนุ่มหน้าตาดีพูดแทรกขึ้นพร้อมด้วยรอยยิ้มจางๆพอเป็นพิธี น้ำเสียงของเขาพยายามทำให้ดูเป็นกันเองที่สุด
"ขอแนะนำตัวอีกรอบก็แล้วกันนะ... เราชื่อคีย์จริงๆแล้วก็อยู่โรงเรียนเดียวกันกับเซี๊ยะนี่แหละ พอดียังไม่ได้บอกเฉยๆ"
"อ-อ้ออ! อ่าวหรอ! ซะอย่างงั้น... ล-แล้ว เธออยู่ชั้นไหนห้องไหนงั้นหรอ แหม่...เรื่องอย่างงี้ทำไมไม่บอกกันตั้งแต่อยู่ในไลน์ล่ะ"
"แอะ-แฮะๆๆ พอดีเราเป็นคนขี้ลืมน่ะ" คีย์ยิ้มขึ้นมาพลางเกาหัวและหัวเราะแบบติดตลก คำแก้ตัวของเขาดูขอไปทีเล็กน้อย ก่อนที่จะพูดต่อว่า “...อยู่ชั้นม.4 ห้องหนึ่งน่ะจะว่าไปเซี๊ยะอยู่ห้องไหนหรอ"
"บังเอิญอีกแล้วนะ... อะ-อ่อ... ลืมไปนี่หว่าว่าเราอายุเท่ากัน ชั้นอยู่ห้องสองน่ะ กรรมเวร! นี่เราอยู่ห้องใกล้ๆกันมาตลอดเลยหรือเนี่ย โลกกลมนะ"
ทั้งสองเริ่มที่จะแนะนำตัวและแลกเปลี่ยนเข้าหากัน
"จะว่าอยู่ห้องใกล้ๆกันก็คงไม่เชิงหรอกมั้ง เพราะห้องหนึ่งมันอยู่ถัดขึ้นไปอีกชั้นนึงไม่ใช่หรอ ถ้าเป็นห้องที่อยู่ใกล้ห้องสองจริงๆน่าจะเป็นห้องสามมากกว่านะ" คีย์ย้อนแสดงความคิดเห็นออกไป
"เออแฮะ... จริงด้วย"
...ก่อนที่ชายหนุ่มจะเข้าเรื่อง ด้วยการเริ่มพูดด้วยเสียงสูง
"ก็... เพื่อไม่ให้เสียเวลา เข้าเรื่องเลยละกันเนาะ"
"อื้ม"
"ก็อย่างที่บอกไปในไลน์อะนะ ว่าเราเป็นโปรดิวเซอร์และแมวมองจากค่ายเพลงดิมรูมเรคคอร์ด (Dim Room Record)" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับยื่นนามบัตร หญิงสาวรับมันมาพร้อมกับจรดมองด้วยสายตาจดจ่อ ซึ่งก่อนหน้านี้เธอได้รับข้อความส่วนตัวจากทางไลน์ ถามว่ามีคนได้ไลน์ส่วนตัวเธอไปได้ยังไง นั่นก็เพราะยัยบ๊องอย่างกุ๊งกิ๊งไม่รู้ประสาเผลอไปแจกไอดีไลน์ส่วนตัวของเมมเบอร์ทุกคนในเพจและบล็อคของชมรม ซึ่งกว่าจะลบทิ้งก็ปาเข้าไปหนึ่งวันเต็มๆแล้ว
ค่ายเพลงดิมรูมเรคคอร์ดจัดว่าเป็นค่ายเพลงใหญ่ค่ายเพลงหนึ่งซึ่งขายแนวเพลงที่ฟังง่าย เข้าได้กับวัยรุ่นทุกเพศทุกสไตล์ ไม่ได้มีแนวทางเพลงที่สุดโต่งและไม่เน้นขายความอินดี้ เรียกได้ว่าผลิตแต่เพลงและศิลปินที่ตลาดต้องการ ซึ่งแน่นอนว่าสาววัยรุ่นอย่างเซี๊ยะก็รู้จัก
"ค-ค่ายดิมรูม... เดี๋ยวนะนี่มันค่ายดังเลยนะ เธอเป็นแมวมองจากค่ายนั้นหรอเนี่ย เจ๋งชะมัด!" ในเวลานี้หญิงสาวกำลังตื่นเต้นจนตัวสั่น
"พอดีพ่อเราเป็นเจ้าของค่ายน่ะ ถ้าเธอสังเกตดูจากนามสกุลอะนะ พ่อเราก็เลยผลักดันเราให้มาทางสายนี้" เซี๊ยะมองไปที่นามบัตรโปรดิวเซอร์ ก็พบว่าที่นามสกุลเป็นคำว่า'ทัศนกุล' ซึ่งเป็นนามสกุลเดียวกับศิลปินชื่อดังผู้ก่อตั้งค่ายเพลงดิมรูมเรคคอร์ด
"แต่ว่า... เธอน่าจะมาสเกาท์ผิดคนแล้วล่ะ ชั้นไม่ใช่ศิลปินสายแต่งเพลงอะไรอย่างงั้นซะหน่อย อันที่จริงเล่นดนตรีอะไรไม่เป็นเลยด้วยซ้ำน่ะ เธอ...จำผิดคนหรือเปล่า" หญิงสาวก้มศีรษะต่ำลงพร้อมกับพูดขึ้นมา ...ทันใดนั้นเองชายหนุ่มก็รีบพูดแทรกขึ้นมาทันควัน
