DWO City
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Go down
SpeedStar
SpeedStar
Posts : 35
Join date : 2018-08-20

Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน  Empty Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน

Tue Aug 21, 2018 7:26 pm
ในเดือนเมษายนของทุกปี เป็นเดือนแรกของการเปิดภาคเรียนแรกของโรงเรียนในประเทศญี่ปุ่น และเป็นช่วงที่ดอกซากุระกำลังผลิบาน 


โรงเรียนมัธยมปลายโตเกียว  คาชิโกคุ


โรงเรียนมัธยมปลายโตเกียว คาชิโกคุ หรือเรียกสั้น ๆ ว่าโรงเรียนคาชิโกคุ เป็นโรงเรียนในเขตโตเกียวที่มีชื่อเสียงในโตเกียว โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนที่ก่อตั้งได้ไม่นาน และวันนี้เป็นวันเปิดภาคเรียนการศึกษาวันแรก เหล่ารุ่นพี่ได้ทำการยืนแจกใบปลิวเพื่อเชิญชวนเข้าชมรมของพวกเขา โดยพวกเขาได้ยืนตามกันในแต่ละจุดที่หน้าโรงเรียน เพื่อทำการโฆษณาชมรมของตนเอง เพื่อให้น้องใหม่ที่เข้ามาในรั้วโรงเรียนแห่งนี้สนใจ และได้ไปสมัครตามจุดที่ใบปลิวได้เขียนไว้ เสียงคึกคักในยามเช้าที่ดอกซากุระกำลังผลิบานเต็มที่ แล้วได้โปรยปรายลงมา 


“นายตัวใหญ่ดีนะ ลองชมรมรักบี้กับพวกเราไหมละ ?”
“เป็นคนญี่ปุ่นก็ต้องเล่นเบสบอลสิ”
“ชมรมทำอาหาร มาฝึกทำอาหารด้วยกันค่า”
“นี่นายชอบอ่านหนังสือไหม สนใจชมรมวิชาการมั้ยละ?”


เสียงของรุ่นพี่ที่เชิญชวนรุ่นน้องเข้าร่วมชมรมของตัวเอง พวกเขานั้นได้ทำการเชิญชวนอย่างเต็มที่ ก่อนที่พวกเขาจะหยุดนิ่งด้วยความเงียบ เมื่อเขาหันไปเห็นชายหนุ่มที่กำลังเดินเข้ามาในโรงเรียนเขาเป็นชายหนุ่มที่สูงราว ๆ 185 เซนติเมตร ฟังดูอาจจะดูเหมือนนักเรียนน้องใหม่ที่เข้ามาในโรงเรียน แต่ว่าที่ทำให้เขากลายเป็นจุดสนใจนั่นก็คือ 


“นี่นี่ เธอดูสิ ผู้ชายตัวสูงคนนั้นสิ”
“หูย เท่สุด ๆ ไปเลยนะเธอว่ามั้ย ?”
“หน้าตาก็ดีเหมือนนายแบบเลยว่ามั้ยเธอ ?”


เพราะผู้หญิงส่วนมากมองมาที่ตัวของเขา ทำให้ทุกคนนั้นหันไปมอง แต่ผู้ชายคนนั้นไม่ได้สนใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเขาเดินไปเรื่อย ๆ จนหยุดที่บอร์ดของโรงเรียนที่ติดแผนผังการลงทะเบียนชมรมของแต่ละชมรมของโรงเรียนแห่งนี้ว่าจุดอยู่จุดไหนกันบ้าง เขาเหมือนกำลังจะมองหาชมรมไหนสักชมรมนึงที่เขาสนใจอยู่


“นี่ ๆ เธอคิดว่าคนอย่างเขาจะลงชมรมไหนกันละ?”
“อืมมม… ชั้นว่าต้องเกี่ยวกับการแสดงแน่ ๆ เลยหน้าตาดีเหมือนนายแบบขนาดนั้นหนะ”


“นะ นะ นี่มัน!!”


เสียงของผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้นมา ทำให้คนในระแวกนั้นหันหน้าไปหาเขา ดูเหมือนว่าผู้ชายคนนี้จะรู้จักเขา ว่าเขานั้นเป็นใคร ก่อนที่ชายคนนั้นจะพูดขึ้นมา


“ขะ ขะ… เขาคือ! มิโดริคาวะ โชอิจิ ศูนย์หน้าอันดับหนึ่งของชมรมฟุตบอลโรงเรียนมัธยมต้นเทนโนคุ นี่!”


“อะไรนะ!?!”


“ฉันก็ไม่ได้ติดตามเรื่องฟุตบอลหรอกนะ แต่ว่าโรงเรียนเทนโนคุ คือราชาของฟุตบอลมัธยมต้นเลยไม่ใช่หรอ ?”
“แปลว่าเขาต้องไม่ธรรมดาแน่ ๆ”


“ชมรมฟุตบอลต้องไปได้ไกลกว่าเดิมแน่ ๆ เลย”

“นั่นหนะสินะ… เพราะปีก่อนเราก็อุตส่าห์ได้ไปแข่งถ้วยฤดูหนาวแล้วนะ แต่เสียดายที่ตกรอบแรกไป” เสียงของผู้ชายที่กำลังชุบชิบกันในขณะที่กำลังมองผู้ชายที่ชื่อว่า มิโดริคาวะ โชอิจิ


ชมรมฟุตบอลโรงเรียนเทนโนคุ เป็นชมรมที่สามารถเชิดหน้าชูตาให้โรงเรียนนี้ได้เป็นอย่างดี เมื่อใครพูดถึงชื่อโรงเรียนนี้จะต้องนึกถึงฟุตบอลเป็นอย่างแรก ชมรมนี้สามารถสร้างนักเตะมากฝีมือได้มากมาย จากกว่าร้อยชีวิตที่อยู่ในชมรมนั้น ราวกับที่นี่เป็นเหมือนกับแหล่งเก็บรวบรวมนักเตะพรสวรรค์ที่พร้อมจะเฉิดฉายในอนาคตของวงการฟุตบอลญี่ปุ่น ด้วยสถิติอันยอดเยี่ยมที่ครองแชมป์มายาวนานกว่าสิบปี นั่นเป็นเครื่องการันตีคุณภาพชั้นดีของพวกเขา และสามปีหลังของโรงเรียนเทนโนคุนั้นสามารถชนะคู่ต่อสู้ได้อย่างราบคาบ ด้วยสถิติไร้พ่ายโดยพวกในสามปีนั้นของโรงเรียนเทนโนคุนั้น ได้ถูกเรียกว่า “The Invincibles team” เหมือนกับทีมฟุตบอลในอังกฤษอย่างอาเซนอล ที่สามารถทำสถิติไร้พ่ายในพรีเมียร์ลีค ของประเทศอังกฤษ


“เขาเป็นคนเดียวสินะที่มาจากชมรมฟุตบอลเทนโนคุ” เสียงของชายคนหนึ่งที่มองผ่านกระจกจากตึกด้านบนพูดขึ้นมา
“จากที่เช็คนักเรียนเข้าใหม่ปีนี้ก็น่าจะใช่นะครับ”
“เท่านี้ก็มากพอแล้วละ….”


เขาพูดขึ้นมาพร้อมเผยรอยยิ้มที่มุมปากของตนเองออกมา


“หึ.... น่าสนุกจริง ๆ”

SpeedStar
SpeedStar
Posts : 35
Join date : 2018-08-20

Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน  Empty Re: Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน

Tue Aug 21, 2018 7:29 pm
สารบัญ

ตอนที่ 1 : จุดเริ่มต้น
ตอนที่ 2  : ซ้อมวันแรก
ตอนที่ 3  : รอยยิ้มที่หวนคืนมา
ตอนที่ 4  : คิก ออฟ
ตอนที่ 5  : คู่ต่อสู้ที่น่ากลัว
ตอนที่ 6  : โททัล ฟุตบอล ฉบับใหม่
ตอนที่ 7  : ฝ่าฟัน
ตอนที่ 8  : ลบอดีต
ตอนที่ 9  : กระตุ้นจุดเดือด

รายชื่อตัวละคร


_________________________________________________


Last edited by KiseRyota on Tue Aug 21, 2018 8:25 pm; edited 1 time in total
SpeedStar
SpeedStar
Posts : 35
Join date : 2018-08-20

Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน  Empty Re: Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน

Tue Aug 21, 2018 7:35 pm
“มิโดจัง!!!!” เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลังของมิโดริคาวะที่กำลังดูบอร์ดทางไปสมัครชมรมฟุตบอลอยู่ รูปร่างของเธอนั้นถือว่าหุ่นดีผมของเธอนั้นยาวสลวยและเป็นสีส้มแกมน้ำตาล



“หะ หา…. เคียวโกะเธอก็มาเรียนที่นี่อย่างงั้นหรอ ?!” ชายร่างสูงที่ชื่อว่ามิโดริคาวะพูดออกมาด้วยความตกใจ



“อื้มมมมม! แล้วจะมาลงชมรมฟุตบอลเป็นผู้ช่วยโค้ชด้วยละ” เคียวโกะบอกกับมิโดริคาวะ



“แล้วอย่ามาสายหละ ได้ยินมาว่ารุ่นพี่ที่นี่โหดน่าดูเลย……”



“เห้อ…. แต่ก็นั่นละ บางทีฉันก็ไม่ค่อยอยากลงชมรมฟุตบอลสักเท่าไหร่….”



“ทำไมละ !?!”



“ก็เพราะมันน่าเบื่อหนะสิ…. ชั้นจำแทบไม่ได้เลยว่าครั้งสุดท้ายที่ชั้นสนุกกับฟุตบอลคือตอนไหน… บางทีการอยู่เทนโนคุก็อาจไม่ใช่ทางที่ดีก็ได้นะ”



“มิโดจัง…. ยังคิดแบบนั้นอยู่หรอ ?”



“ก็นะ…. ฉันคิดว่ายิ่งดิ้นรนซ้อมมากเท่าไหร่ ชั้นก็จะยิ่งเก่งกว่าขึ้นไปอีก และคิดว่าคนอื่นคงตามชั้นไม่ทันแน่ ไม่รู้สินะ บางทีอาจจะไปชมรมนายแบบดีกว่ามั้ยนะ !?!” มิโดริคาวะพูดด้วยสีหน้าที่ดูยิ้มแย้ม แต่ว่าทางเคียวโกะดูเหมือนจะไม่ค่อยถูกใจกับคำพูดของมิโดริคาวะเท่าไหร่



“แล้วนายคิดว่านายจะชนะพวกเขาโดยที่ยังไม่แข่งกันอย่างงั้นหรอ ?”



“เคียวโกะหมายถึงคนในโรงเรียนนี้หรอ …?”



“ป่าว…. ก็พวกอัจฉริยะแห่งเทนโนคุที่ไม่ใช่นายยังไงละ”



-----------------------------------------------


ตอนที่ 1 : จุดเริ่มต้น



กริ๊งงง


Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน  6CDghQr



เสียงกริ๊งที่ดังขึ้นมันสัญญาณเป็นบ่งบอกว่านี่ถึงเวลาเลิกเรียนแล้ว นี่เป็นวันเปิดภาคเรียนวันที่ 2 หลังจากที่โรงเรียนคาชิโกคุนั้นทำการเลิกการเรียนการสอนในภาคบ่ายต่างจากต่างกลับบ้าน หรือบางคนก็ไปทำกิจกรรมชมรมโดยส่วนมากชมรมเพราะส่วนมากการเข้ากิจกรรมของชมรมนั้น ทางโรงเรียนจะจัดชั่วโมงให้นักเรียนร่วมกิจกรรมของชมรม แต่ชมรมที่ทำกิจกรรมในเวลาหลังเลิกเรียนส่วนมากจะเป็นชมรมที่เกี่ยวกับกีฬา โดยฟุตบอลก็เป็นหนึ่งในชมรมที่จะต้องมาจัดกิจกรรมในเวลาหลังเลิกเรียนเช่นกัน



ชมรมฟุตบอลโรงเรียนโตเกียว คาชิโกคุ



ชมรมฟุตบอลโตเกียว คาชิโกคุ นั้นเป็นชมรมที่ได้รับความสนใจจากนักเรียนน้องใหม่มากที่สุดชมรมหนึ่งเลยก็ว่าได้ เนื่องด้วยจากสถานที่ ที่ดูสวยงามและยังมีคุณภาพ ซึ่งหญ้านั้นมีมาตฐานเดียวกับสนามที่ใช้แข่ง**เจลีคเลยก็ว่าได้ แต่นี่เป็นสนามที่ใช้แข่ง สนามซ้อมของพวกเขานั้นแบ่งออกเป็นสองสนามซึ่งสนามแรกนั้นเป็นสนามเล็กที่ใช้ในการซ้อมฟุตบอล 7 คน โดยสนามนี้ส่วนมากจะใช้ในการฝึกคอร์ดตามคอร์สการฝึกซ้อม และอีกสนามนั้นใช้ในการแข่งทีม 11 เพื่อฝึกซ้อมทีมภายใน 



ที่โรงเรียนโตเกียว คาชิโกคุนั้นได้ถูกพัฒนาเกี่ยวกับฟุตบอลไปมากขนาดนี้ก็เนื่องด้วยจากผู้อำนวยการของโรงเรียนนี้มีความสนใจในฟุตบอล และต้องการพัฒนาชมรมฟุตบอลของเขาให้ไปได้ไกล แต่เนื่องด้วยโรงเรียนนี้เป็นเพียงโรงเรียนที่เปิดได้ไม่ถึง 15 ปีทำให้ทางโรงเรียนแห่งนี้ยังไม่เคยที่จะประสบความสำเร็จอะไรเลย แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าโรงเรียนของเขานั้นไร้ความสามารถ โรงเรียนของเขานั้นถือเป็นอันดับต้น ๆ ของโตเกียวในการแข่งขันฟุตบอล แต่ว่าเมื่อไประดับประเทศพวกเขานั้นยังไม่เคยถึงฝั่งฝันซักที



โดยปีล่าสุดนั้นในการแข่งขันถ้วยฤดูหนาว หรือที่เรียกกันว่า **วินเทอร์ คัพ ซึ่งเป็นถ้วยที่ใหญ่ที่สุดของฟุตบอลระดับมัธยมปลาย นั้นทางโรงเรียนโตเกียว คาชิโกคุนั้นสามารถผ่านทะลุไปถึงรอบ 32 ทีมจากทั่วประเทศแต่ก็ต้องอกหักตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย 



“นี่ คัตสึรากิ นายคิดว่าน้องใหม่ปีนี้จะเป็นยังไง” 



ชายคนหนึ่งกำลังนั่งที่พื้นแล้วกำลังใส่รองเท้าสตั๊ดอยู่ เขาคนนี้มีผมสีบลอนด์ นัยน์ตาของเขานั้นเป็นสีเขียว เขาพูดพร้อมหันไปหาชายที่กำลังตั้งขาของตัวเองที่เก้าอี้ยาวเพื่อผูกเชือกรองเท้าของตนเองที่ชื่อว่า คัตสึรากิ



“ชั้นก็ไม่รู้หรอก… แต่ถ้าใครมันทำตัวยิ่งใหญ่ ชั้นไม่ปล่อยเอาไว้แน่” คัตสึรากิตอบกับชายคนนั้น แต่ว่าชายคนนั้นกลับไปสดุดที่รองเท้าของคัตสึรากิ



“นี่นี่! คัตสึรากิ นายซื้อรองเท้าคู่ใหม่หรอ ไหนดูซิ!” ชายผมทองคนนั้นรีบเข้าไปคว้ารองเท้าอีกข้างของคัตสึรากิที่ยังไม่ใส่มาอย่างรวดเร็ว
“นี่! เอย์จิแกทำบ้าอะไรของแกหนะ!!!” คัตสึรากิรีบหันไปคว้ารองเท้าของตัวเอง แต่ว่าทางชายผมทองที่ชื่อว่าเอย์จินั้นยกมือขึ้นมาเพื่อไม่ให้ทางคัตสึรากิคว้ารองเท้าได้ ก่อนเขาจะเอามาดู



“โห… นี่ Nike Magista Obra Leather ที่ทำจากหนังจิงโจ้เลยนะเนี่ย นี่สินะที่นายไปทำงานพิเศษช่วงปิดเทอม”



“ตัวท็อปด้วยนะเนีย”



“เอามาเจ้าบ้า!” คัตสึรากิพูดพร้อมเอารองเท้าของตัวเองคืนมาก่อนจะรีบเอามันมาใส่



“ไม่ต้องหวงขนาดนั้นก็ได้หรอกน่า ชั้นรู้ว่านายกำลังเห่อหนะ แหะๆ”
“แต่ว่านะคิดไปคิดมาแล้ว พอมาคิดถึงปีก่อนมันก็น่าเสียดายเนาะ เราเกือบทำได้แล้วแท้ ๆ” เอย์จิพูดย้อนความหลังของตัวเอง



“อืม… ช่างมันเถอะหนะ”



“พวกรุ่นพี่ก็จบไปกันหมดแล้วก็มีแต่ชั้น ,นาย ,อากิฮิโระ , เทปเปย์ แล้วก็ ชินจิ ที่อยู่ปีสามแล้วเป็นตัวจริง”
“และก็ยังมีปีสองอย่างพวกของเจ้าบุนตะหละนะ ถือว่าออกไปเยอะเหมือนกันนะว่ามั้ย ?”



“แต่ชั้นได้ยินมาว่าเราได้นักเรียนจากเทนโนคุมาคนนึง”



เมื่อทางเอย์จิพูดทางคัตสึรากิ ก็เหมือนจะสดุดหูของตนเอง



“ว่าแล้วว่าคนอย่างนายต้องสนใจแน่ ๆ เจ้าเด็กที่ชื่อว่า มิโดริคาวะ หนะ”
“ชั้นจำหมอนี่ได้ อสุรกายในกรอบเขตโทษเลยนะนั่น”คัตสึรากิบอกกลับไป
“อื้มมมม!ชักจะสนุกแล้วสิ” เอย์จิพูดพร้อมลุกขึ้นบิดไปมาเพื่อวอร์มร่างกายของตนเอง



“แต่ได้ข่าวว่าเจ้านั่นมันชอบทำตัวเหมือนซูปเปอร์สตาร์หละนะ ไม่รู้ว่าจริงมั้ยนะ แต่ก็นั่นหละหุ่นเจ้านั่นก็เหมือนนายแบบเลยหละนะ แถมเข้ามาโรงเรียนแปปเดียวก็เป็นจุดสนใจด้วย”


“ชั้นไม่สนหรอกนะว่าเจ้านั่นมันจะเป็นใคร ก็อย่างที่พูดถ้ามันมาทำตัวไม่เคารพหละก็เจอดีแน่!”



“เอาเต็มที่เลยนะกัปตัน เอาหละไปทำให้พวกเด็กปีหนึ่งมันรู้ว่านรกมีจริง”



หลังจากที่นักเรียนในชมรมได้เตรียมตัวเสร็จแล้วก็ได้มารวมตัวกันที่กลางสนามโดยเหล่ารุ่นพี่นั้นยืนอยู่ข้างหน้า ส่วนทางกลุ่มรุ่นน้องนั้นก็ยืนเรียงแถวกันอยู่ โดยจำนวนนักเรียนที่เข้ามาใหม่ถือว่าไม่น้อยเลยทีเดียว ทางคัตสึรากิ ที่กอดอกอยู่ตรงกลางนั้นได้ให้คนไปนับจำนวนสมาชิกที่เข้าใหม่ก่อนที่จะมีคนเดินเข้ามาหาทางคัตสึรากิ เธอคนนั้นก็คือเคียวโกะเพื่อนของมิโดริคาวะนั่นเอง เด็กปี 1 ส่วนมากมองเธอมากเกินไปจนทางคัตสึรากิเห็นแล้วไม่สบอารมณ์เท่าไหร่


“นี่นี่ พวกนายหนะให้มันน้อยๆ หน่อย! เดี๋ยวก็สั่งให้วิ่งก่อนจะรายงานกันเลยดีมั้ย !?!”


“เมื่อวานตอนเธอมาสมัคร นายก็ยังกลืนน้ำลายเลยไม่ใช่หรอ ?” เอย์จิพูดขึ้นมา แต่ยังไม่ทันไรทางคัตสึโยชิก็ชกเข้าไปเต็มแก้มของทางเอย์จิจนปลิวออกไป



“แกหนะหุบปากไปเลย!”



“ขะขอโทษคร้าบบบ กัปตัน!”



“นี่ เคียวโกะจัง มีปีหนึ่งที่เข้ามากี่คนนะ ?”คัตสึรากิถามกลับไปด้วยอีกน้ำเสียงนึง
“14 ค่ะ”



ทำไมเปลี่ยนเสียงไวอย่างนี้เนี่ย!



“….อ่ะ…. เอ่อแต่ว่า ตอนนี้มากันแค่ 13 คนเองค่ะ” เคียวโกะบอกกับคัตสึรากิไปทำให้ทางคัตสึรากิรีบคว้ากระดาษจากมือของเคียวโกะเพื่อดูรายชื่อของคนที่มาช้าในวันแรก



“ใครกันมันกล้ามาช้าตั้งแต่วันแรก!!!!!!”
“ถ้ามาฉันจะจัดการให้สาสม!!!!!!”



ทางคัตสึรากิที่กำลังมองกระดาษด้วยอารมณ์โมโหนั้น เขากำลังมองไปที่รายชื่อของคนที่มาสาย 



“มิโดริคาวะ โชอิจิ”



……………….



แล้วเขาก็เห็นชื่อนั้นขึ้นมาทำให้เขาขยำกระดาษแผ่นนั้นจนยับ



“คิดว่าตัวเองเก่งแล้วจะทำอะไรก็ได้งั้นหรอ !?!”
“จะมากไปแล้วไอ้เด็กปี 1!”


“น่า ๆ ใจเย็นก่อนสิคัตสึรากิ เอาเป็นว่าให้ปี 1 ที่อยู่ตรงนี้แนะนำตัวเองก่อนดีกว่ามั้ย ?” ชายตัวใหญ่คนหนึ่งเดินเข้ามาตบไหล่ของคัตสึรากิ สีหน้าของเขานั้นเต็มไปด้วยความอ่อนโยน และดูอบอุ่นทางคัตสึรากิเห็นอย่างนั้นก็สูดหายใจเข้าไปลึก ๆ ก่อนที่เขาจะเริ่มพูด



“รุ่นพี่คัตสึรากิ ให้หนูไปหามิโดจัง มั้ยค่ะ ?” ทางเคียวโกะพูดเพื่ออาสาจะไปหาโชอิจิ



“ไม่ต้อง! ถ้าเจ้านั่นไม่มาวันนี้ก็ไปหาชมรมอื่นอยู่ได้เลย”
“แต่ว่า มะ มิโดจังงั้นหรอ ? เธอรู้จักกับเจ้านั่นหรอ ?”



“ชะ ใช่ค่ะ เป็นเพื่อนกันตอนอยู่เทนโนคุด้วยกัน”



“งั้นหรอ… แต่ช่างมันเถอะ เสียเวลามามากแล้ว”
“เอาหละ ชั้นจะแนะนำตัวเอง ชั้นชื่อ คัตสึรากิ คิโยชิ เป็นกัปตันทีมของชมรมฟุตบอลแห่งนี้”



“และเธอคือ ไอซาวา เคียวโกะ อยู่ปีหนึ่งเหมือนกับพวกนาย เธอเป็นผู้ช่วยโค้ช ส่วนวันนี้โค้ชยังมาไม่ได้ เอาเป็นว่าวันนี้เขาให้ฉันมาคุมพวกนายก่อน”



หูยปีหนึ่งด้วยแฮะ… ใครได้อยู่ห้องกับเธอนี่โชคดีสุด ๆ เลยว่ามั้ย !?!



“หุบปาก!”
“ฉันไม่ได้สั่งให้พูด”



“เอาหละ ชั้นอยากให้พวกนายปี 1 ทุกคนแนะนำชื่อของตัวเองกันตอนนี้ เพื่อที่จะได้ทำความรู้จักกันก่อน บอกชื่อ มาจากไหน และตำแหน่งที่ชอบแค่นั้นละ”
“เอาหละเริ่มที่นายคนแรกหนะ” เขาพูดพร้อมหันไปที่ทางขวาของตัวเอง




“ผมฮิโรงาโตะ เรียวเฮ มาจากนาริตะ ตำแหน่งที่ชอบเซ็นเตอร์แบ็คครับ!” เรียวเฮชายผมสีเทา เขามีความสูงไม่มากแต่ก็ไม่ถึงกับตัวเล็ก แต่ความสูงของเขานั้นมันก็เล็กไปกับการเล่นเซนเตอร์ ก่อนที่คัตสึรากิจะผยักหน้าแล้วให้คนต่อไปแนะนำตัว



“ผมอิวาซากิ ซาคาอิ มาจากฮอคไกโด ตำแหน่งที่ถนัดกองกลางตัวรับครับ!” หลังจากเรียวเฮ เป็นชายหนุ่มผมดำที่มีความสูงไล่เลี่ยกับเรียวเฮ



หลังจากนั้นทางน้องใหม่ก็ได้แนะนำตัวเองไปเรื่อย ๆ จนมาถึงผู้ชายคนหนึ่ง ที่ทำให้ทางคัตสึรากิ และกลุ่มรุ่นพี่ตกใจ เพราะเขาคนนี้เหมือนกับผู้หญิง เขามีผมยาวจนลงมาที่หลังของตัวเอง และตัวเล็กมาก แทบไม่ถึง 165 เซนติเมตรด้วยซ้ำ



“ธะ เธอ ไม่สิ ต่อไปนาย แนะนำตัวได้” คัตสึรากิถามด้วยน้ำเสียงที่ติดขัดด้วยความตกใจ



“ผมโยชิโนริ มาโคโตะ มาจากโตเกียว ตำแหน่งที่ชอบกองกลางตัวรับครับผม” เขาพูดพร้อมด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม จนทำให้คัตสึรากิแอบเขิน ก่อนเขาจะรีบส่ายหัวรัวๆ เพราะลืมไปว่าเขาคนนี้คือผู้ชาย



แต่ว่ายังไม่ทันไร เขาหันไปเห็นเด็ก ปี 1 ที่อยู่ข้างๆมาโคโตะนั้นยิ่งแปลกใจ ถึงเขาจะสูงกว่ามาโคโตะแต่มันก็จัดอยู่ในความสูงที่ต่ำพอสมควร ดูแล้วไม่ถึง 170 เซนติเมตร



“คือว่าผมแนะนำตัวเองได้ยังครับรุ่นพี่” ชายตัวเล็กคนนั้นถามกับคัตสึรากิ
“ดะ ได้ซิ มันถึงตานายแล้วหนิ…”



“ผมนากาอิ ริคิมารุ มาจากโอกินาวะ ตำแหน่งที่ชอบผู้รักษาประตูครับ!”



อะไรนะ!!! ตัวเล็กแค่นี้เป็นผู้รักษาประตูงั้นหรอ!



เหล่ารุ่นพี่ที่ฟังอยู่ถึงกับตกใจเมื่อทางริคิมารุ บอกว่าตัวเองนั้นชอบในการเป็นผู้รักษาประตู ทางคัตสึราก็เช่นกัน



“นี่นายพูดเล่นหรือเปล่า?”
“ผมพูดจริงครับ”
“นึกว่านายล้อเล่นซะอีกนะ”
“ผมไม่ใช่คนตลก และยังยืนยันคำเดิมครับ”



“ก็นะ ถ้านายอยากก็ช่วยไม่ได้หละนะ ขนาดผู้รักษาประตูตัวเล็ก ๆ ยังประสบความสำเร็จได้เลย ดูอย่าง ***อีเกร์ คาซิยาส สิงั้นนายก็พยายามเข้านะ ริคุมารุ”



“ริคิมารุครับ”



“อะ เอ่อ โทษนะ ริคิมารุคุง แหะๆ”



คัตสึรากิพูดก่อนจะไปให้นักเรียนคนอื่นแนะนำตัวเองจนไปถึง ชายผิวแทนโดยดูเผินๆแล้วเขาไม่น่าใช่คนญี่ปุ่นแน่นอน ทางคัตสึรากิเข้าไปถามชื่อ



“มะ มายเนม ไม่สิ ผมชื่อ เซป ไนล่าห์ มาจากอิยิปต์ เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน”



“แล้วตำแหน่งที่ชอบหละ…” คัตสึรากิถามทางชายหนุ่มที่ชื่อว่าเซป ถึงกับอ้ำอึ้งดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่ค่อยเข้าใจคำนี้เท่าไหร่นัก



“เอ่ออ ยัวร์ โพซิชั่น หนะ” คัตสึรากิถามใหม่ด้วยภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงที่อยู่ในขั้นว่าห่วยมาก



“อ่ะ อ้อ… เลฟ วิงเกอร์ …..คะ….ครับ”



“โอเค และสุดท้ายนาย” 



“ฟูจิมะ คิโยตะ มาจากบราซิล ตำแหน่งที่ชอบ แบ็คข้างไหนก็ได้”


“อะไรกันมาจากบราซิลเลยงั้นหรอ แปลว่าก็ต้นตำรับเลยหนะสิ!” เสียงของเหลารุ่นพี่กำลังซุบซิบกันอยู่


“อืม… โอเค” 


หนอย… เจ้าฟูจิมะ มาจากบราซิลงั้นหรอ ? คิดว่าจะยิ่งใหญ่มากนักหรอ สัมมาคารวะกับรุ่นพี่ไม่มีเลยรึไง เจ้าบ้า! ใจเย็นไว้คัตสึรากิ ใจเย็นไว้



ทางคัตสีรากิ หายใจเข้าไปเต็มสูดก่อนที่ทางฟูจิมะจะถามขึ้นมาอีก


“เมื่อไหร่พวกรุ่นพี่จะเริ่มซ้อมกันอย่างงั้นหรอ ?”



“แหะ ๆ ก็จะซ้อมอยู่นี่ไงเจ้าบ้า” คัตสึรากิถามพร้อมด้วยสีหน้าที่ดูยิ้มไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมาก่อน



“เอาหละหลังจากที่พวกนายแนะนำกันเสร็จ ชั้นจะแยกพวกนายออกไปกลุ่มละ 7 คน ให้มาจับฉลากที่โถนี่ถ้าใครจับได้เลขอะไรก็อยู่ด้วยกัน….”



“คือรุ่นพี่ครับไหนว่ามาไม่ครบ 14 คน” มาโคโตะยกมือถาม



“นั่นสิ เจ้ามิโดริคาวะ!!! แกนะแกกกก!”



กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!



เสียงกรี๊ดของผู้หญิงดังขึ้นมา ก่อนที่ชายที่ชื่อมิโดริคาวะ โชอิจิ แห่งเทนโนคุ จะเดินเนือย ๆ เข้ามาในสนามเขาบิดขี้เกียจไปมา ก่อนจะหาวไปหนึ่งที



“เจ้าบ้านั่นหนะหรอ มาพร้อมเสียงกรี๊ดเลยนะ น่าอิจฉาว่ามั้ยเทปเปย์” เขาหันไปหาชายร่างยักษ์ที่สีหน้าเต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ชื่อว่าเทปเปย์


Last edited by LisaBlackpink on Tue Aug 21, 2018 8:59 pm; edited 1 time in total
SpeedStar
SpeedStar
Posts : 35
Join date : 2018-08-20

Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน  Empty Re: Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน

Tue Aug 21, 2018 7:44 pm
“ก็คงมีแต่นายนี่นะที่สนใจอะไรแบบนี้ ฮะฮะ” เทปเปย์พูดพร้อมยิ้มออกมา


“อะไรนะ ไม่ใช่สักหน่อย!”


“แต่ดูดีกว่าว่าเจ้าคัตสึรากิ จะทำกับเจ้าซุปตาร์นั่นยังไง”



“นายมาสายนะ….” คัตสึรากิพูดพร้อมด้วยน้ำเสียงที่ดูเย็นชากว่าเดิม



“คือว่า ผมแค่นอนนานไปหน่อยนะ…… เอาเป็นว่า ชั้นชื่อ มิโดริคาวะ โชอิจิ มาจากโตเกียว และมาจากโรงเรียนเทนโนคุ ตำแหน่งกองหน้า นะ!” มิโดริคาวะ พูดพร้อมชูนิ้วโป้งพร้อมยิ้มกระชากใจสาว ๆ ทำให้ผู้หญิงที่แห่มาดูเขาถึงกับกรี๊ดสนั่นอีกครั้ง



“นอนนานไปหน่อยงั้นหรอ…?!”
“นายกล้าพูดแบบนี้งั้นหรอ ?!”



คัตสึรากิพูดพร้อมถอดรองเท้าสตั๊ดของตัวเองออกมา



“ไหนนายลองพูดอีกสิ ว่าทำไมถึงมาสายกว่าเพื่อนเขา”
“เห…. ผมก็แค่นอนนานไปหน่อยหนะรุ่นพี่ แหะ ๆ”



“เงียบไปเลย!”



Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน  Tumblr_nkwdlqCDy91sef1kno1_500




“ยังไม่รู้ตัวอีกนะว่าแกทำผิดอะไร! ไอ้เด็กเมื่อวานซืน!”



“เจ็บนะ….!!!!”



ทางมิโดริคาวะล้มลงไป ก่อจะรีบลุกขึ้นมาจับแก้มของตัวเอง



“ทำงี้กับน้องใหม่ที่พึ่งเข้ามาเพื่อเป็นความหวังใหม่ของโรงเรียนนี้!”
“มันก็ดีมากไม่ใช่หรอฮะ!!!!” มิโดริคาวะบอกกลับไป



“หุบปากไป! ฉันไม่สน นายมาสายและตอนสมัครไม่มีใครบอกนายเหรอว่าอย่ามาสาย! เป็นแค่เด็กปี 1 แท้ๆ!”
“ไม่ควรขัดคำสั่งของรุ่นพี่เข้าใจมั้ย!?!”



