DWO City
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Go down
IamKurtCobian
IamKurtCobian
Posts : 108
Join date : 2018-08-20
Age : 26

The Glory Days : Begins  Empty The Glory Days : Begins

Fri Dec 21, 2018 5:10 pm
The Glory Days : Begins  1371725547-1148210151-o


“ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”



                    เสียงนกหวีดยาวครั้งสุดท้ายถูกเป่าขึ้น ท่ามกลางเสียงเชียร์ที่ดังแซ่ซ้อง ฝ่ายที่ชนะต่างดีอกดีใจ พวกเขาโห่ร้องและเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน ส่วนผู้แพ้ก็ทำได้แค่รู้สึกเสียใจกับผลการแข่งขันและภาพความผิดพลาดที่วนเวียนอยู่ในหัวตลอดเวลา ในวันนั้นผมไม่เคยคิดเลยว่า.... มันจะเป็นวันที่สุดท้ายที่ผมได้เล่นฟุตบอล.....





-------------------------------- 




The Glory Days : Begins  832x451



“เอาล่ะน้องแม็คอย่าลืมทำกายภาพบำบัดบ่อยๆด้วยล่ะ” เสียงของคุณหมอผู้ดูแลผมพูด



“หมอครับผมน่ะ.....”



“...เตะบอลไม่ได้อีกแล้วใช่มั้ยครับ?” ผมถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ



“……”



“แม็ค” คุณหมอเรียกชื่อผมด้วยท่าทีซีเรียส



“หมอจะไม่โกหกนะ”



“อาการของแม็คในตอนนี้สามารถใช้ชีวิตแบบคนปรกติได้ทุกอย่าง”



“แต่....”



“ใช้ชีวิตแบบนักกีฬาไม่ได้...”




“แต่ก็ไม่ใช่ไม่มีโอกาสนะ หลังจากนี้อีกประมาณ2ปี ถ้าอาการดีขึ้นก็ไม่แน่เหมือนกัน” เขาพยายามให้กำลังใจผม




“ผมเข้าใจแล้วล่ะครับหมอ ขอบคุณมากครับ”




                  ผมรีบพูดก่อนจะลุกออกมาทันที แม้ว่าคุณหมอจะบอกว่าผมมีโอกาสกลับมาเล่นได้ก็เถอะ ใช่ ในทางการแพทย์ผมอาจจะกลับมาเล่นได้จริงๆ แต่ในใจของผมก็รู้ดีอยู่แก่อก นักฟุตบอลที่บาดเจ็บนานขนาดนี้ ต่อให้เป็นนักฟุตบอลอาชีพก็ยังกลับมาเล่นในระดับสูงแทบไม่ได้ ผมยังจำได้ดีหลังจากจบแมทซ์ในการแข่งขัน ดีเซิร์ทโตะ คัพ ในตอนที่ผมอยู่ม.4 ในตอนนั้นผมโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ทีมของเรากำลังได้เปรียบ แต่คุณก็รู้ดีว่า นักฟุตบอลประเภทพริ้วๆ สายกระชากลากเลื้อยแบบผม เมื่อลงไปในสนามวันที่คู่แข่งอารมณ์ไม่ค่อยดีเพราะอากาศร้อนๆของประเทศนี้ ผมจะต้องเจอกับอะไรบ้าง




                ผมไม่ได้ไปเรียนเลยตลอดช่วง ม.5 ผมให้เพื่อนเอาการบ้านมาให้ทำ รวมถึงคุณครูก็ให้ผมสอบจากในโรงพยาบาลเลย โชคดีที่โรงเรียนผมเป็นโรงเรียนเอกชน นานาชาติ ที่คณะอาจารย์จะดูแลนักเตะอย่างใกล้ชิด ก็แหงล่ะ ค่าเทอม ปีละ8ล้านบาท แบบนี้ พวกเขาแทบจะทาสีโรงเรียนด้วยสีทองด้วยซ้ำไป




“ยินดีที่ได้กลับบ้านครับ คุณหนู” เสียงของคนขับรถที่คุณพ่อของผมส่งมารับผมพูด




“สวัสดี สมชาย” ผมพูดกับเขาหลังจากที่ผมเดินออกจากโรงพยาบาลพร้อมๆกับคิดถึงเรื่องเก่าๆ คุณพ่อของผมส่งคนขับรถมารับผมเช่นเคย มันเป็นรถสปอร์ต มาซาราติ แกรนทูริสโม่ ราคาประมาณ 16ล้านบาท




“วันนี้ขับสีแดงมาหรอ?” ผมพูดกับเขา






“พอดีสีดำ แม่บ้านขับไปซื้อกับข้าวน่ะครับ” เขาตอบ






“อืม...”





“ว่าแต่ ก่อนจะกลับบ้านกัน”






“ช่วยพาผมไปที่โรงเรียนได้มั้ยครับ?” ผมพูดกับเขา






“ ถ้าคุณหนูต้องการก็ไม่มีขัดอยู่แล้วครับ” เขาตอบ






                     ผมขึ้นมาบนรถก่อนจะหันไปส่องกระจก ดูหน้าตาอันหล่อเหลาของตัวเอง ผมมีหน้าตาที่คมคายแบบชาวตะวันตก ผสมกับความน่ารักคิขุแบบชาวเอเชีย พูดตรงๆว่าคนที่หล่อกว่าผม น่าจะหาได้ยากพอๆกับ นักการเมืองที่หนีทหาร ที่ผ่านมาผมอยู่แต่ในโรงพยาบาลแทบตลอด ผมไม่ได้ฝึกฟุตบอลเลย แล้วก็ไม่ได้ออกไปไหนด้วย ชีวิตวัยรุ่นของผมหมดไปกับการพยายามกลับมาเดินให้ได้ ในขณะที่วัยรุ่นคนอื่นๆกำลังวิ่งเล่นกัน และการที่ผมได้ออกมาจากโรงพยาบาล ได้นั่งรถ ได้สูดอากาศที่มีฝุ่นละอองPM2.5  มันทำให้ผมอยากจะอ้วกออกมา แต่ผมก็มีความสุขที่ได้เห็นสิ่งต่างๆเปลี่ยนไป ผมนั่งรถมาเรื่อยๆ จนมาถึงที่หน้าโรงเรียนของผม ที่ๆทุกอย่างได้เริ่มขึ้น





The Glory Days : Begins  Regents-international-school-thailand-26




“ขอผมไปเดินออกกำลังกายซักครึ่งชั่วโมงนะครับ” ผมพูดกับสมชายคนขับรถ






“ครับคุณหนู”






                      สมชายพูดก่อนจะขับรถไปจอดในที่จอดรถ โรงเรียนของผมเป็นโรงเรียนนานาชาติ มีนักเรียนไม่เยอะนัก ผมได้แต่คิดว่าบางทีเพื่อนๆอาจจะลืมผมไปหมดแล้วก็ได้ แต่มีอยู่สถานที่นึง ที่ซึ่งจะไม่มีใครลืมผมแน่ ที่ซึ่งผมได้สร้างตำนานไว้ “ชมรมฟุตบอล” ผมเดินผ่านตึกอาคารเรียนหลักไป ในตอนที่ผมมา เหล่านักเรียนเริ่มกลับบ้านกันเกือบหมดแล้ว จะเหลือก็เพียงครู อาจารย์ที่กำลังเก็บข้าวเก็บของเตรียมกลับบ้าน ผมเดินผ่านสนามฟุตบอล ที่ๆเป็นทั้งที่เกิด และมันจะเป็นที่ตายของผม แต่ด้วยสภาพขาของผมตอนนี้ ดูเหมือนผมต้องหาที่ตายใหม่ซะแล้ว ผมเดินมาเรื่อยๆจนถึงชมรมฟุตบอล มันเป็นตึก2ชั้น ที่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสูงทุกอย่างอยู่ในนั้น แต่ทว่า.....


The Glory Days : Begins  Portada_003_North_Exterior_Dawn



“ชมรมว่ายน้ำหรอ???” ผมอ่านชื่อที่เขียนอยู่ข้างหน้า






“มีอะไรให้ช่วยรึเปล่าคะ?”






 เสียงของหญิงคนนึงพูดกับผม เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ตาของเธอโตและแก้มของเธอก็ดูนุ่มนิ่มน่าหยิกเป็นที่สุด เธอทำให้หัวใจอันหยาบโลนของผมอ่อนโยนขึ้นชั่วขณะ แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับความสงสัยที่ผมกำลังจะถาม






“ทำไมป้ายชมรมว่ายน้ำถึงได้มาอยู่ที่ชมรมฟุตบอลล่ะ?” ผมถาม






“หืม? นี่คุณไม่รู้หรอคะเนี่ย?” เธอถามด้วยท่าทีสงสัย






“รู้? รู้อะไรหรอครับ?” ผมถาม






“ก็ชมรมฟุตบอลน่ะ ทำผลงานได้ไม่ดีติดต่อกันมาหลายทัวร์นาเม้นแล้วล่ะค่ะ”






“สวนทางกับชมรมว่ายน้ำที่นับวันยิ่งโชว์ผลงานได้ดี แถมตอนนี้ก็มีสมาชิกมากขึ้นอีกด้วย”






“ตอนนี้ศูนย์ฝึกนักกีฬาฟุตบอลของชมรมฟุตบอลก็เลยกลายเป็นของชมรมว่ายน้ำไปแล้วล่ะค่ะ”






                     พูดตามตรง ในหัวผมตอนนี้มีแต่ความว่างเปล่า เพราะว่าคู่สนนทนาของผมช่างน่ารักเหลือเกิน ไม่สิ ไม่ใช่! ในหัวผมตอนนี้มันว่างเปล่าไปหมด ผมไม่อยู่แค่ปีกว่าๆ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปจนผมกลายเป็นไอ้แก่ตกยุค ผมแทบจะไม่เชื่อในคำพูดที่เธอพูด ผมอยากให้มันกลายเป็นความฝัน จนกระทั่งผมเห็นเหล่านักกีฬาว่ายน้ำ ผู้มีช่วงไหล่กว้างอย่างกะใส่ชุดเสริมไหล่ของชาวไซย่า เดินเพ่นพ่านเต็มไปหมด