"อ๋อไม่ๆๆๆ ช้าก่อน ออกมาจากตรงนั้นก่อนนะเซี๊ยะ... จุดประสงค์ของชั้นที่นัดเธอมาร้านนี้ไม่ได้จะให้ไปเป็นศิลปินแต่งเพลงอะไรอย่างงั้นเลยแม้แต่น้อย"
"เอ๊ะ ? แล้วเรียกชั้นออกมาทำไมหรอ..." 'เอ๋ ! หรือว่านี่จะเป็นจีบแบบหนุ่มสาว ! นัดมาคุยกันที่ร้านกาแฟ ! บรรยากาศก็แสนจะโรแมนติก ! แล้วต่อจากนั้นก็พาไปดูหนัง ! กินข้าว ! เเเเเอ๋ ! จะว่าไปนายคนนี้ก็หน้าตาไม่แย่นะ อ-ออกจะหล่อเอาการเลยด้วยซ้ำ !'
"ที่เราจะมาสเกาท์เซี๊ยะเนี่ย คือสเกาท์ไปอยู่ในฐานะของไอด้อล"
สาวผมแดงสะดุดทันทีพร้อมกับเงี่ยหูฟังเมื่อได้ยินกับคำว่าไอด้อล
"โลกเราเดินไปเรื่อยๆทุกๆวันเซี๊ยะและนับวันๆมันยิ่งจะเดินเร็วขึ้น... ซึ่งวงการบันเทิงก็ต้องเดินและเปลี่ยนแปลงทิศทางตามมันด้วย ...ทุกวันนี้คนเราประสบความเครียดจากการทำงานมากขึ้น อันที่จริงไม่ใช่แค่ในวัยของการทำงาน แต่มันประสบไปทั่วทุกๆวัยไล่ลงมาตั้งแต่วัยเรียนจนไปถึงวัยผู้สูงอายุ ...อันเนื่องมาจากการแข่งขันภายในสังคมที่มากขึ้น ความเข้มข้นของการดำรงชีวิตที่ผู้คนส่วนใหญ่เอาแต่ทำหน้าตาบึ้งตึง เคร่งเครียดใส่กัน จนรอยยิ้มของทุกๆคนเริ่มที่จะเลือนหายไป ...แค่ดนตรีและเสียงเพลงเพียงอย่างเดียวมันอาจจะไม่เพียงพอแล้ว คนเราต้องการสิ่งที่จะมาสร้างความหวัง ช่วยจุดประกายรอยยิ้มในแต่ละวันและไฟแห่งกำลังใจให้กลับคืนมาอีกครั้ง..."
คีย์หยุดพูดก่อนที่จะยกถ้วยกาแฟที่พึ่งถูกนำมาเสิร์ฟข้างๆขึ้นจิบ ก่อนที่จะพูดต่อ ในขณะเดียวกันเซี๊ยะก็กำลังฟังอย่างตั้งใจ
"ทางค่ายดิมรูมเรคคอร์ดจึงได้มีโครงการสร้างวงไอด้อลเกิร์ลกรุ๊ปขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ให้กับความต้องการของทุกๆคน เพื่อเยียวยาทุกๆคน--"
"--หรือก็คือ SSR29 'ซันไชน์รูมทเวนตี้นาย' ค่ายไอด้อลย่อยจากดิมรูมเรคคอร์ดสินะ อืมชั้นกำลังฟังอยู่"
รอยยิ้มกรุ้มกริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคีย์... เนื่องจากเค้าไม่คิดว่าเป้าหมายของเค้าคนนี้จะรู้จักวงไอด้อลเกิร์ลกรุ๊ปวงนี้อยู่แล้ว ซึ่งเมื่อมันเป็นแบบนั้น ทุกๆอย่างก็จะยิ่งง่ายขึ้นไปใหญ่ เขารีบหุบยิ้มของเขาลงก่อนที่จะลดน้ำเสียงลงและพูดต่ออย่างรวดเร็ว
"...ตอนนี้กำลังเปิดรับสมัครออดิชั่นรุ่นที่สิบ...เจนเนเรชั่นเทน ...เราเห็นความสามารถที่เฉิดฉายของเซี๊ยะบนเวทีโรงเรียนแล้วอยากบอกว่า... จะเสียดายมากๆถ้าไม่ได้คนมีความสามารถอย่างเซี๊ยะมาเข้าวงของเรา แค่ได้เห็นรัศมีที่แปล่งประกายบนเวทีของเธอ เท่านี้เธอก็แทบจะผ่านมาตรฐานการออดิชั่นของพวกเราอยู่แล้ว อย่างน้อยที่สุดก็คือเธอได้ใจชั้น"
"...มากับชั้นเถอะ แล้วชั้นจะผลักดันให้เธอขึ้นไปติดเซมบัตสึตั้งแต่เพลงแรกของรุ่นใหม่ได้เลยนะ"
"..."