ทางมิโดริคาวะ ที่กำลังทำหน้าเจ็บอย่างโอดโอยอยู่ก็ลุกขึ้นมาด้วยสีหน้าที่ดูจริงจัง



“รุ่นพี่งั้นหรอ ? ฉันไม่ค่อยชอบคำนี้เท่าไหร่หรอกนะ”
“คิดว่านายจะพิเศษกว่าคนอื่นนักหรือไง… นายอาจจะเตะบอลไม่สู้ชั้นด้วยซ้ำ ไว้ถึงวันนั้นค่อยมาออกคำสั่งชั้นจะไม่ดีกว่าหรอ ?”



เมื่อทางมิโดริคาวะพูดเสร็จ เขาก็ได้ประจันหน้ากับคัตสึรากิ ทั้งสองมองหน้ากันโดยทางมิโดริคาวะนั้นมีความสูงมากกว่าเกือบสิบเซนติเมตร มองลงมาที่คัตสึรากิ



“มิโดจัง…..” เคียวโกะที่ดูอยู่เงียบๆ ก็ได้แต่รอดูสถานการณ์



“เพราะอะไรรู้มั้ย? ฉันถึงทำอย่างนี้….”
“เพราะพวกเราสำคัญยังไงหละ”



เมื่อทางคัตสึรากิพูด มันก็ทำให้ทางมิโดริคาวะเหมือนจะเอะใจอะไรบางอย่าง



“ฉันไม่รู้หรอกว่าก่อนที่นายจะมาที่นี่ นายคือใคร…”
“นายจะเป็นสุดยอดกองหน้าอัจฉริยะจากเทนโนคุทีมที่ไร้พ่าย และอาจจะเป็นอนาคตของทีมชาติญี่ปุ่น แต่เรื่องนั้นเอาไว้ทีหลัง”



เมื่อทางคัตสึรากิพูดถึงโรงเรียนเก่าของมิโดริคาวะ มันทำให้ทางฟูจิมะสดุดกับคำพูดของทางคัตสึรากิ และทางมิโดริคาวะ



“เพราะที่นี่คือชมรมฟุตบอลโรงเรียนโตเกียว คาชิโกคุ ไม่ใช่เพราะเราแก่กว่า แต่พวกรุ่นพี่ได้ฝึกอย่างหนักและอยู่กับทีมนี้มานานกว่านาย….”



“หวังว่านายคงจะเข้าใจและเคารพต่อข้อนี้ ฉันอยากให้นายคิดว่า นายคือมิโดริคาวะ โชอิจิ แห่งโรงเรียนโตเกียว คาชิโกคุ และฉันคือกัปตันของทีม ชื่อคัตสึรากิ คิโยชิ… นายมีอะไรจะพูดอีกมั้ย ?”



ทางมิโดริวะที่ฟังอยู่เหมือนเขาจะเข้าใจที่ทางคัตสึรากิได้สื่อถึงไปเมื่อกี้ เขาเหมือนยิ้มอย่างพอใจก่อนที่จะพูดขึ้นมา



“งั้นผมก็ต้องขอโทษรุ่นพี่ก็แล้วกัน แปลว่าขอแค่ผมไม่มาสายก็พอใช่ไหม ?”
“ถ้านายคิดได้อย่างนั้นก็ดี แต่ถ้าชั้นเห็นนายเหลาะแหละหละก็ฉันจะจัดการนายแน่!”
“คร้าบ ๆ ๆ ๆ”



หลังจากที่มิโดริคาวะเข้าไปจับสลากในโถออกมา ก็ได้ทีมสองทีมพอดี โดยทางทีมที่ใส่เสื้อเอี๊ยมสีแดงนั้นเป็นทีมของมิโดริคาวะ โดยมีทาง ฟูจิมะ, เซล่าห์, ซากาอิ และ เรียวเฮย์ อยู่ โดยฝั่งที่ได้ใส่เสื้อเอี๊ยมสีน้ำเงินนั้นมีทาง มาโคโตะ และทางผู้รักษาประตูอย่างริคิมารุ



หลังจากนั้นเหล่าปีหนึ่งก็ได้ทำการวอร์มร่างกายก่อนที่จะเริ่มซ้อมทีมน้ำเงิน-แดง โดยมีการพูดคุยกันเล็กน้อย ทางฟูจิมะเดินเข้ามาหาทางมิโดริคาวะที่กำลังยืดขาของตัวเองอยู่



“นี่นายหนะ….”
“อะไรคือทีมไร้พ่ายที่พวกนายพูดถึง….”
“เห นายไม่รู้อย่างงั้นหรอ ? แปลกแฮะ ว่าแต่นายมาจากไหนนะ”
“บราซิล…..”
“ว้าวววววววว! บราซิลอย่างงั้นหรอ ? ต้นตำรับฟุตบอลเลยนะ”
“ฉันแค่มาบอกว่า นายอย่าวางตัวให้มาก ฉันไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ลและฉันคิดว่าที่ญี่ปุ่นหนะเทียบกับบราซิลไม่ได้หรอก และนายก็เล่นกองหน้าไปแค่นั้นหละ”



“หึ… งั้นหรอ ? งั้นก็โชว์ความสามารถของนายให้ฉันเห็นด้วยนะ…..!”



ปี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด!




เสียงนกหวีดดังขึ้นการแข่งขันมินิฟุตบอลของเด็กปีหนึ่งเริ่มขึ้น ทางทีมแดงเป็นฝ่ายได้เขี่ยก่อน และจะเป็นทีมที่ได้ตั้งเกมส์บุกขึ้นมา กองกลางเปิดบอลเข้ามาให้ทางมิโดริคาวะพักอกลงมาก่อนจะพลิกตัวมาอย่างรวดเร็ว แต่ว่าทางมาโคโตะวิ่งบีบเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว แต่ว่าทางมิโดริคาวะคลึงบอลกลับมาอย่างรวดเร็วรอดตัวจากการฉกบอลของมาโคโตะมาได้อย่างฉิวเฉียด



“อะไรกันเจ้าหน้าหวานนี่กัดไม่ปล่อยเลยนะ!”



“นี่คัตสึรากิเห็นอะไรนั่นมั้ย?” เอย์จิถามกับคัตสึรากิ
“อืมมม.. ปฏิกิริยาของเจ้านั่นไม่ธรรมดาอยู่แล้ว แต่ว่ามาคาโตะก็ถือว่ามากดดันได้ดีเลยนะ”



ทางมิโดริคาวะที่คลึงบอลหลบไปทำให้ทางมาโคโตะพรวดไปแล้ว ก็เห็นทางเซล่าห์ที่วิ่งมา ทางเซล่าห์นั้นไม่ได้ขอบอลแต่ว่าทางมิโดริคาวะเห็นว่าเขาวิ่งไปในตำแหน่งที่ดี ทางมิโดริคาวะจึงส่งไปเรียดไปทางกราบขวาให้กับเซล่าห์ที่วิ่งตัดกองหลังเข้ามาก่อนจะเหลือบไปเห็นทางฟูจิมะที่สอดเข้ามาจากด้านหลังทำให้ทางเซล่าห์เหยียบบอลไว้แล้วตอกส้นไปให้เซล่าห์การเล่นของทั้งสามคน ราวกับว่าพวกเขานั้นเล่นด้วยกันมานาน เพราะว่าเพียงแค่พวกเขานั้นสบตาก็เหมือนจะรู้ว่าใครวิ่งไปทางไหน ขอบเขตของภาษาไม่ใช่ปัจจัยที่จะทำให้พวกเขาพลาดเลย ฟูจิมะเปิดเข้ามาเปิด**เออร์ลี่ ครอสเข้ามาจากกราบขวา ทางมิโดริวะวิ่งสอดเข้ามาโขกเข้าไปเต็มหัว เมื่อทางมิโดริวะกระโดดโขกไปแล้วนั้น ทางกลุ่มสาวๆ ที่ดูอยู่ก็กรี๊ดออกมาสุดเสียง แต่ลูกนั้นก็ได้ถูกปฎิเสธจากชายร่างเล็กที่ชื่อว่าริคิมารุ เขากระโดดลูกโหม่งที่พุ่งมาด้วยความเร็วได้อย่างเหลือเชื่อ



“อะไรกันเจ้านั่น! กระโดดสูงมากเลยนะนั่น!” เอย์จิที่ดูอยู่ก็แปลกใจ รวมทั้งคัตสึรากิ และเคียวโกะด้วย
“แต่ลูกนั้นทางมิโดริคาวะ เหมือนกระโดดไม่ค่อยถนัดนะ…..”
“หรือว่า !?!”



“มาโคโตะ!”





“ชิ เจ้าหน้าหวานนี่ป่วนดีจังนะ!” มิโดริวะพูดออกมา
“ผมไม่ให้คุณผ่านไปง่าย ๆ หรอกครับ!”




ทางทีมแดงยังได้บุกขึ้นมาอีก ทางฟูจิมะใช้ทักษะของตัวเองเลี้ยงผ่านมาสามคนอย่างง่ายดายก่อนจะวิ่งหลอกริคิมารุว่าเหมือนจะยิงแต่เขานั้นกลับกระชากหนีตัวของทางริคิมารุแล้วแปบอลไปอย่างช้าๆ ลูกนั้นกำลังไหลเข้าไปประตู



“ไม่ยอมหรอกน่า!”



ทางมาโคตะวิ่งสุดชีวิตไปที่บอลก่อนที่เขาจะสไลด์บอลที่กำลังไหลเข้าประตูนั้นไปได้อย่างหวุดหวิด ก่อนที่กองหลังอีกคนจะรีบเคลียร์ออกไปก่อนที่ทางเซล่าหืจะเข้ามาซ้ำได้ทันช่วงที



“ไนซ์ มาโคโตะคุง!”



ทางริคิมารุเข้ามาแปะมือกับทางมาโคโตะที่ใช้ความเร็วของตัวเองสกัดบอลออกจากเส้นได้ทันท่วงที รอดพ้นจากการเสียประตูแรกไป



ทางเกมส์ยังเป็นของทีมแดงอยู่ โดยพวกเขานั้นเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเขาบุกมาก็จะโดนกองกลางตัวรับอย่างซาคาอิตัดบอลได้ตลอด และการเปิดเกมส์ของกองหลังอย่างเรียวเฮก็ทำให้เกมส์บุกของทีมแดงมีมิติมากขึ้นไปอีก ถึงแม้ทีมน้ำเงินจะพยายามสู้สุดใจแต่เหมือนการจับฉลากครั้งนี้จะดูกลั่นแกล้งพวกเขาไปหน่อย ถึงแม้ทางมาโคโตะนั้นจะสกัดบอลได้ดี แต่ว่าการขึ้นเกมส์ของเขานั้นถือว่ายังสอบไม่ผ่าน แต่คนที่ทำผลงานได้ดีที่สุดคงจะเป็นผู้รักษาประตูร่างเล็กอย่างริคิมารุที่เซฟอย่างอุดตลุดช่วยทีมได้หลายครั้ง เขาปฎิเสธลูกยิงของ ฟูจิมะ เซล่าห์ และทางมิโดริคาวะ ได้แต่เขาไม่ใช่พระเจ้าที่จะสามารถทำได้ทุกอย่าง ทีมน้ำเงินโดนทีมแดงถลุงไปถึงห้าลูก โดยมาจากการยิงของมิโดริคาวะ 3 ลูก และฟูจิมะกับเซล่าห์อย่างละลูก



“เอาหละพอได้แล้ว! มารวมตัวกันข้างหน้า”



หลังจากที่คัตสึรากิประกาศเหล่าเด็กปีหนึ่งก็เดินเช็ดเหงื่อออกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อย แต่ดูเหมือนทางมิโดริคาวะจะเดินมาอย่างสบายใจ 




“นี่ มิโดริคาวะ นี่สุดยอดไปเลยว่ามั้ย?”
“อื้ม คนจากบราซิล และ อิยิปต์ ก็สุดยอดไม่แพ้กัน”
“ทีมเราต้องแข็งแกร่งขึ้นมาก ๆ แน่ๆเลย”



เสียงของเด็กปีหนึ่งที่พูดกันตลอดทาง เหล่าปี 1 มายืนข้างหน้าก่อนที่ทางคัตสึรากิจะทำหน้ายิ้มอย่างพอใจ ก่อนที่ทางคัตสึรากิจะพูดเพื่อปล่อยให้กลับได้



“เอาหละ วันนี้ก็ถือว่าเป็นการเช็คฝีมือของพวกนาย ชั้นเห็นบางคนก็ทำได้ดีแต่บางคนก็ต้องพัฒนากันต่อไป”
“พรุ่งนี้โค้ชของเราจะมา และจะเริ่มการซ้อมจริงจังกันหลังจากนี้ วันนี้เอาไว้แค่นี้ก่อนพรุ่งนี้เจอกัน…!”



“อย่าสายอีกละ…” คัตสึรากิพูดพร้อมมองไปที่มิโดริคาวะ



“ขอบคุณมากครับ!!!”



-------------------------------------------------------------------



หลังจากที่ซ้อมวันแรกของเด็กปีหนึ่งเสร็จ ทางมิโดริคาวะก็ได้ออกมาที่ก๊อกน้ำของโรงเรียนเขาหยิบผ้าเช็ดหน้าเข้ามาเช็ดหน้าของตนเอง ก่อนจะเช็ดไปเรื่อย ๆ ก่อนที่เขาจะเห็นมาโคโตะอยู่ข้างหน้าเขา



“นะ นายมาทำอะไรที่นี่หนะ….”
“ผมมาล้างหนะครับ” มาโคโตะบอก



ทางมิโดริคาวะเห็นอย่างนั้นก็ยิ้มก่อนจะเดินเข้ามาตบไหล่ของทางมาโคโตะ



“ตอนแรกถ้าไม่บอกว่านายเป็นผู้ชาย ฉันก็คาดไม่ถึงเหมือนกันนะเนี่ย นายก็เล่นใช้ได้เลยนะ ฮี่ฮี่”
“ผมเคยเจอกับคุณครั้งนึง…..”



“เห…. ฉันเนี่ยนะ!”



“ใช่ครับเมื่อปีที่แล้ว…”



“ไม่ยักจะจำได้เลยแฮะ… เกมส์นั้นเป็นยังไงหรอ ?”



“พวกคุณถล่มทีมผมเละเทะเลย แต่ว่า ผมยังไม่ยอมแพ้หรอกนะ ผมต้องชนะพวกคุณให้ได้”



“เห…. ก็น่าสนุกดีนี่หน้าหวาน ฉันก็คิดอยากจะชนะพวกตัวเองเหมือนกัน งั้นก็เต็มที่เข้านะ!”
“ครับ” ทางมาโคโตะตอบด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม



หลังจากนั้นทางมิโดริคาวะกำลังเดินไปกดน้ำที่ตู้กดน้ำหยอดเหรียญ ก่อนเขาจะหยิบกระป๋องโคล่าของเขาขึ้นมาก่อนจะยกมันขึ้นมาดื่มอย่างช้า ๆ 



“นี่มิโดจัง!!!!”



เสียงของผู้หญิงที่เขาคุ้นเคยทางเคียวโกะ เดินเข้ามาหาเขาด้วยสีหน้าที่ดูไม่ค่อยดีนัก ทางมิโดริคาวะที่ตกใจก็พุ่งน้ำออกมา 



“นี่บอกไปแล้วไงว่าให้มากับฉัน โดนรุ่นพี่คัตสึรากิว่าเลยเห็นมั้ย !!?!!” เคียวโกะเข้ามาดุทางมิโดริคาวะ



“เอาน่า ๆ ฉันจะไม่มาสายแล้ว เดี๋ยวก็โดนเจ้าลูกพี่นั่นถีบเข้าไปอีก”



“แต่ว่าเคียวโกะ ไม่รู้ว่าเธอคิดเหมือนฉันมั้ย”




“ฉันว่าโรงเรียนนี้มันก็ไม่เลวเลยนะ….”




ทางเคียวโกะที่เห็นหน้าของทางมิโดริคาวะ ยิ้มอย่างมีความสุขนั้น เธอก็เหมือนจะดีใจไปกับเขาไปด้วยที่ทางมิโดริคาวะ แฮปปี้กับโรงเรียนแห่งนี้




“อื้มมม…. ฉันก็คิดอย่างงั้นหละ”

-------------------------------------------------------------------


Spoiler:
SpeedStar
SpeedStar
Posts : 35
Join date : 2018-08-20

Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน  Empty Re: Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน

Tue Aug 21, 2018 8:09 pm
ชมรมฟุตบอลโรงเรียนเทนโนคุ เป็นชมรมที่สามารถเชิดหน้าชูตาให้โรงเรียนนี้ได้เป็นอย่างดี เมื่อใครพูดถึงชื่อโรงเรียนนี้จะต้องนึกถึงฟุตบอลเป็นอย่างแรก ชมรมนี้สามารถสร้างนักเตะมากฝีมือได้มากมาย จากกว่าร้อยชีวิตที่อยู่ในชมรมนั้น ราวกับที่นี่เป็นเหมือนกับแหล่งเก็บรวบรวมนักเตะพรสวรรค์ที่พร้อมจะเฉิดฉายในอนาคตของวงการฟุตบอลญี่ปุ่น ด้วยสถิติอันยอดเยี่ยมที่ครองแชมป์มายาวนานกว่าสิบปี นั่นเป็นเครื่องการันตีคุณภาพชั้นดีของพวกเขา และสามปีหลังของโรงเรียนเทนโนคุนั้นสามารถชนะคู่ต่อสู้ได้อย่างราบคาบ ด้วยสถิติไร้พ่ายโดยพวกในสามปีนั้นของโรงเรียนเทนโนคุนั้น ได้ถูกเรียกว่า “The Invincible team” เหมือนกับทีมฟุตบอลในอังกฤษอย่างอาเซนอล ที่สามารถทำสถิติไร้พ่ายในพรีเมียร์ลีค ของประเทศอังกฤษ


ถึงสามปีหลังนั้นจะเป็นปีที่รุ่งเรื่อง แต่ปีสุดท้ายต่างมีเหล่าเด็กนักเรียนที่ถูกเรียกว่าอัจฉริยะอยู่ แต่หลังจากที่พวกเขาได้จบไปก็ต่างแยกย้ายโรงเรียนไปคนละที่ และโรงเรียนนั้นจะได้อยู่ในจุดสูงสุดของญี่ปุ่น”


-------------------------------------------------------



ตอนที่ 2 : ซ้อมวันแรก


โรงเรียนมัธยมปลายโตเกียว คาชิโกคุ ปี 1 ห้อง B


หลังจากที่การซ้อมวันแรกของชมรมฟุตบอลคาชิโกคุ ก็กลับเข้ามาในชีวิตของเด็กมัธยมทั่วไปที่ต้องเรียนหนังสือในช่วงเช้าและช่วงบ่ายตามปกติทั่วไป โดยในห้อง B ของปีหนึ่งนั้น เป็นห้องของ มิโดริคาวะ โชอิจิ อดีตศูนย์หน้าเอสอันดับหนึ่งของทีมชมรมฟุตบอลเทนโนคุ เมื่อปีก่อน ก็อยู่ห้องนี้ด้วยเช่นกัน โดยมีเคียวโกะ เพื่อนของเขาก็อยู่ห้องเดียวกับเขาด้วยเช่นกัน มิโดริคาวะ เดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่เบื่อหน่ายหลังจากการเข้าแถวในยามเช้า เขาเดินเข้ามานั่งที่มุมหลังสุดของห้อง โดยในห้องนั้นได้จัดโต๊ะโดยแยกเป็นคู่ ๆ โดยคนที่นั่งมิโดริคาวะนั้นก็คือเคียวโกะ เพื่อนของเขาตั้งแต่สมัยมัธยมต้น


“หาววววววว…. น่าเบื่อชะมัดยากเลยแฮะ กิจกรรมยามเช้าของโรงเรียนเนี่ยย” มิโดริคาวะบ่นออกมา
“เออ ว่าแต่เคียวโกะ วิชาแรกของเราเรียนวิชาอะไรนะ” เขาถามกับเคียวโกะ


“อะ เอ่อออ วิชาคณิตศาสตร์หนะ”


“วิชาที่ว่าเป็นครูฝรั่งหนะนะ ไม่มาสองวันแล้วนี่ หวังว่าเขาจะไม่มาอีกนะ”


“สวัสดีนักเรียนทุกคน”


หลังจากที่ทางมิโดริคาวะ ยังไม่ทันได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ก็มีเสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นมา ก่อนที่เขาจะเดินเข้ามาที่ห้อง B ของชั้นปีที่ 1 ชายคนนั้นเมื่อดูตั้งแต่แรกก็รู้ได้ว่าเขานั้นเป็นชาวต่างชาติ แต่สำเนียงการพูดของเขานั้นใกล้เคียงกับคนญี่ปุ่นมาก เขามีร่างกายที่ดูกำยำ ผมสีบลอนด์ยาว และหน้าที่ดูเป็นมิตรอย่างสุด ๆ เขาถือเป็นคนที่มีหน้าตาที่ดี จนทำให้ผู้หญิงในห้องมองตามกันยกใหญ่ เขาเดินมาพร้อมกับหนังสือแบบการสอนก่อนที่จะเอามาวางบนโต๊ะของตนเอง ก่อนที่หัวหน้าห้องจะสั่งทำความเคารพอาจารย์ของพวกเขา หลังจากนั้นก็ได้เวลาที่เขาต้องแนะนำตัว

Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน  Ren-ren-jinguji-34544768-500-225

“สวัสดีทุกคน ครูชื่อ สเตฟาน เซาท์ธาร์ด เป็นครูสอนคณิตศาสตร์ ของพวกเธอ”

“นี่ๆ เธออาจารย์สเตฟานหล่อเนาะเธอว่ามั้ย?”
“อื้อๆ ใช่ๆ หล่ออะ”
“ได้ข่าวมาว่าอาจารย์แกมาจากอิตาลีหนะนะ”


เสียงผู้หญิงต่างซุบซิบกันเมื่อเห็นทางอาจารย์สเตฟานที่เข้ามาในห้องเรียนของพวกเขา หลังจากที่สองวันก่อนที่เขาไม่ได้เข้ามาสอน เพราะมีข่าวมาว่าเขาพึ่งกลับมาจากอิตาลีบ้านเกิดของเขา


“ครูต้องขอโทษพวกเธอด้วยกับที่ไม่ได้มาสอนในคาบแรกนะ พอดีว่าครูกลับมาจากบ้านเกิดที่อิตาลีหนะนะ”


คำพูดของทางอาจารย์สเตฟานที่พูดออกมาทำให้ทางมิโดริคาวะคิดถึงสิ่งที่ทางคัตสึรากิพูดเมื่อวาน

“พรุ่งนี้โค้ชของเราจะมา และจะเริ่มการซ้อมจริงจังกันหลังจากนี้ วันนี้เอาไว้แค่นี้ก่อนพรุ่งนี้เจอกัน…!”


“คงไม่ใช่หรอกมั้ง… อาจารย์คนนี้คงไม่ใช่โค้ชฟุตบอลหรอกนะ” มิโดริคาวะคิดในใจ


“เออนี่ เคียวโกะ ที่เธอไปสมัครเป็นผู้ช่วยโค้ชเธอรู้มั้ยว่าโค้ชเราเป็นใคร”
“อืมมมม ก็ไม่รู้เหมือนกันนะ เห็นพวกรุ่นพี่บอกว่าเป็นอาจารย์ต่างประเทศ” เคียวโกะบอก


“เธอก็คิดเหมือนชั้นใช่มั้ย ? ว่าอาจารย์คนนี้จะเป็นโค้ชฟุตบอลเรา”
“อืมม ก็ไม่รู้สินะ” เคียวโกะทำหน้ายิ้ม เหมือนเขาจะมีอะไรบางอย่าง ทางมิโดริคาวะ ก็ทำหน้าเบื่อ ๆ ที่เห็นอาการแบบนี้ของเคียวโกะ


“ฉันหละเบื่ออาการอย่างนี้ของเธอจริง ๆ”


“เอาหละนะอาจารย์จะขอเช็คชื่อพวกเธอก่อนนะ”


หลังจากที่ทางอาจารย์ได้เช็คชื่อไปสักพักจนมาถึง


“เอ่อ…. ฟูจิมะ คิโยตะ”


……………..


“ฟูจิมะ คิโยตะ”


เมื่ออาจารย์ประกาศชื่อของฟูจิมะ คิโยตะ หรือทางนักเรียนในชมรมฟุตบอลที่มาจากบราซิลนั้น เขาไม่ได้เข้ามาในห้องเรียน


“ว่าแต่ใครรู้จักกับคิโยตะคุงบ้าง รู้มั้ยว่าเขาไปไหน ?” อาจารย์สเตฟานถามกับนักเรียนในห้อง


“เอ่อ… ไม่เห็นเขาเข้าห้องตั้งแต่เปิดเทอมมานี่แล้วครับ” เสียงของนักเรียนคนหนึ่งพูดขึ้นมา


“ฟูจิมะ คิโยตะ…. คุ้น ๆ แฮะ” ทางมิโดริคาวะทำท่าครุ่นคิด


“ก็คนที่มาจากบราซิลที่อยู่ชมรมฟุตบอลกับเราไง” เคียวโกะบอก
“อ๋อ เจ้านั่นหนะหรอ… มาซ้อมได้แต่มาเรียนไม่ได้สินะ”


ดาดฟ้าของอาคารเรียน


“เห้อ น่าเบื่อจริง ๆ เมื่อไหร่จะถึงเวลาซ้อมนะ”
“นี่ก็ไม่ได้เข้าเรียนมาสามวันแล้วนะ แต่คงไม่เป็นอะไรหรอก”


ฟูจิมะ หรือหนุ่มจากบราซิลนั้นนอนอยู่บนอาคารเรียนเขาดูเหมือนเบื่อกับชีวิตกับอย่างสุด ๆ เหมือนเขาจะเกิดมาเพื่อเตะฟุตบอลเท่านั้นหรืออะไร แต่ตอนนี้เขาก็ได้นอนรอเวลาที่ดาดฟ้าของโรงเรียน


-------------------------------------------------------


หลังจากเวลาจบลงก็ถึงเวลาเลิกเรียน เหล่านักเรียนต่างพากันกลับบ้านของตน แต่สำหรับชมรมฟุตบอลนั้นพวกเขาต้องไปซ้อมทุกวันหลังเลิกเรียน พวกเขาต่างพากันมาที่สนามซ้อม โดยวันนี้ทางมิโดริคาวะนั้นมาทันเวลา ไม่เหมือนวันแรก เขาเดินเข้ามาเจอทางคัตสึรากิ ที่กำลังใส่รองเท้าสั๊ดอยู่


“มาแล้วสินะเจ้าเด็กปีหนึ่ง”
“คะ ครับ ก็รุ่นพี่บอกให้มาให้ทันนี่นา”
“มันเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องรู้หละนะ… แต่ดีละวันนี้โค้ชก็มาพอดีอย่าทำให้แกผิดหวังหละ”


หลังจากที่ทั้งคู่ได้สนทนาเสร็จพวกนักเรียนในชมรมก็ได้มารวมตัวกันที่ตามสนาม พวกเขากำลังวอร์มร่างกาย ก่อนที่ทางคัตสึรากิหรือกัปตันทีมก็ตะโกนออกมาให้ทุกคนมารวมตัวกัน


“เอาหละทุกคนมารวมตัวข้างหน้าโค้ชสเตฟานมาแล้ว!”


“ห๊ะ! โค้ชสเตฟาน!!!” มิโดริคาวะเผลอตกใจจนพูดขึ้นมา


“ทำไมนายมีปัญหาอะไรหรือเปล่า….?”


“ปะ ป่าวครับ…..”


หลังจากที่ทางมิโดริคาวะพูดเสร็จทางอาจารย์สเตฟานที่สอนคณิตก็เดินเข้ามาทำให้ทางสเตฟานตกใจเป็นอย่างมากรวมถึงเด็ก ปี 1 บางคนที่ได้เรียนกับอาจารย์คนนั้น


“เอาหละสวัสดีทุกคน บางคนก็อาจจะเจอครูในคาบเรียนแล้ว ครูชื่อ สเตฟาน เซาท์ธาร์ด มาจากอิตาลี ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
“เอาหละถึงพวกเธอแนะนำตัวกันแล้ว ครูอยากให้พวกเธอแนะนำตัวกันบ้างนะเด็ก ปี 1”


หลังจากนั้นเหล่านักเรียนปีหนึ่งก็แนะนำตัวเองอีกครั้งก่อนจะมาถึงฟูจิมะ คิโยตะ


“อ้าว นี่เธอที่อยู่ห้อง B ที่ไม่ได้มาวันนี้ไม่ใช่หรอ ?” อาจารย์สเตฟานถามกลับไป
“อะ เอ่อ ครับผมไม่ได้เข้ามาเรียน”
“คราวหลังก็เข้ามาหน่อยนะ”


“เจ้าฟูจิมะ ก็มาซ้อมสินะ คิดไว้แล้วเหมือนกันหละนะ” มิโดริคาวะคิดในใจ


“เอาหละครูได้ข้อมูลของพวกเธอจากเคียวโกะเมื่อวานแล้วนะ น่าเสียดายที่ไม่ได้มาเห็นกับตาของตัวเอง แต่ว่าวันนี้เราจะเริ่มการซ้อมเลยดีมั้ย ?”


“เอ้อ ว่าแต่พวกเธอทำความรู้จักกับพวกรุ่นพี่เข้าไว้นะ ครูจะให้เวลาหนึ่งอาทิตย์ ครูจะสุ่มถามรายคน ถ้าใครไม่สามารถตอบชื่อของรุ่นพี่ได้”


“เดี๋ยวจะหาว่าผมไม่เตือนนะ”


เมื่อทางอาจารย์สเตฟานพูดเสร็จพวกเขาก็ให้ฝึกคอร์ดแยกซ้อมเป็นคอร์ด ๆ โดยเริ่มจากการวอร์มร่างกายด้วยการวิ่งรอบสนาม การส่งลูก พื้นฐานทั่วไปในการเล่นฟุตบอล กาวิ่งรสปริ้นท์ระยะสั้น 


“แฮก ๆ เหนื่อยชะมัดเลยแฮะ” เด็กปีสองคนหนึ่งบ่นขึ้นมา เขานั้นมความสูงประมาณ 180 เซนติเมตร มีผมสีเทา
“อะไรกัน... แค่นี้เหนื่อยแล้วหรอไซจิ?” เพื่อนของชายที่ชื่อไซจิพูดขึ้นมาแซวขึ้นมา
“อะไรจุน นายหนะวิ่งเหยาะแหยะมากเลยนะ ไม่เหมือนปีก่อนเลย ดูสิ เจ้าปีหนึ่งหน้าหวานนั่นมันวิ่งเป็นม้าเลย” ไซจิบอกกับจุนเพื่อนของเขาพร้อมชี้ไปที่มาโคโตะ ชายหนุ่มหน้าหวานที่กำลังซ้อมอย่างตั้งใจ


“ระวังนายจะหลุดตัวจริงเอานะ”
“ไม่หรอก ฉันหนะแบ็คขวาอันดับ 1 อยู่แล้วละ ไม่ต้องซ้อมมากก็ได้หรอกน่า” จุนบอกกับไซจิ
“นายนี่จริง ๆ เลยนะ ถ้ามีขนมหวานให้ฉันสักหน่อยคงจะดีมากเลยว่ามั้ย ?” ไซจิยังคงบ่น


“นี่พวกนายหนะ บ่นอะไรกันวิ่งสิ” คัตสึรากิเข้ามาตวาดเด็กปีสองทั้งสองคน


“คะ คร้าบบบ กัปตัน!” พวกเขาขานรับอย่างรวดเร็วก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปซ้อม


“จริง ๆ เลยนะเจ้าสองคนนี้ โดยเฉพาะเจ้าจุน ไฟมันหายไปไหนกัน ว่ามั้ยบุนตะ” กัปตันทีมหันไปหาชายหัวแดงร่างเล็กที่กำลังยืดตัวเองอยู่ โดยเขานั้นคือ อารากิ บุนตะ กองกลางสารพัดประโยชน์ร่างเล็กของทีม
“ก็ตั้งแต่วันนั้นที่เจ้านั่นมันยิงจุดโทษไม่เข้าหละนะ แต่ว่าสักวันเจ้านั่นมันก็กลับมาเอง เจ้านั่นหนะรักฟุตบอลจะตายไป ถึงจะบอกว่าก็เถอะนะ” บุนตะพูดพร้อมยืดทำด้วย


“นั่นสินะ…”


หลังจากที่พวกเขาได้ทำการซ้อมประจำวันเสร็จทางอาจารย์สเตฟานก็เรียกทุกคนเข้ามารวมตัวกัน ก่อนที่เขาจะพูดก่อนปล่อยให้นักเรียนในชมรมแยกย้ายกันกลับ


“เอาหละวันนี้ครูก็ได้เห็นศักยภาพเบื้องต้นของพวกเธอแล้วนะ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีพอสมควร และพรุ่งนี้ครูจะมีคอร์ดซ้อมทีมด้วยนะ อยากให้ทุกคนเตรียมตัวละทำการบ้านมาให้ดี เอาหละ วันนี้พอแค่…..