“ให้ตายสิ เปลี่ยนไปขนาดนี้เลยหรอ....” ผมพูดกับตัวเอง






“แล้วตอนนี้ชมรมฟุตบอลอยู่ที่ไหนหรอครับ?” ผมถาม






“ดูเหมือนจะย้ายไปอยู่ที่ห้องเก็บของหลังโรงเรียนนะคะ” เธอตอบ






“ขอบคุณมากนะครับ” ผมขอบคุณที่เธอเสียเวลาคุยกับผม






“ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ” เธอยิ้มแล้วก็ตอบกลับด้วยความสดใส






“เยน รีบมาฝึกได้แล้ว” เสียงของผู้หญิงอีกคนตะโกนเรียกเธอ






“ค่า จะไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ!!” คู่สนนทนาของผมดูเหมือนจะต้องไปแล้ว






“ขอตัวก่อนนะคะ” เธอพูดก่อนจะเข้าไปในชมรมว่ายน้ำ






“เยนสินะ...” ในที่สุดผมก็รู้ชื่อของเธอ


The Glory Days : Begins  Soccer-Field-Village-Park-Wellington-Florida-498x332


                     ผมเดินออกมาจากตึกชมรมว่ายน้ำ และเห็นสนามบอลแห่งเดิม สนามที่เป็นทุกอย่างของผม ท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามอัสดงที่สอดส่อง ผมเห็นผืนหญ้าสีเขียวที่ว่างเปล่า อันที่จริง ผมไม่ได้เป็นนักฟุตบอลแล้วด้วยซ้ำ แต่ผมไม่สามารถหันหลังให้กับสภาพอันน่าอดสู ของชมรมที่ผมรักได้ ผมยอมสละอนาคตนักฟุตบอลของผมเพื่อมัน แต่ในตอนนี้มันกลับตกต่ำอย่างถึงขีดสุด ผมยอมไม่ได้เด็ดขาด!!






“เอาล่ะ!!!” ผมพูดกับตัวเอง






“แค่ชั้นไม่อยู่ พวกแกก็อ่อนยวบลงถึงขนาดนี้”






“ชั้นจะไม่ปล่อยให้ชมรมฟุตบอลตกต่ำมากไปกว่านี้อีกแล้วคอยดูสิ!!!”




--------------------------------------------------



The Glory Days : Begins  601_1



“นี่ๆ ตอนเย็นน่ะ มีคนเห็นไอ้แม็คด้วยล่ะ” เสียงของชายคนนึงพูดขึ้นในระหว่างกำลังแทงสนุกเกอร์



“หึ กลับมาแล้วสินะ” เสียงของชายอีกคนพูดแบบเบื่อๆ



“แต่ต่อให้กลับมาก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนหรอก”



“ชมรมฟุตบอลมันตายไปแล้ว” เขาแสดงท่าทีขี้เกียจออกมาอย่างเห็นได้ชัด



“มึงคิดแบบนี้จริงๆน่ะหรอ? เล่” ชายอีกคนเรียกชายที่กำลังทำท่าเบื่อเซ็ง



“จะบอกอะไรให้นะ โรงเรียนนานาชาติเยซูวิทยาน่ะ มันจบแล้ว” ชายที่ชื่อเล่พูดขึ้น



“ตั้งแต่วันที่ไอ้แม็คถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล....”



“....เพราะว่าก้าวขาขึ้นรถเมลล์แล้วโดนประตูหนีบ...”



“บ้านก็รวยแต่เสือกอยากทำตัวติดดิน ไอ้เวร”
IamKurtCobian
IamKurtCobian
Posts : 108
Join date : 2018-08-20
Age : 26

The Glory Days : Begins  Empty Re: The Glory Days : Begins

Sun Dec 23, 2018 4:50 pm
The Glory Days : Begins  Feature-watsadej-room




“เอาล่ะพวกเธอ วันนี้เพื่อนกลับมาแล้วนะ”






“เอ้า แนะนำตัวสิ”






                        เสียงของอาจารย์ประจำชั้นพูดกับผม ผมรู้สึกแปลกๆที่ต้องมาแนะนำตัวกับเพื่อนๆที่ผมรู้จักอยู่แล้ว แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีบางคนที่ผมไม่เคยเห็นหน้าเหมือนกัน เนื่องจากนี่เป็นโรงเรียนนานาชาติ ทำให้มีนักเรียนแลกเปลี่ยนจากต่างประเทศเข้ามาเรียนอยู่ตลอด




“สวัสดี ชั้น ชื่อแม็ค ชั้นเรียนม.4ที่นี่ ก่อนจะบาดเจ็บไป1ปีเต็มๆ”






“หวังว่าจะจำกันได้นะ” ผมแนะนำตัวอย่างเขินอาย






“เอาล่ะ มีที่ว่างให้เพื่อนบ้างมั้ย?” อาจารย์พูดเพื่อหาที่นั่งให้ผม






“ตรงนี้ว่างครับ จารย์”






                  เสียงของชายคนนึงพูดขึ้น เขาเป็นหนุ่มร่างท้วม ผิวของเขาออกคล้ำๆ หน้าตาเขาเหมือนลูกอีแหม่ม ยังไงอย่างงั้น  ผมจำไม่ได้ว่าผมเคยมีเพื่อนหน้าตาแบบนี้ แต่ดูเหมือนเขาจะมีที่นั่งว่างพอดี มันเป็นโต๊ะหลังสุดริมหน้าต่าง ที่ๆเหล่าหัวโจกมักจะไปนั่งสุมหัวกัน






“ขอบใจนะ” ผมทักทาย






“กองไว้ตรงนั้นอ่ะ” อีกฝ่ายตอบกลับ






“.....”






“ขอโทษนะ เราเคยรู้จักกันรึเปล่า?” ผมถาม






“เหมือนหล่อ ไอเวร” อีกฝ่ายตอบ






“อ๋อ มึงนี่เอง” 






                      ผมจำได้ทันทีว่าเขาคือ มิดฟิลด์อัจฉริยะ ผู้สร้างสถิติ แอสซิสทุกเกมที่ลงสนาม เคยมีครั้งนึง เขาถูกเปลี่ยนลงมาเป็นตัวสำรอง พอเขาได้บอลครั้งแรก เขาก็เปิดบอลอย่างรุนแรง บอลโดนหน้ากรรมการเด้งเข้าประตู ผมยังจำช็อตนั้นได้จนถึงทุกวันนี้ เขาคือ “เล่” แต่สภาพของตอนนี้ แตกต่างจากที่ผมเคยเห็นอย่างสิ้นเชิง






“นี่มึงไปทำอะไรมา” ผมถาม






“ช่วงนี้กูกินเยอะ” เขาตอบ






“แล้วบอลมึงไม่เตะแล้วอ่อ?”






“กูโดนแบนอ่ะ”




“กี่นัดอ่ะ”






“ปีนึง”






“ห๊ะ!!!!!”






                            ผมถึงกับตกใจกับสิ่งที่เขาพูด ปรกติ เล่ ไม่ใช่คนเล่นบอลรุนแรงอะไร การที่เขาโดนแบนถึง1ปี ทำให้ผมตกใจมากๆ เขาเคยเป็นคนที่ฮอตมากๆในหมู่สาวๆ ในวันนี้เขาเปลี่ยนไปจนผมรู้สึกแปลกๆ






“มึงไปทำไรมาวะ” ผมถาม






“กูโดนจับได้ว่าเล่นการพนันว่ะ”เขาตอบ






“โถ ลูกอีแหม่ม”






“ควย”





The Glory Days : Begins  Cafeteria_img_01




                     ผมกับเล่นั่งคุยกันจนถึงพักกลางวัน ผมบอกให้เล่พาผมไปที่ชมรมฟุตบอล ผมเดินออกมาจากห้องเรียนที่ชั้น2 ก่อนที่จะลงบันไดเลื่อนไปที่ชั้นล่าง ระหว่างทางก็มีสาวๆแห่มาถ่ายรูปผมกันใหญ่ ผมก็เบื่อความหล่อของตัวเองเหมือนกัน หรือว่าผมจะไปกินให้อ้วนแบบเล่ดีนะ



                       ผมเดินผ่านเหล่าสาวๆไปเรื่อยๆจนถึง ห้องเก็บของหลังโรงเรียน มันเป็นห้องเก็บของเก่าๆเท่านั้น มันดูไม่น่าจะเป็นที่ตั้งของชมรมฟุตบอลอันเกรียงไกรของ โรงเรียนนานาชาติเยซูวิทยาได้เลย เล่เปิดประตูเข้าไป ซึ่งภายในนั้นไม่มีใครนอกจากผมกับเล่ภายในนั้นเสื่อมโทรมมาก ห้องชมรมนี้เหมือนรังหนูไม่มีผิด


The Glory Days : Begins  6-8






“ยินดีต้อนรับสู่ชมรมฟุตบอล” เล่พูดกับผม






“ให้ตายสิ ทำไมถึงปล่อยให้สกปรกแบบนี้ล่ะ” ผมถาม






“มึงก็เห็นแล้วนี่ว่ากลอนประตูมันพัง” เขาตอบ






“หมายความว่าไง?” ผมไม่เข้าใจที่เล่พูดเลย






“นี่ออกไปเลยนะ!!!!”






                     เสียงผู้หญิงห้าวๆคนนึงตะโกนไล่หลังผมอย่างเดือดดาล แน่นอนว่าผมรู้จักเธอดี เธอคือผู้จัดการทีมของเรา ผมหันไปหาต้นตอของเสียงก่อนที่จะเห็น หญิงสาวที่ค่อนข้างสูงถ้าเทียบกับผู้หญิงทั่วไป เธอมีผมหน้าม้า และหางตาชี้ๆของเธอถือเป็นเอกลักษณ์ของสาวลูกครึ่งจีนคนนี้ และด้วยความห้าวของเธอทำให้เธอก้าวร้าวใส่ผู้ใหญ่บ่อยๆ






“ว่าไง จาง” ผมหันไปทักทาย






“ม่ะ.. แม็ค” เธอดูอึ้ง






“......”