...จู่ๆความเงียบก็ถาโถมเข้าปกคลุมทั้งสองคน ข้อมูลพร้อมกับความรู้สึกของอะไรหลายๆอย่าง โหมกระหน่ำซัดเข้าใส่ตัวของหญิงสาวอย่างรวดเดียวโดยที่ไม่ทันตั้งตัว ความสับสนอลหม่านที่มาพร้อมกับความหวัง แสงสว่าง ประกายแสงและอะไรต่อมิอะไรที่เธอไม่เคยรู้สึกกับมันมาก่อน ซึ่ง ณ ตอนนี้มันราวกับเหลือแค่เอื้อมที่เธอจะได้สัมผัสมัน ทั้งๆที่เธอไม่เคยคาดหวังมัน ...การได้เป็นคนสำคัญและเป็นที่รักของทุกๆคน คือสิ่งที่เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้รับมันและลึกๆในใจสับสนมาโดยตลอดว่าไม่ต้องการมันหรือขวนขวายหามันมาโดยตลอดหรือไม่ หากแต่ความรู้สึกที่เอ่อล้นเหล่านั้นมันก็ได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นก้อนเนื้อที่หนักอึ้งอยู่ภายในอก ความรู้สึกที่หนักอึ้งแปรเปลี่ยนกลายเป็นความกลัว...
ท้ายที่สุดแล้ว ณ เวลานี้ในหนแรก เธอจึงเลือกที่จะปฏิเสธข้อเสนอนั้นกลับไป
"ข-ขอโทษทีนะ แต่ดูเหมือนว่าชั้นอาจจะยังไม่ไหวกับอะไรอย่างนั้นหรอกน่ะ" น้ำเสียงของเธอนั้นแผ่วเบา สั่นเครือและเต็มไปด้วยความไม่มั่นใจ
คีย์เลิกคิ้วขึ้น ลักษณะท่าทางและอาการของเค้าดูตะหงิดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ถึงอย่างนั้นเค้าก็ยังคงเก็บอาการลงและพูดขึ้นมาว่า "คงจะเป็นเพราะความกลัวสินะ หึๆ ไม่เป็นไรหรอก ส่วนมากก็เป็นแบบนี้กันทุกคนนั่นแหละนะ..."
ก่อนที่ความเงียบจะเข้าปกคลุมทั้งสองคนอีกครั้ง สีหน้าของคีย์บ่งบอกถึงความผิดหวังอย่างไม่ปิดบัง
"...เอาเถอะ... ยังไงซะ ถ้าเธอคิดจะเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ ก็ติดต่อชั้นกลับมาได้เรื่อยๆล่ะนะ"
"ต้องขอโทษด้วยนะที่วันนี้ทำให้คีย์ต้องเสียเวลาเปล่าๆน่ะ--" เซี๊ยะกำลังจะก้มหัวขอโทษทว่าก็โดนห้ามเอาไว้เสียก่อน
"เฮ้ยๆๆ ไม่เป็นไรๆๆ การโดนปฏิเสธของแมวมองน่ะแทบจะเป็นงานและเรื่องปกติไปแล้วล่ะนะ แฮะๆๆ" ชายหนุ่มรั้งหญิงสาวเอาไว้พร้อมกับหัวเราะแห้งๆออกมาพอเป็นพิธี
"จริงๆวันนี้ก็ไม่ได้เสียเปล่าเลยซะหน่อย อย่าลืมสิว่าเราอยู่โรงเรียนเดียวกัน การได้มาเจอกันก็เหมือนได้พบเพื่อนใหม่อีกคนนะ" เขายิ้มอย่างอบอุ่นและส่งสายตาที่แหลมคม จิกลงมาราวกับเหยี่ยว
"เนอะ-นั่นสินะ... คีย์นี่เป็นคนมองโลกในแง่ดีจริงๆเลยนะ" หญิงสาวฉีกยิ้มให้กับความเป็นกันเองของแมวมองตรงหน้ามันเป็นรอยยิ้มที่ดูสดใสแบบสาวน้อยใสซื่อบริสุทธิ์ไร้เสี้ยนหนามซึ่งหาดูได้ยากจากคนที่มีสายตาเปื้อนมลทินอย่างเซี๊ยะ ดูเหมือนว่าวันนี้เธอจะโดนเสน่ห์ของคีย์เล่นงานจนโดนปลดอาวุธไปเสียแล้ว