“เดี๋ยวก่อนค่ะ อาจารย์ เราจะไม่อธิบายทัวนาเมนต์ที่จะถึงก่อนเหรอคะ ?” เคียวโกะพูดสวนขึ้นมา


“เอ่อ ใช่ๆ ครูลืมไปเลยนะ สำหรับทัวนาเมนต์แรกที่เราจะเข้าร่วมก็คือการแข่งขันชิงแชมป์โตเกียว จะเกิดขึ้นในอีกสามอาทิตย์ โดยจะแบ่งออกเป็น 4 บล็อก A B C D ตามลำดับ โดยทีมของพวกเรานั้นไม่ต้องไปแข่งระดับเขตเพื่อคัดเข้ามา โดยเราเป็นทีมวางของบล็อก C จะเอาทีมที่ดีที่สุดของแต่ละบล็อกมาไขว้เจอกันในรอบรอง โดย A เจอ C และ B เจอ D”


“โดยจะเอาสามทีมที่ดีที่สุดเข้าไปแข่งขันในรายการถ้วยฤดูร้อนในญี่ปุ่น ซึ่งนั่นก็คือ อินเตอร์ไฮ ถ้วยที่ใหญ่ที่สุดในการเรียนภาคฤดูร้อน ครูจึงอยากให้เธอโฟกัสให้มาก เพราะปีก่อนเราเกือบทำได้แล้ว”


“โรงเรียนเราคือ 1 ใน 4 ราชาของโตเกียว แต่คู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดคือ โรงเรียน เฮียวเทย์ ปีที่แล้วพวกเขาติด 8 อันดับแรกของประเทศ และปีนี้ยังได้เด็ก อัจฉริยะ จากเทนโนคุมาอีกคนด้ว ดูเหมือนว่าจะชื่อ เอ….. คิดก่อนนะ ฮายาโตะ เรียวทาโร่ ดูเหมือนว่านายจะรู้จักนะ มิโดริคาวะ และก็ เคียวโกะจัง”


“และที่สำคัญการมาของเขาจะช่วยผนึกกำลังสามราชาของเฮียวเทย์ให้สมบูรณ์มากกว่าเดิมเข้าไปอีก! ปีที่แล้วเราพลาดแพ้พวกเขาในรอบรอง แต่ดูจากสายแล้วมีโอกาสได้เข้าชิงกับพวกนั้นสูงเหมือนกัน แต่เราก็ต้องห้ามพลาดเด็ดขาด ถ้าเราไม่สามารถชนะพวกเขาได้ แชมป์ระดับประเทศก็อย่าหวังเลยดีกว่า และอาทิตย์อีกสองอาทิตย์จะประกาศ 23 ตัวแทนของชมรมแห่งนี้ ! เอาหละครูมีมาบอกแค่นี้ ขอให้พวกเธอแยกย้ายกลับบ้านกันได้”


“เอาหละทุกคน! ทำความเคารพ” คัตสึรากิพูดขึ้นมา
“ขอบคุณมากครับ!!!!!”


-------------------------------------------------------


ในอีกฟากหนึ่งของโตเกียว มีชายสามคนกำลังเดินอยู่ในโรงเรียน พวกเขาใส่เสื้อวอร์มสีขาว ที่แขนเป็นสีเทา โดยข้างหลังเขียนว่า “Hyotei Gakuten” พวกเขามาจากโรงเรียนเฮียวเทย์ ราชาของโตเกียว โดยคนที่อยู่ตรงกลางนั้นมีขนาดสูงที่น้อยที่สุด เขามีผมสีเทา เขาใส่เสื้อวอร์มโดยปล่อยแขนไว้ ส่วนอีกคนเป็นชายตัวสูง ร่างกายกำยำ ผมของเขานั้นออกสีแดง และอีกคนมีความสูงพอๆ กับมิโดริคาวะ โดยเขาทำไฮไลท์ที่ผมเป็นสีทองส่วนนึง นอกนั้นเป็นสีดำ 


“นี่ มิยาซาวะ คิดว่าปีนี้เราจะชนะอีกปีมั้ยนะ?” ชายที่ตัวสูงพอๆกับมิโดริคาวะพูดขึ้นมา
“ไม่คิดเลยนะว่านายจะถามแบบนี้ทากามิ ยังไงชัยชนะก็อยู่กับพวกเราเฮียวเทย์อยู่แล้ว ใช่ไหม โอกิฮาระ ?” ชายผมสีเทาตัวเล็กสุดที่ชื่อมิยาซาวะบอกกับชายที่ชื่อว่าทากามิ
“อืม…” ชายที่ชื่อโอกิฮาระพูดอย่างนิ่ง ๆ 

“นายนี่มันมั่นใจเกินตัวจริง ๆ นะถ้าพลาดมาแบบปีก่อนหละจะหนาว ทางโตเกียว คาชิโกคุ ก็ได้กองหน้ารุ่นอัจฉริยะของเทนโนคุไปนะ อย่าลืมซะละ” ทากามิบอกกลับมิยาซาวะ


“จะว่าอะไรก็เถอะ ยังไงปีนี้เราจะต้องเป็นแชมป์ รวมถึงแชมป์ระดับประเทศ”
“น่า ๆๆๆ แต่ถึงยังไงนั่นเด็กใหม่ที่เข้ามาก็ไม่เลวนะ เรียวทาโร่หนะ” ทากามิเปลี่ยนเรื่อง


“แต่ว่าจะดูเหมือนจะควบคุมยากหน่อยนะ อัจฉริยะจากเทนโนคุเลยหละนะ”
“ยังไม่รู้หรอก แต่เรียวทาโร่ก็จะเป็นเสาหลักของเราไปอีก 3 ปี เราก็ต้องปล่อยไปบ้างหละนะ ถ้าเขาจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้” มิยาซาวะบอก
“แต่ถ้ามันผยองมากไป ชั้นคนนี้จะจัดการให้เข็ดเลยหละ” โอกิฮาระพูดขึ้นมา
“ฮะฮะ… โอกิฮาระ ก็นะ ยังโหดเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ”


-------------------------------------------------------


หลังจากที่ชมรมฟุตบอลโตเกียว คาชิโกคุซ้อมกันเสร็จพวกเขาก็ได้แยกย้ายกันกลับไปบ้านของแต่ละคน โดยทาง มิโดริคาวะ นั้นก็กลับกับเพื่อนของเขาอย่างเคียวโกะ ในตอนนี้ฟ้าก็เริ่มมืดก่อนที่ทางเคียวโกะจะพูดขึ้นมา


“นี่มิโดจังไปหาอะไรกินกันมั้ย ?”
“จะเอาอะไรดีละ ชั้นยังไงก็ได้ทั้งนั้นละ”


“เอาเป็นร้านไอศกรีมตรงนั้นดีมั้ยละ”
“ก็ได้ ๆ เงินเธอจ่ายนะ”
“หา อะไรกัน…. ฉันต้องจ่ายอยู่ด้วยเลย”
“งั้นก็ไม่ต้องไปแค่นั้นหละนะ”
“ชิ… ก็ได้หรอก”


หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เดินเข้าร้านไอศกรีม โดยทางเคียวโกะสั่งสตอเบอร์รี่ซันเดย์ ส่วนทางมิโดราคาวะนั้นก็สั่งเหมือนกัน โดยตัวเขาไม่รู้นั้นจะสั่งอะไร เลยสั่งตามเคียวโกะมันซะเลย


“นี่เคียวโกะ เธอคิดยังไงเรื่องเฮียวเทย์บ้างหนะ ได้เจ้านั่นไป ดูเหมือนว่าจะน่ากลัวขึ้นเลยนะ” มิโดริคาวะถามกับเคียวโกะ
“หมายถึง เรียวจังหนะหรอ ? ก็คงอย่างที่คิดหละนะ ทีมนั้นก็เป็นทีมที่แข็งแกร่งกว่าทีมเราอยู่แล้ว แต่ฉันไม่รู้เหมือนนะ ปีหนึ่งของเราปีนี้ก็แข็งแกร่งมากเลยนะ” เคียวโกะพูดพร้อมกินไอศกรีมไปด้วย


“เจ้าคนที่มาจากบราซิลก็ไม่เลวเลยนะ แต่ชั้นว่าเจ้านั่นยังไม่ค่อยเอาจริงเท่าไหร่ ส่วนเจ้าคนอิยิปต์เนี่ยถ้าคุยกันรู้เรื่องมากกว่าคงจะดี ส่วนหน้าหวานนั่นก็ดูมุ่งมั่นเอามาก เจ้าโกลด์ตัวเล็กนั่นก็ทำให้ฉันทึ่งตลอดเลย และก็รุ่นพี่เราก็ไม่เลวเลยนะ ถือเป็นทีมที่ดีเลยละ แต่ก็นะ... มีชั้นทั้งคนแล้วละนะ” มิโดริคาวะพูดอวด
“ฉันอยากให้รุ่นพี่คัตสึรากิมาได้ยินจริงๆ” เคียวโกะบอกกับมิโดริคาวะ


“ชิ เจ้ารุ่นพี่คัตสึรากิ ทำเป็นโหดไปได้ คิดแล้วมันก็น่าเจ็บใจ อย่าได้ใจให้มันมาก ชิ!” มิโดริคาวะพูดพร้อมหันหน้าไปแต่เขาก็ต้องตกใจ


“ระ รุ่นพี่เอย์จิ!! รุ่นพี่อากิฮิโระ!!! รุ่นพี่เทปเปย์!!!” มิโดริคาวะตกใจมากที่หันไปเห็นพวกรุ่นพี่ แต่เขาไม่เจอรุ่นพี่คัตสึรากิ
“พวกพี่ได้ยินที่ผมพูดเมื่อกี้หรือเปล่า!?!” มิโดริคาวะพูดก่อนทั้งสามจะพยักหน้า
“อย่าไปบอกรุ่นพี่นะ ผมขอหละ ไม่งั้นผมตายแน่ ๆ” เขาพูดพร้อมทำท่าขอร้อง


“ไม่ต้องบอกหรอกเพราะเขาได้ยินหมดแล้ว” เคียวโกะพูดขึ้นมา ทำให้ทางมิโดริคาวะรู้สึกแปลก ๆ ก่อนที่เขาจะหันหน้าไปข้างหลังอย่างช้า ๆ


“รุ่นพี่คัตสึรากิ!!!!!!!”


“คะ คือเมื่อกี้มันไม่ใช่หนะ นะครับ!” มิโดริคาวะพูดด้วยท่าทีที่ร้อนรน


“เจ้ามิโดริคาวะ!!!!”


“แกนะแก ลับหลังก็มานินทาฉันงั้นหรอ!!!! เจ้าบ้า!!!!!!”


Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน  Tumblr_myt377VwA11svv0fgo2_500


“อะ โอ้ยย ขอโทษคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ!”

------------------------------------------------------- 


หลังจากเสร็จที่ร้านไอศกรีมทางมิโดริคาวะกับเคียวโกะก็ได้แยกย้ายกันกลับบ้านของตน ทางมิโดริคาวะเดินเลี้ยวเข้าซอยบ้านของเขา 


“เห้อ ซวยชะมัดหันเจอเจ้ารุ่นพี่มิโดริคาวะได้ไงเนี่ย ทำไมเคียวโกะไม่บอกเลยแฮะ”


แต่เมื่อเขากำลังจะเลี้ยวเข้าซอยบ้านของตัวเอง เขาก็รู้สึกอะไรแปลก ๆ ก่อนจะหันไปเห็นบอลพุ่งมาหาเขาอย่างรวดเร็ว แต่ว่าทางมิโดริคาวะก็หลบได้ ก่อนที่เขาจะหันมาเจอกับฟูจิมะ ที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขา


“นายมาทำอะไรที่นี่เนี่ย ? แล้วเมื่อกี้นายจะทำอะไรหนะ!?!” มิโดริคาวะถามกับฟูจิมะ
“หึ… ไม่เลวเลยหนิ ถือว่าปฏิกิริยาของนายก็ยอดเยี่ยม ไม่แปลกใจหละว่าพวกนั้นถึงเรียกนายว่าอัจฉริยะ”


“แต่ว่า ฉันยังไม่ยอมรับหรอกนะ…”


“มาสู้กับฉัน สตรีทฟุตบอล 1-1” ฟูจิมะพูดพร้อมทำท่าขี้นิ้วโป้งไปที่สนามสตรีทฟุตบอลที่อยู่ตรงข้ามทางมิโดริคาวะที่ได้ยินก็ยิ้มขึ้นมา
“หึ ถ้าขอมาขนาดนี้ เห็นทีจะต้องจัดให้ซะหน่อยหละนะ….”
มิโดริคาวะยิ้มที่มุมปากก่อนที่จะพูดมา


การเผชิญหน้าของคนที่ถูกเรียกว่าอัจฉริยะ กับ ชาวญี่ปุ่นที่ถ่อตัวเองมาจากบราซิล กำลังจะเริ่มขึ้น

-------------------------------------------------------


Spoiler:
SpeedStar
SpeedStar
Posts : 35
Join date : 2018-08-20

Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน  Empty Re: Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน

Tue Aug 21, 2018 8:12 pm
ตอนที่ 3  : รอยยิ้มที่หวนคืนมา 


ในค่ำคืนอันเงียบสงบ มีเพียงแสงไฟจากดวงจันทร์ส่องลงมาที่พื้น มิโดริคาวะ และ ฟูจิมะที่กำลังจะดวลสตรีทฟุตบอลกันแบบหนึ่งต่อหนึ่งนั้นพวกเขาเดินเข้าในสนามสตรีทฟุตบอลข้างถนนหน้าทางเข้าซอยบ้านของมิโดริคาวะ โดยในสนามสตรีทฟุตบอลนั้นเป็นพื้นคอนกรีตโดยมีลูกฟุตซอลวางบนสนามเหมือนให้พวกที่เข้ามาเล่นเป็นขาประจำเข้ามาเล่น แสงจากสปอร์ตไลท์ส่งแสงลงมาที่สนามสตรีทฟุตบอล ทางมิโดริคาวะนั้นถอดเสื้อสูทของโรงเรียนออก และปลดเน็คไทด์ออก โดยทางฟูจิมะนั้นใส่เสื้อเหมือนพวกเล่นสตรีทฟุตบอล โดยเขานั้นก็ได้ทำการเดาะบอลรอทางมิโดริคาวะอยู่ ก่อนที่มิโดริคาวะจะปลดกระดุมเม็ดบนสุดออก แล้วพับแขนเสื้อขึ้นดูเหมือนว่าเขาจะพร้อมแล้ว


“เอาหละชั้นพร้อมแล้ว…” ทางมิโดริคาวะบอกกับฟูจิมะที่กำลังเดาะบอลอยู่ ก่อนที่ฟูจิมะจะกระดกบอลขึ้นมาที่หัวของเขา เขาใช้หัวตั้งบอลไว้สักพักก่อนจะใช้หัวกระดกมาไว้จับบอลเอาไว้


“นี่นายไม่คิดจะเปลี่ยนเสื้ออะไรหน่อยเหรอ ?”
“ไม่ต้องหรอก พอดีเสื้อนั้นมันเหม็นเหงื่อไปแล้วหนะ แค่นี้ชั้นก็เล่นได้แล้วละนะ”
“งั้นหรอกหรอ…. เอาหละนายเริ่มก่อน”


ทางฟูจิมะโยนบอลไปให้ทางมิโดริคาวะทางมิโดริคาวะนั้นถอยหลังมาหนึ่งก้าวก่อนจะใช้เท้ารับบอลเอาไว้ก่อนจะเดาะแล้วกระดกบอลเอามาไว้ที่หัวเหมือนที่ทางฟูจิมะทำไปเมื่อสักครู่นี้ ฟูจิมะที่ได้เห็นก็ถึงกับยิ้มอย่างพอใจที่เห็นทางมิโดริคาวะทำได้เนียนตาไม่ต่างจากเขา


“หึ… น่าสนใจดีหนิ” 


ทั้งสองเผชิญหน้ากัน โดยทางมิโดริคาวะนั้นได้เป็นคนทีเริ่มเล่นก่อนทางมิโดริคาวะนั้นเริ่มเลี้ยงย่อง ๆ อย่างช้าเข้าหาทางฟูจิมะก่อนที่จะพยายามคลึงบอลเอาไว้เหมือนพวกสตรีท ฟุตบอลเล่นกัน โดยทางฟูจิมะนั้นก็ย่อตัวถอยหลังลงเรื่อย ๆ เพื่อดูการเคลื่อนไหวของทางมิโดริคาวะ โดยปกติการเป็นกองหลังนั้นจะต้องหันข้างเข้า ซึ่งทางฟูจิมะนั้นทำแบบนั้นเพราะว่าจะทำให้สามารพลิกตัวได้ง่ายขึ้นและง่ายต่อการจิ้มบอลออกจากเท้าของคู่ต่อสู้ ทางมิโดริคาวะเหมือนจะเห็นช่องว่างระหว่างตัวของฟูจิมะและประตูนั้นมันเริ่มใกล้ตัวของเขาเข้ามา ก่อนที่มิโดริคาวะจะหลอกจิ้มบองไปข้างหน้า แต่ว่าทางฟูจิมะพลิกตัวเสกัดจนบอลชนกำแพงเด้งมาหาตัวของเขาเอง


“เห… นายก็ไวเหมือนกันนี่” มิโดริคาวะบอกกับฟูจิมะ
“ชั้นไม่เสียไรกับอุบายโง่ๆ แค่นี้หรอกนะ”


หลังจากนั้นก็เป็นทางฟูจิมะที่ได้เอาคืนบ้างเขาทำเหมือนทางมิโดริคาวะบ้าง แต่ว่าการคลึงบอลแบบสตรีทฟุตบอลของเขานั้นดูจะคล่องกว่าทางมิโดริคาวะ เขาทำเหมือนพวกที่เตะสตรีทฟุตบอลโชว์ตามคลิปที่คนได้ดูกัน ได้อย่างเนียนตา ก่อนที่เขาจะแตะบอลไปอีกซ้ายของมิโดริคาวะพร้อมม้วนตัวไปทางขวาได้อย่างรวดเร็ว ทางมิโดริคาวะได้แต่ยืนขาตายเมื่อทางฟูจิมะได้ผ่านตัวของเขาไป แต่ว่าทางมิโดริคาวะก็รีบกลับตัวอย่างรวดเร็ว แล้วเข้ามาสกัดที่ทางฟูจิมะกำลังจะยิงตัดหน้า แต่ดูเหมือนว่าทางฟูจิมะนั้นเหมือนจะรู้ทัน เขาเปลี่ยนจากการยิงเป็นการแตะบอลด้วยข้างเท้าด้านนอกหนีตัวของมิโดริคาวะ ทำให้การเข้าสกัดของมิโดริคาวะนั้นเป็นการเข้าอย่างพรวดพราดและทางฟูจิมะก็ได้แปบอลด้วยข้างเท้าด้านนอกเข้าประตูโกล์หนูได้อย่างง่ายดาย


“1 ลูกแล้วนะพ่ออัจฉริยะ” ฟูจิมะพูดพร้อมชี้ไปที่มิโดริคาวะ ทางมิโดริคาวะเห็นอย่างนั้นเหมือนมันจะปลุกไฟในตัวของเขาออกมา เขายิ้มอย่างพอใจเมื่อได้สู้กับคนที่แข็งแกนร่งอย่างฟูจิมะ


“ไม่เลวเลยนี่ ขอชั้นเอาคืนบ้างหละนะ”


หลังจากนั้นทางมิโดริคาวะก็ได้เริ่มใหม่อีกครั้งเขาทำแบบเดิมแต่ว่าเขานั้นเริ่มจะบุกเข้าหาทางฟูจิมะมากขึ้นเขาเริ่มทำการ *** สเต็ป โอเวอร์ หรือสิ่งที่พวกเราเรียกกันว่าการสับขาหลอก ก่อนที่จะใช้ ** ดับเบิ่ล ลังก์ เหมือนกับที่ ** โรนัลโด้ บราซิลชอบทำ เพื่อหลบฟูจิมะ แต่ว่าเทคนิคนั้นก็ไม่เป็นผล เพราะว่า เขานั้นคุ้นชินกับตอนที่อยู่บราซิลก่อนที่เขาจะกลับมาตัวข้างหน้าทางฟูจิมะได้อย่างรวดเร็ว


“ยังหรอกน่า!”
“ว่าแล้วว่าคนอย่างนายต้องทำกลับมาได้”


ทางมิโดริคาวะเหมือนรู้ว่าทางฟูจิมะจะสามารถกลับมาเผชิญหน้ากับเขานั้น แต่นั้นมันก็พอดีที่จะได้ทำให้เขาทำสิ่งที่เขาคิดได้ เขาใช้เท้าขวาของตัวเองแตะออกไปที่ทางซ้าย ก่อนที่จะเอาใช้ข้างเท้าด้านนอกแตะเข้ามาอย่างรวดเร็ว จนทำให้ทางฟูจิมะนั้นเสียหลักไปชั่วคณะ


“แย่แล้ว! นะ นี่มัน!?! อิลาสติกโก้”


ทางฟูจิมะที่โดนท่าอิลาสติกโก้ไปจนตัวเองนั้นเสียหลัก จนทำให้ทางมิโดริคาวะมีโอกาศยิงได้แต่ว่าทางฟูจิมะนั้นก็กลับตัวมาอย่างรวดเร็ว


“คิดว่าจะผ่านไปได้งั้นเหรอ !?!”
“หา เฟคหรอ ?”


การยิงของมิโดริคาวะนั้นเป็นการหลอกยิงก่อนที่เขาจะดึงมาข้างขวาของตัวเองนั้นก็ทำให้ทางฟูจิมะนั้นเสียหลักจนล้มตูดกระแทกพื้นลงไป ก่อนที่ทางมิโดริคาวะจะจิ้มบอลเข้าไปอย่างง่ายดาย


“อิลากติกโก้ ท่าประจำตัวของ**โรนัลดินโญ่ ที่เป็นตำนานของบราซิลไงหละ!” มิโดริคาวะพูดพร้อมทำท่าชี้ไปทางฟูจิมะที่กำลังลุกขึ้นมา ดูเหมือนว่าเขาจะรู้สึกสนุกเหมือนกันที่ทางมิโดริคาวะสามารถทำให้เขาล้มลงไปได้


ทั้งสองเล่นในสนามสตรีทฟุตบอลด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มถึงมันจะเป็นแค่การเล่นธรรมดาที่ไม่มีอะไรมาเกี่ยวข้อง แต่มันก็ไม่ทำให้สองคนนี้ต้องยอมกัน เพราะนี่แมทต์เล็กๆ ที่จะวัดทักษะของทั้งสองคนนี้ ทั้งสองคนนั้นปล่อยทักษะที่ตนมีออกมามากมาย แต่ก็ไม่มีใครยอมกันสักที ตั้งแต่ทั้งสองได้ทักทายกันไปอย่างละลูกนั้น ก็ยังไม่มีใครสามารถยิงประตูกันได้อีกเลย


“เห้! พวกแกหนะ!” เสียงหนึ่งตะโกนดังออกมา พวกเขาเป็นกลุ่มผู้ชายที่ดูจะเป็นเหมือนเจ้าถิ่นของที่แห่งนี้ พวกเขามากันเป็นกลุ่ม ดูเหมือนจะเป็นนักเลงของแถวนี้


“พวกนั้นเป็นใครกัน….?” ฟูจิมะถามกับมิโดริคาวะ
“นักเลงแถวนี้หละ พวกมันจะมาเตะที่สนามนี่หละ” มิโดริคาวพูดพร้อมเอามือปาดเหงื่อ


“นี่พวกรุ่นพี่คร้าบ ผมขอตัดสินกับเจ้านี่แค่ลูกเดียวก่อนนะ” มิโดริคาวะโบกมือพร้อมพูดกับพวกนั้น


“อะไร! ที่นี่มันที่ของชั้น แล้วลูกฟุตซอลนี่ก็ของชั้น นายมาเล่นโดยไม่ขออนุญาต ชั้นจะให้พวกนายได้ยังไงหา….” หัวโจกของนักเลงกลุ่มนั้นพูดขึ้นมา
“อะไรกัน อะไรกัน ฟุตซอลลลูกนี่มันของเด็กประถมที่พวกรุ่นพี่มาแย่งสนามตอนเขาเล่นไปมั้ยไม่ใช่หรอกเหรอ?” มิโดริคาวะถามกลับไปด้วยท่าทีที่ดูกวนใจพวกนั้นแบบสุด ๆ


“แล้วมันมีปัญหาอะไร ? แต่พวกชั้นมากกว่าออกไปซะ”


“ได้! พวกผมไปแน่ แต่ผมขออะไรอย่างนึงนะ ผมกับเจ้านี่” มิโดริคาวะพูดพร้อมชี้ไปทางฟูจิมะ
“ขอดวลกับพวกรุ่นพี่ก่อนจะได้มั้ย ?”


“ตลกน่า พวกแกมีแค่สองคน จะให้พวกเราส่งไปแค่สองคนเพื่อเสียเวลางั้นหรอฮะ !!?!!” หัวโจกของกลุ่มนักเลงตอบกลับไป
“ถ้าอย่างงั้น สองต่อห้า ก็ไม่เสียหายนะจะเปลี่ยนตัวเมื่อไหร่ก็ได้”


“แต่ว่านะ ถ้าให้ขนาดนี้แล้วยังโกงเหมือนที่ผ่านมา… ก็คงเรียนว่าลูกผู้ชายชาตินักเลงไม่ได้หรอก คงเป็น เอ่อ…. ขยะข้างถนนหละนะ” ทางมิโดริคาวะพูดตอกกลับไป ทำให้กระตุ้นต่อมความโกรธของกลุ่มนักเลงเหล่านั้นเป็นอย่างมาก ทางฟูจิมะที่ได้ยินก็ยิ้มอย่างพอใจ


“ชิ จะอวดดีไปแล้วเจ้าเด็กเมื่อวานซืน! ชั้นจะขยี้แกเอง!!!!”


“ได้ยินคำนี้แล้วมันทำให้นึกถึงใครบางคนเลยแฮะ” มิโดริคาวะได้ยินคำว่า ‘เด็กเมื่อวานซืน’ มันทำให้เขานึกถึงตอนแรกที่ทางตัวของเขานั้นได้เจอกับคัตสึรากิกัปตันทีมของเขา


หลังจากนั้นทั้งสองก็ได้เล่นสตรีทฟุตบอลกับพวกกลุ่มนักเลงด้วยจำนวนสองต่อห้าคน แต่เรื่องจำนวนนั้นไม่เป็นปัญหากับพวกเขาทั้งสองคน พวกเขาไล่ต้อนเหล่านักเลงกลุ่มนั้นไปอย่างง่ายดาย ถึงแม้พวกนั้นจะใช้ลูกหนักแต่ด้วยศักยภาพก็ทำอะไรเด็ก ม.ปลาย จากคาชิโกคุได้เลย พวกเขาบดขยี้เหล่านักเลงนั้นด้วยสตรีทฟุตบอลจนอยู่หมัด


“กะ เก่งเป็นบ้าเลย” หัวหน้าของแก๊งค์นักเลงนั้นพูดขึ้นมาอย่างช้า ๆ สภาพของเขาตอนนี้ไม่ต่างอะไรไปจากผู้แพ้ โดยลูกน้องของเขานั้นนั่งด้วยความเหนื่อย บางคนนี่แทบจะสิ้นสภาพเลยก็ว่าได้ ก่อนที่ทั้งสองจะเดินกลับไป


“ไปละนะครับ ขอบคุณที่เล่นด้วยนะครับรุ่นพี่!”


มิโดริคาวะเดินจากกับพร้อมบอกลากับกลุ่มนักเลงพวกนั้น พร้อมกับฟูจิยามะ ทั้งสองเดินเข้าไปทางซอยที่มิโดคาวะอยู่ ก่อนที่มิโดริคาวะจะเริ่มบทสนาขึ้นมา


“นายนี่ก็ไม่เบาเลยนะ ฟูจิมะ”
“หึ… นายทำแบบนั้นกับชั้นได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้นหละ”
“ว่าแต่…. ที่บราซิลฟุตบอลเป็นยังไงบ้างอะ?”
“โหดกว่านี้หลายเท่า กว่าชั้นจะได้ยอมรับจากที่นั่นชั้นก็ต้องฝึกมากเลยหละ ชั้นนึกว่ามาญี่ปุ่นชั้นจะไม่เจอคนแบบนาย แต่เจอแบบนี้แล้วก็ถือว่าคุ้มหละนะ”


“ว่าแต่….”
“ยังมีคนที่เหมือนพวกนายสินะ พวกที่ถูกเรียกว่ากลุ่มแห่งอัจฉริยะ”


“อื้มม! พวกนั้นเก่งมากเลยหละ….”
“หึ… คิดว่าจะมาญี่ปุ่นไปหน่อย แต่ว่าชั้นคิดว่าชั้นมาถูกเวลาแล้ว…”


“มิโดริคาวะ…..” ทางฟูจิมะหยุดเดิน ก่อนที่ทางมิโดริคาวะหันหน้ามา


“ชั้นจะพาคาชิโกคุขึ้นเป็นที่หนึ่งของญี่ปุ่น ชั้นจะโค่นพวกนาย แล้วเป็นที่หนึ่งของประเทศญี่ปุ่นให้พวกนายได้เห็น…”
“ก็สวยสิ ชั้นก็จะไม่หยุดแค่นี้เหมือนกัน” มิโดริคาวะหันหน้ามายิ้มอย่างดีใจอย่างสุด ก่อนจะตอบกลับทางฟูจิมะ ก่อนที่ทางฟูจิมะจะเดินกลับไป


“ว่าแต่นายจะไปไหนหนะ?” มิโดริคาวะถามกับทางฟูจิมะที่อยู่เดินกลับไป
“พอดีฉันเดินเกินบ้านของชั้นหนะพอดีอยู่แถวนี้เหมือนกัน”



…………………..



“งั้นหรอกหรอ ?”


มิโดริคาวะมองไปทางฟูจิมะที่เดินกลับไป เขายิ้มที่มุมปากของตัวเองก่อนจะหันแล้วเดินกลับบ้านของตัวเอง เป็นอีกวันที่ยาวนานของเขา หลังจากการซ้อม และการ 1-1 กับฟูจิมะรวมถึงการแข่งสตรีทฟุตซอลกับพวกนักเลงหน้าซอยอีก มิโดริคาวะเดินเข้าไปบ้านของตัวเอง ก่อนที่เขาจะกลับไปพักผ่อนรอวันถัดไป

------------------------------------------------------


ชมรมฟุตบอลโตเกียว คาชิโกคุ 


หลังจากเวลาของการเรียนได้เสร็จสิ้น ก็ถึงเวลาของการซ้อมของชมรมฟุตบอลคาชิโกคุ ที่จะต้องไปแข่งชิงแชมป์โตเกียวเพื่อแข่งขันอินเตอร์ไฮท์ในอีกจะเริ่มในอีกสามอาทิตย์ข้างหน้า โดยทางมิโดริคาวะที่เข้ามาในวอร์มร่างกายในสนามซ้อม เขาบิดเอวไปมาก่อนที่จะเห็นทางฟูจิมะเดินเข้ามา


“โย่ววววว ว่าไงฟูจิมะ วันนี้ก็ไม่ได้มาเรียนอีกสินะ…”
“อย่ามาเรียกชั้นเหมือนกับว่าเราสนิทกันอย่างนั้นนะ!”
“น่าๆ อย่างน้อยก็ถือว่าเคยเตะบอลเล่นด้วยกันแล้วละนะ ฮี่ฮี่” ทางมิโดริคาวะพูดทำให้ทางเคียวโกะสดุดกับพูดของเขาแต่เธอก็ยังไม่เข้าไปถาม


“เอาหละมากันครบแล้ว ไปวิ่งวอร์มได้! วันนี้จะมีการแยกทีมขาว แดงรวมปีนะ”
“ครับ!”


หลังจากนั้นเหล่านักเรียนก็ไปวอร์มร่างกายของตัวเอง พร้อมยืดโดยใช้เวลา 15 นาที อาจารย์สเตฟานที่เดินเข้ามาก็เรียกทุกคนที่กำลังวอร์มเข้ามา


“เอาหละวันนี้ครูจะดูศักยภาพของพวกเธอทุกคนนะ โดยจะแบ่งทีมตามนี้ใบกระดาษที่แผ่นกระดานนี้ ใครอยู่ทีม A ให้เอาเสื้อเอี๊ยมสีแดงมาใส่ ส่วน B ใส่เอี๊ยมสีน้ำเงินนะ ครูให้เวลาพวกเธอทำความคุ้นเคยกันสัก 20 นาทีนะ” อาจารย์สเตฟานพูดพร้อมชี้ไปที่กระดาษที่พุ่งเอามาแปะบนบอร์ดข้างสนามซ้อม ก่อนที่นักเรียนจะเข้าไปดู


ทางมิโดริคาวะที่เข้าไปดูชื่อของตัวเองเสร็จแล้ว เขานั้นได้อยู่ทีม B ดูเหมือนว่าในทีมนั้นจะมีทาง มาโคโตะไอ้หนุ่มหน้าหวานอยู่ด้วย รวมถึง เรียวเฮย์ เซ็นเตอร์ร่างเล็ก รวมถึงฟูจิมะอีก ทางมิโดริคาวะหันหน้าไปเจอทางอารากิ บุนตะเดินเข้ามาข้างหน้าเขา 


“ดูเหมือนฟ้าจะเป็นใจให้ฉันได้อยู่กับนายนะ” บุนตะพูดพร้อมยื่นมือมาจับกับมิโดริคาวะ ทางมิโดริคาวะก็ยอมจับมือด้วยความเต็มใจ
“ครับ รุ่นพี่ ว่าแต่รุ่นพี่เล่นตำแหน่งไหนหนะ”
“กองกลางตัวรุกหนะ”
“งั้นก็ประทานบอลสวย ๆ มาให้ผมหน่อยนะ!” มิโดริคาวะพูดพร้อมชูนิ้วโป้งให้กับบุนตะ


“อื้ม… ฝากตัวด้วยนะ” บุนตะพูดพร้อมเดินไปวอร์มรอที่ตำแหน่งขอตนเอง


“นี่นายหน้าหวาน!” มิโดริคาวะวิ่งเข้าไปหามาโคโตะที่กำลังรวบผมของตัวเองอยู่
“มีอะไรหรือเปล่าครับ?” มาโคโตะพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูสดใสเกินผู้ชายทั่วไปเช่นเดิม
“น่าเสียดายนะ ที่ไม่ได้เจอกับชั้น แต่ก็เต็มที่นะ”
“อื้ม! ครับ….” มาโคโตะพูดด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม


“พวกนายหนะ! อย่าเล่นพลาดซะละ เพื่อประเทศญี่ปุ่น! ชั้นจะคอยคุ้มกันข้างหลังนี้เอง” ทางเรียวเฮเริ่มตะโกนสั่งเพื่อน หลายคนอาจจะงงกับคำพูดของเรียวเฮย์ที่ดูแปลกๆ แต่ว่าพวกเขาก็รู้สึกกับความหึกเหิมที่เกิดขึ้นในทีม


ส่วนทางทีม A นั้นที่นำโดย กัปตันทีมอย่างคัตสึรากิ และมีเทปเปย์ที่อยู่ด้วยก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปคุยกับเทปเปย์


“ถึงเวลาที่จะได้สั่งสอนเจ้ามิโดริคาวะแล้วหละนะ ฉันจะขยี้มันให้เละ!” 
“หวังว่านายจะทำได้ ฮะฮะ”
“นายต้องบอกว่าฉันจะต้องทำได้ซี่!!!!!” 