“หายไปไหนมาวะ!!!!!” เธอตะโกนอย่างดังพร้อมๆกับร้องไห้ออกมา






“อย่าพึ่งร้องไห้สิ อีห่า” เล่พูด






“มึงเหงียบเลยนะอีแหม่ม” จางตอกกลับเล่






“โถ่ อีดอก!!” เล่ถึงกับขึ้น






“จาง มันเกิดอะไรขึ้น “ ผมพยายามพูดให้เธอใจเย็น






“ทั้งหมดเป็นความผิดของพวกแกนั่นแหละ”






                จางพูดทั้งๆที่ร้องไห้  ใบหน้าของเธอชุ่มไปด้วยน้ำตา ก่อนที่จะเริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้ผมฟัง เรื่องมันเริ่มขึ้นตั้งแต่ผมบาดเจ็บ และหลังจากนั้นไม่ได้นาน เล่ก็โดนแบน พวกเราทั้ง2คนคือนักเตะตัวหลักของทีม พอพวกเราหายไป ในตอนแรกๆ ฟอร์มของพวกเราก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ได้ แต่ปัญหามันเกิดขึ้นเพราะ หลังจากที่รุ่นพี่ ม.6 ในตอนที่ผมอยู่ม.4 เริ่มเรียนจบไป นักเตะรุ่นเดียวกันกับผม ต่างได้ขึ้นมาเป็นตัวจริง 




              ซึ่งพวกเขาเหล่านั้น ฝีมือไม่ได้ครึ่งนึงของผมกับเล่เลย ทำให้ฟอร์มของทีมตกต่ำอย่างถึงขีดสุด แถมในตอนนั้น รุ่นพี่ม.6 ของปีก่อนที่พอจะมีฝีมืออยู่บ้างก็เรียนจบกันหมดแล้ว ทำให้ตอนนี้ทีมแทบจะไม่เหลือนักเตะดีๆเลย
ชมรมของเราจะต้องถูกปิดด้วยซ้ำในความเป็นจริง แต่เนื่องจากคุณงามความดีที่เคยทำให้โรงเรียนมา ทำให้พวกเขาอณุญาติให้มีชมรมต่อไปได้ แต่ก็อย่างที่เห็น ที่ๆพวกเราอยู่นั้นน่าสมเพชมาก แถมชมรมอื่นๆก็ชอบมาแกล้งชมรมของพวกเราด้วยการเข้ามาพังอุปกรณ์ต่างๆอีกด้วย






“แล้วอาจารย์ป้อมล่ะ?” ผมถามถึงอดีตเฮดโค้ชของเรา”






“อาจารย์ป้อม หรอ?” จางพูดด้วยหน้าตาโกรธแค้น






“ไอ้ป้อม!!!!!!!” เธอตะโกนออกมาอย่างสุดเสียง






“พอชมรมเราตกต่ำ มันก็ย้ายไปเป็นเฮดโค้ชให้ชมรมว่ายน้ำแทน”






“ชั้นน่ะเกลียดชมรมว่ายน้ำที่สุดเลย”






“มันแย่งตึกของเราไป มันแย่งทุกอย่างของเราไป” จางพูดทั้งน้ำตา






“แม็ค แกกลับมาแล้วอ่ะ แกจะกลับมาเตะฟุตบอลแล้วใช่มั้ย?” จางถาม






                   คำถามของจางทำให้ผมอึ้งไปชั่วขณะ ผมรุ้ดีแก่ใจว่า ผมไม่สามารถเตะบอลได้ ผมต้องทำกายภาพบำบัดต่อไปอีกอย่างน้อย2ปี กว่าที่ผมจะเริ่มกลับมาซ้อมหนักได้ มันไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่ผมจะกลับมาเตะบอลได้ในตอนนี้ เพราะถ้าหากผมฝืนตัวเองล่ะก็ นอกจากผมจะเตะบอลไม่ได้แล้ว ผมอาจจะเดินไม่ได้ด้วย






“ขอโทษนะแต่...”






“มันหนักกว่าที่แกคิด” ผมตอบตามตรง






“อะ... อะไรนะ?” จางดูอึ้งๆ






“ชั้นไม่ได้รอแกกลับมา เพื่อพูดประโยคนั้นนะ ไอ้บ้า” จางพูดด้วยความเสียใจ






“ทีมแตก เฮดโค้ชหนีหาย” เล่พูดแทรกขึ้นมา






“กูว่ามึงน่าจะหาชมรมใหม่ได้แล้วนะ จาง” เล่พูดกับจาง






“ไม่ได้!!! พวกแกต้องรับผิดชอบ” จางพูดขึ้นมา






“ในอีก2เดือนข้างหน้า จะมีการแข่ง ดีเซิร์ทโตะ คัพ”





“พวกแกทั้ง2คน ต้องรับผิดชอบด้วยการทำยังไงก็ได้ให้ทีมลงแข่งได้” จางพูด






“แล้วทำไมกูต้องทำด้วยวะ?” เล่ถาม






“เพราะถ้ามึงไม่ทำ กูจะฟ้องอีแหม่มว่ามึงติดการพนัน” จางขู่เล่






“อีจาง!! มึง!!!!!!” เล่ขึ้นถึงขีดสุด แต่ดูเหมือนเขาจะไม่มีทางเลือก






“แล้วแกล่ะ แม็ค?” จางถามผม






“ไม่ต้องห่วงน่า เราจะช่วยแน่นอน” ผมตอบอย่างมั่นใจ






“หลังเลิกเรียนวันนี้ แกไปเรียกนักฟุตบอลมาให้หมด ใครที่มีชื่ออยู่ในชมรมไปเรียกมา” ผมพูดกับจาง




“แล้วก็......”






“.....ใครที่ร้องไห้อยู่ ไม่ร้องแล้วนะคะ....”




The Glory Days : Begins  DSC05309-2




                 เวลาล่วงเลยไปจนถึงตอนเย็นหลังเลิกเรียน นักเรียนส่วนใหญ่ของที่นี่จะไม่กลับบ้านในทันที พวกเราจะอยู่ต่อเพื่อทำกิจกรรมชมรม แต่ก็จะมีบางชมรมเหมือนกันที่ทำให้ตัวเองกลายเป็น “ชมรมกลับบ้าน” พูดง่ายๆก็คือ เป็นชมรมตั้งขึ้นมาเพื่อบังหน้าอาจารย์เท่านั้น ไม่ได้มีการทำกิจกรรมอะไรกันเลย และที่น่าเสียใจก็คือ “ชมรมฟุตบอล” กลายเป็น “ชมรมกลับบ้าน” ไปซะแล้ว






“เอาล่ะ เข้าแถว!!!” จางพูดอย่างกระโชกโหกหาก






“ดูพวกไก่อ่อนนี่สิ เหมือนหล่อไอ่เวร” เล่พูดกับผม






“ท่าทางแต่ละคน ไม่น่าเตะบอลเป็นเลยแหะ” ผมคุยกับเล่






“เดี๋ยวนะ”






                    ระหว่างที่คุยกับเล่ ผมก็หันไปเห็นคนนึงๆ  เขาเป็นหนุ่มร่างสูงประมาณ 180ปลายๆ เขามีผมยาวและมีหนวดคราวพอดีกับรูปหน้า ผมคิดว่าหน้าตาเขาคล้ายๆใครซักคน ที่ผมเคยเห็นในโรงเรียนนานาชาติ “เยซู” วิทยาแห่งนี้






“คนนั้นอยู่ ม.4จริงๆน่ะหรอ” ผมหันไปคุยกับจาง






“ใช่ เห็นบอกว่าเป็นผู้รักษาประตูน่ะนะ” จางบอกกับผม






“เคยเห็นฝีมือรึยัง?” ผมถามต่อ






“พูดตรงๆก็ยังเลย พออาจารย์ป้อมไม่อยู่ ก็ไม่มีใครคุมการฝึกซ้อมเลยอ่ะ” จางตอบ






“อืม”






                   ดูเหมือนสมาคมฟุตบอลจะตกต่ำกว่าที่ผมคิด ตกต่ำถึงขนาดไม่มีผู้ฝึกสอนเลยด้วยซ้ำ ถ้าหากสนามบอลของพวกเราไม่ได้มีชมรมอื่นมาผลัดกันใช้ ก็คงถูกเปลี่ยนเป็นลานจอดรถไปแล้ว






“แล้วทีนี้เอาไงต่ออ่ะ?” จางถามผม






“นั่นสินะ” ผมพูดออกมา






“เอาล่ะทุกคนฟังนะ พี่ชื่อแม็ค คนที่ยืนตรงนั้นชื่อ เล่”






“เราจะแบ่งคนเป็น2ฝั่ง แล้วจะเล่นกันเพื่อหาทีมตัวจริงกันก่อน” ผมพูดแผนการฝึกซ้อมในวันนี้






“เอ่อ.... ขอโทษนะครับ”






                  เสียงของชายปริศนาคนนึงพูดขึ้น เขาเป็นชายรูปร่างปรกติมาตฐาน รูปร่างเขาดูมั่นคงแข็งแรง เหมาะกับการเป็นนักกีฬามากๆ ดูเหมือนเขามีอะไรจะพูดกับผม






“มีปัญหาอะไรหรอ ตรงนั้นน่ะ” ผมถาม






“เอ่อ... คือ” เขาดูกล้าๆกลัวๆ






“วันนี้ฟิกเกอร์ เลิฟไลฟ์ วางขายน่ะครับ....”






“ถ่ะ ถ้า ไม่รีบไปล่ะก็.....”