"แต่ก่อนที่เธอจะไป ชั้นขอเลี้ยงกาแฟซักแก้วให้เธอก่อนเถอะนะ" ชายหนุ่มพูดขึ้นพร้อมกับโบกมือเรียกพนักงานเสิร์ฟ
"เอ๊ะ-ไม่เป็นไรหรอกน่าาา! ก็เมื่อกี้พึ่งพูดไปเองไม่ใช่หรอว่าเราเป็นคนรุ่นเดียวกันน่ะ เลี้ยงกาแฟแพงๆแบบนี้ชั้นเองก็เกรงใจนะ!" หญิงสาวรีบปฏิเสธเสียงสูงขึ้นมา แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ทันเสียแล้ว
"ขอแฟรบปูชิโน่ร้อนแก้วนึงครับ"
...
ผ่านไปจากนั้นประมาณห้านาที กาแฟร้อนสีครีมเนื้อเนียนก็ถูกยกมาเสิร์ฟ แต่อุบัติเหตุเล็กน้อยที่ไม่ควรจะเกิดก็เกิดขึ้น
ผลับบ!
"โอ๊ะ!"
แชะ!
โชคไม่ดีจริงๆที่บริกรสาวเผลอสะดุดกับอะไรซักอย่างที่อยู่ดีๆก็ยื่นออกมา ทำให้เธอเสียหลักและทำกาแฟร้อนหกใส่กระโปรงสีน้ำตาลเข้มที่มีประเป๋าใส่โทรศัพท์มือถือของเซี๊ยะอยู่ใกล้ๆ
"อ๊ะะะะ ! โอ้ยยย ! แสบ ! ร้อน !" สาวน้อยร้องโอดโอยออกมา น้ำเสียงอันเย้ายวนยามส่งเสียงร้องของเธอสะดุดใบหูของชายหนุ่มไม่เบา
"ขอโทษนะคะคุณลูกค้า !" บริกรหญิงรีบร้องออกมาก่อนที่จะลนลานไปชั่วขณะหนึ่ง ทันใดนั้นเองคีย์ก็แสดงความเป็นสุภาพบุรุษด้วยการรีบลุกมาพร้อมกับผ้าผืนหนึ่งเพื่อเข้ามาเช็ดกระโปรงให้
"ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมเช็ดให้เอง" ชายหนุ่มค่อยๆบรรจงเช็ดชายกระโปรงให้กับเซี๊ยะ
"อ-โอ้ย... ข-ขอบคุณนะ เห้ออ...เสื้อตัวโปรดชั้นด้วยสิ" หญิงสาวหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อมีชายหนุ่มหน้าตาดี แต่งตัวดีเข้ามาเช็ดชายกระโปรงให้
เมื่อเช็ดเสร็จเซี๊ยะจึงขอตัวกลับก่อนเพื่อไปซักล้างกระโปรงที่เปื้อนกาแฟครีมให้กลับมาสะอาดอีกครั้ง
"แล้วเจอกันใหม่นะเซี๊ยะ!"
"จ้าาา! ไว้ว่างๆจะแวะไปหานะ"
และแล้วทั้งสองคนก็จากกันด้วยดี ...ช่างเป็นการพบปะกันที่ราบรื่นจนน่าแปลก ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้ว อาจจะมีเรื่องราวบางอย่างเป็นภาพฉายในอดีตที่ซ่อนทับเหตุการณ์ๆนี้อยู่ก็เป็นได้ ...ซึ่งภาพฉายเหล่านั้นกำลังปรากฏอยู่ภายในดวงตาสีเขียวอ่อน ของสาวลูกครึ่งผมสีทองคนหนึ่ง ที่มองเห็นทุกๆอย่างจากหน้าร้าน...
...
- NARA
- Posts : 30
Join date : 2018-08-20
Re: <L__=O=__{SAILING IN THE SUNSET STORY}__=O=__L>
Thu Oct 11, 2018 9:07 pm
Permissions in this forum:
You cannot reply to topics in this forum
|
|