“คัตสึรากิก็เป็นอย่างงี้อยู่เรื่อยเลยแฮะ แต่ก็น่าสนุดกดีหนะนะ” เอย์จิที่มองทั้งคู่พูดกันอยู่ก็ยิ้มออกมา


ทางเซป ไนล่าห์ที่อยู่ทีม A นั้นมองไปที่ทีม B ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึก ๆ เหมือนเข้าพร้อมแล้วกับแมทต์อุ่นเครื่องภายในนี้ ส่วนทาง ไซจิก็ดูหาว ๆ เหมือนเขารู้สึกเบี่อ ทางจุนนั้นก็วอร์มร่างกายที่ตำแหน่งแบ็คขวาของตนเอง ทางอากาฮิโระนั้นยังยืนเหม่อ ๆ อยู่จนทางคัตสึรากิจะทัก


“นี่อากาฮิโระ”


……


“อากาฮิโระ!!”


เมื่อทางคัตสึรากิตะโกนเรียกทางอากาฮิโระ ก็สะดุ้งขึ้นเล็กน้อยก่อนที่เขาจะเดินไปที่ตำแหน่งของตนเอง ดูเหมือนว่าทีม A นั้นจะใช้กลางรุกสองตัว และให้ทางคัตสึรากิยืนเป็นกองกลางตัวเดินเกมส์อยู่คนเดียว ส่วนทางซาคาอินั้นยังคงนั่งสำรองของทีม B ดูเหมือนว่าเขาจะต้องสลับกับมาโคโตะคนละครึ่งเพราะทั้งสองเล่นตำแหน่งเดียวกัน แล้วคงตกลงกันได้แล้ว เพราะด้วยความน่ารักของตัวมาโคโตะและความไม่ถือตัวของซาคาอิ ทำให้เรื่องนี้คงราบรื่นด้วยดี 


“นี่ริคิมารุ เต็มที่นะ! อย่าให้เจ้ามิโดริคาวะมันยิงได้!!!” คัตสึรากิหันไปตะโกนบอกทางริคามารุผู้รักษาประตูร่างเล็กที่อยู่ในโกล์
“ครับผม!” ริคามารุตอบด้วยความมุ่งมั่น เพราะเขารู้ว่าการซ้อมวันนี้จะเป็นวันสำคัญกับการเลือกผู้เล่นทั้ง 23 คน


“เหมือนรุ่นพี่จะเล่นเราให้ได้เลยแฮะ…” มิโดริคาวะหันไปที่ทีม A ก่อนจะบ่นออกมา ก่อนที่เขาจะหันไปเห็นรุ่นพี่อีกคนที่เล่นกองหน้าคู่กับเขาเดินเข้ามาหาเขา ชายคนนั้นมีความสูงมากกว่ามิโดริคาวะอยู่พอสมควร กองหน้าร่างยักษ์คนนั้นเข้ามาทักทายมิโดริคาวะ


“เต็มที่นะเจ้าหนู! ชั้น นาโอกิ ทาเคยาม่า ฝากตัวด้วยนะเจ้าอัจฉริยะแห่งเทนโนคุ”
“ขะ ขะ ครับ!” ทางมิโดริคาวะพูดด้วยความตกใจเพราะว่าชายคนนั้นมีความสูงมาก


“สูงเป็นบ้าเลยแฮะ…..”


หลังจากที่ทั้งสองทีมรวมตัวกันเสร็จ ทางอาจารย์สเตฟานเอาบอลมาตั้งที่วงกลมกลางสนาม เป็นทางทีม B ของมิโดริคาวะที่ได้เขี่ยบอลก่อน การอุ่นเครื่องนัดสำคัญของชมรมฟุตบอลโตเกียว คาชิโกคุกำลังจะเริ่มขึ้นทีม B ของมิโดริมะได้เป็นทีมที่เริ่มเขี่ยบอลก่อน พวกเขาไม่เร่งรีบอะไรมาก ต่อบอลไปเรื่อย ๆ ซ้ายทีขวาที ให้ทีม A เข้ามาบีบสูงขึ้นเรื่อย ๆ และทำให้มีที่ว่างในการเจาะการบุกมากขึ้น


“ไม่ต้องดัยสูงมาก กดดันก็พอ!” คัตสึรากิตะโกนสั่งลูกทีมของเขา


การเจอกันของทั้งสองทีมนั้นยังเป็นฝ่าย B ที่ครองบอลอยู่ โดยข้างสนามมีอาจารย์สเตฟานที่กอดอกยืนดูอยู่ ส่วนทางเคียวโกะเหมือนกำลังเขียนข้อมูลในสมุดของเธออยู่ ทางทีม B เริ่มบุกก่อนโดยทางมาโคโตะที่แปะบอลจังหวะเดียวมาให้บุนตะ แต่ว่าไซจิได่เข้ามาบีบแต่ว่าด้วยไหวพริบของบุนตะทำให้เขาทำท่าขยับหลอกจะไปทางขวาแต่ว่าเขาจะพลิกตัวไปทางซ้ายได้อย่างรวดเร็วก่อนจะผ่านไซจิมาให้ ก่อนเขาจะเหลือบไปเห็นคัตสึรากิที่กำลังวิ่งบีบเข้ามา ทางบุนตะได้ตอกส้นกับไปให้ทางมาโคโตะ แต่ว่าทางอากาฮิโระ กับทาง ไซจินั้นกลับเข้ามาบีบทางมาโคโตะจนไม่มีช่องที่จะส่งไปข้างหน้าได้ง่าย ๆ


“เฮ่!” เรียวเฮย์ตะโกนจากข้างหลังของมาโคโตะทำให้ทางมาโคโตะส่งคืนไปที่เรียวเฮย์


โดยปกติแล้วเรียวเฮย์เป็นกองหลังที่เปิดเกมส์จากข้างหลังได้ดีตั้งแต่การซ้อมวันแรก เขาลากบอลขึ้นมาก่อนจะส่งบอลให้แบ็คซ้ายอย่างฟูจิมะ ทางเอย์จิวิ่งเข้ามาหวังจะตัดบอลแต่ว่าทางฟูจิมะวิ่งเข้าไปแตะบอลไปให้บุนตะแล้วทางบุนตะเห็นทางฟูจิมะวิ่งขึ้น ก่อนจะดีดบอลไปอย่างรวดเร็ว ทางฟูจิมะได้บอลตั้งดวลตัวต่อตัวกับจุน แบ็คขวาหน้าหล่อที่เป็นตัวจริงของทีมเมื่อปีก่อน เขามีโอกาสส่งให้ปีกซ้ายกับรุ่นพี่ทากาฮาระที่เป็นปีกซ้าย แต่ทางฟูจิมะนั้นเลือกที่จะวิ่งกระชากผ่านจุนไป ทางจุนไม่ยอมรีบวิ่งบีบเข้ามาแต่จะสไลด์ดักบอลไว้แต่ว่าทางฟูจิมะล็อคบอลกลับมาได้ทัน ก่อนจะเห็นทางมิโดริคาวะที่มองเขาอยู่ เพียงพริบตาเดียวทางฟูจิมะก็เปิดบอลด้วยเท้าขวาพุ่งเข้าไปจุดนัดพบให้ทางมิโดริคาวะพุ่งมาโหม่งได้พอดี บอลนั้นเหมือนจะเข้าไปที่หัวของมิโดริคาวะ แต่ว่าทางเทปเปย์นั้นพุ่งเข้ามาโหม่งสกัดออกไปได้ก่อน ทำให้ทีม A รอดจากการเสียประตูไปอย่างหวุดหวิด


“ไนซ์!! รุ่นพี่เทปเปย์” ไซจิพูดพร้อมชูนิ้วโป้งให้กับเทปเปย์


“รุ่นพี่เทปเปย์จังหวะนั้นสุดยอดเลยนะคะ ที่กลับมามาทันมาก” เคียวโกะหันไปพูดกับอาจารย์สเตฟาน
“นี่หละเทปเปย์กองหลังในอุดมคติของกองหลังทุกคน เขาทำทุกอย่างไม่ให้บอลผ่านไปได้ ฉายาของเขาคือ กำแพงเบอร์ลิน’’


“โห… สุดยอดเลยแฮะ!” เคียวโกะพูดไปด้วยสายตาที่เป็นประกาย


“แต่ข้อเสียของเทปเปย์หนะ ไม่ใช่คนที่เปิดเกมส์อะไรดีเท่าไหร่ แต่เรื่องเกมส์รับต้องยกให้เขาเลยหละ ดีนะที่ปีนี้มีคนอย่างเรียวเฮย์มา ทำให้เรามีมิติในเกมส์รุกมากกว่าเดิม” สเตฟานพูดพร้อมยิ้มอย่างภูมิใจ


แต่ว่าการบุกนั้นมันยังออกหลังประตูทำให้ทางทีม B ได้ลูกเตะมุมทางบุนตะเข้าไปวางบอลที่จุดตั้งเตะ ทางกองหลังต่างกับกองหน้าต่างเบียดกัน โดยทางเทปเปย์นั้นที่เป็นคนประกบมิโดริคาวะให้ไม่ได้พลิกไปได้ ทางบุนตะเปิดบอลเข้ามาบอลนั้นบอลนั้นย้อยเข้ามาที่มิโดริคาวะและเทปเปย์อยู่พอดี ทางมิโดริคาวะนั้นยังไม่สามารถสลัดตัวประกบออกไปได้ แต่ว่าเขาพยามพลิกตัวจนหนีทางเทปเปย์มาพ้น แต่ก็กระโดดโหม่งเข้าไปเต็มหัว แต่ว่าทางเทปเปย์นั้นกระโดดโหม่งสวนออกไปได้ บอลนั้นกระดอนออกมาข้างนอก ทางมาโคโตะที่รออยู่แถวสองวิ่งเข้ามาตะบันเข้าไปเต็มหลังเท้า แต่ว่าบอลนั้นกลับพุ่งเข้าไปติดกองหลังอีกคนที่มีร่างสูงพอ ๆ กับเทปเปย์อย่าง ทากเคชิ ซึ่งตอนนี้อยู่ปี 2 บอลนั้นเด้งออกมาทางอากาฮิโระวิ่งเข้ามาฉกบอลไปอย่างรวดเร็ว เขานั้นเป็นกองกลางตัวรุกที่มีรูปล่างที่เล็กเขาวิ่งบุกขึ้นไป ทางมาโคโตะที่ทำบอลเสียก็รีบเข้าไปตาม แต่ว่าทางมาโคโตะเห็นอย่างนั้นแล้วส่งบอลไปที่ไซจิ แปะบอลจังหวะเดียวไปให้ทางเอย์จิที่วิ่งอยู่ ทางเอย์จินั้นกระชากบอลขึ้นมาแต่ว่าทางฟูจิมะกลับมาทันด้วยความเร็วสูง 


ทางเอย์จิหยุดเขาเผชิญหน้ากับฟูจิมะ เขามองซักพักก่อนจะเหลือบไปเห็นทางจุนที่กำลังวิ่งโอเวอร์แลปขึ้นมาทำให้ทางเอย์จิหันหน้าไปอีกทางก่อนจะแปะบอลไปให้จุนที่วิ่งเข้ามา ก่อนจะเปิดแต่ว่าทางฟูจิมะก็ยังเข้ามาบีบได้ทำให้บอลนั้นโดนฟูจิมะออกหลังไป 


“ไม่เป็นไรนะ จุน ไปเตะมุมกัน” ไซจิบอกกับจุน



ทางจุนหันมามองทางฟูจิมะที่เอาเขาอยู่ทุกหมัดแถมยังหลอกเขาไปหนึ่งจังหวะ เขาเดินเอาบอลไปตั้งเพื่อเตรียมเตะมุมจากฝั่งขวา ทางจุนเปิดบอลเข้ามาแต่ว่าทางเรียวเฮย์เซ็นเตอร์ร่างเล็กที่กระโดดสูงกว่าคนอื่นโหม่งเคลียร์ออกมาได้ ทำให้กองหน้าของทีม A อย่าง มาเอดะ คาวาซากิ ปี 2 ถึงกับตะลึงบอลนั้นลอยออกมาจะถึงทางบุนตะ แต่ว่าทางคัตสึรากิวิ่งเข้ามาตัดดหน้าได้จากจังหวะที่ทางบุนตะประมาท ทางคัตสึรากิล็อคบอลเข้ามาทางเท้าขวาของตัวเองก่อนจะตะบันซัดบอลไปด้วยหลังเท้า บอลนั้นเป็นบอลที่พุ่งแรงและยังติดไซร์โป้ง ทางชินจิ โคบายาชิ ปี 3 นั้นพยายามกระโดดปัดแต่บอลนั้นผ่านมือเขาไป แต่ว่าน่าเสียดายที่บอลนั้นพุ่งไปโดนเสาอย่างน่าเสียดาย


“ละ ลูกยิงเมื่อกี๊นี้ พุ่งแรงมาก!” เคียวโกะอุทานออกมา
“คัตสึรากิ เป็นกองกลางสารพัดประโยชน์ ในตอนนี้เราจะเห็นเขาเล่นเป็น**โฮลด์ดิ้ง มิดฟิลด์ แต่ว่าเขานั้นสามารถเล่นในตำแหน่งตัวรุก และเป็นหน้าต่ำได้ด้วย นอกจากนี้แล้ววิสัยทัศน์ของเขานั้นยังถือว่าดีใช้ได้เลยหละ อาจจะด้อยกว่าบุนตะ แต่ก็ทดแทนมาด้วย ลูกยิงไกลที่รุนแรง” ทางสเตฟานอธิบายให้เคียวโกะฟัง
“นี่ มันออกแนวคล้ายๆ **สตีเว่น เจอร์ราร์ด ตำนานของทีมลิเวอร์พูลเลยนะคะ” 


“ก็คงประมาณนั้น แต่บุนตะนั้นเป็นกองกลางที่เลี้ยงบอลไปกับเท้าได้ดีมาก และยังมีวิสัยทัศน์ส่งบอลที่ดีเยี่ยม และยังชอบสอดขึ้นไปทำประตูได้ตลอดอีกด้วย จะว่าไปทั้งสองคนนั้นก็ทำอย่างนั้นหละ ที่เก่งเรื่องวิ่งขึ้นไปยิง”

“ถ้าคัตสึรากิคือห้องเครื่องที่มีประสิทธิภาพ ส่วนบุนตะก็เหมือนกับเครื่องมันสมองของทีม แต่ว่าสิ่งที่ฉันอยากเห็นก็คือ”
“หอกที่แหลมคมที่จะทิ่มแทงแนวรับของฝั่งตรงข้าม” สเตฟานพูดพร้อมมองไปที่มิโดริคาวะ


SpeedStar
SpeedStar
Posts : 35
Join date : 2018-08-20

Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน  Empty Re: Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน

Tue Aug 21, 2018 8:15 pm
“รุ่นพี่คัตสึรากินี่ก็ไม่เบาเลยแฮะ ลูกยิงไกลเมื่อกี้สุดเลยนะๆ” มิโดริคาวะพูดพร้อมเช็ดเหงื่อของตัวเอง
“อย่าประมาทเขาหละถ้าเขาจะได้ง้างเท้าหนะ”


“ทางคัตสึรากิที่หันหน้าไปหามิโดริคาวะ ก็ทำหน้าที่ไม่พอใจอย่างสุด ๆ”
“นี่แค่ทักทายนะ มิโดริคาวะต่อไปนี้ฉันจะโชว์ของจริงให้นายดูเอง” ทางคัตสึรากิยิ้มที่มุมปากก่อนจะวิ่งกลับตำแหน่งไป ทางมิโดริคาวะที่ได้ยินก็ยิ้มอย่างพอใจ


เกมส์ยังคงบุกอย่างดุเดือดและสูสี ทางทีม B ฟูจิมะและทางมิโดริคาวะนั้นยังไม่สามารถพังทลายแนวรับที่ถูกคุ้มกันด้วย อิวากิ เทปเปย์ไปได้ ส่วนทีม A นั้นก็มีการบุกที่หวือหวาจากปีทั้งสองข้างอย่าง เซป ที่สร้างความปั่นป่วนทางซ้ายของทีม B ได้แต่นั้นก็ยังไม่ผ่านการซ้อนหลังของเรียวเฮย์ไปได้ สวนจุนนั้นเหมือนพยายามจะผ่านฟูจิมะไปให้ได้แต่ตอนนี้เขาก็ยังทำไม่ได้ และดูเหมือนเขาจะดูหัวเสียอย่างสุด ๆ


“นี่จุน นายค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไปก็ได้นะ” ทางไซจิเข้ามาบอกกับจุน แต่ว่าทางจุนนั้นไม่พูดอะไรก่อนจะเดินวิ่งกลับตำแหน่งของตน
“ดูท่ารุ่นพี่จุนเหมือนจะหลุดไปแล้วนะคะ” ทางเคียวโกะพูดขึ้นมา แต่ทางสเตฟานไม่ได้พูดอะไรก่อนจะยิ้มขึ้นมาแล้วจังพูด
“เดี๋ยวค่อยดูกัน”


ทางจุนได้บอลมาก่อนจะพาบอลขึ้นมา ตอนนี้เขายังไม่เคยผ่านฟูจิมะสักครั้งแล้วตอนนี้พวกเขาก็ได้เผชิญหน้าอีกครั้ง ทางจุนนั้นสีหน้าดูเครียดสุดๆ เขาหงุดหงิดที่ไม่สามารถผ่านเด็กปี 1 คนนี้ไปได้


“จุนนายต้องใจเย็นเข้าไว้”’


จุนคิดถึงเรื่องที่ทางไซจิบอกให้กับเขาใจเย็น ทำให้เขาหยุดที่คิดจะวิ่งผ่านทางฟูจิมะไป ทำให้ตอนนี้ทางจุนเลือกที่จะส่งให้กับทางเอย์จิ


“นี่เคียวโกะจังดูเอาไว้นะ ความสามารถของเอย์จิหนะ”


ทางอาจารย์สเตฟานพูดขึ้นมา ทำให้ทางเคียวโกะนั้นเริ่มสนใจไปที่โคฮาคุ เอย์จิมากขึ้น ตอนนี้ทางเอย์จิที่ได้บอลจากจุนนั้นก็ลากบอลตัดเข้ากลางเหมือนเขาเหมือนจะใช้ขาซ้ายยิง


“จะยิงด้วยซ้ายงั้นหรอ !?!” เคียวโกะอุทานขึ้นมา


“ไม่หรอกเอย์จิหนะ ใช้เท้าข้างซ้ายห่วยมากๆเลยหละ” 


เมือสเตฟานพูดขึ้นมา ทำให้ทางเคียวโกะมองไปทางเอย์จินั้นง้างเท้าขวาขึ้นมาก่อนที่ใช้ข้างเท้าด้านนอกในเตะบอลพุ่งเป็นวิถีโค้งเข้ามา


“เทคนิคนี้มัน… หรือว่า เทคนิคที่ริคาโด้ ควอเรสมา ชอบใช้มัน”


บอลนั้นติดไซร้ก้อยก่อนจะเลี้ยวเข้ามาที่มุมประตูแต่ว่าบอลนั้นยังไม่ดีพอที่จะเข้าไปในประตูได้ บอลนั้นชนคานไปอีกครั้งอย่างน่าเสียดายทำให้ทางทีม A เสียดายกันยกใหญ่


“ไนซ์! เอย์จิ!”
“ไนซ์ รุ่นพี่เอย์จิ”


ทุกคนต่างพากันชมทางเอย์จิกับสิ่งที่เขาทำเมื่อครู่นี้ แต่ว่าทางเอย์จิเหมือนจะพอใจที่ทางจุนนั้นคิดจะส่งให้กับเขาสักที ทางเอย์จิหันไปหาจุนที่ไม่ได้พูดอะไร


“บางทีเราหนะ… รู้จักยอมแพ้บ้างก็ดีนะ”
“ถึงผมจะแพ้ตัวต่อตัวกับเจ้านั่น แต่ถ้าสำหรับทีม ผมจะไม่แพ้!”
“เหมือนจะมีไฟขึ้นมาบ้างแล้วสินะ เจ้าจุนหนะ” คัตสึรากิเข้าไปพูดกับเอย์จิ
“เออ หลังจากนี้หละสนุกขึ้นแน่นอน” เอย์จิบอก


หลังจากนั้นไม่นานอาจารย์สเตฟานก็ให้ทั้งสองทีมพักก่อนที่ครึ่งสอง ทางซาคาอินั้นลงมาแทนมาโคโตะ แต่เกมส์ก็ยังคงไม่เปลี่ยนไปมาก แต่ดูเหมือนตอนนี้ทีม A จะเป็นทีมที่กำลังครองเกมส์อยู่ เพราะว่าการเก็บบอลโยนบอลของคัตสึรากินั้นทำได้ดีและเฉียบคมกว่าตอนนครึ่งแรกเสียอีก แต่ทางทีม B นั้นก็ยังรัดกุมอยู่ แต่เหมือนว่าทางมิโดริคาวะนั้นจะไม่ได้บอลมาสักพักแล้ว สีหน้าของเขานั้นเริ่มดูหงุดหงิด เพราะตอนนี้เขายังไม่พ้นการประกบของเทปเปย์ เหมือนว่าในสนามตอนนี้เหมือนตัดทั้งสองคนนี้ออกจากเกมส์เลยก็ว่าได้


“ชิ! เจ้ารุ่นพี่นี่ กัดไม่ปล่อยเลยนะ!!”


ทางเซป ไนล่าห์ นักเรียนจากอิยิปต์วิ่งตรงเข้ามาจากกราบซ้าย เขาวิ่งเข้ามาเผชิญหน้ากับแบ็คขวาของทีม B ก่อนจะสเตปโอเวอร์ จนแบ็คขวาปี 2 อย่าง ไดซุเกะ คิมูระ นั้นหลงไปคนละทาง ทางเซปแตะบอลเข้าเท้าขวาก่อนจะเปิดบอลไปให้มาเอดะ แต่ว่าทางเรียวเฮย์นั้นพุ่งกระโดดโหม่งออกไป บอลนั้นถึงซาคาอิ ซาคาอิรับบอลจากการสกัดของเรียวเฮย์มาก่อนจะส่งไปที่ คิมูระ ส่งบอลตรงให้ปีกขวาปี 3 อย่าง ไดซุเกะ ไคโตะ ซึ่งเขาทั้งสองคนนี้เป็นพี่น้องกัน ทางไคโตะวิ่งพุ่งขึ้นไปก่อนจะเปิดบอลเข้าไปหานาโอกิทาเกยาม่า โหม่งชงมาให้ทางมิโดริคาวะม้วนตัวหลุดตัวประกบจากเทปเปย์มาก่อนจะวอลเล่ย์ด้วยขวา แต่บอลนั้นติดขาของเทปเปย์เล็กน้อย เขายังไม่ยอมปล่อยให้มิโดริคาวะยิงไปง่าย ๆ แต่ว่าบอลนั้นยังคงพุ่งแรง และกำลังไปที่


“เจ้าโกล์ตัวเล็กนี่ก็กระโดดสูงเป็นบ้าเลยแฮะ”


ริคิมารุลุกกขึ้นมาปัดฝุ่นที่แขนของตัวเอง ทางเทปเปย์เข้ามาตบไหล่และขอบคุณ ทางริคิมารุก็ยิ้มอย่างพอใจ บอลนั้นยังเป็นทางบุนตะที่เข้าไปเตะมุม เขาเปิดมุมเข้ามาให้ทาเคยาม่า ขึ้นโหม่งเต็มหัวแต่ว่าทางริคิมารุเข้ามากระโดดปัดเข้าไปได้ ก่อนที่ซาคาอิจะเข้ามาโหม่งซ้ำ แต่ว่าริคิมารุยกเท้าขึ้นมาดักไว้ได้ทัน ถือว่าเมื่อกี๊นี้คือดับเบิ้ล เซฟที่สุดยอดของริคิมารุเลยก็ว่าได้


ต่อไปเป็นการบุกของทีม A เอย์จิพาบอลขึ้นมาก่อนจะส่งให้กับทางจุน ทางจุนรีบทำหนึ่งสองกับเอย์จิ ก่อนจะเปิดเข้ามาให้มาเอดะเข้ามาโหม่งเต็ม ๆ หัวแต่ว่าทางชินจิ โคบายาชิผู้รักษาประตูปีสามไปได้อย่างทันท่วงทีรอดพ้นการเสียประตูไปได้ ทางชินจิลุกกขึ้นมาสะใจอย่างสุด ๆ


“ชั้นไม่ยอมหรอกเว้ย!” ชินจิตะโกนขึ้นมา
“ดูเหมือนเจ้านั่นจไฟติดแล้วสินะ ที่เห็นเจ้าปีหนึ่งเซฟขนาดนั้นหนะ” คัตสึรากิพูดพร้อมหายใจหอบๆด้วยความเหนื่อย


ทีม B ได้จังหวะบุกสวนขึ้นมาก่อนจะคิมูระจะเปิดบอลเข้ามาให้ทางบุนตะ เลี้ยงหลบอากาฮิโระ และ ไซจิ ไปอย่างรวดเร็ว และเข้าก็ได้มาเผชิญหน้ากับทางคัตสึรากิ การต่อสู้กันระหว่างกัปตันคนปัจจุบันและอนาคตกัปตันทีม ทางบุนตะที่เห็นมิโดริคาวะที่หลุดจากเทปเปย์วิ่งเข้ามาทางบุนตะส่งให้ ทางมิโดริคาวะส่งให้กับทางนาโอกิทันที ทางบุนตะก็วิ่งผ่านคัตสึรากิไปได้ ทางบุนตะวิ่งขึ้นมาแต่ว่าทางคัตสึรากิยังคงตามติด ทางเทปเปย์เข้ามาปิดมิโดริคาวะอย่างไว ทางทาเคยาม่าเตรียมวิ่งทำทาง แต่ว่าทางบุนตะง้างเท้าเตรียมยิง ทำให้ทางเทปเปย์ต้องจำจใจวิ่งออกมาจากมิโดริคาวะเพื่อหยุดลูกยิงออกทางบุนตะทางบุนตะง้างยิงเข้าไปเต็ม ๆ แต่กลับไม่มีบอลนั้นพุ่งออกมา


“อะไรกัน ?! หรือว่าเจ้านั่นเตะไม่โดน” เทปเปย์แปลกใจไปยกใหญ่
“คิดผิดแล้วละรุ่นพี่เทปเปย์” บุนตะพูด ทำให้เทปเปย์รีบหันไปหามิโดริคาวะก่อนที่บอลจะอยู่ที่เท้าของมิโดริคาวะหลุด


“ละ ลูกนี้มัน….”
“ใช่… บุนตะหลอกยิงด้วยขวา แต่ในจังหวะที่เขาง้างเท้าซัดให้เขาใช้ขาซ้ายจิ้มบอลไปให้เพื่อนร่วมทีม และเป็นการล่อกองหลังหลุดออกมาจากการประกบตัวอยู่กับกองหน้า เพื่อให้กองหน้าได้บอล เทคนิคนี้คนที่ชอบทำก็คือ **เธียร์รี่ อองรี ตำนานทีมชาติฝรั่งเศส ไงละ”


บอลนั้นเข้ามาที่เท้าของมิโดริคาวะ ทางเทปเปย์ที่เสียท่าให้กับบุนตะนั้นก็หลุดไปแล้ว ทางริคิมารุรีบวิ่งเข้ามากันลูกยิงของมิโดริคาวะแต่ว่ามิโดริคาวะกลับซิพบอลข้ามตัวของริคามารุไปอย่างเลือดเย็น


“บะ บ้าน่า! ชิพงั้นหรอ ?”


บอลนั้นลอยช้าเข้าประตูไป เป็นทีม B ที่ยิงได้ก่อนจากมิโดริคาวะ เขาเหมือนปลดปล่อยความตรึงเครียดของตัวเองออกมา ก่อนจะแท็คมือกับบุนตะ ทางฟูจิมะที่เห็นอย่างนั้นก็ยิ้มอย่างพอใจ 


“ชิ… เอาจนได้นะ เจ้าบุนตะนั่นแสบเหลือเกิน” เทปเปย์บอกกับคัตสึรากิ
“ก็เออสิ ถึงเวลาเอาคืนแล้วละ!” 


ทางทีม A เข้าไปเขี่ยบอลมาเล่นก่อนที่พวกเขาจะเริ่มโหมกระหน่ำบุกใส่ทีม B ทางทีมเซปนั้นลากบอลขึ้นมาก่อนจะสับขาตามเดิม แต่ก่อนปาดบอลเข้ามาให้กับทางอากาฮิโระเคาะบอลจังหวะเดียวไปให้เซปที่วิ่งขึ้นมาก่อนจะยิงแต่ลูกนั้นติดขาของชินจิ อย่างน่าเสียดาย แต่ A ก็ยังไม่หยุด ทางไซจิ หลบซาคาอิไปได้ก่อนจะส่งบอลให้กับทางเอย์เปิดบอลด้วยข้างเท้าด้านนอก บอลนั้นลอยเข้ามาหามาเอดะ ได้โหม่งแต่ว่าบอลนั้นยังคงโดนชินจิเซฟไว้ได้ บอลนั้นลอยออกมาทางคัตสึรากิวิ่งเข้ามาตะบันบอลนั้นพุ่งตรงและรุนแรงจนทางชินจิ ไม่มีโอกาสได้เซฟเลยทีเดียว


ตอนนี้ทั้งสองยังคงเสมอกันอยู่ 1-1 ไม่มีใครที่ยอมใครทั้งนั้น ตอนนี้แค่เกมส์อุ่นเครื่องในโรงเรียนคาชิโกคุ เหล่าเด็กนักเรียนต่างเดินเข้ามาดูกันเต็มลูกกรง เพราะว่าการแข่งขันครั้งนี้มันช่างดุเดือดเหลือเกิน ตอนนี้ก็เหลือไม่ถึง 2 นาทีแล้วทางฟูจิมะทำลายการประสานงานของเอย์จิ และ จุนไปได้ ทำให้เขาได้สวนขึ้นมาก่อนจะมองไปเห็นมิโดริคาวะที่โดนประกบอยู่


“โชว์ชั้นหน่อยสิ… คำว่ารุ่นอัจฉริยะของนายหนะ”
“ถ้าลูกนี้แกรับไม่ได้ แกก็ไม่ต่างอะไรกับกองหน้าธรรมดาหรอกนะ” ฟูจิมะคิดในใจ


ฟูจิมะส่งบอลตัดแนวรับเข้ามา ทางเทปเปย์ที่เบียดกับมิโดริคาวะนั้นเหมือนจะได้เปรียบและเอาบอลได้ก่อน


“หน็อยแน่! เจ้าฟูจิมะ คิดจะวัดชั้นหรือไงนะ… แต่ว่าชั้นคือ มิโดริคาวะ โชอิจิ คนที่จะเป็นกองหน้าอันดับ 1 ของญี่ปุ่น”


“ชั้นไม่ยอมหรอกเว้ยยยยยย!!!! กำแพงเบอร์ลินงั้นหรอ ? ชั้นจะทำลายมันเอง!!!!”


มิโดริคาวะม้วนตัวหลอกทางเทปเปย์ว่าเขาจะม้วนขวาเพื่อออกไปเก็บมอง แต่ว่าเขาพลิกตัวไปทางซ้ายอย่างเร็ว ทำให้ทางมิโดริคาวะหลุดการประกบตัวจากเทปเปย์อย่างสมบูรณ์ ทางเทปเปย์ทรุดลงไปทางมิโดริคาวะง้างเท้าซ้ายเพื่อยิง ทางฟูจิมะที่เห็นอย่างนั้นก็ไม่คิดว่ามิโดริคาวะนั้นคิดจะยิง เพราะว่าเขาช้าไปนิดหน่อยทำให้แทบไม่มีมุมเหลือจะยิงแล้วแต่ว่าทางมิโดริคาวะนั้นตะบันด้วยเท้าซ้าย บอลนั้นติดข้างเท้าด้านในทำให้บอลนั้นไซร็โค้งไปชนเสาด้านขวาเด้งเข้าไปอย่างสุดสวยทำให้ทีม B นำไป 2-1!


ทางมิโดริคาวะวิ่งดีใจอย่างสุด ๆ สีหน้าของเขาหลังทำประตูนี้ได้ดีใจอย่างสุด ๆ ทางเคียวโกะที่เห็นหน้าของมิโดริคาวะอย่างนั้นก็ถึงกับแปลกใจ


Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน  9h4g


“นานเท่าไหร่แล้วนะ ที่ไม่เห็นมิโดจังดีใจเวลายิงเข้าแบบนี้…..”


“มิโดจังก็เป็นอย่างงี้หละนะ เวลาผ่านกำแพงที่กั้นตนเองไปได้…..”