                    เขาพูดด้วยท่าทีเหนียมอาย ขัดกับภาพลักษณ์ของเขา สรุปคือ เขาอยากจะไปซื้อฟิกเกอร์นั่น มากกว่าเตะฟุตบอลอยู่ที่นี่ ผมไม่รู้ว่าผมควรรู้สึกยังไงกับเขาดี เพราะถ้าหากดูจากรูปร่างของเขา เขาสามารถเป็นสุดยอดนักเตะได้ง่ายๆ






“นายชื่ออะไร?” ผมถามเขา






“ผมชื่อ นาระ อยู่ ม.4ครับ “






“โอเคนาระ นายจะไปซื้อฟิกเกอร์ของนายก็ได้” ผมพูด






“จ่ะ จริงหรอครับรุ่นพี่!” เขาดูดีใจมากๆ






“ใช่ นายไปได้”






“หลังจากที่นายยิงประตูได้น่ะนะ”  ผมพูดอย่างเลือดเย็น






“ห๊ะ!!!”






“เอาล่ะอย่าชักช้า แบ่งฝั่งกันเร็ว!!!!!” จางตะโกนใส่เหล่ารุ่นน้อง จนแต่ละคนตกรีบพากันแบ่งฝั่งกันวุ่นวายไปหมด






“ฮ่าๆๆๆ พวกนั้นร้อนลนไปหมดเลยว่ะ” เล่ หัวเราะชอบใจ






“มึงด้วยเล่” ผมพูด






“อะไรนะ?” เล่ถาม






“มึงต้องเล่นด้วย”






“กูไม่เล่น” เล่ ปฏิเสธ






“เจ๊ แหม่ม เล่เล่นพนันบอล” จางพูดพร้อมยกโทรศัพท์ขึ้นมา






“เดี๋ยว!!!!!!!!!!!”






“รู้แล้วๆ เล่นก็เล่นวะ” เล่ไม่มีทางเลือก






                  สุดท้ายพวกเขาก็แบ่งข้างกันสำเร็จ เล่กับนาระ อยู่ทีมเดียวกัน  ส่วนอีกทีมก็มีนายประตูหน้าเหมือนเยซูประจำการอยู่ มันเป็นการแข่งฟุตบอล 7คน ผมรับหน้าที่เป็นกรรมการในสนาม สำหรับการวิ่งเยาะๆ คงพอไหวสำหรับผม ทันทีที่ผมเป่าเริ่มเกมทั้งสองทีมก็เริ่มเล่นกันอย่างดุเดือดทันที




                   ทางฝั่งของเล่ นั้น แม้หุ่นและความฟิตของเขาจะตกลงไปมากจากการห่างสนามไปนาน แต่เซนส์บอลของเขายังมีอยู่เช่นเดิม เล่สามารถเคลื่อนที่ลูกฟุตบอลได้อย่างดีขัดกับหุ่นตุ้ยนุ้ยของเขา ลูกฟุตบอลที่ออกจากเท้าเล่ ยังอันตรายเช่นเคย แต่ทว่า หลังจากที่ผ่านไป10นาที ผู้เล่นฝั่งตรงข้ามเริ่มจะรู้ความอันตรายของเล่ เขาจึงส่งมิดฟิลด์อีกคนลงมาประกบเล่ เขาเป็นมิดฟิลด์หน้าหล่อ 




                   ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยสังเกตเขามาก่อน แต่รู้ตัวอีกที เขาก็เข้ามาประกบติดเล่ และไม่ปล่อยให้เล่เล่นได้ตามใจอีกเลย แม้ว่าชั้นเชิงของเขาจะไม่สามารถหยุดการผ่านบอลอันเหนือชั้นของเล่ได้ แต่นั่นก็ทำให้เล่รู้สึกรำคาญ และต้องเคลื่อนที่ให้มากกว่าเดิมทำให้เล่เริ่มอ่อนแรงลง มิดฟิลด์หน้าหล่อคนนั้นยังคงวิ่งตามตื้อเล่อย่างไม่ลดละ




                      ในขณะที่ผู้รักษาประตูหน้าเยซู ก็สามารถป้องกันประตูไว้ได้อย่างดี ดูเหมือนในจำนวนสมาชิกชมรมที่มีประมาณ10กว่าคน จะมีหลายคนเหมือนกันที่มีฝีมือดีพอจะเป็นตัวจริงได้ นาระ กองหน้าเลิฟไลฟ์ พยายามยิงประตูอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อที่เขาจะได้ไปซื้อฟิกเกอร์เลิฟไลฟ์ซะที 




                     การแข่งขันเป็นไปอย่างต่อเนื่องจนกระทั่ง เล่หลุดการประกบของมิดฟิลด์หน้าหล่อออกมาได้ ก่อนที่จะยิงไกลเข้าไปอย่างหนักหน่วง ลูกบอลพุ่งออกไปกระทืบส้นเท้าของนาระ แฉล่บเปลี่ยนทางบอลเข้าไปอย่างมีดวง และนั่นทำให้ นาระได้ไปซื้อฟิกเกอร์ และเกมก็จบลงไปด้วยชัยชนะของฝั่งเล่ 1-0




“ทำได้ดีมากทุกคน” ผมกล่าวชื่นชมทุกคน






“ดูเหมือนจะมี2-3คนที่พอใช้ได้ล่ะนะ”






“คนที่เป็นประตูของฝั่งที่แพ้ชื่ออะไรนะ?” ผมถามนายประตูเยซู






“ฟ้าครับ ชื่อจริงฟ้า นามสกุลมืด” เขาตอบ






“แล้วนายล่ะ คนที่หน้าหล่อๆนั่นแหละ” ผมถามมิดฟิลด์หน้าหล่อที่ประกบเล่






“ผมชื่อแทนครับ” เขาตอบ






“ทำไมนายถึงเล่นได้ไม่มีเหน็ดเหนื่อยแบบนั้นล่ะ” ผมสงสัยที่มาของความอึดของเขา






“วิ่งไล่บอลน่ะ..” เขาพูดด้วยเสียงนิ่งๆ






“ไม่เหนื่อยเท่าวิ่งตาม พี่ปรางหรอกครับ”






“ห๊ะ อะไรนะ” ผมอึ้งนิดหน่อย แต่ช่างเถอะ






“วันนี้ทุกคนทำได้ดีมากนะ วันนี้กลับบ้านได้ ต่อไปนี้เราจะซ้อมกันทุกวันจำไว้ล่ะ”

-----------------------------------


The Glory Days : Begins  Banner-eng3



“การแข่ง ดีเซิร์ทโตะ คัพใกล้จะเข้ามาแล้วนะครับอาจารย์” เสียงของชายแก่คนนึงพูด






“ไม่ต้องห่วงครับผู้อำนวยการ ตราบใดที่เรายังมี “






“ที”






“มิดฟิลด์อัจฉริยะ”






“และ”






“แกสบี้”






“ปีกไฮแจ็คของเรา”






“ผมขอรับประกันเลยครับว่า ถ้วยแชมป์ ดีเซิร์ทโตะคัพปีนี้”






“จะต้องเป็นของเรา”






“กรุงเทพอิสลาม”



The Glory Days : Begins  The-Lofts-Silom-089




“Allahu Akbar !!”






“Allahu Akbar!!”






“Allahu Akbar!!”






“ดูนั่นสิ กรุงเทพอิสลามล่ะ”






                   เสียงของผู้หญิงคนนึงพูดกับเพื่อนของเธอที่ถนนฝั่งตรงข้ามโรงเรียน กรุงเทพอิสลาม เธอเห็น กลุ่มนักฟุตบอลของกรุงเทพอิสลามกำลังออกวิ่งไปรอบๆถนนเส้นนั้น โดยรวมเส้นทางที่พวกเขาวิ่งมันแทบจะระดับเดียวกับการวิ่งแข่งมาราธอนเลยก็ว่าได้ โดยที่หัวแถวคือ “ที” ชายผมยาว มีหนวดคราวประมาณนึง ในขณะที่คนอื่นเริ่มมีอาการหอบ แต่ชายคนนี้ยังไม่มีเหงื่อซักหยดเดียว โดยที่ข้างๆเขาเป็นชายร่างเล็ก “แกสบี้” ชายผมสั้นและมีหนวดเช่นกัน พวกเขาทั้งหมดใส่ชุดขาวล้วน และเปล่งเสียงดังลั่นถนน 


“Allahu Akbar!!!!”
IamKurtCobian
IamKurtCobian
Posts : 108
Join date : 2018-08-20
Age : 26

The Glory Days : Begins  Empty Re: The Glory Days : Begins

Wed Dec 26, 2018 10:32 am
ตอนที่ 2


The Glory Days : Begins  Latest?cb=20160827103454&path-prefix=en


“ปัก ปัก ปัก “






                   เสียงลูกบอลกระทบกับกำแพงซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันเป็นกำแพงบ้านของครอบครัว ครอบครัวหนึ่ง พวกเขามีเงินร่ำรวยมหาศาล หากแต่ครอบครัวนี้นั้น ใช้ชีวิตของพวกเขาอย่างเรียบง่ายในบ้านหลังเล็กๆ ลูกชายของพวกเขา ไม่ได้ไปเรียนที่โรงเรียนตามปรกติ พวกเขาจ้างคุณครูมาสอนลูกของตัวเองที่บ้าน เด็กหนุ่มคนนี้ไม่เคยไปเรียนที่โรงเรียนเลยซักครั้ง  แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกด้อยไปกว่าใครเลยแม้แต่น้อยเพราะ





“เมพ”






“ได้เวลาเรียนกลองแล้วลูก” เสียงของหญิงวัยกลางคนพูดกับลูกชายของเธอ






“ครับแม่” เสียงของเด็กหนุ่มตอบแม่ของเขา






“เอ่อ เมพ” ผู้เป็นแม่เหมือนมีอะไรจะพูด






“อะไรครับ?” เมพถาม






“แม่คิดว่า ได้เวลาแล้วนะ”






“ลูกน่าจะลองไปโรงเรียนกับเขาซักที”






The Glory Days : Begins  %E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%9F%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E






“ขยันวิ่งหน่อยสิ นาระ!!!”






                   ผมตะโกนสั่งการโดยมี จาง สาวผู้จัดการทีมถือนาฬิกาจับเวลา และจดสถิติของนักเตะทุกๆคนอยู่ ในวันนี้เราฝึกการวิ่งไปกลับครึ่งสนามฟุตบอลกัน หลังจากที่ผมไม่อยู่เพราะบาดเจ็บไป พวกเขาทำเวลาได้ช้าและก็วิ่งได้น้อยรอบกันมากๆ แม้แต่เล่เอง ก็ยังหอบแดกไปเหมือนกัน จะมีก็แต่ “แทน” โอชิพี่ปราง ที่วิ่งไปกลับอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ราวกับ”พี่ปราง” มายืนรอเขาอยู่ตรงเส้นชัยยังไงอย่างงั้น






“วุฒิชัย”






                   เสียงของอาจารย์ป้อมผู้เป็นครูประจำชั้น เรียกผม เขาเดินมาหาผมด้วยท่าทีเร่งรีบ เหมือนกับว่าเขามีเรื่องให้ช่วย ผมรีบฝากฝังให้จาง รับหน้าที่ดูแลการฝึกแทนผมไปก่อน






“ครับ อาจารย์” ผมรีบวิ่งไปหาอาจารย์ป้อมก่อนจะขานรับเขา






“มานี่หน่อยสิ”






                   อาจารย์ป้อม เรียกผมไปที่สำนักงานผู้อำนวยการ ในตอนนั้นใจผมไม่ค่อยดีเลย ผมกลัวว่าชมรมฟุตบอลอาจจะถูกผู้อำนวยการสั่งปิด และถ้าเป็นแบบนั้นต้องแย่แน่ๆ เพราะถ้าไม่มีชมรมฟุตบอล ผมคงต้องไปเข้าชมรมนายแบบ หรือชมรมไอดอลแทน เพราะหน้าตาที่หล่อเหลาของผม ซึ่งผมไม่ได้ต้องการแบบนั้นเลย เห้อ ไม่น่าเกิดมาหล่อเลยจริงๆ




The Glory Days : Begins  3




“มาแล้วครับผู้อำนวยการ” อาจารย์ป้อมพูด






“สวัสดีครับ ผู้อำนวยการประยุทธ” ผมทักทายเขา






“สวัสดี วุฒิชัย”






“ได้ยินว่ากำลังเคี่ยวเข็ญ ชมรมฟุตบอลอย่างหนักเลยนี่” ผ.อ ประยุทธพูดกับผม






“ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ”






“ว่าแต่ เรียกผมมามีอะไรรึเปล่าครับ?” ผมถาม






“คือว่าทางโรงเรียนเรามีโครงการโฮมสคูล”






“เธอก็รู้ใช่มั้ย?” ผ.อ ประยุทธถาม






“ผมทราบดีครับ” ผมตอบ






“แล้วทีนี้ดูเหมือนจะมีเด็กโฮมสคูลคนนึง ต้องการจะมาเรียนที่โรงเรียน”






“ซึ่งสิ่งที่ตลกก็คือ ตอนที่เด็กคนนี้สอบเข้ามาตอนแรก”






“เขาเข้ามาด้วยโควตานักกีฬา”






“และนั่นคือกีฬาฟุตบอล”






“ครูอยากให้เธอพาเขาไปที่ชมรมฟุตบอลของเธอ”






“เธอโอเคมั้ย?” ลุงตู่เล่าเรื่องทั้งหมดให้ผมฟัง






“โอเคครับ ตอนนี้เรากำลังต้องการนักเตะฝีมือดีพอดี” ผมรีบตอบ






“ดีล่ะ ถ้างั้นครูฝากด้วยนะ”






                 ผู้อำนวยการประยุทธพูดทิ้งท้ายก่อนที่ผมจะออกจากห้องของเขามา ดูเหมือนผมจะต้องไปตามหา “เมพ” ดูเหมือนเขาจะอยู่ ม.4 ห้อง 10 ผมเดินไปที่อาคารของพวก ม.4 เหล่ารุ่นน้องต่างพากันยกมือถือมาถ่ายรูปผม ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าถ่ายทำไม แต่ช่วงนี้ผมมักจะเห็นหน้าตัวเองบ่อยๆในแฟนเพจหนุ่มหล่อประจำเยซู ที่ตั้งขึ้นโดยใครซักคนในโรงเรียน




The Glory Days : Begins  119927692




“นี่สินะ ห้อง10”






               ผมเดินมาถึงห้องที่10จนได้ ปรกติตอนนี้หลายๆคนก็เริ่มจะเตรียมตัวกลับบ้านกันแล้ว แต่เมพกำลังรอผมให้ไปรับเขาอยู่จากคำบอกเล่าของอาจารย์ป้อมและผู้อำนวยการประยุทธ ผมยืนอยู่หน้าห้อง ทำใจซักพัก แล้วก็ค่อยๆเปิดประตูเข้าไป






“ตุบ!”






               ผู้รู้สึกเหมือนมีอะไรมาชนผมเข้าที่หน้าอก เมื่อผมมองลงไป ผมก็เห็นเด็กสาว ผมยาว ตาโตๆและแก้มที่ดูนุ่มนิ่มของเธอทำให้ผมจำเธอได้ในทันที เธอคือ “เยน” สาวนักว่ายน้ำแห่งชมรมว่ายน้ำนั่นเอง เธอเปิดประตูให้จังหวะเดียวกับที่ผมเปิด ทำให้เธอกับผมเดินชนกัน โชคดีที่ไม่ได้เป็นการชนที่รุนแรงอะไร






“เป็นอะไรรึเปล่าครับ?” ผมรีบถามเธอ






“ม่ะ ไม่เป็นไรค่ะ พี่แม็ค” เธอรีบตอบ






“หืม? รู้จักพี่ด้วยหรอ?” ผมสงสัยว่าเธอรู้จักชื่อผมได้ยังไง






“ก่ะ ก็ ผู้หญิงในโรงเรียนนี้ไม่มีใครไม่รู้จักพี่หรอกค่ะ” เธอตอบ






“งั้นหรอ”






“เออจริงสิ”






“น้องรู้จัก เมพ มั้ย?”






“นักเรียนโฮมสคูลที่พึ่งจะมาเรียนเป็นวันแรกน่ะ?” ผมถามเยน






“อ๋อ ค่ะ นั่งรออยู่ตรงโน้นไงคะ” เยนพูดพร้อมชี้นิ้วของเธอไปที่เด็กหนุ่มคนหนึ่ง นั่งอยู่ริมหน้าต่าง แอ็คหล่อรับแสดงอัสดง






“โอเค ขอบใจมาก”






“สู้ๆเข้าล่ะ ชมรมว่ายน้ำ!”






                ผมพูดให้กำลังใจเธอ ก่อนที่เธอจะยิ้มแบบอายๆและเดินจากไป ถ้าหากว่าจาง มาเห็นผมทำดีกับชมรมว่ายน้ำแบบนี้ ผมต้องหูชาแน่ๆ ผมเดินเข้าไปหาเมพ ผมรู้ในทันทีว่า เด็กคนนี้ต้องไม่ใช่คนธรรมดาๆแน่ๆ






“ว่าไงเมพ พี่ชื่อแม็คนะ” ผมทักทายอย่างเป็นมิตร






“เออ” เมพตอบ






“พูดจาเพราะดีนี่ รีบลุกแล้วก็ไปที่สนามบอลได้แล้ว” ผมประชดใส่ไปหนึ่งดอก






“ให้รอตั้งนาน”






“แทนที่ผมจะได้เอาเวลาไปทำอะไรเป็นของตัวเองบ้าง” เมพบ่นใส่ผม






“ฮ่าๆ ตลกดีนะนายนี่ แต่พี่ไม่แนะนำให้เมพพูดแบบนี้กับคนที่ชื่อเล่นะ”






“เพราะไอ้นั่นมันจะสั่งเมพตบปากตัวเองร้อยทีแน่นอน”




The Glory Days : Begins  %E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%9F%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E




“มึงตบปากตัวเองเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้เมพ!!” เล่ตะโกนใส่หน้าเมพ






“ก็มีแต่พวกกระจอกจริงๆนี่” เมพพูดกับเล่






“พอๆหยุดเลยทั้งสองคน”






                 ผมรีบห้ามศึก เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆ ทันทีที่เมพมาที่สนามและเริ่มแนะนำตัว เขาก็เริ่มพูดจาดูถูกนักฟุตบอลคนอื่นๆในชมรมทันที และคนที่หัวร้อนกับเมพที่สุด ก็คงไม่ใช่ใคร “เล่” นั่นเอง






“เอาอย่างงี้มั้ยล่ะ?” เมพพูด





“นายกับชั้นมาดวลฟุตบอลกัน”






“ถ้าชั้นชนะ ชั้นจะต้องได้เป็นกัปตันทีม” เมพท้าทายเล่






“โทษทีนะ แต่ตอนนี้ไม่มีกัปตันทีม พวกเรายังไม่ได้ตัดสินเรื่องนั้นกัน” ผมรีบคัดค้าน






“ถ้าอย่างงั้นเอางี้มั้ยละ?” เล่พูดแทรกขึ้นมา






“ระหว่างมึงกับกู ใครชนะได้เป็นกัปตัน” เล่นำเสนอไอเดีย






“เอายังไงดีล่ะจาง?”  ผมถามจาง






“แต่เดิมก็คิดจะให้เล่เป็นกัปตันทีมอยู่แล้ว”






“ถ้าเล่ต้องการแบบนั้นก็คงช่วยไม่ได้ล่ะนะ” จางพูดกับผม






“เอาล่ะถ้างั้น เมพกับเล่ จะประลองกัน ใช้กฎ2ใน3”






“เราจะเล่นกันแค่ครึ่งสนาม ใครที่ยิงประตูอีกฝ่ายได้2ลูกก่อน จะเป็นผู้ชนะ”






                   ผมประกาศให้ทั้งสองคนมาประลองกัน โดยมีตำแหน่งกัปตันทีมเป็นเดิมพัน เหล่านักเรียนคนอื่นๆพากันฮือฮา ส่วนนาระรีบใช้โอกาสนี้ ชิ่งหนีการซ้อมไปแบบเนียนๆ แม้ว่าผมจะแอบเห็นก็เถอะ แต่ตอนนี้การฝึกคงไม่สำคัญเท่ากับการดวลกันของ มิดฟิลด์อันดับ1วงการเกม กับ Edgy Boi เมพปี้ อีกแล้ว






“เริ่มได้!!!!”