“ดูเหมือนเขาจะมีความสุขกับที่นี่จริง ๆ สินะ……”


ทางเคียวโกะที่ได้เห็นมิโดริคาวะดีใจอย่างนั้นเขาก็ปาดน้ำตาของตัวเองที่ซึมออกมาก่อนจะสูดหายใจลึกๆ เพราะการดีใจเมื่อกี้ของมิโดริคาวะนั้นทำให้เธอคิดถึงภาพเก่าๆ เมื่อมิโดริคาวะนั้นอยู่ ม.ต้น ก่อนจะได้ถูกเรียกว่าเป็นอัจฉริยะ เขานั้นดูสนุกกับฟุตบอลมากกว่าตอนที่เข้ามาคาชิโกคุ แรกๆเสียอีก


“เอาหละ พอหละมารวมตัวกันได้!” อาจารย์สเตฟานเรียกทุกคนเข้ามา


ทางเทปเปย์เดินเข้ามาจับมือกับมิโดริคาวะ


“นี่สินะ รุ่นอัจฉริยะทำฉันซะเสียท่าหมดเลยนะ…..” เทปเปย์เข้ามาพูดกับมิโดริคาวะ
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ กว่าผมจะผ่านได้ก็ลากเลือดเหมือนกันหนะ แหะ ๆ” มิโดริคาวะพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูถ่อมตน


ทางคัตสึรากิที่เห็นอย่างงั้นเขาก็ยิ้มอย่างพอใจ ก่อนที่ทางฟูจิมะจะยิ้มอย่างพอใจเช่นกัน เมื่อทางมิโดริคาวะได้ทำลายกำแพงแห่งเบอร์ลิน อย่างเทปเปย์สำเร็จ คนอื่นต่างพากันเช็ดเหงื่อของตัวเองแล้วมารวมตัวกัน ทางริคิมารุดูเหมือนจะไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่นัก เพราะว่าเขานั้นเสียถึง 2 ประตู แต่ว่าทางมาโคโตะเข้ามาพูดปลอบใจเขา


“คุณริคิมารุ วันนี้สุดยอดมากเลยนะครับ” มาโคโตะพูดด้วยน้ำเสียงที่ยังคงน่ารักเช่นเดิม เขาพูดพร้อมเอายางมัดผมออก ทำให้เขายิ่งดูเหมือนผู้หญิงมากกว่าเดิม ทำให้ทางริคิมารุก็แอบเขินอายอยู่หน่อย ๆ

“มะ ไม่ขนาดนั้นหรอกมาโคโตะคุง ชั้นเสียตั้งสองประตูแหนะ….”
“เอาน่า เรามาพยายามเพื่อตำแหน่งตัวจริงกันนะครับ ริคิมารุคุง”
“อะ อื้ม!” ริคามารุพูดด้วยสีหน้าที่ดูมุ่งมั่น ไม่แปลกเลยที่ตั้งสองคนนี้เหมือนจะเข้าขากัน เพราะว่าเขาอยู่ห้องเดียวกัน และยังเป็นนักเตะไซต์จิ๋วของทีมทั้งคู่


ทุกคนเข้ามารวมตัวกันเรียบร้อยอาจารย์สเตฟานจึงเข้ามาพูดกับทุกคน


“เอาหละ วันนี้ดีมากๆ พวกเธอนั้นสุดยอดจริงๆ และการจะเป็นแชมป์ระดับประเทศคงไม่เป็นแค่ฝัน”
“รักษามาตฐานตัวเองและพัฒนาตัวเองไว้ เพื่อ 23 ตัวจริงในอีกสองอาทิตย์ และเพื่อแชมป์ระดับประเทศ” สเตฟานพูดส่งท้าย


“ทุกคนทำความเคารพ”
“ขอบคุณมากครับ!”

------------------------------------------------------ 


หลังจากที่ผ่านวันซ้อมทีมไปได้ ทางมิโดริคาวะก็เดินกลับกับเคียวโกะเช่นเดิม ทางมิโดริคาวะพูดเรื่องที่เตะสตรีทฟุตบอลกับฟูจิมะให้กับทางเคียวโกะฟัง


“นาย 1-1 กับฟูจิมะคุงงั้นหรอ ?”
“อื้ม เขาเก่งมาก พอจะขึ้นมาอยู่กับพวกเราได้เลยนะ…..”
“แต่นายน่าจะบอกให้เขาเข้าเรียนด้วยนะ”
“แหะๆ นั่นสินะ”


“นานแล้วเนอะ….”
“อะไรหรอ ?”


“นานแล้วที่ไม่ได้เห็นมิโดจังพูดเรื่องฟุตบอลด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้ว ยิ่งเวลาที่มิโดจังยิงได้มันทำให้รู้สึกวันเก่าๆหละนะ”


“เธอพูดอะไรของเธอหนะ… ถึงหละ แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะเคียวโกะ”


มิโดริคาวะพูดพร้อมยกมือส่งลาทางเคียวโกะ ทางเคียวโกะได้แต่ยิ้มอย่างพอใจ สีหน้าของเธอดูสดใสเมื่อเห็นทางมิโดริคาวะเหมือนกำลังจะกลับไปเป็นคนเดิมที่ดูตื่นเต้นกับฟุตบอลมากกว่านี้



-----------------------------------------------



มิโดริคาวะนั้นที่กำลังเดินอย่างสบายใจ แต่เหมือนว่าอยู่ดีๆ เขานั้นก็รู้สึกแปลกๆขึ้นมา มันเป็นความรู้สึกที่อึดอัดในใจเขา ก่อนจะเขาหันไปเห็นชายคนหนึ่ง ชายคนนั้นทำให้เขาตกใจเป็นอย่างมาก


“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ โชอิจิ” เสียงของชายคนนั้นดูเย็นชา แต่อาการของทางมิโดริคาวะเห็นได้ชัด เขาดูแปลกไปหลังจากเจอผู้ชายคนนั้น

“นะ รุ่นพี่มาอยู่ที่นี่ได้ไง... ระ หรือว่า.... แล้วอาการบาดเจ็บนั่นดีขึ้นแล้วหรอ ?”


“...ยังหรอก.... ชั้นแค่มาดูผลผลิตของฉันว่าเป็นยังไงบ้างเท่านั้นเอง”


-----------------------------------------------



Spoiler:
SpeedStar
SpeedStar
Posts : 35
Join date : 2018-08-20

Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน  Empty Re: Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน

Tue Aug 21, 2018 8:36 pm
ตอนที่ 4 : คิก ออฟ


ชมรมฟุตบอลโรงเรียนเฮียวเทย์


ทีมฟุตบอลของชมรมฟุตบอลเฮียวเทย์ ถือว่าเป็นอันดับหนึ่งของโตเกียวมาหลายยุคหลายสมัย พวกเขาสามารถดึงนักเตะที่มีความสามารถมาได้ตลอด แต่ถึงแม้ว่าโรงเรียนเฮียวเทย์นั้นจะได้ถูกขึ้นชื่อว่าเป็นราชาของทีมจากโซนโตเกียว แต่เมื่อวัดกันที่ถ้วยแชมป์ระดับชาติแล้ว ถือว่าโรงเรียนเฮียวเทย์นั้นยังไม่ประสบความสำเร็จมามากเท่าที่ควร ถึงจะถูกว่าเป็นราชาของโตเกียว โดยพวกเขานั้นคว้าแชมป์ระดับโตเกียวมาทุกยุคทุกสมัย แต่ประวัติศาสตร์ของกีฬาระดับมัธยมปลายของญี่ปุ่นนั้น โรงเรียนเฮียวเทย์นั้นทำได้แค่เฉียดฉิวเท่านั้นเอง เขาได้รองแชมป์ถ้วยฤดูร้อนเจ็ดครั้งและถ้วยฤดูหนาวอีก 5 ครั้ง


โรงเรียนเฮียวเทย์นั้นเป็นโรงเรียนเอกชนที่ตั้งอยู่โตเกียวตอนเหนือ โดยโรงเรียนของเขานั้นส่วนมากจะมีนักเรียนที่มีฐานะทางบ้านร่ำรวยในระดับหนึ่ง ซึ่งระบบการศึกษาของโรงเรียนเฮียวเทย์นั้นถือว่าดีมากๆ กับอีกช่องทางที่สามารถเข้ามาเรียนโรงเรียนนี้ได้โดยไม่ต้องเสียเงิน คือคุณต้องเป็นนักเรียนที่มีความสามารถไม่ว่าจะทางด้าน กีฬา หรือ การวิชาการ รวมทั้งกิจกรรมอื่น ๆ หรือที่เราเรียกกันว่าเด็กของโครงการนั่นเอง โดยหนึ่งในนั้นคือ ฮายาโตะ เรียวทาโร่ หนึ่งในทีมอัจฉริยะของเทนโนคุ ที่ถูกคำเชิญให้เข้ามาเรียนจากตัวของโรงเรียนเลยด้วยซ้ำ เพราะทีมรุ่นอัจฉริยะนั้นถูกทาบทามจากโรงเรียนดังหลายโรงเรียน เพื่อเข้ามาเติมความแข็งแกร่งของพวกเขา


ถ้าเทียบกับคาชิโกคุนั้น ชมรมฟุตบอลของเฮียวเทย์แทบจะไม่ต่างกันมาก ในการพัฒนาชมรมฟุตบอลเพราะในญี่ปุ่นก็เริ่มให้ความสำคัญกับฟุตบอลมากขึ้น โดยเฉพาะการวางรากฐานกับฟุตบอลโรงเรียน ทำให้นักเรียนที่มีความสามารถด้านฟุตบอลส่วน เลือกที่จะเล่นให้โรงเรียนของตนมากกว่าเข้าแคมป์ฝึกอคาเดมี่ของสโมสรต่าง ๆ และถือว่าการแข่งขันฟุตบอลมัธยมปลายนั้นเหมือนเป็นก้าวแรกของพวกเขา ถ้าเลือกที่จะเซ็นสัญญากับสโมสรใดสโมสรหนึ่งแล้วนั้นจะไม่สามารถแข่งรายการฟุตบอลมัธยมได้ แล้วนัดไหนสำคัญก็จะมีแมวมองเข้ามาสังเกตอยู่เสมอ 


“เอาหละพอกันแค่นี้ก่อนทุกคน” เสียงของชายคนหนึ่งพูดขึ้นมาเขาคือกัปตันของโรงเรียนเฮียวเทย์ มิยาซาวะ ซานาดะ ชายผู้ถูกเรียกว่าราชาไร้บัลลังค์ ถึงจะเป็นนักฟุตบอลที่มีพรสวรรค์สูงขนาดไหนแต่เขาคนนี้ก็ไม่เคยสามารถพาเฮียวเทย์คว้าแชมป์ระดับประเทศทั้ง อินเตอร์ไฮ และ วินเทอร์ คัพได้เลยสักครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นแล้วโรงเรียนเฮียวเทย์ก็คือ 1 ใน 8 โรงเรียนที่แข็งแกร่งที่สุดในญี่ปุ่น เหล่านักกีฬาของชมรมต่างวิ่งเข้ามารวมตัวที่ข้างหน้า แต่มีเพียง ฮาขาโตะ เรียวทาโร่ หนึ่งในนักเตะรุ่นอัจฉริยะเดินมาแบบเฉื่อยๆ เท่านั้น มันทำให้เหล่ารุ่นพี่บางคนที่เห็นถึงกับไม่พอใจเข้าเป็นอย่างมาก จนทาง โอคิฮาระ ยูโตะ เดินเข้ามาข้างหน้าของเขา


“กัปตันเคยบอกให้นายมารวมแถวอย่างนี้หรอ ?” โอคิฮาระพูดกับทางเรียวทาโร่ แต่ว่าทางเรียวทาโร่ก็ยิ้มที่มุมปากของตัวเองก่อนที่จะพูดสวนขึ้นมา
“ป่าวหรอก…. แค่ผมคิดว่าการที่รีบเข้ามารวมมันก็ไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้นหรอกนะ ตอนซ้อมผมก็ทำอย่างเต็มที่ทุกอย่างแล้ว”
“นั่นหรอ ? ที่นายบอกว่าเต็มที่ การเล่นเหยาะแหยะอย่างนั้นหนะหรอ ?”
“แต่มันก็มากพอ ที่ทำให้รุ่นพี่เซฟลูกฟรีคิกของผมไม่ได้ ไม่ใช่หรอครับ ?”


เมื่อทางเรียวทาโร่พูดขึ้นมาแบบนั้นมันได้สร้างความไม่พอใจให้กับทางโอคิฮาระเป็นอย่างมาก ทาง ทาเคมิโนะ ทากามิ ที่เห็นอย่างนั้นแล้ว คงคิดว่าไม่ดีแน่ที่จะปล่อยไว้แบบนี้ก่อนที่เขาจะรีบเข้ามาห้ามปรามทั้งสอง


“น่า ๆ ๆ ๆ เอาเป็นว่าวันนี้ทุกคนก็ทำได้ดีนันหละเนาะ ?” ทางทากามิ เข้ามาพูดกับทั้งสองคนให้สงบสติลงมากกว่านี้โดนเฉพาะโอคิฮาระ
“ก็เพราะนายเป็นอย่างนี้ไง ทำให้รุ่นน้องแบบเจ้านี่มันได้ใจ” โอคิฮาระหันไปบอกกับทากามิ 


“พอได้แล้วพวกนายหนะ…. นี่ไม่ใช่เวลาจะมาเล่นอะไรที่ไร้สาระแบบนี้” ซานาดะพูดขึ้นมา ทำให้ทั้งสามคนหลุดทางโอคิฮาระปล่อยมือจากคอเสื้อของเรียวทาโร่ ก่อนที่พวกเขาทั้งสามคนจะเข้ามารวมตัว


“ในเมื่อตอนนี้พวกเราได้ตัวจริงทั้ง 23 คนแล้ว… ชั้นในฐานะกัปตันทีมของทีมนี้ อยากจะบอกว่าเราจะเพิ่มเวลาการฝึกให้มากกว่าเดิม เพราะปีนี้คงไม่ง่ายเหมือนเดิมแน่ แต่ละโรงเรียนหาทางทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น รวมถึงพวกเราด้วย”
“และอีกอย่างชั้นอยากให้พวกนายสามัคคีกันเอาไว้… เพราะมันใกล้ถึงเวลาการแข่งแล้ว ชั้นก็ไม่อยากให้ทีมต้องมาทะเลาะกันเท่าไหร่หรอกนะ อะไรที่ยอมได้ก็ยอมไป แต่สำหรับวันนี้พวกเราพอแค่นี้ก่อน ส่ววนพรุ่งนี้ 23 คนที่ติดตัวจริงแล้วให้มาซ้อมแยกอีกสนามนะ….”


“ขอบคุณมากครับ!” เหล่านักเรียนในชมรมฟุตบอลของเฮียวเทย์กล่าวทำความเคารพหลังจาก มิยาซาวะ ซานาดะ กัปตันของทีมพูดจบ


สถานีรถไฟโตเกียว


“ไม่คิดเลยนะว่ามิยาซาวะ จะปล่อยเจ้านั่นไป” ทางทากามิพูดกับมิยาซาวะ 
“ชั้นแค่ไม่อยากให้มีปัญหามากเท่าไหร่หละนะ” มิยาซาวะบอกกับทากามิ


“แต่มันตั้งแต่ปีสาม ชั้นก็รู้สึกแปลกๆ กับนายนะ มิยาซาวะ”


……….


มิยาซาวะถึงกับนิ่งไปเลย


“ปะ ป่าวน่า! ไม่ใช่แบบนั้นแน่นอน ชั้นยังมีความเป็นชายอยู่เต็มร้อยนะ”
“ก็คือง่าย ๆ เลยตั้งแต่ชั้นเริ่มเข้ามาที่ชมรมนี้ ชั้นกับนายก็เหมือนจะเป็นคู่กัดกันตลอด แต่มาถึงตอนนี้ ดูเหมือนว่ามันจะไม่ค่อยเป็นอย่างงั้นแล้ว”


“งั้นหรอ…. แต่ว่าชั้นก็ไม่ค่อยชอบนิสัยนายอยู่ดีนะ ทากามิ”


“อะไรนะ!!!?!!!”


“ที่ชั้นพูดก็หมายถึงแค่นิสัยที่ขี้เล่นของนายเท่านั้นหละ เพราะเรามันก็ต่างกันสุดขั้วอยู่แล้ว แต่ในสนามเราก็เข้าขากันได้ดีสุด ๆ ไม่ใช่หรอ ?”


“ฮะฮะ นั่นสินะ”


“แต่ก็นั่นหละ พอปีนี้ได้เรียวทาโร่มา ชั้นรู้สึกเลยว่ากลางของเฮียวเทย์จะแข็งแกร่งขึ้น ชั้นเลยไม่อยากว่าเจ้านั่นเท่าไหร่หรอก”


“ต่างกับโอคิฮาระ ที่ไม่ค่อยยอมรับเจ้านั่นสินะ….”


“คงจะงั้นหละ… แต่ว่ายังไงก็แล้วแต่ เจ้านั่นมีสมบัติของผู้ชนะอยู่แล้วมันก็ไม่ต้องห่วงอะไรมากเท่าไหร่หรอกนะ ที่ห่วงก็คงเป็นโอคิฮาระหละนะ….”
“ว่าแต่โอคิฮาระหายไปไหนกัน ?” มิยาซาวะพึ่งมาสังเกตว่าทางโอคิฮาระ ไม่ได้มากับพวกเขาด้วย


“หิหิ เจ้านั่นหนะ มันซ้อมอยู่คนเดียวที่สนามหนะ” ทากามิบอกกับมิยาซาวะ ทางมิยาซาวะที่ได้ยินก็เหมือนเขาจะพอใจก่อนที่เขาจะยิ้มออกมา


“งั้นหรอ ? งั้นชั้นขอตัวก่อนละนะ” ทางมิยาซาวะเดินขึ้นรถไฟไป เขาโบกมือลาก่อนที่จะเดินขึ้นรถไฟไป ทางทากามินั้นก็ยิ้มก่อนที่จะเดินกลับไป


สนามฟุตบอลชมรมฟุตบอลเฮียวเทย์


“แฮก ๆ”


โอคิฮาระยืนจับเข่าด้วยความเหนื่อยดูเหมือนเขากำลังซ้อมกับตนเองอยู่ เขาเหมือนจะเจ็บใจมากที่โดนทางเรียวทาโร่พูดไปแบบนั้น เขาคิดถึงฟรีคิกลูกนั้นที่เรียวทาโร่ยิงใส่เขา มันเป็นบอลที่ฮุคลงมาอย่างสมบูรณ์แบบ


“นี่รุ่นพี่” เสียงของชายคนหนึ่งพูดขึ้นมาจากข้างหลังของโอคิฮาระ เขาหันหน้ามาก่อนที่จะตกใจเล็กน้อยเพราะว่าเขาคนนั้นคือกองกลางร่างเล็กจากทีมรุ่นอัจฉริยะของทีมเทนโนคุ อย่าง ฮายาโตะ เรียวทาโร่


“มีอะไร…..” ทางโอคิฮาระตอบไปห้วนๆ


“ผมแค่เห็นรุ่นพี่มาซ้อมคนเดียว เลยอยากจะมาซ้อมด้วยแค่นั้นเอง”


“ชั้นไม่ต้องการ….”


“ผมจะบอกวิธีรับลูก นัคเคิล บอล นั่นเอง ดูเหมือนว่ารุ่นพี่อยากจะรับมันได้สินะ” เมื่อทางเรียวทาโร่เหมือนจะสนใจขึ้นมา
“ถึงมันจะเป็นการทำลายตัวผมเองไปบ้างบางส่วน แต่มีประตูระดับมัธยมปลายไม่กี่คนหรอก ที่จะรับลูกแบบนี้ได้ ผมคิดว่ารุ่นพี่ก็เป็นหนึ่งในนั้นที่สามารถรับมันได้”


“ที่ผมทำแบบนี้ ก็เพื่อให้โรงเรียนเฮียวเทย์ชนะเลิศ แล้วผมจะเป็นอันดับ 1 ของรุ่นอัจฉริยะของเทนโนคุ” เมื่อทางเรียวทาโร่พูดเสร็จ ทางโอคิฮาระเหมือนจะพอใจเขายิ้มออกมา ถึงแม้ว่าเหมือนเรียวจะทำเพื่อตัวเองมากกว่าทีม แต่ว่าสำหรับทางโอคิฮาระแล้ว นี่ก็ถือเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเขา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยยอมรับในตัวของเรียวทาโร่ แต่เขานั้นก็รู้ว่าเรียวทาโร่นั้นมีพิษสงอยู่มากขนาดไหน


“หึ… งั้นก็เข้ามาเลย!”


------------------------------------------------------------------------------- 


“อะไรนะ!! มิโดจังไปเจอเขางั้นหรอ ?!” เคียวโกะถามด้วยความตกใจ


ในร้านไอติมประจำที่เคียวโกะชอบไปหลังเลิกกิจกรรมชมรมนั้น เธอจะชอบมากินที่ร้านไอศกรีมร้านนี้อยู่บ่อย ๆ และคนที่จะมากับเธอนั้นก็เป็น มิโดริคาวะ โชอิจิ อดีตเอสสไตร์กเกอร์ของทีมชมรมฟุตบอลเทนโนคุ โดยทางมิโดริคาวะได้เล่าเรื่องที่เขาไปพบกับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเขาไม่คาดคิดว่าจะเจออีก และเมื่อเขานำมาเล่าให้กับเคียวโกะฟังนั้นก็ทำให้เธอตกใจเป็นอย่างมาก


“อย่าเสียงดังซี่ เคียวโกะ!” ทางมิโดริคาวะพูดแบบกระซิบ ก่อนเอานิ้วชี้แตะที่ปากของตัวเอง ซึ่งเป็นการบอกให้ทางเคียวโกะนั้นพูดเบาลง ทางเคียวโกะที่เผลอตัวตะโกนออกไปนั้นรีบทำท่าปิดปากของตัวเองทันที ก่อนที่เธอจะเริ่มถามต่อแบบเบา ๆ


“แล้วเขาหายดีแล้วหรอ ?” 
“ยังหนะ เห็นบอกว่าจะกลับมาอีกทีตอนฟุตบอลฤดูหนาวหละนะ….” 
“งั้นเขามาเจอมิโดจังได้ยังไง?!”
“ชั้นก็สงสัยเหมือนกัน เขาหายไปที่สเปนเกือบสองปีเพื่อไปรักษาร่างกาย โดยที่เราไม่สามารถติดต่อเขาได้เลย แล้วทำไมอยู่ดี ๆ ถึงมาอยู่ตอนนี้ได้”


“แล้วเขามาอยู่โรงเรียนไหนหละมิโดจังพอจะรู้มั้ย ?!”
“เห็นแกบอกว่าอยู่ที่โรงเรียนนานาชาติ โคเทคุ หนะนะ”
“นานาชาติ โคเทคุ… เอ่อออออ… เหมือนชั้นจะคุ้น ๆ นะคิดก่อน”
“แชมป์เก่าถ้วยฤดูหนาวจากเขตคันไซไง” มิโดริคาวะพูดพร้อมยกน้ำดื่มขึ้นมา


“อยู่เกียวโตสินะ… แต่เขตคันไซ ก็แปลว่า อาจจะเจอกับ…..”
“ก็คงจะอย่างงั้นหละนะ” มิโดริคาวะพูดขึ้นมาก่อนที่ทางเคียวโกะจะพูดชื่อของคนที่เธอจะพูดขึ้นมา


“เห้อ… นี่พวกนายมาให้ชั้นนั่งฟังอะไรตรงนี้เนี่ย” เสียงของชายคนหนึ่งพูดขึ้นมาด้วยสำเนียงที่ดูน่าเบื่อ เขาคือ ฟูจิมะ คิโยดะ แบ็คซ้ายที่ถ่อตัวมาจากบราซิลนั่นเอง 
“ก็ชั้นไม่อยากมากับแม่นี่แค่สองคนนี้นา ด้วยคนอื่นหาว่าชั้นเป็นแฟนกับยัยบ้านี่หนิ!” มิโดริคาวะพูดพร้อมชี้ไปที่เคียวโกะที่นั่งตรงข้ามเขา
“อะไรกัน! อุตส่าห์เลี้ยงแบบนี้ ทำไมต้องมาพูดอย่างนี้ด้วยนะเจ้าบ้า!”


“เอาเถอะน่า… ชั้นไปหละ” ฟูจิมะพูดพร้อมลุกขึ้นมาก่อนจะหยิบกระเป๋าของตัวเองขึ้นมาก่อนจะเดินออกจากร้านเขาฝากประโยคนึงพูดขึ้นมา
“ฉันไม่สนหรอกนะ ว่าเจ้ารุ่นพี่ของนายจะร้ายกาจขนาดไหน หรือเพื่อนเก่าของนายจะเป็นยังไง ฉันคนนี้จะโค่นให้หมด…. รวมถึงนายด้วย” 


ทางฟูจิมะเดินออกไป ก่อนที่ทางมิโดริคาวะจะไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ แต่สำหรับเขาแล้วถึงแม้ฟูจิมะ จะพูดแบบนี้เขาก็เป็นเพื่อนร่วมทีมที่ดีคนนึง แต่เมื่อทางมิโดริคาวะหันหน้ากลับไป เขาก็ต้องนิ่งไปสักพักเมื่อเห็นถ้วยใส่ไอศรีมที่ทางฟูจิมะได้กินไปมันช่างเยอะซะเหลือเกิน ทางเคียวโกะก็ตะลึงเช่นกัน


“คะ เคียวโกะ…. เธอจ่ายใช่ไหม ?”
“คราวหน้าถ้าจะให้ฉันจ่าย ไม่ต้องพาเขามาก็ได้นะ….” เคียวโกะพูดพร้อมเปิดกระเป๋าตังค์ของเธอขึ้นมาก่อนจะเปิดมาเห็นเงินที่น้อยนิด


“ก็คงงั้นหละนะ…..”


--------------------------------------------------------------------------- 


หลังจากนั้นทางชมรมฟุตบอลโตเกียว คาชิโกคุก็ได้มีโปรแกรมซ้อมอันดุเดือด โดยทุกคนต่างพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อตำแหน่ง 23 คนเพื่อลุยบอลมัธยมปลายในภาคฤดูร้อน โดยทางชมรมฟุตบอลโตเกียวนั้นมีสมาชิกราว 50 คน โดยถือว่าเป็นการตัดออกไปมากกว่าขึ้นเลยก็ได้ โดยทางปีหนึ่งทางมิโดริคาวะ, ฟูจิมะ, มาโคโตะ, ซาคาอิ นั้นยังทำได้ดี ยังรวมถึงทาง เซป ไนล่าห์ ปีกจากอิยิปต์ หรือแม้กระทั่ง เรียวเฮย์ กองหลังสไตล์บอลเพล์ยิ่ง ดีเฟ้นท์ ที่ดูเหมือนจะถูกใจโค้ชสเตฟานเป็นอย่างมาก ริคิมารุ ผู้รักษาประตูร่างเล็กก็ยังทำผลงานได้ไม่แพ้ ชินจิ โคบายาชิ ตัวจริงเมื่อปีก่อน เหล่ารุ่นพี่ที่ได้เป็นตัวจริงก็ยังทำได้อย่างยอดเยี่ยม กัปตันทีมอย่างคัตสึรากิ คิโยชิ ที่ยังสามารถสร้างแรงจูงใจให้ทีมได้ตลอด อารากิ บุนตะ อนาคตกัปตันทีมก็ยังทำได้เยี่ยมเช่นกัน รวมถึงคนอื่นๆ อย่าง อากิฮิโระ เซย์ซิน, ฟุรุคาว่า ไซจิ และ ทากายาม่า จุน ถึงแม้ว่าจุนยังเหมือนยังขาดแรงงจูงใจอะไรสักอย่าง แต่ว่าเขาก็ยังทำได้ดีกว่าหลายๆคนในทีม 


โดยเวลานอกกิจกรรมนั้น ทางฟูจิมะ ก็มาโรงเรียนบ้างไม่มาบ้างเหมือนเคย ทางเซปนั้นก็เรียนในห้องนักเรียนทุน ที่จะใช้ภาษาอังกฤษมากกว่า แต่ดูเหมือนว่าภาษาอังกฤษนั้นเขาก็ออกจะป่วยหน่อยๆเช่นกัน มาโคโตะ กับ ริคิมารุ นั้นเหมือนเป็นคู่หูกันเลยก็ว่าได้ ไปไหนมาไหนด้วยกันเวลา จนทางทีมฟุตบอลของโรงเรียนได้ตั้งฉายาให้สองคนนี้ว่า ‘คู่หูหน้าหวาน’ เพราะด้วยร่างกายที่เล็ก แถมหน้าของทั้งสองนั้นยังออกแนวคล้ายผู้หญิง โดยเฉพาะมาโคโตะที่ปล่อยผมตลอดยกเว้นเวลาเล่นฟุตบอล และนิสัยที่ดูน่ารักของเขา เรียวเฮย์นั้นดูเหมือนจะเป็นคนที่ดูขยันเรียนที่สุดในกลุ่มนักฟุตบอลของปีหนึ่งเขาสามารถจัดเวลาได้อย่างดีเยี่ยม ส่วน ซาคาอินั้นก็เหมือนจะเป็นขวัญใจของผู้หญิงห้องเขา ด้วยหน้าตา และท่าทางของเขาที่ดูเท่ไปหมด ส่วนมิโดริคาวะก็ยังเป็นขวัญใจของสาว ๆ โรงเรียนนี้เหมือนเคยด้วยลักษณะที่เหมือนนายแบบและรูปร่างหน้าตาที่ดี แต่คนชอบซุบซิบกันว่าเขานั้นเหมือนจะเป็นแฟนกับเคียวโกะ แต่ทางมิโดริคาวะก็เหมือนจะไม่ค่อยสนเท่าไหร่ แต่บางทีก็จะชอบลากฟูจิมะไปด้วยอีกคน ส่วนพวกรุ่นพี่ปีสามนี่ต้องตั้งใจกว่าคนอื่นเพราะว่าเขาต้องเตรียมตัวสอบมหาลัย แต่เขาก็ยังไม่ทิ้งชมรม พวกที่สบายที่สุดคงเป็นปีสองที่เหมือนจะไม่ค่อยได้ทำอะไรมาก ไม่มีกิจกรรม ปฐมนิเทศน์ ไม่มีกิจกรรมเยอะเหมือนพวกปีหนึ่ง และไม่ต้องอ่านหนังสือเข้ามหาลัยให้เครียดเหมือนพวกปีสาม


2 อาทิตย์ต่อมา


“เอาหละ ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย ผมจะประกาศชื่อของ 23 คนที่ติดชุดลุยฟุตบอลมัธยมปลายฤดูร้อนของภาคการศึกษานี้” ทางโค้ช สเตฟานพูดขึ้นมา โดยเคียวโกะนั้นอยู่ข้าง ๆ เขา โดยเคียวโกะนั้นได้ช่วยเก็บข้อมูลรายบุคคลให้สเตฟานด้วย ต่างจากเฮียวเทย์ที่ประกาศชื่อตัวจริงตั้งแต่อาทิตย์แรก


“เอาหละครูจะไล่ชื่อตามเบอร์ 1-23 และคนที่ถูกเรียกชื่อให้ออกมาที่ข้างหน้าด้วยนะครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาครูขอประกาศตัวตอนนี้เลย”


“เบอร์ 1 ชินจิ โคบายาชิ ปี 3”
“เบอร์ 2 ทากายาม่า จุน ปี 2”
“เบอร์ 3 ไดซุเกะ ไคโตะ ปี 3”
“เบอร์ 4 ฮิริงาโตะ เรียวเฮย์ ปี 1”
“เบอร์ 5 อิวากิ เทปเปย์ ปี 3”
“เบอร์ 6 โยชิโนริ มาโคโตะ ปี 1”
“เบอร์ 7 เซป ไนล่าห์ ปี 1”
“เบอร์ 8 คัตสึรากิ คิโยชิ ปี 3”
“เบอร์ 9 มิโดริคาวะ โชอิจิ ปี 1”


“ว่าแล้วแฮะ ว่าเจ้ามิโดริคาวะต้องได้เบอร์ 9”
“แต่เด็กปี 1 ปีนี้สุดยอดจริง ๆ นะ ติดเบอร์ต้นๆ ไปแล้วตั้ง 3 คนแหนะ!”


“เบอร์ 10 อารากิ บุนตะ ปี 2”
เบอร์ 11 ฟูจิมะ คิโยตะ ปี 1


“เจ้าแบ็คซ้ายคนนั้นได้เบอร์ 11 เลยแฮะ!”
“มาจากบราซิลเลยนะ แถมฝีมือยังสุดยอดอีก”


“เบอร์ 12 นากาอิ ริคิมารุ ปี 1”
**“เบอร์ 13 นากามูระ ฮายาเสะ ปี 2”
“เบอร์ 14 ไซจิ ฟุรุคาว่า ปี 2”


“เยส!! ได้เบอร์เดียวกับโยฮัน ครัฟฟ์ เลยแฮะ” ไซจิทำท่าดีใจสุดๆที่ได้เบอร์ 14


**“เบอร์ 15 ซาวาฮาระ โชทาโร่ ปี 3”
“เบอร์ 16 อิวากิ ซาคาอิ ปี 1”
“เบอร์ 17 โคฮาคุ เอย์จิ ปี 3”
“เบอร์ 18 อากิฮิโระ เซย์ซิน ปี 3”


ทางซาคาอิ ดีใจแบบสุดๆ ที่เขาได้ติดทีมมตัวจริง แต่เขายังไม่ค่อยแสดงออกมากเท่าไหร่ ส่วนอากาฮิโระ เหมือนเขารู้อยู่แล้วว่าตัวเองต้องติดก่อนจะหาวไปทีนึงก่อนจะเดินเข้าไปข้างหน้า รวมกับคนที่พูดชื่อก่อนหน้านี้


“เบอร์ 19 นาโอกิ ทาเกยาม่า ปี 3”
“เบอร์ 20 มาเอดะ คาวาซากิ ปี 2”
**“เบอร์ 21 ซูซาคุ โดจิ ปี 3”
“เบอร์ 22 ไดซุเกะ คิมูระ ปี 2”
**“เบอร์ 23 เซงะ อิกคิ ปี 3”


“ก็ครบแล้วสำหรับ 23 คนที่จะเป็นตัวแทนของโรงเรียนในการแข่งขันภาคฤดูร้อนนี้”
กเธอที่เหลือก็อย่าพึ่งท้อแท้ ตราบใดที่พวกเธอยังรักและศรัทธาในฟุตบอลอยู่ อีกไม่นานความตั้งใจนั้นจะส่งผลดีต่อพวกนายเอง”
“แล้ววันนี้พวกเราจะซ้อมแยกระหว่างกลุ่มตัวจริง กับ กลุ่มคนที่เหลือ เข้าใจใช่ไหมทุกคน”


“ครับ!” 