                 ผมตะโกนลั่นก่อนที่จะโยนบอลขึ้นฟ้า ใครที่ครองบอลได้ก่อนจะได้เป็นฝ่ายบุกก่อน เมื่อบอลลอยอยู่บนฟ้า เล่ก็ใช้ความได้เปรียบทางด้านสรีระ กระโดดเอาหัวโหม่งบอลในทันที เขาพยายามจะเอาบอลลงพื้นอย่างระมัดระวัง แต่เมพ ก็อาศัยความคล่องตัวที่มีมากกว่าพยายามแซะบอลมาครอง






“ไม่ได้แดกกูหรอก!!”






                  เล่ใช้ลูกเก๋าเอาแผ่นหลังที่อวบอ้วนเพราะน้ำหนักขึ้นในช่วงหลังบังทางเมพเอาไว้ และเป็นฝ่ายได้ครองบอลเล่นก่อน เมพที่เสียโอกาสในการบุกไป ก็หันมาตั้งรับอย่างตั้งใจ เขาจ้องที่บอลตาไม่กระพริบ ทันใดนั้นเอง เล่ก็ลักไก่ทำท่าเหมือนจะเลี้ยงไปทางซ้าย เมพที่ผวาไปชั่วขณะ เผลอขยับตัวตามไปนิดเดียว ก่อนที่เล่จะใช้ความฉลาด ชิพบอลข้ามหัวเมพหวังให้มันกลิ้งไปกองที่ก้นตะข่ายทั้งๆแบบนี้เลย






“คลาสบอลเหนือชั้นจริงๆ!!!” แทนถึงกับอุทานออกมา






                 บอลกำลังจะกลิ้งเข้าประตูไปอย่างช้าๆตามสไตล์ลูกชิพ มันค่อยเด้งอย่างช้า เมพพยายามวิ่งอย่างสุดแรงเกิด เพื่อตามไปสกัดบอลออกมาจากเส้นให้ทันเวลาแต่ทว่าลูกบอลนั้นดูเหมือนจะอยู่ไกลจากเขาเกินไป ถ้าหากไม่ขับมอไซต์ ก็คงไม่มีทางตามทันแน่ๆ แต่ทว่า






“เป๊ง!!!”






                   บอลเจ้ากรรมกระดอนพื้นไม่เป็นใจให้เล่ มันกระเด้งออกฝั่งขวาและไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย เมพ รอดตัวจากการถูกขึ้นนำไปอย่างหวุดหวิด เขาวิ่งตามลูกบอลไป จนสามารถเก็บลูกฟุตบอลมาครอบครองได้






“หน๊อยแน่!!!”






                 เมพร่ำร้องออกมาด้วยความคับแค้น ที่ถูกคลาสบอลของเล่เล่นงานจนเกือบเสียท่า ภายในใจเขารู้ดีกว่า เขารอดจากการโจมตีนี้ไปได้เพราะความโชคดีแค่นั้น แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับ “ตอนนี้” บอลอยู่ที่เมพแล้ว เราจะได้ยลโฉมการบุกของเมพกัน ว่าจะเป็นยังไง






“เข้ามาเลยไอ้หลุย เอ้ยไอ้เมพ”






                เล่ พูดกับเมพ ก่อนที่เมพจะกระชากบอลด้วยสปีดที่เร็วกว่านรกซะอีก เสียงลมเข้ามากระทบหูของเล่อย่างไม่ทันตั้งแต่ เมพเลี้ยงบอลได้ติดเท้ามากๆ ทำให้เล่ไม่สามารถยื่นขาไปสกัดได้ทัน เมพวิ่งผ่านเล่ไปอย่างง่ายดาย แต่เล่ก็ไม่ยอมแพ้  รีบวิ่งไล่ตามเมพมาติดๆ ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน เล่คงจะตามทัน แต่ในตอนนี้ ก็คงต้องบอกว่ายาก เมพ วิ่งมาจนถึงหน้ากรอบเขตโทษ ที่มีเพียงประตูโล่งๆไร้ซึ่ง ผู้รักษาประตู เมพที่อยู่ทางฝั่งขวาของสนาม สามารถยิงได้ในทันที แต่ทว่า!!






“แบบนี้เองสินะ”






              เล่พูดก่อนที่จะเอาขาสไลด์บอลจากด้านหลังของเมพ อย่างรุงแรง เขาได้บอลไปครอง ในขณะที่เมพต้องกระโดดหลบการสไลด์ของเล่ ดูเหมือนเล่จะรู้ความลับของเมพอย่างนึงแล้ว






“หึๆ เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ”






“ดูเหมือนมึงจะเผยไต๋ออกมาซะแล้วสิ…”






“…พ่อนักฟุตบอลถนัดซ้าย…”






                  เมื่อเมพได้ยินสิ่งที่เล่พูด เขาก็ถึงกับชะงัก เมพมีความเร็วและไปกับบอลได้ดีเยี่ยม แต่เขาไม่สามารถยิงลูกฟุตบอลด้วยเท้าขวาได้ดีเท่ากับเท้าข้างถนัดของเขาอย่างเท้าซ้าย และเล่ก็เห็นจุดนั้นในตอนที่เมพพยายามเลี้ยงลูกฟุตบอลให้เข้าซ้าย ก่อนที่เขาจะสับไกยิง ซึ่งเล่ก็เข้ามาสไลด์แย่งบอลไปได้อย่างหมดจด เมพเป็นนักฟุตบอลที่มีความสดใหม่และเก่งกล้า แต่ทว่าความใจร้อนทำให้เขาขาดความเยือกเย็นไป หลังจากนั้นพวกเขาก็ประลองกันต่อ แต่ว่าเล่ก็อ่านทางบอลของเมพได้ทะลุปรุโปร่งแล้ว ทำให้เขาเอาชนะเมพไปได้อย่างไม่ได้ยากเย็นนัก






“จบเกม เล่ชนะ 2-0”






The Glory Days : Begins  Obdc1pkz90ugvV5N5qT-o






♪“ฮิปฮอป ฮิปฮอป ปลอม”♪






                เสียงของชายในทรงผมเดร็ดล็อก ร้องเพลงฮิปฮอปชื่อดัง อยู่ในห้องพักของนักกีฬาแห่ง “กรุงเทพอิสลาม” เจ้าของฉายาปีกไฮแจ็ค กำลังอารมณ์ดีกับการฝึกซ้อมที่วันนี้เป็นไปได้อย่างราบรื่น ภายใต้การนำของ “ที” หรือ “นบีแห่งวงการลูกหนังมัธยม”






“เลิกร้องเพลงซะแกสบี้”






“ได้เวลาละหมาดแล้ว”






                 ทีเข้ามาพูดกับแกสบี้ ก่อนที่จะเดินนำทัพนักกีฬาไปละหมาดกันที่ห้องละหมาด ทีเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง และ มีวินัยมากๆ ครั้งนึง เขาเคยนักรอรถเมลล์อยู่ที่ป้ายรถเมลล์ แล้วรถเมลล์แหกโค้งมาที่ป้ายของเขา แต่เขาไม่หลบแม้แต่นิดเดียว เพราะเขาเชื่อว่า อัลเลาะห์ จะปกป้องเขาได้ Allahu Akbar






♪“โย่ว ลิล’ที โย่ว ลิล’ที”♪






♪“We are the Champions”♪






♪“EEEEsketit”♪






♪“กรุงเทพอิสลาม”♪






♪“เราเป็น Num Ba Wan”♪






♪“เรามาเชียร์ด้วยกัน”♪






♪“Allahu Akbar”♪




                 ชายที่ขื่อว่าแกสบี้ ปล่อยฟรีสไตล์แร็พออกมาใส่หน้า ที ผู้เป็นกัปตันทีมอันน่าเลื่อมใส แม้ว่าทีจะเคยชินกับพฤติกรรมเสี่ยวๆของแกสบี้หลายครั้ง แต่ดูเหมือนครั้งนี้เขาจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับเนื้อเพลงบางส่วน






“เราคือแชมป์หรอ? พูดแบบนั้นไม่ได้หรอกแกสบี้” ทีพูด






“Why?????” แกสบี้ถาม






“เพราะว่านอกจากพวกเราก็ยังมีอีก3ทีม”






“4เทพแห่งวงการลูกหนังมัธยม”






“จตุรพิษ”






The Glory Days : Begins  %E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A3_9_%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%A2_%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B5






“เอ้าวิ่งงงงงงงงงงงงงงงงงง!!!!”






                เสียงของชายหัวโล้นกล้ามโตตะโกนลั่นสนาม เมื่อเหล่านักเตะได้ยินดังนั้นก็วิ่งกันลืมตาย นักฟุตบอลทั้งหมดของทีมนี้ ล้วนโกนหัวของตัวเองทั้งสิ้น พวกเขาหัวล้านกันทุกคนโดยเฉพาะ ชายหนุ่มร่างท้วม ผู้ที่มีปลอกแขนกัปตันทีมพาดอยู่ พวกเขากำลังซ้อมแข่ง กับทีมสำรองของตัวเองอยู่ แต่ถึงแบบนั้น พวกเขาก็ไม่ได้อ่อนข้อให้เลย การร่างท้วม เล่นอย่างจริงจังและทุ่มเท ส่วนชายหัวโล้นกล้ามโตก็พยายามซัพพอร์ต ชายร่างท้วมอย่างไม่ลดละ พวกเขาเอาชนะทีมสำรองไปขาดลอย 5-0






“พยายามได้ดีมาก ไอ้หน้าหีทั้งหลาย” ชายหัวโล้นร่างท้วมพูดขึ้น






“ขอบคุณมากครับ ไกเซอร์ลีโอ!!!!”