“อีก 1 อาทิตย์จะถึงการชิงแชมป์โตเกียว เพื่อคัดเลือกไปแข่งระดับอินเตอร์ไฮ เราอยู่สาย A โดยมี เมโก, ฮารุโอกะ และ พาณิชย์โฮโอ โดยนัดแรกของเราจะเจอกับทีมเมโก โดยทีมเมโกคือทีมที่ผ่านเข้ามาจากรอบคัดเลือกของโตเกียวเขต B และนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้มาเตะในรายการนี้ ถือว่าเป็นน้องใหม่เลยก็ว่าได้”


“งั้นก็แปลว่านัดแรกของเราก็สบายที่สุดเลยสินะ…” มิโดริคาวะพูดขึ้นมา


“ป่าวครับ อาจจะเป็นเกมส์ที่ยากที่สุดก็ได้ จากที่ผมดูทีมเมโก ถือเป็นทีมที่มีทีมเวริคที่ยอดเยี่ยม กองกลางของเขาที่ชื่อว่า เคนโกะ ทากามูระ ถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางของทีมเลยก็ว่าได้ ผมอยากจะเตือนว่าอัจฉรินะคนเดียวสามารถเปลี่ยนทีมได้ ถึงพาณิชย์โฮโอจะเป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในสามทีมนี้ แต่ทีมเมโกคือทีมที่น่ากลัวที่สุด” สเตฟานพูดต่อ


“งั้นก็แปลว่าถ้าเราผ่านเมโกไปได้ ก็จะง่ายต่อการเข้ารอบของเราสินะครับ” กัปตันอย่างคัตสึรากิถามขึ้นมา


“ยังไงมีสุดยอดอัจฉริยะอย่างผมอยู่ก็ไม่ต้องกลัวหรอกนะรุ่นพี่ หมอนั่นที่ชื่อว่าทากามูระ มันก็แค่กองกลางเก่งๆ ที่ถูกเรียกว่าอัจฉริยะเท่านั้นเองหละนะ ฮิฮิ” มิโดริคาวะสวนขึ้นมา



Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน  Tumblr_inline_mwkvrqslPB1qbmhp3

“ฉันไม่ได้สั่งให้แกพูดสักหน่อย! แล้วอย่าอวดดีให้มากเจ้าเด็กเมื่อวานซืน!!!!!”


“ฮะฮะ ผมอยากให้พวกคุณใจเย็นกันก่อนนะครับ… ผมอยากจะบอกว่าคู่ของเราเป็นคู่เปิดสนามด้วยนะ งั้นมาสร้างความประทับใจให้กับทีมตัวเองกันดีกว่า!”


“ครับ!!!!”


Last edited by LisaBlackpink on Tue Aug 21, 2018 8:43 pm; edited 1 time in total
SpeedStar
SpeedStar
Posts : 35
Join date : 2018-08-20

Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน  Empty Re: Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน

Tue Aug 21, 2018 8:40 pm
บ้านของมิโดริคาวะ



Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน  Latest?cb=20130511162156


หลังจากซ้อมเสร็จ มิโดริคาวะก็ได้กลับมาที่บ้านของตนเอง ก่อนที่เขาจะกลับไปอาบน้ำ เพื่อให้ร่างกายของตนเองสดชื่นขึ้นกว่าเดิม ก่อนที่เขาจะพุ่งกระโดดลงไปนอนที่เตียงของตัวเอง


“แบบนี้ค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อยแฮะ….”


มิโดริคาวะนอนหงายหน้ามองไปที่เพดานห้องของตัวเองเขานึกถึงสิ่งต่างๆ ตั้งแต่เข้ามาในโรงเรียนโตเกียว คาชิโกคุแห่งนี้


“ก็เกือบจะเดือนแล้วสินะที่ชั้นมาอยู่ที่นี่… แปปเดียวเองแฮะ แต่ก็นะก็ได้เจออะไรเจ๋งๆ เยอะเหมือนกันแบบพวกรุ่นพี่ ถึงแม้เจ้ารุ่นพี่คัตสึรากิมันจะเคี่ยวไปหน่อยแต่ก็โอเคหละ โค้ชสเตฟานก็ถือว่าแกก็เก่งเรื่องแทคติคนะ แต่ชั้นก็เหมือนจะรู้สึกขัดใจตัวเองนิดหน่อยตั้งแต่เขากลับมา” มิโดริคาวะคิดในใจ


เขามองไปรอบๆ ห้องของตน มันเต็มไปด้วยโปสเตอร์ฟุตบอล มีรูปนักฟุตบอลติดเต็มผนังของตนเอง ไม่เว้นแม้แต่ตู้เสื้อผ้า เขามองไปที่เพดานที่แขวนเสื้อฟุตบอลสีขาว โดยมีลายขอบเป็นสีดำ มันคือเสื้อของโรงเรียนมัธยมต้นเทนโนคุ ราชาแห่งฟุตบอลมัธยมต้น โดยเสื้อของเขานั้นใส่เบอร์ 9 เหมือนเบอร์ที่เขาได้ที่คาชิโกคุด้วยเช่นกัน เขาพลิกตัวก่อนจะเอามือล้วงลงไปใต้เตียงของตนเอง ก่อนจะหยิบสมุดเล่มนึงขึ้นมา มันเป็นสมุดอัลบั้มภาพของเขาตั้งแต่เด็กจนโต เขาเปิดไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ตอนเด็ก จนมาถึงสมัยเขาอยู่มัธยม และ รูปที่เขาได้เตะฟุตบอลอยู่ที่เทนโนคุ การได้แชมป์ระดับประเทศ 3 ปีติด จนมาสะดุดที่รูปนึงเหมือนเขาจะเห็นชายคนนั้นที่พึ่งกลับมา ทำให้เขาคิดถึงเรื่องที่ไปเจอเข้าโดยบังเอิญในวันนั้น ก่อนที่เขาจะปิดมันลงไป


ก๊อก! ก๊อก!


“โชจังกินข้าวมาหรือยังไงลูก?” 
“ยังเลยครับแม่ เดี๋ยวจะลงไปครับ” มิโดริคาวะขานตอบเสียงของผู้หญิงที่เคาะประตูของเขา ดูเหมือนว่าเธอคนนั้นจะเป็นแม่ของมิโดริคาวะ


ทางมิโดริคาวะเดินลงไปที่ข้างล่างโดยแม่ของเขานั้น ทำกับข้าวไว้ให้เขาเรียบร้อยแล้วมันเป็นข้าวหน้าปลาไหล ทางมิโดริคาวะเข้าไปนั่งเก้าอี้ ทางแม่ของเขาหันมายิ้มด้วยสีหน้าที่ดูอบอุ่นอย่างสุด ๆ 


Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน  105456

“วันนี้แม่ทำข้าวหน้าปลาไหลของโปรดลูกไว้ให้ด้วยนะ”
“ขอบคุณครับ จะกินแล้วนะครับ” มิโดริคาวะพูดพร้อมจับตะเกียบมาเริ่มกินข้าว


“นี่โชจัง วันนี้ก็ประกาศตัวจริงแล้วหนิ ลูกติดทีมไหม?”
“ก็ติดตามปกติหละแม่…..”
“งั้นหรอ ? ลูกคนเก่งของแม่คงไม่พ้นหมายเลข 9 สินะ”
“แหะๆ ก็จริงหละแม่ แต่แม่ก็พูดเกินไปนะ” มิโดริคาวะพูดพร้อมยิ้มเล็กน้อย


“กลับมาแล้ววววววววววววววววววววว!!” เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นมา เขาเดินเปิดประตูเข้ามาในครัว

Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน  Latest?cb=20141124200543

“กลับมาแล้วหรอคะคุณ” แม่ของมิโดริคาวะพูดกลับชายคนนั้นแต่ดูเหมือนเขาจะสนใจไปที่มิโดริคาวะมากกว่า

“อ่าฮะ แต่ว่าวันนี้โชจังของพ่อลงมากินข้าวด้วยแฮะ! ส่วนมากจะเห็นไปกินข้าวกับแฟนที่ชื่อว่าเคียวโกะจังสินะ” ชายคนนั้นหรือพ่อของมิโดริคาวะเข้าไปกอดคอของมิโดริคาวะแต่ว่าทางมิโดริคาวะ จะจับแขนของพ่อตัวเองยกออก

“มะ ไม่ใช่สักหน่อยพ่อ!”


“อะไรๆ ชั้นมีสายหนะ เห็นไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดเลยนะ….” เขาพูดพร้อมเข้าไปสะกิด มิโดริคาวะ ก่อนจะพูดแซวอีก
“นี่ พาแฟนแกมาทำความรู้จักกับบ้านนี้หน่อยสิ”


“โถ่ววว!! พ่อยังไม่ใช่ไงเล่า”


“คุณนี่ก็นะ แซวลูกอยู่เรื่อย เขาก็กำลังคุยๆ กันอยู่หนะ เห็นมั้ยลูกเราเขินแย่เลย”


“แม่ก็อีกคนหรอเนี่ยยยย!?!”

“ฮะฮะ พ่อแค่แซวเล่นหนะไอ้เสือ! แต่ว่าชมรมฟุตบอลเป็นไงบ้างละ” พ่อของมิโดริคาวะพูดพร้อมมานั่งที่โต๊ะกินข้าวก่อนแม่ของเธอจะเอาข้าวมาให้ด้วย

“ก็ดีหละพ่อนะ ว่าแต่มีอะไรหรือเปล่า ?”


“ป่าวหรอกกก… ก็แค่เห็นแกดูเหมือนจะเบื่อๆกับฟุตบอล ก็เลยถามแต่ถ้าเล่นมันก็ดีแล้ว”


“คะ ครับ…..”


“รู้ใช่ไหม ว่าไปที่นี่แล้วมันจะไม่ง่ายเหมือนเทนโนคุ”


“ก็คงงั้นหละครับ แต่ที่นั่นก็สนุกดี”


“คิดได้แบบนั้นก็ดีหละ เจ้าพวกนั้นก็แยกไปตามแต่ละที่ ที่พ่อจะพูดก็คือ สักวันแกอาจจะรู้กับคำว่าแพ้บ้างซะที” พ่อของเขาพกพร้อมยกขึ้นมาดื่ม แต่ว่าทางมิโดริคาวะยังเงียบ


“พ่อจะสื่อถึงอะไร….”


“ก็พวกแกแยกกันไปคนละโรงเรียน และต้องมีโรงเรียนนึงที่ต้องขึ้นเป็นจุดสูงสุดอยู่แล้ว ก็เลยแค่อยากจะบอกว่า ชั้นอยากให้แกเตรียมใจไว้สักหน่อยก็ดี แพ้ไม่ใช่ทุกอย่างหรอกนะ บางคนหนะจะประสบความสำเร็จได้ ก็แพ้มาเยอะเหมือนกัน” พ่อของเขาบอกกับมิโดริคาวะ 


“หึ… ขอบคุณนะพ่อ แต่ว่าผมหนะ…..”
“จะเปฌนคนที่อยู่จุดสูงสุดนั่นเอง!”


“ฮะฮะ ให้มันได้อย่างนี้สิ! ลูกพ่อ” พ่อของเขาพูดพร้อมตบเข้าไปเต็มหลังของมิโดริคาวะ ทำให้ข้าวที่มิโดริคาวะพุ่งออกมา


“นี่พ่ออย่าตบแหลกขนาดนั้นสิ!”
“โอ้ พ่อขอโทษ พ่อขอโทษ”


ทางแม่ของมิโดริคาวะมองไปที่พ่อลูกทั้งสองคนกำลังกินข้าวอย่างมีความสุข เธอก็ยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดูทางมิโดริคาวะ เด็กที่แพ้ไม่เป็น และพ่อของเขาที่มีอารมณ์สุนทรีย์ เธอมองไปที่ภาพของมิโดริคาวะที่ถือถ้วยแชมป์ระดับประเทศ และภาพของมิโดริคาวะใส่ชุดทีมชาติญี่ปุ่น ตั้งแต่เขาอยู่ U-14 แต่เมื่อเธอได้ยินบทสนทนาเมื่อสักครู่ ทำให้เธอรู้สึกแปลกๆขึ้นมา


“ถ้าวันนึงลูกเราแพ้ขึ้นมา…. มันจะเป็นยังไงนะ ?”


-------------------------------------------------------- 

อายิโนโมโตะ สเตเดี้ยม



Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน  Ajinomoto02


อายิโนโมโตะ สเตเดี้ยม โดยชื่อเก่าก็คือโตเกียว สเตเดี้ยม เป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียว ตั้งอยู่เขตชินจุคุ มีความจุราวๆ ห้าหมื่นคน โดยเป็นรังเหย้าของทีมในเจลีคอย่าง เอฟซี โตเกียว และ โตเกียว เวอร์ดี้ และสนามนี้ก็เป็นสนามกีฬาที่ใช้เปิดพิธีการแข่งขันกัน ชิงแชมป์ฟุตบอลของเขตโตเกียวอีกด้วย 16 ทีมที่เข้ารอบต่างมารวมตัวกันที่นี่ ยืนเข้าแถวทำความเคารพประทานในพิธี และฟังโอวาทของนักกีฬารุ่นพี่อย่าง ชุนสุเกะ นากามูระอีกด้วย โดยบนอัฒจรรย์นั้นเต็มไปด้วยนักเรียนจากทั้ง 16 โรงเรียนที่มาเข้าร่วมพิธีอีก


“สุดยอดเลยนะ… ชินสุเกะ นากามูระออกมาพูดด้วย คนระดับนั้นเลยนะหนะ” เอย์จิพูดขึ้นมาอย่างสบายๆ หลังจากที่พิธีจบลงเหล่านักเตะของทีมคาชิโกคุ กำลังเดินเข้าห้องล็อคเกอร์เพราะว่าเขาคือคู่เปิดสนามของวันนี้


“คนที่จุน อยากยิงฟรีคิกตามแต่ผลที่ได้มันก็ต่างกันสุดหละนะ แหะ” ไซจิหันไปแซวจุน แต่ทางจุนก็ทำหน้าที่ไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่
“ฉันหยอกเล่นหนะ….”


“ว่าแต่โค้ชไปรอที่แห่งแต่งตัวแล้วสินะ” จุนหันหน้าไปถามกับบุนตะ
“อาจจะใช่นะ…”


“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ มิโดริคาวะ” เสียงของชายคนหนึ่งดังจากด้านหลังของเหล่ากลุ่มนักเตะของคาชิโกคุ เขาคนนั้นเรียกมิโดริคาวะ โดยทางมิโดริคาวะหันไปถึงกับตกใจเล็กน้อย เพราะเขาคนนั้นคือ ฮายาโตะ เรียวทาโร่ หนึ่งในชุดอัจฉริยะแห่งเทนโนคุอีกคน โดยทางมิโดริคาวะก็กลับตัวเดินเข้าไปเผชิญหน้ากับเรียวทาโร่ โดยมีทีมโรงเรียนเฮียวเทย์ที่เดินตามพวกเขามา


“อะไรกัน การเผชิญหน้าของทีมชุดปาฏิหารย์มีแรงกดดันขนาดนี้เลยหรอ” ไซจิคิดในใจ


“ว่าไงเจ้าเปี้ยก ดูท่าจะวางมาดขึ้นเยอะเลยนะ” มิโดริคาวะตอบกลับไป
“หึ… เอาเถอะ แต่ชั้นไม่มีเวลาที่จะมาคุยเรื่องไร้สาระของกับนายตอนนี้หรอกนะ เราจะแข่งเป็นคู่ที่สองต่อจากพวกนายหนะ…”
“งั้นก็แปลว่านายอยู่กลุ่ม B สินะ….”
“ใช่….”
“ดูเหมือนว่าชะตาจะกำหนดพวกเราให้เจอกันในรอบชิงสินะ”


“อย่าพูดไปเลยๆ เลยจะดีกว่านะ ไม่เคยถามรุ่นพี่นายเลยหรือไง ว่าปีก่อนตอนเจอกับพวกเรา เป็นยังไงบ้าง”


1 ปีก่อน


โรงเรียนเฮียวเทย์เอาชนะ โรงเรียนโตเกียว คาชิโกคุไปได้ 5 ประตูต่อ 2 เข้ารอบสี่ทีมได้สำเร็จและทีมที่ตกรอบเป็นทีมคาชิโกคุ ถึงจะทำผลงานสองนัดมาดีก็ตาม แต่ก็ต้านความแข็งแกร่งของราชาแห่งโตเกียวอย่างเฮียวเทย์ไม่ได้


เมื่อทางมิโดริคาวะได้รู้ความจริงเขาก็นิ่งไปสักพัก


“ดูเหมือนจะเข้าใจแล้วสินะ…. ว่าระดับมันต่างกัน” เรียวทาโร่ข่มต่อ
“ฮะฮะฮะ ฮ่าฮ่าฮ่า งั้นหรอ? แต่ปีนี้คงไม่เป็นอย่างนั้นหรอกนะ…. เพราะว่าชั้นหนะจะชนะ เพราะพวกเราคือทีมที่แข็งแกร่ง ไม่เหมือนเมื่อก่อนแน่นอน”
“หึ อย่างนี้สินะ นายก็เปลี่ยนไปพอสมควรเลยหนิมิโดริคาวะ”


เมื่อทางเรียวทาโร่พูดเสร็จก็เดินผ่านทางมิโดริคาวะไป โดยทางโรงเรียนเฮียวเทย์ก็เดินผ่านไปด้วยทางมิยาซาวะ ที่กำลังเดินผ่านก็หยุดมามองหน้ากับคัตสึรากิ คิโยชิ สองกัปตันก็สร้างแรงกดดันได้ไม่แพ้สองคนก่อนหน้า ก่อนทางมิยาซาวะก็ยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเดินผ่านไปเตรียมตัวที่ห้องล็อคเกอร์


ห้องล็อคเกอร์


“เอาหละ ถึงเวลาที่จะประกาศรายชื่อ 11 ตัวจริงแล้วหละนะ”


“เราจะเล่นในระบบ 4-3-3”


“ผู้รักษาประตู ชินจิ โคบายาชิ!”

“กองหลัง 4 ตัว แบ็คซ้าย ฟูจิมะ คิโยดะ แบ็คขวา ทากายาม่า จุน เซ็นเตอร์สองตัว ซ้าย เทปเปย์ ส่วนทางขวา เรียวเฮ เต็มที่นะ!”


“ครับ!!”


“กลางสนามตัว ตรงกลาง โยชิโนริ มาโคโตะ ทางซ้าย คัตสึรากิ คิโยชิ กัปตันทีม และ ทางขวาเป็นอารากิ บุนตะ”
“ปีกซ้าย เซป ไนล่าห์ อะ เอ่อ เลฟวิง เซป ไนล่าห์”


“โอเค”


“ปีกขวา โคฮาคุ เอย์จิ”


“และกองหน้า มิโดริคาวะ โชอิจิ!”


“และนี่คือ 11 รายชื่อผู้เล่นของวันนี้ และตัวสำรองพร้อมสแตนบายให้พร้อมทุกคนด้วยเช่นกัน”


หลังจากที่ทางโค้ชสเตฟานพูดเสร็จ เขาก็อธิบายแทคติคให้ฟัง โดยมีทางเคียวโกะที่ช่วยอีกคน 


“เอาหละ! ถ้าเข้าใจกันแล้วก็ไปลุยกันให้เต็มที่เลยนะทุกคน!!!”


“ครับ!!!!”


เหล่านักเตะของทีมคาชิโกคุ ต่างตะโกนเต็มเสียงอย่างฮึกเหิม ก่อนออกจากห้องล็อคเกอร์ เพื่อลงสนามอายิโนโมโตะ เพื่อแข่งนัดเปิดสนามกับทีมเมโก เสียงของเหล่านักเรียนต่างตะโกนเชียร์โรงเรียนของตัวเองกันยกใหญ่ โดยทางโตเกียว คาชิโกคุใส่ลายทางสีน้ำเงินสลับดำคล้ายๆ เสื้อของอินเตอร์ มิลานทีมดังของอิตาลี ส่วนทีมเมโกมาในชุดสีเขียวอ่อนที่ดูสว่างสดใส ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มเข้าแถวจับมือ ก่อนที่ทางกัปตันทีมทั้งสองอย่างคัตสึรากิ และ เคนโกะ ทากายาม่า กัปตันทีมของทั้งสองจะเข้ามาจับมือกัน


“ขอให้เป็นเกมส์ที่ดีนะ…” เคนโกะพูดขึ้นมา
“ทางเราก็เช่นกัน”


ก่อนที่กรรมการจะทายหัวก้อยเพื่อให้รู้ว่าใครจะได้เขี่ยก่อน ก่อนที่ทางคัตสึรากิจะทายก้อย เมื่อทางกรรมการทอยเหรียญขึ้นมาปรากฏว่าออกก้อย เป็นทางทีมคาชิโกคุที่ได้เขี่ยบอลก่อน ทางมิโดริคาวะเข้าไปตั้งบอลมาเพื่อเริ่มเขี่ยลูก เกมส์นี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อทีมเมโกที่พึ่งเข้ามาแข่งในรายการนี้ และโตเกียว คาชิโกคุที่ได้กำลังเสริมของเด็กปี 1 ที่ยอดเยี่ยมต้องมาเจอกัน


“เอาหละทุกคนเต็มที่เลยนะ ใส่ไปให้สุด!!!” ทางคัตสึรากิตะโกนสั่งลูกทีมของตัวเอง


“โอ้ววววววว!!!”


การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์โตเกียวได้เริ่มขึ้นแล้ว….



Spoiler:


Last edited by LisaBlackpink on Tue Aug 21, 2018 8:45 pm; edited 2 times in total
SpeedStar
SpeedStar
Posts : 35
Join date : 2018-08-20

Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน  Empty Re: Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน

Tue Aug 21, 2018 8:41 pm
ตอนที่ 5 : คู่ต่อสู้ที่น่ากลัว


“สวัสดีครับทุกคนผม ยามาโมโตะฟูกูอิ และอีกท่าน คุณ ยู คูริซาวะ จะมาพากษ์ในแมทต์เปิดสนามของการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์โตเกียว ระหว่างทีม โตเกียว คาชิโกคุ และทางทีม เมโก ครับผม”


“ถือว่าน่าสนใจมากครับ โดยทีมโตเกียว คาชิโกคุนั้นเป็นอีกทีมที่สามารถขึ้นมาเป็น 1 ใน 4 ทีมวางได้ ส่วนทางทีมเมโกก็ผ่าฟันอุปสรรคจนเข้ามาแข่งขันในรายการนี้ในครั้งแรกถือว่าน่าสนใจมากครับ”
ทางยู เสริม


เสียงของผู้บรรยายข้างสนามพูดขึ้นมา โดยข้างล่างเกมส์กำลังจะเริ่มขึ้นโดยทางมิโดริคาวะนั้นจับบอลไปเริ่มเล่น


“นั่นมันมิโดริคาวะ โชอิจิ เอสของเทนโนคุตอนมัธยมต้นไม่ใช่หรอ ?”
“นั่นสิเธอ หล่อเนาะว่ามั้ย!?!”


“มิโดริคาวะ ทางนี้!”
“มิโดริคาวะ!!!!”


เสียงของเด็กผู้หญิงโรงเรียนคาชิโกคุดังขึ้น เมื่อเห็นทางมิโดริคาวะยืนอยู่ในสนาม เพราะว่าในโรงเรียนเขาก็เหมือนคนที่ป๊อปปูล่าอยู่แล้วด้วยร่างกายที่ดูสูงราวกับนายแบบรวมถึงหน้าตาอันหล่อเหลาของเขาด้วย ทางมิโดริคาวะที่ได้ยินอย่างเสียงของเหล่าผู้หญิงแล้วก็หันไปโบกมือให้ สร้างความไม่พอใจให้กับนักเรียนชายบางคนที่อยู่ข้างบนด้วย รวมถึงกัปตันทีมอย่างคัตสึรากิ


แป๊ะ!



“รีบเขี่ยแล้วก็รีบเล่นสิเจ้าบ้า!”



“โอ้ยยยยยยยยยยยยยย! ขอโทษค้าบบบบ”


ทางโค้ชสเตฟานที่เห็นก็ถึงกับถอนหายใจกับอมยิ้มเล็กๆ เพราะเขาก็คงเข้าใจทางมิโดริคาวะเช่นกัน เพราะในโรงเรียนอาจารย์สเตฟานก็เป็นขวัญใจของเด็กนักเรียนผู้หญิงเช่นกัน แต่ดูเหมือนว่าทางเคียวโกจะดูไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ เธอหันหน้าหนีทางมิโดริคาวะที่กำลังอยู่ในสนามโค้ชสเตฟานที่เห็นอย่างนั้นก็เลยหันไปถามเธอ



“นี่เคียวโกะจังดูเหมือนเธอจะมีอาการแปลกๆ นะ”
“ปะ เปล่า สักหน่อยค่ะ อาจารย์”
“เอาเถอะนะ มาดูเกมส์กันก่อนดีกว่า”


ทางทีมโรงเรียนโตเกียว คาชิโกคุนั้นได้เป็นฝ่ายเริ่มเขี่ยบอลก่อน พวกเขาก็ตั้งเกมส์ขึ้นมาอย่างช้า ๆ ไม่รีบ โดยให้ทางทีมโรงเรียนเมโกดันขึ้นมาไล่บอลเพื่อให้มีช่องว่างมากกว่าเดิม ทางทีมคาชิโกคุนั้นยังต่อบอลได้อย่างแม่นยำ โดยในช่วง 5 นาทีแรกทางทีมเมโกนั้นยังหาลูกฟุตบอลไม่เจอเลยก็ว่าได้ แต่ถึงกระนั้นแล้วทางคาชิโกคุก็ไม่มีช่องให้มีจังหวะเข้าทำแล้วกัน


“เอาหละทุกคนใจเย็นไว้ก่อนนะ! ไม่ต้องรีบ” เสียงของเคนโกะสั่งการลูกทีมของเขาให้มีสมาธิในการเล่นเกมส์รับ
“ชิ! เจาะเข้าไปแบบธรรมดาคงไม่ได้ผลสินะ” คัตสึรากิคิดในใจ ก่อนจะเห็นบุนตะเริ่มพลิกตัวหนีตัวประกบ


“บุนตะ!”


คัตสึรากิส่งบอลไปที่บุนตะ ทางบุนตะเก็บบอลได้ก่อนจะเลี้ยงหลบกองหลังไป 1 คนแต่ก็ต้องใช้พื้นที่พอสมควรในการเลี้ยงผ่าน เพราะว่าเกมส์รับของทีมเมโกนั้นแน่นเหลือเกิน ทางบุนตะวิ่งเข้าไปสุดเส้นก่อนจะเปิดบอลเรียดเข้ามาหามิโดริคาวะ แต่ว่าทางเคนโกะเข้ามาสกัดไว้ได้อย่างทันท่วงที ทำให้บอลนั้นออกหลังเป็นลูกเตะมุม


ทางโคฮาคุนั้นจับบอลไปตั้งที่จุดเตะก่อนจะเปิดจากด้านขวา บอลโค้งหนีประตูออกมาก่อนที่ทางมิโดริคาวะจะขึ้นเทคมาโหม่ง แต่บอลนั้นโชคร้ายไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย เป็นจังหวะทักทายแรกของโตเกียว คาชิโกคุ ที่สร้างเสียงฮือฮาแฟนบอลในสนามได้ดีเลยทีเดียว บอลลูกนั้นเด้งมาเข้ามือของผู้รักษาประตูของเมโก เขาเหลือบไปเห็นทางเคนโกะที่วิ่งออกมา ผู้รักษาประตูคนนั้นรีบโยนบอลเข้าไปให้กับเคนโกะ ทางเ คนโกะจับบอลได้ ทางมาโคโตะวิ่งไล่เข้ามาแต่ว่าทางเคนโกะหยุดวิ่งก่อนจะส่งบอลไปแบ็คขวาที่วิ่งขึ้นมา ก่อนที่เคนโกะจะวิ่งมาเอาบอลจากแบ็คขวาคนนั้น ก่อนที่เขาจะเหลือบไปเห็นกองหน้าของทีมเขาที่รอวิ่งสวนอยู่ ทางเคนโกะวางบอลขึ้นหน้าไป น้ำหนักของบอลนั้นแทบจะพอดีที่จะตกไปหากองหน้าของเขาพอดี


“ไม่ยอมหรอกน่า!!!!”


เรียวเฮย์วิ่งเข้ามากระโดดโหม่งออกไป ก่อนที่บอลจะเข้ามาถึงกองหน้าของทีมเมโก ทำให้บอลนั้นเป็นแค่เพียงลูกทุ่ม


“ไนซ์ เรียวเฮย์!” คัตสึรากิพูดขึ้นมา
“ครับ!”


ทางเมโกได้ลูกทุ่ม ทางเคนโกะวิ่งเข้ามาเอาบอลก่อนจะส่งบอลด้วยขาซ้ายขึ้นไปให้กองหน้าเข้าไปจับบอลก่อนจะรีบเปิดบอลเข้ามา แต่ว่าทางเทปเปย์ก็โหม่งสกัดออกไป บอลนั้นเด้งเข้ามาตรงกลางสนาม ทางมาโคโตะไอ้หนุ่มหน้าหวานรีบเข้ามาเอาบอลเห็นทางฟูจิมะวิ่งเข้ามา เขาส่งบอลเข้าไปให้ฟูจิมะก่อนที่ฟูจิมะจะส่งบอลขวางสนามไปให้จุน จุนส่งไปหาคัตสึรากิ ก่อนจะเปิดไปข้างซ้ายให้กับเซป ทางเซปสับหลอกหนึ่งทีก่อนจะกระชากหลุดไปได้ ก่อนจะล็อคกลับมาเปิดด้วยเท้าขวา แต่บอลนั้นล้นเกินมิโดริคาวะ แต่ก็ยังไม่พ้นอันตรายเมื่อทางเอย์จิวิ่งเข้ามายิงวอลเล่ย์ด้วยขาขวา แต่ว่า



เป้งงงงงง!



บอลนั้นชนเสา ทำให้บอลเด้งออกไปทางกองหลังของทีมเมโกรีบเคลียร์ขึ้นหน้ามา บอลนั้นลอยไม่สูงมาก ทางเคนโกะเข้าไปเอาเจ้าจับบอลไว้ได้ แต่ว่าเขายังไม่ตั้งหลักดีทางคัตสึรากิก็เข้ามาไล่ แต่ว่าทางเคนโกะจะดึงบอลพลิกหลบ แต่ว่าทางคัตสึรากิก็พลิกตัวมาบังข้างหน้าเหมือนกัน ทางเคนโกะดูเหมือนจะไม่ฝืนหันหน้าคืนกลับไปที่กองกลางอีกคน ก่อนจะส่งไปที่ปีกขวา แต่ว่าก็โดนฟูจิมะตัดบอลไปได้ ฟูจิมะเลี้ยงปีกขวาของเมโกไปอย่างง่ายดาย ก่อนจะหลบแบ็คซ้ายอีกคน ก่อนที่เปิดบอลมาด้วยซ้าย แต่ว่าทางเคนโกะเข้ามาบล็อคได้อยู่


“ชิ! ยังตามมาทันอย่างงั้นเหรอ?!” ฟูจิมะคิดในใจ


“โค้ชคะ” เคียวโกะหันไปหาสเตฟาน
“อืม…. ครูรู้แล้วว่าทำไมทีมเมโกถึงเข้ามาถึงรอบนี้ได้ เพราะมีคนแบบเคนโกะถึงมาได้ขนาดนี้ เขาแบกทั้งเมโกเอาไว้ แต่ว่าเขาจะต้านเราอยู่ได้สักแค่ไหนกันเชียว”


ทางเซปเข้าไปจับบอลมาตั้งที่มุมธงก่อนจะเขาเปิดด้วยขาขวาบอลนั้นโค้งเข้ามา แต่ว่าทางผู้รักษาประตูของทีมเมโกกระโดดชกออกไปได้ก่อนที่บอลนั้นจะลอยมาหาเคนโกะ พอดิพอดี เคนโกะพาบอลขึ้นมาคนเดียวทางทีมเมโกได้โอกาศสวนขึ้นมา ก่อนที่ทางจุนจะวิ่งเข้ามาแต่ว่าทางเคนโกะแตะบอลไปข้างหลังให้บอลรอดขาของทางจุนไปได้ ทำให้จุนเสียหลักทางเคนโกะวิ่งตามบอลก่อนจะเปิดบอลข้ามฟากไปให้ทางปีกขวา ทางฟูจิมะเข้ามาดักแต่เขาเลือกที่จะส่งบอลให้กองกลางแล้วส่งบอลให้เคนโกะวิ่งเข้ามาเผชิญหน้ากับมาโคโตะ ก่อนจะสเตปโอเวอร์


“ซ้าย หรือ ขวา กันนะ?!” มาโคโตะคิดในใจ


ทางมาโคโตะเลือกที่จะไปทางขวา แต่ว่าทางเคนโกะเลือกที่จะไปทางซ้ายของมาโคโตะเอง ทำให้มาโคโตะโดนหลอกเข้าไป ทางเคนโกะยังพาบอลขึ้นมา ก่อนที่กองหน้าของเขาจะวิ่งเข้ามาทางเคนโกะส่งบอลตรงไปก่อนที่ทางกองหน้าคนนั้นจะเหยียบบอลไว้ให้บอลหยุดนิ่ง ก่อนที่ทางเคนโกะจะวิ่งเข้ามาแปบอลด้วยข้างเท้าด้านใน แต่ว่าทางจุนที่โดนเล่นงานในตอนแรกเข้ามาสกัดได้ทันท่วงที


“ไนซ์! จุน”


ทางจุนเข้าไปแท็คมือกับทางเทปเปย์ แต่ว่าบอลนั้นยังเป็นบอลทุ่มของทีมเมโกอยู่ ทางทีมเมโกทุ่มบอลเข้ามาแต่ว่าทางฟูจิมะวิ่งดักเข้าได้ ก่อนจะลากบอลยาวขึ้นมา ก่อนจะส่งบอลมาที่คัตสึรากิ ก่อนจะเปิดบอลเข้ามาหามิโดริคาวะ ทางมิโดริคาวะพักบอลลงมาได้ แต่ว่าทางเกมส์รับของทีมเมโกเข้ามาประกบทางมิโดริคาวะไว้สามคนเลย


“เล่นอย่างนี้เลยหรอ !!?!!” เคียวโกะที่นั่งดูอยู่กับยืนขึ้นเลย
“ชิ… เจ้าพวกบ้านี่น่ารำคาญชะมัดเลย ฉันจะผ่านให้ดู!”