               เสียงของเหล่าชายหนุ่มดังลั่นสนามของโรงเรียนที่เป็นหนึ่งใน “จตุรพิษ”  นี่คือโรงเรียน”สวนกระท่อม” ซึ่งโรงเรียนสวนกระท่อม มีแนวทางการเล่นที่แตกต่างจาก กรุงเทพอิสลามโดยสิ้นเชิง ที่กรุงเทพอิสลาม พวกเขาจะถลุงฝ่ายตรงข้ามด้วยการใช้ทักษะส่วนตัวของผู้เล่น แต่สำหรับสวนกระท่อมนั้น พวกเขาใช้ความสามัคคีและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของผู้เล่น นำมาโดย “ไกเซอร์ลีโอ” ชายหนุ่มร่างท้วม ผู้เล่นเป็นกองหลัง เขาคือศูนย์รวมจิตใจของทีม เขาเล่นบอลด้วยความมุมานะ เขาไม่ใช่คนที่มีพรสวรรค์ในการเล่นบอลมาตั้งแต่แรก แต่พรสวรรค์ที่เขามีมา คือความพยายามและความอดทน และนั่นทำให้เขาได้ใจเพื่อนร่วมทีมไปเต็มๆ



               และเมื่อผสานเข้ากับ “GOD เติม Z”  ฉายาของนักเตะฟ้าประทาน "บิล" เยาวชนทีมชาติสวีเดน ที่ติดหีแล้วโดนหักอก จนต้อง มาพักแผลใจที่ประเทศไทย เขาเล่นตำแหน่งแบ็คขวา เป็นตัวที่คอยกระตุ้นลูกทีมคนอื่นๆ ให้เล่นอย่างมีวินัย และ เขาก็เล่นได้เข้าขากับไกเซอร์ลีโอมาก






“ปีนี้เราจะต้องคว้าแชมป์ ไอ้พวกหน้าหี!!” บิลพูดเสียงดังกึกก้อง






“ ใครไม่วิ่งเดี๋ยวตบคว่ำเลย!!” ลีโอ พูดบ้าง






“เฮ!!!!!!!” เหล่าลูกทีมก็เฮฮากันใหญ่






“สวนกระท่อมของเราจะต้องเป็นที่ 1ในใต้หล้า”






“ถ้าพร้อมแล้วก็โดด!!!!” 
IamKurtCobian
IamKurtCobian
Posts : 108
Join date : 2018-08-20
Age : 26

The Glory Days : Begins  Empty Re: The Glory Days : Begins

Mon Dec 31, 2018 2:15 pm
The Glory Days : Begins  DSC05309-2




“สวบบบบบบ”






                เสียงของลูกฟุตบอลที่ถูกปั่นเข้าหน้าต่างอย่างสวยงามดังขึ้นในสนามฟุตบอลของโรงเรียน นานาชาติเยซูวิทยา โดยผู้ที่ยิงมันเข้าไปก็ไม่ใช่ใคร เขาคือ”เล่” กัปตันทีมอย่างเป็นทางการของนั่นเอง






“สวยพี่สวย!!” เสียงของสมาชิกคนอื่นๆในชมรมพูดพร้อมกัน






“พูดให้มันดังกว่านี้!!!” เล่ตะโกนกระตุ้นเพื่อนร่วมทีม






“ไอเล่ มันเอาจริงเอาจังมากเลยนะ” ผมพูดกับจาง






“แต่เราว่ามันกำลังบ้าอำนาจต่างหาก” จางพูด






“แต่จะว่าไปการแข่งดีเซิร์ทโตะคัพ ก็ใกล้เข้ามาแล้วสินะ” ผมพูดกับจาง






“ก็ใช่....” จางตอบ






“สัปดาห์หน้าพวกเราต้องส่งทีมเข้าแข่งขันพร้อมๆกับจับสลากประกบคู่”






“แต่ปัญหาของเราในตอนนี้น่ะ....”





“คือเราไม่มีเฮดโค้ช มาวางแผนน่ะสิ” จางพูดด้วยสีหน้าหงอยๆ






“นั่นสินะ.....”






                  ผมพูดพร้อมๆกับคิดตาม ใช่แล้วทีมของเรายังไม่มีเฮดโค้ชที่จะวางแผนเลยนี่นา แถมการแข่งขันดีเซิร์ทโตะคัพก็ใกล้เข้ามาแล้วด้วย ผมคิดจนหัวแทบจะระเบิดว่าจะเอายังไงดี จนกระทั่งซ้อมเสร็จ ผมก็ยังคิดไม่ออก สมาชิกของทีมแต่ละคนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน เมพ ก็ดูเหมือนจะทำผลงานการซ้อมได้ดีภายใต้การนำของเล่ เพราะถ้าเมพขัดคำสั่ง เขาคงจะถูกเล่บังคับให้ตบปาก300ทีแน่ๆ


The Glory Days : Begins  Aaa-1-4

                 


                  จางกับผมต้องปรึกษากันเรื่องผู้จัดการทีม พวกเราเลยมากินข้าวเย็นกันที่ร้านอาหารจีน นี่เป็นร้านประจำของผม ของขึ้นชื่อคือ ”บะหมี่ผัด”  ผมบอกเลยว่า กินเท่าก็กินไม่หมด





“เพราะอร่อยมาก” จางส่ง






“เปล่า แม่งให้น้อย” ผมตบโบ๊ะบ๊ะ






“ว่าไงแม็ค นึกว่าจะไม่มาแล้วซะอีก”






                   เสียงของหญิงสาวตาโต คนนึงพูดกับผม เธอใส่ชุดเครื่องแบบประจำร้าน เธอมีหน้าตาและผิวพรรณที่ดี จุดเด่นบนใบหน้าของเธอคือฟันหน้าที่ใหญ่กว่าคนปรกติทั่วไป แต่มันไม่ได้ใหญ่ในทางน่าเกลียด มันเหมือนกับฟันกระต่ายตั๊ลล๊ากๆ แบบนั้นมากกว่า






“ว่าไงมิน ไม่เจอตั้งนาน” ผมทักทายเธอ






“เอาบะหมี่ผัด 2ที่นะมิน” จางสั่งอาหาร






“โอเค”






              มินแทบจะไม่ต้องจดมันลงกระดาษด้วยซ้ำ เพราะผมมักจะสั่งแบบเดิมทุกครั้ง ภายในร้านนี้มีคนเยอะใช้ได้ เพราะมันเป็นช่วงเลิกงานพอดี ทีวีของร้านเปิดการแข่งขันฟุตบอลระหว่างทีมชาติไทย กับ ทีมชาติมาเลเซียอยู่พอดี ทันใดนั้นเอง






“ดีๆ อุดมันเข้าไป”






“เกมรับต้องเหนียวแน่นไว้ก่อนนั่นแหละดีแล้ว!!!” เสียงของชายวัยเกษียณพูดขึ้นอย่างดุเดือด






“ป๊าๆ บะหมี่ผัด2ที่” มินพูดกับชายคนนั้น






“อามิน ลื้อไปผัดก่อนไป  ป๊าจะดูบอล” ชายวัยเกษียณพูด






“เห้อ... บอลเตะทีไรเป็นแบบนี้ทุกที”






               มินพูดด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ ก่อนที่เธอจะเข้าไปทำบะหมี่ผัดให้ผมในครัว เธอใช้เวลาไม่นานนัก ก่อนที่จะเดินนำบะหมี่ผัดของผมกับจางมาเสริฟ กลิ่นของมันหอมฟุ้งมาแต่ไกลเลยทีเดียว






“มาแล้วค่า” เธอพูดอย่างร่าเริง






“ขอบใจมากนะมิน” ผมพูด






“นี่มิน เฮียมูเขาชอบฟุตบอลมากๆเลยเนอะ” จางพูดกับมิน






“เห้อ... เราไม่เข้าใจเลยอ่ะจาง ถ้าชอบขนาดนั้นจะลาออกมาเปิดร้านอาหารทำไม” มินบ่น






“ลาออก?” ผมรู้สึกสงสัยกับคำบอกเล่าที่มินพูดเมื่อกี้






“เฮียมูเขาทำอะไรมาก่อนหรอมิน?” ผมถาม






“ก็สมัยก่อนอ่ะ ป๊าแกเคยคุมทีมในไทยลีก2น่ะสิ คุมจนเลื่อนชั้นขึ้นมาได้”






“แต่สุดท้ายแกก็มักจะโดนปลดตลอด เพราะไม่มีใครชอบบอลเกมรับแบบที่ป๊าเราทำน่ะสิ”มินเล่า






“เฮียมูเนี่ยนะเคยคุมทีมไทยลีก2!!?” ผมรู้สึกช็อคมาก ผมกินบะหมี่ของแกมานาน พึ่งมารู้วันนี้ว่าแกเคยคุมทีมมาก่อน






“ใช่ๆ ต่อมาแกก็ได้คุมทีมต่อนะ แต่ดูเหมือนแฟนบอลไม่ชอบอ่ะ แกเลยลาออกมา มาเปิดร้านอาหาร” มินเล่า






“แบบนี้เองสินะ” ผมพอจะคิดอะไรดีๆได้แล้ว






“จาง!” ผมเรียกจาง





“อืม....”






“ชั้นว่าเราได้เฮดโค้ชแล้วล่ะ”จางพูดพร้อมๆกับยิ้มมุมปาก


 The Glory Days : Begins  DSC05309-2






“เอาล่ะ พวกลื้อฟังเฮียนะ” เฮียมูพ่อของมินพูดอย่างองอาจในสนามบอล






“พวกลื้อรู้จักมวยหย่งชุนมะ?” เฮียแกถาม






“รู้จักครับ!! ที่อาจารย์ยิปมันใช้ไง!!” ฟ้ามืด พูดเป็นครั้งแรกหลังจากที่เงียบมาตลอด






“ดีมาก!!! จำไว้ล่ะนั่นคือทรงบอลของเฮีย”






“เราจะรับ!! ไปพร้อมๆกับรุก!!” เฮียมูพูดกระตุ้นลูกทีม






“เอาล่ะเริ่มซ้อมได้!!!!”