ทางมิโดริคาวะพลิกตัวหลบมาได้ แต่ว่าอีกคนเข้ามาสกัดทางมิโดริคาวะก็กระดกบอลหลบไปได้ ทางมิโดริคาวะได้โอกาศยิง แต่ว่าเขากลับรู้สึกว่าลูกนี้ไม่ควรยิง และมันก็เป็นเหมือนที่เขาคิดไว้ กองหลังอีกตัวเข้ามาปิดเอาไว้ ทำให้ทางมิโดริคาวะต้องล็อคหลบเข้าขาซ้าย แต่ว่าทางเคนโกะเข้ามาแซะบอลได้ทัน บอลนั้นไหลเข้าไปหาผู้รักษาประตูของทีมเมโก ก่อนที่เขาจะเตะไกลเคลียร์ออกมา


หลังจากนั้นเกมส์ก็ยังดำเนินต่อไป ทางคาชิโกคุนั้นยังไม่สามารถทำลายแนวรับของเมโก ที่มีเคนโกะคุมไว้ และยิ่งถ้าบุกไม่ลืมหูลืมตาทางเคนโกะก็สามารถเข้ามาป่วนเกมส์รับได้เช่นกัน จนเกมส์ผ่านไปสามสิบนาทีตั้งสองทีมยังทำอะไรไม่ได้ และคนที่หัวเสียที่สุดคงไม่พ้นมิโดริคาวะที่เขาโดนประกบสามตัวอยู่ตลอด และแทบไม่มีโอกาศได้เล่นบอลเลย


“นี่มิโดริคาวะ!” เสียงของโค้ชสเตฟานเรียกทางมิโดริคาวะเข้ามาติวอยู่ข้างสนาม ทางมิโดริคาวะที่เดินมาด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีเท่าไหร่
“ครูมีอะไรจะขอเธออย่างนึง… ครูจะเปลี่ยนบทบาทของเธอหน่อยนะ ครูจะให้คุณเล่นเป็น False 9 เพื่อที่เธอจะได้ลงมาเชื่อมเกมส์มากขึ้น ครูรู้ถึงความสามารถของเธอดี มิโดริคาวะ เต็มที่ละ แล้วใจเย็นๆ ด้วยนะ” ทางสเตฟานพูดพร้อมเอามือขยี้หัวของมิโดริคาวะแล้วตบหลังด้วย


“โอเคครับ!”


ทางคาชิโกคุได้บอล ทางคัตสึรากิได้บอล แต่ว่าทางมิโดริคาวะวิ่งลงมาล้วงต่ำลงกว่าเดิม ทำให้ทางคัตสึรากิตกใจเล็กน้อย


“โค้ชกะจะเปลี่ยนเจ้านั่นเป็น False 9 สินะ”


ทางคัตสึรากิส่งบอลเข้ามาหามิโดริคาวะก่อนที่ทางมิโดริคาวะจะส่งบอลไปให้ทางเอย์จิ ทางมิโดริคาวะได้บอลก่อนจะวิ่งขึ้นไป ไม่ยืนค้ำหน้าเหมือนเดิมทางเอย์จิส่งบอลเข้าไปให้บุนตะ ทางบุนตะมองไปที่มิโดริคาวะ ก่อนที่มิโดริคาวะจะมองมาที่บุนตะเหมือนพวกเขาจะมีอะไร ทางมิโดริคาวะหันไปหาเซป เหมือนเซปจะเข้าใจอะไรบางอย่าง ทางบุนตะส่งบอลเข้าไปให้มิโดริคาวะแต่ว่าทางมิโดริคาวะปล่อยบอลหลอกรอดขาของตัวเองไป ทำให้เซ็นเตอร์ทั้งสองถึงกับเสียหลักแล้วบอลนั้นพุ่งเข้ามาหาเซป ทางแบ็คขวาของเมโกรีบเข้ามาสกัดแต่ว่าทางเซปหลบไปด้วยการใช้ท่า**โรนัลโด้ ช็อป หลอกไปได้ทำให้แบ็คขวาของเมโกสไลด์ไม่โดนก่อนที่ทางมิโดริคาวะจะวิ่งเติมเข้ามาทางเซปปาดบอลเข้ามาทางมิโดริคาวะจะเข้ามายิง แต่ว่าทางเคนโกะวิ่งตามหลังเข้ามา


“ชั้นไม่ยอมหรอกน่า!”


ทางมิโดริคาวะเห็นอย่างนั้นแล้วจะแตะบอลไปข้างหลังบอลนั้นรอดขาของเคนโกะ เหมือนกับที่เขาทำกับจุนไปแต่ว่าเขาทำได้เนียนตากว่าเคนโกะ จนทำให้ทางเคนโกะนั้นเสียหลักก้นกระแทกพื้นลงไป ก่อนที่มิโดริคาวะจะตามบอลไปก่อนจะยิงด้วยขาขวาก่อนบอลนั้นจะพุ่งไปเต็มแรงเสียบโคนเสาเข้าไปอย่างสวยงาม!


“เข้าไปแล้วครับ! จากการยิงประตูของมิโดริคาวะคุงจากทีมรุ่นอัจฉริยะของทีมเทนโนคุ ทำให้ทีมโตเกียว คาชิโกคุขึ้นน้ำทีมเมโกไป 1-0”
“เป็นประตูที่สวยมากครับลูกนี้เป็นการใช้ทักษะที่ยอดเยี่ยมของมิโดริคาวะ และความเข้าใจของทีม พวกเขาทำลายกำแพงของเมโกได้สำเร็จแล้วครับ”


ทางมิโดริคาวะวิ่งดีใจที่มุมธง ก่อนที่ทางเพื่อนจะเข้ามาดีใจด้วยทางคัตสึรากิเข้ามาขยี้หัวของมิโดริคาวะเลย รวมถึงบุนตะ และทางเอย์จิ ทางฟูจิมะที่ดูอยู่นั้นก็ยิ้มที่มุมปาก ทางมาโคโตะก็เข้าไปแท็คมือกับเทปเปย์ และ ทางเรียวเฮย์ ทางจุนก็ยิ้มเช่นกัน


“เห้! เซป!” มิโดริคาวะเรียกเซปก่อนที่จะเซปจะหันหน้ามาหามิโดริคาวะ
“ไนซ์ พาส!”
“อะ เอ้อ! ไนซ์ ซูท!”


ทางมิโดริคาวะเข้าไปแท็คมือของทางเซป ทางโค้ชสเตฟานที่นั่งดูอยู่ก็ยิ้มอย่างพอใจ ทางเคียวโกะที่เห็นก็ยิ้ม รวมถึงพวกที่อยู่ม้านั่งสำรองด้วยเช่นกัน


“นี่เป็นแผนของโค้ชใช่ไหมคะ ที่ให้ทางมิโดริคาวะลงมาล้วงต่ำกว่าเดิม”
“ก็ใช่นะ แต่ไม่คิดว่าเขาจะทำได้ดีเกินคาดขนาดนี้ สมแล้วกับที่ถูกเรียกว่ารุ่นอัจฉริยะ”


ทางทีมเมโกที่โดนยิงลูกแรกเข้าไปนั้นถึงกับขวัญเสียเลย พวกเขาคิดจะมายันกับคาชิโกคุให้ได้ แต่การโดนยิงตั้งแต่นาทีที่ 30 กว่าๆ นั้นมันทำให้พวกเขาถึงกับจะถอดใจกันเลยทีเดียว


“นี่ทุกคน! เกมส์ยังไม่จบนะ!” เสียงของเคนโกะที่เข้ามากระตุ้นลูกทีมของตัวเองที่กำลังท้ออยู่
“เรายังมีเวลาอีกเกือบหนึ่งชั่วโมง เราจะมายอมแพ้ตอนนี้ไม่ได้เด็ดขาดเข้าใจมั้ย!!” เคนโกะยังกระตุ้นลูกทีมของเขาอยู่ มันทำให้ทางทีมเมโกนั้นกลับมามีกำลังใจมากขึ้น


“โอ้ววววววว!!!!!!!!”


“ดูเหมือนพวกเขาจะไม่ยอมแพ้นะคะ” เคียวโกะพูดกับโค้ชสเตฟาน
“เหมือนที่ครูคิดไว้ แต่ว่าพวกเราก็จะทำอะไรง่ายกว่าเดิมแล้วหละนะ”


และสุดท้ายมันก็ที่โค้ชสเตฟานคิดไว้ คาชิโกคุสามารถเล่นง่ายขึ้น เพราะว่าทางทีมเมโกนั้นเปลี่ยนจากการตั้งรับแบบโซน มาพยายามบุกและเพรสซิ่งเร็วกว่าเดิม ทำให้ทางคาชิโกคุนั้นมีพื้นที่ในการเล่นมากขึ้น มันทำให้กลับเป็นการคาชิโกคุได้บุกใส่และมีจังหวะจบมากกว่าเดิม ถึงแม้ทีมเมโกจะพยายามไล่ล่าบอลมากขนาดไหน คาชิโกคุขึ้นนำสองลูกจากการเปิดบอลของฟูจิมะ แล้วทางมิโดริคาวะที่โหม่งบอลตั้งมทางซ้ายให้ทางเซปที่วิ่งขึ้นมา เอี้ยวตัวแปรแล้วเท้าขวา บอลนั้นโค้งหนีมือผู้รักษาประตูเข้าไปก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้


ทางครึ่งหลังทางโค้ชเปลี่ยนอารากิ และ เอย์จิออก ส่งทาง ไซจิ ฟุรุคาว่า และ อากิฮิโระ เซย์ซิน เข้ามา แต่เกมส์ก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรมาก ยังเป็นคาชิโกคุที่ครองเกมส์อยู่ฝ่ายเดียว ก่อนที่จะมาได้ลูกสามจากจังหวะที่อากิฮิโระวิ่งผ่านกองหลังมาสองคนก่อนจะส่งให้ทางมิโดริคาวะ แต่ทางมิโดริคาวะเลือกที่จะปล่อยหลอกให้ตัวสำรองอีกคนอย่างไซจิเข้ามายิง ทำให้ทีมคาชิโกคุขึ้นนำสามต่อศูนย์ตั้งแต่ช่วงต้นครึ่งหลัง ก่อนที่จะมาได้ลูกที่สี่จากลูกเตะมุม ทางอากิฮิโระเปิดเข้ามาก่อนกองหลังของทีมเมโกจะสกัดออกมาได้ ก่อนบอลนั้นจะเข้ามาหาคัตสึรากิยิงสวนเข้าไป บอลพุ่งเสียบมุมเสาจนผู้รักษาประตูไม่มีโอกาศแม้แต่จะกระโดดปัดเลย


หลังจากนั้นทางโตเกียว คาชิโกคุได้เปลี่ยนทางโยชิโนริ มาโคโตะออกในนาทีที่ 60 ให้ทางอิวากิ ซาคาอิ กองกลางปี 1 อีกคนลงมาแทน และเจ้าตัวก็ไม่ทำให้ผิดหวังเขาสามารถทำหน้าที่เกมส์รับได้ดี ก่อนที่จะมีจังหวะจ่ายทะลุให้กับมิโดริคาวะวิ่งแซงกองหลังก่อนจะล็อคหลบผู้รักษาประตูยิงเข้าไปได้อย่างสวยงาม ช่วยให้ทีมคาชิโกคุนำห่างออกไปอีกเป็นสี่ต่อศูนย์ แต่ทางทีมเมโกก็ยังไม่ยอมแพ้มาได้ฟรีคิกจากจังหวะที่ทางฟูจิมะพลาดเข้าบอลพรวดใส่ทางเคนโกะ ทำให้ได้ฟรีคิกในระยะทำการ ก่อนที่ทางเคนโกะจะยิงเข้าไปไล่มาเป็นสี่ประตูต่อหนึ่ง


เมโกพยายามบุกแต่ก็ไม่สามารถผ่านแนวรับอย่าง เรียวเฮย์ และ เทปเปย์ได้อยู่ดี และก่อนหมดเวลาเพียงสิบนาที ทางเรียวเฮย์เปิดบอลยาวมาให้ทางฟูจิมะที่วิ่งเติมขึ้นมาเลี้ยงขึ้นมาก่อนจะหลบอย่างพริ้วไหวแบบบราซิลเลี่ยนสไตล์ก่อนจะกระดกบอลข้ามผู้รักษาประตูของทีมเมโกไปได้ทำให้กลับมานำสี่ประตูเช่นเดิม ก่อนที่โค้ชสเตฟานจะส่งนาโอกิ ทาเกยาม่าลงมาแทน มิโดริคาวะ โชอิจิที่ทำได้สองประตูในแมทต์นี้ออกมาพัก โดยปกติแล้วฟุตบอลจะเปลี่ยนตัวได้สามคน แต่นี่เป็นเพียงการแข่งขันนักเรียนมัธยมปลายจึงเปลี่ยนได้ห้าคน ก่อนที่ในช่วงทดเวลาทางอิวากิจะส่งบอลไปให้ทางทากายาม่า จุนวิ่งมาสุดเส้นก่อนจะเปิดบอลมาให้นาโอกิ ทาเกยาม่ากองหน้าที่มีความสูงถึง 194 เซนติเมตรโหม่งปิดกล่องช่วยให้ทางโตเกียว คาชิโกคุถล่มทีมน้องใหม่ของเมโกไป 6-1


“เป็นเกมส์ที่ดีนะ พวกเราแพ้ซะหมดรูปเลย” เคนโกะเดินเข้ามาหาคัตสึรากิ
“พวกนายก็แข็งแกร่งเหมือนกันนะ ช่วงสามสิบนาทีแรกทำเอาพวกเราเกือบแย่” คัตสึรากิตอบกลับก่อนที่ทั้งสองจะจับมือกัน


นักกีฬาทั้งสองทีมต่างมาเข้าแถวเคารพประทานในพิธีก่อนจะเดินจับมือกัน เป็นการเปิดสนามชิงแชมป์แห่งโตเกียวที่ยอดเยี่ยม โดยทีมโตเกียว คาชิโกคุถล่มทีมเมโกไปได้ ก่อนที่ทางผู้ดูแลสนามจะเข้ามาเช็คสนามเพื่อให้คู่ต่อไปของวันเตะ โดยถือว่าใครที่ได้เปรียบเพราะว่า ทีมที่จะได้เตะในวันแรกนั้นจะได้ใช้สนามอายิโนโมโตะ สเตเดี้ยมในการแข่งขัน และจะกลับมาใช้อีกทีในวันแข่งรอบชิงชนะเลิศนั่นเอง โดยวันนั้นทุกโรงเรียนต้องเข้ามาทำพิธีปิดการแข่งขันคนดูก็จะมากเหมือนวันแรกเช่นเคย เผลอๆอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ โดยทีมต่อไปที่จะแข่งต่อจากทีมคาชิโกคุ นั่นก็คือทีมเฮียวเทย์ราชาแห่งโตเกียวนั่นเอง


ทางทีมคาชิโกคุที่กำลังเดินกลับไปที่ห้องล็อคเกอร์ของตัวเอง อยู่โดยทางมิโดริคาวะที่กำลังเปิดประตูเข้าไป แต่เขาก็เห็นทางฮายาโตะ เรียวทาโร่ที่กำลังยืนรอเข้าอยู่



“ไม่คิดเลยนะ ว่าลูกนั้นนายจะปล่อยให้คนอื่นยิง” เรียวทาโร่กล่าวทักทายกับมิโดริคาวะ
“นายจะมาแซะอะไรชั้นอีกละ เจ้าเปี๊ยก”
“เปล่าหรอกชั้นแค่ดีใจที่เห็นนายเล่นเพื่อทีมมากกว่าเดิมเยอะ ถ้าเทียบกับเมื่อปีก่อน”
“แต่ว่าแต่นายหนะเจอเขาแล้วสินะ” เรียวทาโร่ถามต่อ
“ถ้านายหมายถึงเขาคนนั้น ก็เจอหละทำไม…?”


“มิโดจังทำไมไม่เข้าไปในห้องซักที! เอ้า เรียวจัง อยู่ที่นี่เองหรอ ?” ทางเคียวโกะที่กำลังออกมาตามมิโดริคาวะ แต่ว่าเธอก็เจอทั้งสองคนกำลังพูดกันพอดี เธอจึงทักเรียวทาโร่ด้วย


“ฮะฮะ เคียวโกะจัง ชั้นก็แค่มาทักทายมิโดริคาวะเท่านั้นเอง เห็นเจ้านี่มันเล่นเพื่อทีมมากขึ้น ชั้นก็อดใจไม่ได้ที่จะได้เจอกับเจ้านี่ ถ้าพวกเธอทำได้หละนะ”
“ถ้าทำได้งั้นหรอ !?! ชั้นจะเข้าไปอัดแกในรอบชิงต่างหากละเจ้าเปี๊ยก!” มิโดริคาวะสวนทันที
“นี่มิโดจังเข้าไปได้แล้วนะ คนอื่นเขารอกันหมดแล้ว….” ทางเคียวโกะเข้ามาดึงแขนของมิโดริคาวะ ทางเรียวทาโร่ก็ยิ้มที่มุมปากก่อนจะพูดส่งท้าย
“ชั้นมีอะไรจะส่งท้ายพวกนายนะ จากที่เล่นกันวันนี้ พวกเราหนะแข็งแกร่งกว่าพวกนาย ถ้าอยากรู้หละก็มาดูแมทต์ต่อไปเลยนะ เอาหละ ไปละนะ” 


เรียวทาโร่เดินกลับไปก่อนจะโบกมือลาทั้งสอง ก่อนที่ทางมิโดริคาวะจะทำหน้าไม่ค่อยพอใจกับคำพูดเท่าไหร่ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องล็อคเกอร์ เมื่อเขาเข้ามาก็เห็นทางคัตสึรากิที่กอดอกอยู่ ทางมิโดริคาวะรู้ได้เลยว่าเขาต้องโดนอะไร ก่อนที่ทางคัตสึรากิจะเข้าไปล็อคคอของมิโดริคาวะ


“นี่แกหนะ! ไปไหนมานะ ต้องให้ตามอยู่เรื่อย!” 
“ผะ ผมแค่คุยกับเพื่อนเก่าเองคร้าบบบ ขอโทษคร้าบบบบบบ”


ทางคัตสึรากิที่ได้ยินก็ปล่อยทางมิโดริคาวะออก ก่อนเขาจะถอนหายใจ


“เพื่อนเก่าของนาย เจ้าคนที่มาจากเฮียวเทย์สินะ”
“อะ อะ ใช่ครับ!”
“เอาเถอะน่า พวกเราก็จะไปดูพวกเขาต่อนี่หละ แต่ว่ามาฟังโค้ชพูดก่อนนะ”


ทางคัตสึรากิกลับไปนั่ง โดยทางมิโดริคาวะก็ไปรอนั่งฟังโค้ชพูด ทางโค้ชสเตฟานเมื่อเห็นนักเรียนมาครบแล้วก็ได้เวลาที่เขาจะเริ่มพูด


“เอาหละ ไหนๆ ก็มากันครบแล้ว ครูก็อยากจะบอกว่าครูแฮปปี้กับวันนี้มาก ถึงช่วงแรกเราจะทำอะไรมากไม่ได้ แต่เมื่อได้ประตูแรกมาทุกอย่างก็ดีขึ้นเอง ต้องขอบคุณทุกคนมาก เกมส์หน้าจะมาในอีกสามวันเราต้องไปแข่งที่โรงเรียนฮารุโอกะ เตรียมตัวให้ดีด้วย เอาหละ ไปดูเฮียวเทย์กัน!”


“ครับ!”


------------------------------------------------------------------------- 


ปิ้ด ปิ้ด ปี้ดดดดดดดดดดดดดดดด!


“บะ บ้าน่า…. นี่เรียกว่าเล่นฟุตบอลจริงๆ หรอเนี่ย ?” ทางไซจิพูดขึ้นมาด้วยความตกใจ


โรงเรียนเฮียวเทย์สามารถชนะไปได้ 11-0 ถือเป็นการเปิดตัวที่ยอดเยี่ยมของทีมที่ขึ้นชื่อว่าเป็นราชาแห่งโตเกียวไปได้


“เจ้าเรียวทาโร่ถึงจะลงดันต่ำไปเล่นกลางแต่ก็ทำได้เยี่ยมเลยแฮะ” มิโดริคาวะพูดขึ้นมา

“จะให้พูดว่ากลางของทีมเฮียวเทย์สามารถหมุนเวียนได้ตลอดเวลามากกว่านะ… ดูกัปตันคนนั้นสิ เขาเหมือนเป็นคนคอยคุมเกมส์ในแดนกลางทั้งหมดเลย” ทางเคียวโกะพูดพร้อมชี้ไปที่มิยาซาวะ ซานาดะ กัปตันทีมของทีมเฮียวเทย์

“ยิ่งมีการเติมเต็มของเรียวทาโร่แล้ว ทำให้กลางที่แข็งแกร่งของเฮียวเทย์นั้นแทบจะสมบูรณ์แบบเลยละครับ” โค้ชสเตฟานพูด


“เห้อออ… ดูเหมือนว่าเราจะยิงเยอะไปนะ ว่ามั้ยมิยาซาวะ” ทากามิพูดพร้อมเดินอย่างสบายใจ เพราะวันนี้เขายิงไปถึง 4 ลูก
“ไม่หรอก เราแค่เล่นตามเกมส์ของเราเท่านั้นเองหละ”
“ถ้าชั้นขึ้นไปเล่นด้วยคงจะยิงได้มากกว่านี้” ยูโตะผู้รักษาประตูบ่น
“อะไร อะไรกัร ยูตะก็คันมือคันเท้าหรอเนี่ย? แต่ว่าวันนี้นายสบายไปหน่อยนะ” ทากามิแหย่
“ก็ทีมนั้นมันอ่อนแอเกินไปก็เท่านั้นเอง” ยูโตะปิดท้าย


ทางฮายาโตะ เรียวทาโร่ที่สวมหมายเลข 7 ซึ่งเป็นชุดสีดำของทีมเฮียวเทย์ นั้นหันหน้าไปมองหน้ากับทางมิโดริคาวะ ทั้งสองเหมือนรู้ว่าอีกไม่นานคงจะได้เจอกัน และบทสรุปแล้วใครกันแน่ที่จะเป็นผู้ชนะ


“เอาหละทุกคนกลับกันเถอะครับ… เรารู้ถึงความแข็งแกร่งของทีมเฮียวเทย์แล้ว ครูคิดว่าพวกเธอคงรูว่าต้องทำอะไร… เตรียมตัวให้ดีกันหละ”


------------------------------------------------------------------------- 


โรงเรียนคาชิโกคุชนะนัดแรกได้อย่างไม่ยากเย็นนัก โดยนัดที่สองต้องเจอกับโรงเรียนฮารุโอกะ โดยพวกเรายังจัดชุดเดิมลงเพียงเปลี่ยนแค่อิวากิ ซากาอิที่สามารแอสซิสต์ในนัดแรกแทน มาโคโตะ และผลก็จบไปด้วยสกอร์ 6-0 โดยแมทต์นี้ทางมิโดริคาวะแฮทริกตั้งแต่ครึ่งแรกก่อนจะได้มาพัก ก่อนที่ทางเอย์จิ และบุนตะจะยิงคนละลูก ก่อนจะปิดท้ายด้วยลูกโหม่งของอิวากิ เทปเปย์ ก่อนที่เกมส์สุดท้ายเราจะมาเจอกับทีมพาณิชย์โฮโอ เราแทบจะใช้สำรองลงแทบทั้งทีมแต่สุดท้ายแล้ว


“ฮิรางาโตะ เรียวเฮย์ โหม่งเข้าไปครับ! โรงเรียน โตเกียว คาชิโกคุชนะไปด้วยสกอร์ 4-2 โดยทาง อากิฮิโระ เซย์ซิน, มาเอดะ คาวาซากิ, นาโอกิ ทาเกยาม่า และการโหม่งในนาทีสุดท้ายของตัวสำรองอย่าง ฮิรางาโตะ เรียวเฮย์ครับ! ทำให้ทางทีมโตเกียวคาชิโกคุผ่านเข้ารอบต่อไปได้สำเร็จ!”

มันก็ผ่านไปได้อย่างราบรื่น… โดยเราไม่ต้องใช้ทางมิโดริคาวะ และคนอื่นๆ เลย


“ผ่านเข้ารอบแบบสบายใจแล้วสินะ งั้นก็คงรอชิงได้เลย” ทางมิโดริคาวะเดินอย่างสบาย แต่เขากลับสังเกตอาการรุ่นพี่ที่แปลกไป
“พะ พวกรุ่นพี่เป็นอะไรไป”


“นายไม่รู้สินะ ว่าต่อไปเราจะต้องเจอกับทีมอะไร?” คัตสึรากิพูดขึ้นมา


“ก็ผมมองข้ามช็อตไปถึงรอบชิงแล้วนี่นา ฮี่ฮี่!”
“เราต้องเจอกับทีม ซางามิอุระ ทีมที่ชนะเราถึงมาสองทีมติด”


เมื่อทางคัตสึรากิ พูดขึ้นมาทำให้ทางมิโดริคาวะถึงกับนิ่งทันที



“แล้วพวกรุ่นพี่จะมานิ่งเฉยแบบนี้ทำไมกันละ…? แค่ปีนี้เราต้องชนะก็พอไม่ใช่หรอ ?” มิโดริคาวะพูดขึ้นมา
“หึ ก็คงอย่างนั้นหละนะ แต่ว่าเป็นแค่รุ่นน้องอย่ามาทำตัวเก่งแถวนี้!”


คัตสึรากิกระโดดพุ่งเข้าไปถีบมิโดริคาวะจนปลิวไปเลย


“ผมทำอะไรผิดเนี่ย!?!”


ทางมิโดริคาวะโวยวายท่ามกลางเสียงหัวเราะของเหล่านักเตะในทีม ทางเคียวโกะที่เห็นอย่างนั้นก็ยิ้มอย่างพอใจเพราะว่าทางมิโดริคาวะเป็นส่วนที่ทำให้สถานการณ์ที่มันตรึงเครียดอยู่ให้ดูดีขึ้นได้บ้าง ถึงแม้ทีมซางามิอุระจะฝังใจพวกเขาอยู่ก็ตาม


------------------------------------------------------------------------- 


“นี่สินะครับ การเล่นของซางามิอุระ” เสียงของชายคนหนึ่งพูดขึ้นในห้องล็อคเกอร์ของทีม โดยมีจอทีวีตั้งอยู่ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะดูการเล่นของทีมซางามิอุระ


“นั่นหละ… คงไม่แปลกใจแล้วสินะ ว่าทำไมคาชิโกคุถึงถูกทีมนี้ล้มถึงสองปี เรียวทาโร่” ชาคนนั้นหันหน้ามาพูดกับเจ้าของเสียงอย่างฮายาโตะ เรียวทาโร่ เขาคนนั้นคือกัปตันทีมของเฮียวเทย์ มิยาซาวะ ซานาดะ


“รู้แล้วละ ว่าทำไมพวกเขาถูกยกให้เป็นอีกหนึ่งทีมเต็ง คงยากสำหรับคาชิโกคุสินะ”



“ใช่แล้ว ถึงมันจะเป็นศาสตร์ฟุตบอลแบบเก่า… แต่ถ้าในระดับมัธยมปลายถือว่าเป็นอะไรที่ต่อกรยากพอสมควรเลยนะ”
“แถมพวกเขาถูกฝึกซ้อมจนติดเป็นนิสัยด้วย…”



“โททัล ฟุตบอล ยังไงหละ….” 
SpeedStar
SpeedStar
Posts : 35
Join date : 2018-08-20

Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน  Empty Re: Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน

Tue Aug 21, 2018 8:48 pm
ตอนที่ 6 : โททัล ฟุตบอล แบบใหม่


หลังจากที่ทีมโตเกียว คาชิโกคุได้ซ้อมเสร็จพวกเขาก็ได้ไปดูเทปการเล่นของคู่แข่งของเขาอย่างทีมซางามิอุระ ทีมที่ใช้ระบบโททัล ฟุตบอล ระบบที่ทีมชาติฮอลแลนด์ใช้ในยุค 1970s


“สุดยอดเลยแฮะ… ไม่คิดว่าเขาจะเล่นกับระบบฟุตบอลแบบนี้ได้ดีขนาดนี้”


ทางมิโดริคาวะพูดขึ้นมาหลังจากที่พวกเขาดูเทปการแข่งขันของทีมซางามิอุระ คู่แข่งของทีมพวกเขาในรอบรองชนะเลิศการแข่งขันฟุตบอลระดับโตเกียว


“แต่ว่าระดับโค้ชสเตฟานก็มีสไตล์บอลของอิตาลีเข้ามาแก้ทางได้อยู่ไม่ใช่หรอ ? แต่ว่าทำไมถึง….” ทางมิโดริคาวะถามขึ้นมาอีก แต่ว่าพวกรุ่นพี่ทุกคนกลับเงียบลงไป ก่อนที่ทางคัตสึรากิจะถอนหายใจก่อนจะเริ่มพูดขึ้นมา


“ไร้เดียงสาจังนะ… คลิปที่ดูนี่มันคือเมื่อสองปีก่อน” เขาลุกขึ้นมาก่อนจะไปกดที่คอมพิวเตอร์ก่อนจะเปลี่ยนอีกคลิปเป็นคลิปที่พวกเขาเจอกันในการแข่งขันในวินเทอร์ คัพ เมื่อปีก่อน เมื่อเห็นอย่างนั้นแล้วทำให้ทางมิโดริคาวะถึงกับตกใจ ก่อนที่ทางโค้ชสเตฟานจะเริ่มพูดขึ้นมา


“….. นะ….. นี่มันรุ่น มากิโอะ นี่นา”


“โดยปกติแล้วจุดเด่นของโททัล ฟุตบอลนั้นคือนักเตะทุกคนสามารถทดแทนตำแหน่งกันได้ ง่ายๆ เลยนะมันหมายความว่านักเตะทุกคนเป็นนักเตะอเนกประสงค์ คนที่น่ากลัวที่น่ากลัวที่สุดก็คือคนที่ไม่มีบอล และไม่ต้องเสียเวลาวิ่งกลับตำแหน่งด้วย มันก็คล้ายๆ ฟุตซอลอย่างที่พวกเธอรู้ละนะ ง่ายๆ ก็คือเรียกว่า กิฟท์ แอนด์ โก”


“แต่ว่าทางทีมซางามิอุระมีอะไรที่แตกต่างไปจากนั้น มันคือการ ไล่ล่าบอล อย่างที่พวกนายเห็นเขาใช้การหมุนเวียนนักเตะวิ่งเข้าไปบีบทางนักเตะถึงสามคน อย่างรวดเร็ว เอาจริงๆ ตั้งแต่มี ฮิมูโระ มากิโอะ ที่มาจากเทนโนคุเข้ามาก็ทำให้ทีมซางามิอุระแข็งแกร่งขึ้นมา เพราะว่าถ้าเทียบกันศักยภาพรายบุคคลแล้วนั้น พวกเธอนั้นเหนือกว่าซางามิอุระ แต่ด้วยแท็คติค ทำให้ผมยังไม่สามารถชนะเขาคนนั้นได้…” สเตฟานพูดพร้อมทำหน้าที่ดูเจ็บใจอย่างสุดๆ 


“แต่ว่าการเล่นแบบนั้นมันไม่น่าวิ่งได้ถึง 90 นาทีนี่!” มิโดริคาวะพูดขึ้นมา

“มันก็ใช่ แต่ครูอยากจะบอกว่านักเตะของทีมซางามิอุระส่วนมากเป็นนักเตะประเภทเดียวกับมาโคโตะ ที่ไม่เคยยอมหยุดวิ่งด้วยสินะ” 


“งั้นหรอ… มันก็น่าสนุกดีนะ ใช่มั้ย หน้าหวาน!” มิโดริคาวะพูดพร้อมหันหน้าไปหาทางมาโคโตะ ทำให้ทางมาโคโตะถึงกับตกใจเล็กน้อย 
“คะ ครับ… คุณนี่ดูตื่นเต้นดีนะ แหะๆ”
“การได้เจอกับทีมที่แข็งแกร่งแบบนี้นี่หละมันถึงทำให้สนุก ใช่มั้ยหละ!!”
“อะ อื้มม!!” ทางมาโคโตะพยักหน้าพร้อมยิ้มอย่างอ่อนโยน