ด้วยเหตุนี้เอง เราก็เลยได้เฮียมูมาคุมทีมให้กับเรา




The Glory Days : Begins  Eattravel_990



              หนึ่งสัปดาห์ต่อมาพวกเราต้องส่งทีมเข้าแข่งขัน โดยในวันนี้จะมีการจับสลากประกบคู่ รวมถึงพวกเราจะต้องรวมเดินในพิธีเปิดการแข่งขันด้วย ผม เฮียมู จาง และ ผู้เล่นทุกๆคนเดินทางมาที่นี่ มันเป็นการจับสลากการแข่งขันระดับประเทศ โดยทีมที่มีสิทธิลงแข่ง จะต้องมีคะแนนอันดับแร้งกิ้งติด TOP 100 ในประเทศ โชคดีที่โรงเรียนของเรามีคะแนนพอแบบฉิวเฉียด ในอันดับที่ 94






“เธอดูสิ คนนั้นอ่ะหล๊อหล่อ”






                 เสียงของผู้หญิงยังคงกระซิบกระซาบกันให้ผมได้ยินอีกเช่นเคย ผมไม่รู้ว่าผมต้องบรรยายความหล่อของตัวเองไปอีกกี่ตอน ถึงจะพอ แต่ไม่มีอะไรหยุดผมได้ นอกจากความหล่อของผม






“ดูสินั่นมัน ที”






                เล่หันมาพูดกับผม ในระหว่างที่เรากำลังยืนคุยกันหลังจากลงรถบัสมา ถัดจากเราไปไม่กี่คันรถ “กรุงเทพอิสลาม” ก็เดินทางมาถึงแล้วเหมือนกัน สายตาของเขาดูแข็งแกร่ง แม้ว่าร่างกายของเขาก็ไม่ได้ใหญ่ แต่รังสีความอัมหิต ก็แผ่ออกมาแบบสัมผัสได้ ข้างๆของเขายังมี แกสบี้ ปีกไฮแจ็คประกบติดอยู่ไม่ห่าง แต่ที่หน้าแปลกใจก็คือ ในโรงเรียนกรุงเทพอิสลามที่เป็นโรงเรียนชายล้วน ทำไมถึงได้มี ”ผู้หญิง”นะ






 “ไปกันเถอะทุกคน” ทีพูดอย่างหนักแน่น






“ครับ!!!!!/ฮะ” ทุกคนตอบรับแต่มีเสียงนึงที่เบากว่าใคร






“Hey! อุ้!!! You น่ะ พูด ดังๆหน่อย C’mon!! Esketit!!” แกสบี้พูดใส่ชายหน้าสวยที่ชื่อ “อุ้”






“ค่ะ.. ครับ!!!! ครับ!!!!!!!!!!!!” อุ้ตะโกนเสียงดัง ด้วยเสียงเล็กๆของเขา






“ไม่เป็นไรหรอก แกสบี้” ทีพูด






“หมอนั่นก็เป็นแบบนั้นมาตั้งนานแล้ว”






“ไปกันเถอะ”






                  ทีพูดก่อนที่จะเดินนำทุกคนเข้าสู่พื้นที่การจับสลาก  ท่ามกลางสายตาทุกดวงที่มองมาที่พวกเขา “กรุงเทพอิสลาม” หนึ่งในจตุรพิษ สุดยอดทีมผู้ไม่เคยตกต่ำเลยซักครั้ง พวกเขาเดินอย่างองอาจ และภาคภูมิใจกับสัญลักษณ์โรงเรียน บนหน้าอกเสื้อวอร์มของตัวเอง แต่ทันใดนั้นเอง!!!






“ไม่เจอกันนานนะที” เสียงของชายร่างท้วมหัวโล้นเดินออกมาพร้อมๆกับชายหนุ่มอีกสิบชีวิตที่หัวโล้นเช่นกัน






“ลีโอ” ทีพูดสั้นๆ






“อะไรกัน ไม่ยักรู้ว่าโรงเรียนนายมีผู้หญิงด้วย” ลีโอพูดพร้อมหันไปมองอุ้






“หมอนั่นเป็นเด็กใหม่ เลิกสนใจเขาซะที” ทีพูดกับลีโออย่างไม่เกรงกลัว






“Hey ทั้งนั้นอ่ะ ? เก่าอ่อ? คนที่กล้ามโตๆอ่ะ You look แย่มาก” แกสบี้พูดกับชายหัวโล้นมีหนวดกล้ามโตข้างๆลีโอ






“ควยไรสัส ไอ้หน้าหีเย็ดแม่” ชายกล้ามโตพูดพร้อมๆกับจะเข้าไปซัดแกสบี้






“หยุด!!!” ลีโอและที พูดพร้อมๆกัน เพียงแค่คำเดียวๆ ก็ทำให้ทั้ง2คนหยุดทะเลาะกันได้ในทันที






“ไว้เจอกันในสนามนะที “ ลีโอพูด






“พวกเราจะชนะพวกนาย”






“ชนะแบบง่ายๆเหมือนกินหมู” ลีโอพูดอย่างภูมิใจ






“อะไรนะ?” ทีถามด้วยสีหน้างงๆ






“ก็ชั้นจะชนะนายง่ายๆไงเหมือนกินหมู” ลีโออธิบาย






“สะ สะ สำหรับชั้นมันเอ่อ ย่ะ ยากอยู่นะ ก่ะ กินหมูน่ะ” ทีพูดพร้อมท่าทีเขินอายหน้าแดงๆ






“…….”






“นายเคยกินหมูหรอ?” ลีโอถาม






“ม่ะ ม่ะ !!!!! ไม่เคย!!”






“อะโฮ้!!!!!!!”






ทีพ่นภาษาญี่ปุ่นใส่ลีโอก่อนเดินเข้าสนามไปด้วยท่าที ที่ขัดกับฉายา นบีแห่งวงการลูกหนังมัธยมมากๆ




The Glory Days : Begins  Modern-public-bathroom-picture-id495774260?k=6&m=495774260&s=612x612&w=0&h=pGeOJMXxj5qh3QQNh7rYfpVnM6PWqyY9FnLH3gJTOB8=






“นาระ ดูเหมือนคนดังๆจะมาเยอะเลยแหะ” เสียงของชายหน้าหล่อ พูดกับเพื่อนของเขา ที่ยืนฉี่อยู่ข้างๆ






.”ใช่แล้วล่ะแทน นบี แห่งกรุงเทพอิสลาม ไกเซอร์แห่งสวนกระท่อม ตัวท็อปๆทั้งนั้น”  นาระพูด






“แล้วแบบนี้จะเอาชนะ ได้งั้นหรอ?” แทนถาม






“พวกเราก็ฝึกหนักกันทุกวัน วิ่งกันจนอ้วกแทบแตกอยู่แล้ว” นาระพูดพร้อมๆกับนึกถึงภาพความโหดร้ายของการซ้อม






                ระหว่างที่พวกเขายืนฉี่และคุยกันในห้องน้ำว่างๆ ที่ถึงแม้คนจะเยอะ แต่ก็มีคนเข้าน้อยมาก ในระหว่างนั้นเอง เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น คนที่เดินเข้ามา คือชายร่างกายสมส่วน ท่าทางของเขาดูแอ่นๆแปลกๆ เขาไว้ผมทรงรีเจนแบบนักเลงสมัยเก่าของญี่ปุ่น ดูเหมือนแทนจะไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่นาระสามารถรู้ได้ในทันที






“น่ะ นั่นมัน จัช แห่งเทพสิบลิ้นนี่!!” นาระกระซิบกับแทน






“อะไรนะ! โรงเรียน เทพสิบลิ้น หนึ่งใน จตุรพิษน่ะนะ?!” แทนถึงกับตกใจ เขาไม่คิดว่าจะมาเจอชายคนนี้ที่นี่






“ชั้นได้ข่าวว่าเขาเพียงคนเดียว สามารถเล่นได้11ตำแหน่งเลยนะ!” นาระพูดพร้อมเบิกตาโตเท่าไข่ห่าน






               ทันใดนั้นเอง ก็มีคนเปิดประตูเข้ามาในห้องน้ำอีกเช่นกัน เขาใช้ผมทรงรีเจน และเดินด้วยท่าทางบิดแปลกๆเช่นกัน หน้าตาและท่าทางของเขาเหมือนกับจัช ไม่มีผิด






“เขามีฝาแฝดด้วยงั้นหรอ!!?” แทนกระซิบกับนาระ






“ม่ะ ไม่รู้สิ ชั้นไม่เคยดูเขาเล่นซะด้วย เคยได้ยินแต่คนเล่าให้ฟัง” นาระตอบ






               ทันใดนั้นเอง ก็มีคนเปิดประตูเข้ามาในห้องน้ำอีกเช่นกัน เขาใช้ผมทรงรีเจน และเดินด้วยท่าทางบิดแปลกๆเช่นกัน หน้าตาและท่าทางของเขาเหมือนกับจัช ไม่มีผิด แต่คราวนี้พวกเขาเข้ามาในห้องน้ำมากถึง 11 คน!!!!






“บ่ะ บ้าน่า!!! นี่มันอะไรกัน” แทนงงเป็นไก่ตาแตก






“แล้วแบบนี้ใครคือจัช ล่ะเนี่ย!!!” นาระ งงด้วย






“งั้นแบบนี้ นายตะโกนคำว่าจัชดังๆสิ!!” แทนเสนอไอเดีย






“อะไรนะ!?” นาระถึงกับงง






“ก็ถ้าคนไหนตอบรับ ก็แปลว่าคนนั้นแหละจัช!!” แทนพูดต่อ






“เอางั้นหรอ!!!” นาระพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน






“ก็ได้วะ!!!”






“จ๊าชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชช!!!!!” นาระตะโกนลั่น






“ครับบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ!!!!”



คนทั้ง11 คนก็ตอบรับคำเรียกของนาระแบบพร้อมเพรียงกันทั้ง 11คนเช่นกัน สำหรับนักฟุตบอลฝาแฝด11คน "จัช1-จัช11"
Sponsored content

The Glory Days : Begins  Empty Re: The Glory Days : Begins

Back to top
Permissions in this forum:
You cannot reply to topics in this forum