“ถ้าเราผ่านนี่ไปได้ ก็จะเหมือนกับการทำลายกำแพงที่อยู่ในใจของทีมเราได้ แล้วเราก็จะกล้าเชิดหน้าชูตาได้ และพร้อมที่จะแย่งแชมป์มายังไงหละ” ทางเรียวเฮย์พูดขึ้นมาด้วยท่าทางที่ดูเหมือนไฟในใจของเขานั้นกำลังลุกโซนด้วยความตื่นเต้น


“ก็แค่ฟุตบอลสมัยเก่า ที่ดัดแปลง ของเก่าก็คือของเก่า ชั้นจะจัดการมันเอง” ทางฟูจิมะพูดก่อนที่จะลุกไปเปิดประตูออกจากห้องล็อคเกอร์ ทางเซปก็จะออกไปด้วย แต่ว่าเด็กหนุ่มชาวอิยิปต์หันหน้ามาบอกกับทุกคนที่อยู่ข้างใน


“เอ่อ… ถึงผมจะไม่ค่อยอันเดอร์แสตนมากเท่าไหร่ แต่ถ้าพวกเขาเล่นแบบนั้น เราก็ต้องชนะให้ได้อยู่ดี ผมขอตัวละ ซียูทุกคน”


เหล่ารุ่นพี่ที่เห็นทางเหล่ารุ่นน้องที่ดูคึกคัก และดูตื่นเต้นกับการที่จะได้เจอกับทีมโรงเรียนซางามิอุระ จากสถานการณ์ที่ดูตรึงเครียดกลับเปลี่ยนเป็นสถานการณ์ที่ดูผ่อนคลายมากกว่าเดิม 


“ดูเหมือนว่าเราจะโชคดีนะ ที่ได้รุ่นน้องแบบพวกนี้” ทางเอย์จิพูดพร้อมหันหน้าไปหาคัตสึรากิ
“คงงั้นหละนะ…”


“เอาหละทุกคนกลับกันได้ พรุ่งนี้เราจะทำการซ้อมกันใหม่นะ!” โค้ชสเตฟานบอกกับทุกคน ก่อนที่พวกเขาจะขานรับแล้วเดินออกจากห้องล็อคเกอร์ไป ทางโค้ชสเตฟานที่เห็นอย่างนั้นแล้ว เขาก็ยิ้มอย่างพอใจ ที่ลูกทีมของเขานั้นพร้อมที่จะสู้และจะชนะกับอดีตที่โหดร้ายไปให้ได้


------------------------------------------------------------------ 


หลังจากที่ทางทีมโตเกียว คาชิโกคุได้ดูคลิปของทีมซางามิอุระก็ต่างกันพากันแยกย้ายกันกลับบ้านของตัวเอง โดยทางมิโดริคาวะก็เดินกลับพร้อมกับทางเคียวโกะเช่นเคย


“ไม่คิดเลยนะว่าเจ้ารุ่นพี่มากิโอะ จะเล่นได้ดีขนาดนั้นเมื่ออยู่กับซางามิอุระ… ทั้งที่อยู่กับพวกเราก็แทบจะหาตำแหน่งลงไม่ได้เลยด้วยซ้ำ และ ดูเหมือนว่ารุ่นพี่จะดูกดดันมาเลยนะ เหมือนว่าการเจอกัยซางามิอุระสำคัญมาก” มิโดริคาวะเริ่มบทสนาขึ้นมา


“จากที่ชั้นไปเก็บข้อมูลมานะ นักเตะของซางามิอุระอยู่ในเกณฑ์ปานกลางทุกคน แต่จากรูปแบบการเล่นที่ไม่ตายตัวของเขา ทำให้พวกเขาดูแตกต่างออกไป ยิ่งได้รุ่นพี่มากิโอะ ที่เล่นได้หลายตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นกองกลางตัวรุก หน้ำต่ำ และหน้าเป้า รวมถึงปีกสองข้าง ทำให้ทีมนี้เป็นทีมที่น่ากลัว ที่อาจจะต่อกรกับเฮ๊ยวเทย์ได้อีกทีมเลยนะ” เคียวโกะไปบอกกับมิโดริคาวะ


“ไม่น่าเชื่อเลยแฮะ ว่าความครึ่งๆกลางๆ ของเขาจะเป็นประโยชน์ได้ขนาดนี้”


“เพราะระบบของการเล่นของทีมซางามิอุระ ทำให้รุ่นพี่มากิโอะกลายเป็นนักเตะที่น่าจับตามองของการแข่งขั้นครั้งนี้เลยนะ แต่ว่ายังมีกัปตันของซางามิอุระที่ขื่อว่า เทนโด ทัตสึมิ ที่สวมเสื้อหมายเลข 14 ซึ่งเป็นเบอร์เดียวกับจอมทัพระดับของทีมชาติฮอลแลนด์อย่างโยฮัน ครัฟท์อีก ซึ่งเขาก็ทำหน้าที่เดียวกันกับครัฟท์ เขาเป็นอีกคนที่มีความสามารถสูงพอๆกับ มากิโอะ”


“เห้อ ช่างมันเถอะนะ ยิ่งได้ยินก็ยิ่งรู้สึกเบื่อกับข้อมูลของเธอไปอีก” ทางมิโดริคาวะพูดเสร็จเขาก็หาวออกมา ทางเคียวโกะที่เห็นก็ทำหน้าตาที่ดูหงุดหงิดออกมา
“..ชิ!! มิโดจังคนบ้า คราวหลังจะไม่อธิบายให้ฟังแล้ว!”


แต่ดูเหมือนทางมิโดริคาวะจะไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ ก่อนที่พวกเขาทั้งสองจะหยุดเดิน เมื่อหันไปสนามฟุตบอลเห็นสองพี่น้องตระกูล ไดซุเกะ กำลังพร้อมหลังเวลา โดยพวกเขานั้นในการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่ม ได้ลงเพียงคนละหนึ่งนัด ในนัดที่ชนะโรงเรียนพาณิชย์โอโฮไป 4-2 แต่เหมือนว่าพวกเขาจะรู้อยู่แล้วว่าสองพี่น้องนี้ ชอบมาซ้อมหลังเลิกทุกครั้ง แต่ที่มันแปลกใจก็คือเขาเห็นทาง นากาอิ ริคิมารุ ผู้รักษาประตูสำรองของทีมมาซ้อมด้วย โดยทางริคิมารุนั้นยังไม่มีโอกาศได้ลงสนาม


“นี่มันเจ้าเตี้ยที่เป็นผู้รักษาประตูนี่!” มิโดริคาวะบอกกับทางเคียวโกะก่อนจะชี้ไปที่ริคิมารุ
“ก็พึ่งเห็นพวกเขามาซ้อมตลอด แต่ก็พึ่งเห็นทางริคิมารุคุงมาซ้อมด้วยนี่หละนะ”


“หึ… น่าสนุกดีแฮะ!” 


เมื่อทางมิโดริคาวะพูดเสร็จเขาก็ถอดเน็คไทด์ และ เสื้อสูทนอกของโรงเรียนออกก่อนที่เขาจะเอาไปพาดไว้ที่โต๊ะที่ตั้งอยู่และวางกระเป๋าไว้ ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปในสนามที่มีรุ่นพี่ทั้งสอง รวมถึงทางริคิมารุด้วย


“อ้าว พ่อซุปเปอร์สตาร์มาทำไมงั้นหรอ ?” ทางไดซุเกะ ไคโตะผู้พี่เริ่มถามขึ้นมา
“นี่ผมขอเล่นด้วยคนสิ… เห็นแบบนี้แล้วมันน่าสนุกดีหนะ อยากยิงเจ้าเตี้ยนั่นด้วย” ทางมิโดริคาวะพูดพร้อมชี้ไปที่ทางริคิมารุ


“ผมไม่ใช่เจ้าเตี้ยนะ”


“เอาน่าๆ ถ้านายอยากซ้อมประตูต้องมีสุดยอดกองหน้าอย่างชั้นคนนี้มาช่วยซ้อมรับรองนายเก่งขึ้นแน่นอน!” ทางมิโดริคาวะพูดพร้อมเอานิ้วโป้งชี้ไปที่ตัวเอง


“หึ เอางั้นก็ได้ งั้นก็ไปเปลี่ยนชุดมาซ้อมดีๆ ก่อนสิ” ทางไคโตะบอกกับมิโดริคาวะ


ทางมิโดริคาวะก็ยิ้ม ก่อนจะรีบไปเปลี่ยนเสื้อทางเคียวโกะที่เห็นอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้ขัดอะไร เธอกลับดีใจด้วยซ้ำที่ทางมิโดริคาวะที่เบื่อฟุตบอลในตอนแรก กลับดูมีความสุขเวลาที่ได้เล่นฟุตบอล เคียวโกะยิ้มอย่างมีความสุขที่เห็นทางมิโดริคาวะเป็นอย่างนั้น ทางโค้ชสเตฟานก็ดูอยู่ในห้องพักครู ซึ่งเป็นกระจกที่เขามองลงมาได้ เพราะว่าอาคารที่เขาได้อยู่นั้นใกล้กับสนามฟุตบอล เขายิ้มอย่างพอใจ ที่ทางมิโดริคาวะนั้นคอนโทรลง่ายกว่าที่คิด ก่อนที่ทางผู้อำนวยการโรงเรียนจะเดินมาข้างหลังเขา


“คิดว่าเป็นยังไงบ้างกับทีมเราปีนี้…”
“ผมว่าไปได้ไกลแน่นอนครับ ผมรับประกัน ไม่แน่พวกเขาอาจถึงแชมป์ระดับประเทศเลยก็ได้”

-----------------------------------------------------

บนรถไฟฟ้า

หลังจากที่ทางมิโดริคาวะซ้อมนอกรอบเสร็จเขาก็กลับกับเคียวโกะ โดยตอนนี้พวกเขาอยู่สถานีรถไฟฟ้าโตเกียวและขณะนี้ก็เป็นเวลาประมาณ 19.30 โดยตอนนี้ทั้งสองคนอยู่บนรถไฟ พวกเขานั่งด้วยกัน เพราะว่าเวลานี้ไม่ค่อยมีคนมากเท่าไหร่เลยจะพอมีที่นั่งให้กับพวกเขาทั้งสองคน


“เหนื่อยชะมัดเลยแฮะ…!” ทางมิโดริคาวะพูดพร้อมบิดขี้เกียจ
“ไม่คิดเลยนะว่ามิโดจัง จะไปเล่นกับพวกเขาด้วย”

“ก็นะ เห็นแล้วมันคันมือคันเท้าหนะ ยิ่งเห็นเจ้าเตี้ยนั่นอีก”
“หมายถึงริคิมารุคุงหนะเหรอ ?”


“อ่าห่ะ… อันที่จริงเจ้านั่นมันก็มีแววนะ ตอนแรกชั้นคิดว่าจะเป็นตัวจริงด้วยซ้ำ แต่ชั้นไม่ได้หมายความว่ารุ่นพี่ชินจิไม่เก่งแค่จากความรู้สึกของชั้นแค่นั้นเอง เดี๋ยวสักวันเจ้านั่นจะไปได้ไกลกว่านี้แน่นอน แค่รอเวลาเท่านั้นหละนะ”


“แปลกนะ….”
“แปลกอะไรของเธอ ?”
“ก็มิโดจังไม่ค่อยชมใครนอกจากตัวเองนี่นา เดี๋ยวนี้บอกว่าคนนั้นคนนู้นเก่ง แต่มันก็ดีแล้วละ มิโดจังเป็นแบบนี้หละดีแล้ว”

“….. เห้อ เลิกพูดถึงอดีตของชั้นเถอะน่าเคียวโกะ”

“หาววววววววว แต่ว่ามันเหนื่อยจังเลยแฮะ” มิโดริคาว้เริ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่สะลึมสะลืมก่อนที่หัวของเขาจะตกไปที่ไหล่ของทางเคียวโกะอย่างช้า ๆ ก่อนที่เขาจะงีบไป ทางเคียวโกะที่หันมาเห็นทางมิโดริคาวะที่งีบหลับลงไปนั้น ใบหน้าของเธอก็แดงระเรื่อด้วยด้วยความเขินอาย ใจของเธอเต้นตึกตักไม่เป็นจังหวะ เพราะในใจลึกๆแล้ว เธอก็มีความรู้สึกแปลกๆ กับมิโดริคาวะ ที่เลือกเข้ามาโรงเรียนโตเกียว คาชิโกคุ ก็คงเป็นเพราะมิโดริคาวะนี่หละ ถึงเธอจะชอบอ้างว่ามันเป็นแค่ความบังเอิญก็เถอะ เธอเริ่มยิ้มเล็กๆ ยิ้มทีละนิดๆ เขาคิดถึงคำพูดของมิโดริคาวะตั้งแต่อยู่ที่เทนโนคุ


“นี่เคียวโกะ!” มิโดริคาวะที่ใส่ชุดซ้อมของทีมเทนโนคุตอนมัธยมต้น เดินมาหาเธอพร้อมยกกระติกน้ำขึ้นมาดื่ม
“ห๊ะ!?! มะ…. มีอะไรหรอ”
“ชั้นหนะจะเป็นนักฟุตบอลของญี่ปุ่นให้เธอดูเอง!” มิโดริคาวะพูดพร้อมชี้นิ้วโป้งให้กับทางเคียวโกะ


“ขี้โม้เกินไปแล้วเจ้าบ้า!” เสียงของชายคนหนึ่ง เขาคนนั้นใช้กำปั้นเขกลงไปที่หัวของมิโดริคาวะ
“นายทำอะไรของนายหนะ!! มันเจ็บนะโว้ยยยยยยย!” มิโดริคาวะเอามือลูบหัวของตัวเองก่อนจะหันไปหาชายคนนั้น ทางเคียวโกะมองทางมิโดริคาวะก็จะยิ้ม


มิโดจังคนเดิมกลับมาแล้วสินะ… เป็นอันดับ 1 ให้ได้นะมิโดริคาวะ โชอิจิ 


ตรู๊ด...ตรู๊ด...


เสียงโทรศัพท์ที่มือของมิโดริคาวะส่งเสียงแจ้งเตือนขึ้นมา แต่ว่าทางมิโดริคาวะนั้นยังไม่รู้ตัวทางเคียวโกะที่สงสัยนั้น เธอก็หยิบโทรศัพท์ของมิโดริคาวะขึ้นมา เมื่อเธอเห็นข้อความที่ส่งมาหามิโดริคาวะ ก็ทำให้อารมณ์ของเธอเปลี่ยนไปราวกับสายฟ้าแลบ สีหน้าของเธอนั้นเต็มไปด้วยความหงุดหงิด


“สู้ให้เต็มที่นะคะ มิโดริคาวะคุง! <3”


มันเป็นข้อความจากแฟนคลับของทางมิโดริคาวะ ที่เขาจะได้รับแบบนี้อยู่เป็นประจำ แต่เอาจริงๆแล้วทางมิโดริคาวะก็ไม่ค่อยสนใจมากเท่าไหร่ ถึงเคียวโกะจะรู้อย่างนั้นแล้ว แต่ว่าเธอกลับรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกที่เห็นข้อความด้วยตาของเธอเอง


“…..มิโดจัง!!!”


เธอใช้หลังมือของเธอเขกเข้าไปเต็มหัวของทางมิโดริคาวะที่กำลังงีบอยู่จนทางมิโดริคาวะร้องออกมาด้วยความเจ็บ


“โอ้ยยย! เธอทำบ้าอะไรของเธอเนี่ย! แล้วนั่นโทรศัพท์ของชั้นนี่” ทางมิโดริคาวะหยิบโทรศัพท์ออกมาจากมือของเคียวโกะ

“ก็ใครสั่งให้มาซบแบบนี้หละยะ! เดี๋ยวแฟนคลับของมิโดจังมาเห็นก็เดี๋ยวรวมตัวกันเกลียดชั้นพอดี เชอะ!” ทางเคียวโกะกอดอก พร้อมกับหันหน้าหนีทางมิโดริคาวะ ทางมิโดริคาวะอ่านข้อความ ทางเคียวโกะก็แอบเหลือบตาไปมองมิโดริคาวะว่าจะมีท่าทีอย่างไร แต่ทางมิโดริคาวะก็มองดูเฉยๆ ก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าของตัวเอง ก่อนที่มิโดริคาวะจะบิดคอซ้าย ขวา ก่อนที่ทางเคียวโกะเหมือนจะสงบสติอารมณ์ลงได้


“จะยอมคุยด้วยก็ได้!” เคียวโกะหันไปพูดกับทางมิโดริคาวะแต่มันทำให้ทางมิโดริคาวะงงกับคำพูดของเคียวโกะ
“อะไรของเธออีกเนี่ย ชั้นงงไปหมดแล้ว ตั้งแต่มาเขกหัวชั้นแล้วนะ”
“ไม่บอกหรอก แบร่!” ทางเคียวโกะพูดพร้อมแลบลิ้นใส่หน้าของทางเคียวโกะ


โป๊กกกกกก!


ทางมิโดริคาวะใช้มือของตัวเองสับลงไปที่หัวของทางเคียวโกะ จนหัวของเธอพุบลงไป


“โอ้ย! เจ้าบ้าทำอะไรของนายเนี่ย!”
“ก็เอาคืนยังไงหละ”
“หนอยๆ นี่แหนะ” ทางเคียวโกะที่ได้ยินอย่างนั้นก็รีบใช้มือของเธอทุบไปที่แขนของมิโดริคาวะ
“นะ นี่เคียวโกะอายเค้า” เมื่อมิโดริคาวะพูดทางเคียวโกะก็หยุด


“แต่ว่าเอาตรงๆ นะ ชั้นยังตื่นเต้นไม่หายเลย ที่จะเจอกับทีมซางามิอุระหนะ…..” ทางมิโดริคาวะพูดพร้อมยิ้มอย่างมีความสุข ทางเคียวโกะที่เห็นอย่างนั้นยิ้มออกมา

-----------------------------------------------------

บ้านของมิโดริคาวะ


“กลับมาแล้วคร้าบบบบบ!” 


มิโดริคาวะเดินเข้ามาในบ้านของตัวเองเขาถอดรองเท้าก่อนจะไปวางอย่างเป็นระเบียบบนชั้นวางเขาเดินมาในห้องครัวที่แม่ของเขากำลังเตรียมอาหารมื้อเย็นให้เขาอยู่


“วันนี้ทำไมกลับมาช้าจังหละโชจัง” แม่ของเขาถาม
“พอดีไปซ้อมนอกรอบกับพวกรุ่นพี่หนะครับ” ทางมิโดริคาวะพูดพร้อมวางกระเป๋าแล้วนั่งลงไปที่เก้าอี้


เอ๋!!!!!


แม่ของเธออุทานออกมาด้วยความตกใจ เธอรีบออกไปข้างนอกก่อนจะเอาปรอทไข้มาจิ้มที่ปากของมิโดริคาวะ ก่อนจะเอามือแตะหัวของมิโดริคาวะ


“นี่ลูกเป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย?!”
“ป่าวหนิแม่!”


ทางแม่ของเธอก็ดึงปรอทออกจากปากของทางมิโดริคาวะออกก่อนที่เธอจะเก็บใส่ผ้ากันเปื้อนของเธอ ก่อนจะยิ้มออกมา


“ทำไมลูกแม่เปลี่ยนไปเนี่ย? ตอนแรกก็เห็นไม่ค่อยจะอยากซ้อมเท่าไหร่ สงสัยจะได้ลูกเป็นนักฟุตบอลแทนนายแบบแล้วสินะ”
“โถ่ว แม่ก็….”


“เอานะ แม่แค่หยอกโชจังเล่นแค่นั้นเอง แต่มันก็เซอร์ไพร์สมากเลยนะรู้มั้ย! นี่วันนี้แม่ทำของโปรดอีกอย่างของโชจังให้ด้วย แลกกับความเหน็ดเหนื่อยในการซ้อมนอกตารางของพ่อหนุ่มสิงห์นักเตะกันดีกว่า”


Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน  300?cb=20150515215831


“นี่มันด้งสเต๊กเนื้อนี่!” มิโดริคาวะพูดพร้อมด้วยแววตาที่มันวาวเป็นประกาย


“จะทานแล้วนะค้าบบบบบ!” มิโดริคาวะพูดพร้อมใช้ตะเกียบหยิบเนื้อขึ้นมากิน เมื่อทางมิโดริคาวะกินเข้าไปเขาก็ยิ้มอย่างมีความสุข เมื่อได้ทานอาหารของแม่ของตัวเอง แต่เขากลับรู้สึกแปลกๆ ไม่ใช่เกี่ยวกับอาหารแต่เกี่ยวกับบรรยากาศที่มันแปลกๆ


“ว่าแต่… แล้วพ่อหละ” มิโดริคาวะถามแม่ของเขา
“ว่าหละว่าลูกต้องถาม เขากลับสเปนไปแล้วหละ”
“อีกแล้วหรอ…?”
“พ่อไปทำงานหนะลูก”
“ผมยังไม่รู้เลยว่าพ่อทำงานอะไร เทียวไปเทียวกลับอยู่ตลอดเลยนะ แม่ก็ไม่บอกสักที” แม่ของเธอไม่พูดอะไร มีแต่รอยยิ้มที่ยิ้มให้เขา


“ช่างเถอะนะ…. กินต่อดีกว่า” มิโดริคาวะพูดพร้อมกินต่อ


“คุณจะรู้ไหมเนี่ย ว่าทุกครั้งที่คุณไปเขาก็รู้สึกไม่ดีตลอดเลยนะ” แม่ของทางมิโดริคาวะคิดในใจของตัวเธอเอง


----------------------------------------------------- 


“เข้าไปแล้วครับ! ทางทีมเฮียวเทย์นำห่างออกเป็นสามประตูต่อศูนย์จากการทำประตูของหมายเลข 9 ทาเคมิโนะ ทากามิ เจ้าของฉายา แกรสแคนน่อน!” ทางผู้ประกาศ ประกาศออกมาเมื่อทางทีมเฮียวเทย์ยิงประตูได้สำเร็จ


“ถือว่าเป็นประตูที่สวยมากครับ จากการทำเกมส์ของนักเตะหมายเลข 10 ของทีมอย่างมิยาซาวะ ซานาดะ ที่คิลเลอร์พาสเข้ามาให้ทางทากามิแปโล่งๆ ไม่มีเหลือ และยังเป็นแฮตทริกครั้งที่สามของเจ้าตัวในการแข่งขันรายการนี้ด้วยครับ” ผู้บรรยายอีกคนอธิบายเพิ่ม


ทีมเฮียวเทย์ยังคงบุกอย่างต่อเนื่องจนทางทีมคู่แข่งของเขา และทีมเมโจนั้นแทบจะรับแล้วรับอีก จนไม่มีโอกาศได้บุกเลยแม้แต่น้อย จนทางทีมเฮียวเทย์ได้โอกาศที่ทางทากามิตอกส้นมาให้ทางฮายาโตะ เรียวทาโร่จะบอลเข้าขวาหนึ่งจังหวะก่อนจะซัดแล้วข้างเท้าด้านในบอลนั้นโค้งเข้าประตูไปอย่างสวยงาม


“โอ้โห! ทางทีมเฮียวเทย์ยังไม่หยุดแค่นี้ครับท่านผู้ชม เข้าไปอีกแล้วจากฮายาโตะ เรียวทาโร่ อดีตนักเตะชุดอัจฉริยะแห่งทีมเทนโนคุ ยิงเข้าไปลูกนี้ไม่มีเหลือครับ”
“เป็นการยิงด้วยข้างเท้าด้านใน บอลนั้นโค้งเสียบเข้าหาประตูจนผู้รักษาประตูของทางทีมเมโจไม่ทันได้ขยับ ถือเป็นการการันตีแทบจะร้อยเปอร์เซ็นที่ทางราชาแห่งโตเกียวอย่างเฮียวเทย์จะเข้ารอบชิงชนะเลิศแล้ว”


ทางทีมเมโจที่โดนทางทีมเฮียวเทย์ถล่มซะยับพวกเขานั้นเดินด้วยความเหน็ดเหนื่อยเขาแทบจะไม่มีแรงแล้ว จิตใจของทีมพวกเขาเต็มไปด้วยความท้อทางทีมเฮียวเทย์เปลี่ยนตัวสำรองถึง 5 คนทีเดียว โดยทางทากามิ ได้ออกไปพักถือเป็นโอกาศให้คนอื่นได้ออกไปโชว์ฝีมือ เพราะว่าตอนนี้เหลือเวลาไม่ถึง 5 นาทีแล้วด้วยซ้ำ โดยที่ตอนนี้ทางทีมเฮียวเทย์นำอยู่ 4-0 แต่ว่าในช่วงทดเวลาทาง เรียวทาโร่ งัดบอลข้ามหัวกองหลังให้ทางกองกลางอย่างมิยาซาวะ ซานาดะ วิ่งสอดขึ้นไปวอลเล่ย์แบบไม่ต้องจับให้ทางทีมเฮียวเทย์นำห่างไป 5-0 ก่อนที่กรรมการจะเป่านกหวีดหมดเวลา


“จบไปแล้วครับกับการแข่งขันรอบรองชนะเลิศนัดแรกเป็นทางทีมเฮียวเทย์สามารถชนะไปได้ 5-0 จากการทำแฮตทริกของทาเกยาม่า ทากามิ และ ทางฮายาโตะ เรียวทาโร่ กับ มิยาซาวะ ซานาดะ ที่กดไปคนละหนึ่งประตู”
“ถือว่าเป็นทีมที่ร้อนแรงมากครับสำหรับทีมเฮียวเทย์ที่ตอนนี้ยังไม่เสียแม้แต่ประตูเดียว แถมยังเป็นการยิงมากกว่า 4 ประตูทุกนัดด้วยครับ และตอนนี้พวกเขาเข้ารอบชิงชนะเลิศไปรอผู้ชนะระหว่างทีโตเกียว คาชิโกคุ และทีม ซางามิอุระ ที่จะแข่งขันในอีกสองวันครับ พวกเขาทั้งสองทีมจะมีทีมไหนที่สามารถพังประตูของทีมเฮียวเทย์ไปได้ ต้องรอติดตามชมครับ” 


โรงเรียน โตเกียว คาชิโกคุ


“งั้นหรอครับ ? ขอบคุณครับ” ทางสเตฟานที่คุยโทรศัพท์อยู่ เขาได้กดวางก่อนจะเก็บลงกระเป๋าของตัวเอง โดยในขณะนี้ทางทีมคาชิโกคุ กำลังซ้อมอย่างหนักเพื่อเจอกับทีมซางามิอุระในอีก 2 วันข้างหน้า ก่อนที่ทางโค้ชสเตฟานจะเรียกทุกคนเข้ามารวมตัวกัน


“เอาหละครับ ครูมีเรื่องที่จะมาบอกสองอย่าง… เรื่องแรกโรงเรียนเฮียวเทย์สามารถชนะด้วยสกอร์ 5-0 และเข้ารอบชิงไปได้”


“และเรื่องที่สองพรุ่งนี้ครูจะงดการซ้อมเพื่อให้พวกเธอได้พัก แล้วมาแข่งกับทีมซางามิอุระ โดยเราจะมาเจอกันที่นี่เพื่อเตรียมตัว อย่าลืมทำให้ร่างกายสมบูรณ์ที่สุด ใครที่ชอบเที่ยวตอนนี้ก็ขอให้งดก่อนนะ” ทางโค้ชสเตฟานพูดพร้อมยิ้ม ก่อนจะหันไปหาทางฟูจิมะ และทาง เซป ไนล่าห์ โดยทั้งสองคนช่วงหลังที่ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย เพราะว่าหลังจากที่ทางเซปเรียนพิเศษปรับพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นเสร็จ เขามักจะไปปาร์ตี้ในตอนกลางคืน แต่ว่าพวกเขาทั้งสองคนนั้นก็ไม่เคยขาดซ้อมเลย แถมยังทำได้ดีอีกด้วย แถมตอนเล่นก็เหมือนจะรู้ใจกันมาก ทำให้ฝั่งซ้ายของโตเกียว คาชิโกคุนั้นน่ากลัวเป็นอย่างมาก ด้วยสองนักเตะที่ย้ายมาจากสองประเทศ สองทวีป อย่าง เซป และ ฟูจิมะ


“ครับ!” ทุกคนต่างขานตอบรับอย่างเข้มแข็ง


“นี่บุนตะ ไปกินโดนัทกับชั้นมั้ย ?” ทางไซจิบอกกับบุนตะที่ทั้งสองกำลังเก็บของ
“ก็ดีนะ ว่าแต่นายไปด้วยมั้ยจุน” ทางบุนตะหันไปถามจุน
“ชั้นปฏิเสธได้ด้วยหรอ ? เดี๋ยวเจ้าไซจิมันก็ตื้อชั้นเหมือนเดิม” จุนตอบกลับไปก่อนจะเก็บรองเท้าสตั๊ดเข้าไปในล็อคเกอร์


“พวกปีสองนั่นก็ไปร้านของหวานตลอดเลยแฮะ” คัตสึรากิพูดกับเอย์จิที่ทั้งสองกำลังเก็บของอยู่เช่นกัน
“ก็บุนตะ กับ ไซจิ มันบ้าขนมนี่นะ ใช่มั้ยเทปเปย์” เอย์จิพูดขึ้นมา
“อะ เอ้อ ใช่ก็ได้”

“แต่มันก็ดีนะ ที่พวกนั้นไม่คิดจะเป็นศัตรูกันเลย ถึงจะเล่นตำแหน่งเดียวแล้วแย่งกันตลอดก็ตามหนะนะ…”
“ถ้าให้พูดไซจิไม่ได้อยากจะเล่นฟุตบอลขนาดนั้นนะ… เทียบกับบุนตะที่เล่นคล้ายๆ กันเขาก็ยังเป็นรองอยู่ดีหละนะ ถึงจะไม่มากก็เถอะ แหะๆ” เอย์จิพูดขึ้นมา
“นั่นสินะ ถือว่าโชคดีอยู่เหมือนกัน” ทางคัตสึรากิตอบกลับ 


“แต่ว่า… ชั้นไม่รู้ว่าอีกคนจะคิดยังไงนะ” คัตสึรากิพูดขึ้นมา


“นายหมายถึงเจ้าอากิฮิโระสินะ…” ทางเอย์จิพูดขึ้นมา
“นั่นหละ ตั้งแต่ปีหนึ่งมาเจ้านี่ก็ตกเป็นสำรอง ชั้นไม่รู้ว่าเจ้านั่นมันจะรู้สึกยังไง แต่ก็มาซ้อมตลอด หวังว่าเขาจะสู้นะ”

“คิดมากไปน่ากัปตัน! นายนี่ห่วงไปทั่วเลยนะ อย่างเจ้าอากิฮิโระมันก็เต็มที่ตลอด ถึงมันจะชอบโทษอย่างอื่นนอกจากตัวเองก็เถอะ” เอย์จิพูดพร้อมเอามือตบหลังของทางคัตสึรากิ


----------------------------------------------------- 


วันแข่ง


“เอาหละครับ ถึงเวลาที่เราจะประกาศ 11 รายชื่อตัวจริงกันแล้ว เราจะเล่นในระบบ 3-5-2”

“ผู้รักษาประตูชินจิ โคบายาชิ” เมื่อทางสเตฟานบอกทางโคบายาชิก็ขานรับ ทางริคิมารุที่ยังไม่ได้รับโอกาศก็กำหมัดด้วยความเจ็บใจ

“เซ็นเตอร์สามคน ไดซุเกะ ไคโตะ, ฮิรางาโตะ เรียวเฮย์ และทาง อิวากิ เทปเปย์” เมื่อทางสเตฟานประกาศออกมาทำให้ทางไคโตะถึงกับแปลกใจที่เขาได้เล่นตำแหน่งตัวจริง แต่ที่มันแปลกก็คือเขาเล่นเซ็นเตอร์
“ปีกขวา ไดซุเกะ คิมูระ” ทางคิมูระที่ได้ยินอย่างนั้นก็ดีใจมากๆ ก่อนจะแทคมือกับพี่ชายของตนเอง
“ปีกซ้าย ฟูจิมะ คิโยดะ” ในวันนี้ทางฟูจิมะที่ได้ลงเล่นเขาก็ไม่แปลกใจอะไร เพราะที่ผ่านมาเขาเป็นคนเดียวที่ได้ลงครบทุกนัด
“กองกลางสองตัว อิวาซากิ ซากาอิ และทาง โยชิโนริ มาโคโตะ” คู่กลางที่ต้องทำลายการบุกของทางทีมซางามิอุระคือกองกลางจากปีหนึ่ง
“กองกลางตัวรุก กัปตันทีม คัตสึรากิ คิโยชิ และเป็นกัปตันทีม” 
“และกองหน้าสองคนเป็นทาง มิโดริคาวะ โชอิจิ”


และ….


“อากิฮิโระ เซย์ซิน” เมื่อทางสเตฟานบอกอย่างนั้นทำให้ทางอากิฮิโระถึงกับแปลกใจที่เขาถูกดันไปเล่นกองหน้า


“เอาหละสำหรับแผนเราในวันนี้ ทีผมเลือกตัวแบบนี้ผมต้องการจะเลือกนักเตะที่มีความอึดมากที่สุด เพราะว่าพวกเขาต้องเจอกับการไล่ล่าบอล ของเนโอโททัลฟุตบอล ของทีมซางามิอุระ”
“อากิฮิโระ นายทำหน้าที่เหมือน False 9 ส่วนทางมิโดริคาวะต้องพยายามไล่บอลในแดนหน้าให้มากหน่อยนะ”
“กองกลางสองคนอย่าง ซากาอิ และมาโคโตะคุง พยายามทำลายเกมส์รุกของซางามิอุระให้ได้”
“ส่วนทางฟูจิมะ ใช้ทักษะที่นายมีผ่านพวกนั้นไปให้ได้ ไคโตะพยายามซัพพอร์ต น้องชายของนายให้ดี เพราะว่าที่ครูดันเธอไปก็เพื่อสิ่งนี้ เรียวเฮย์ทำให้ที่เป็นตัวเปิดเกมส์ เทปเปย์ต้องพยายามทำลายจังหวะสุดท้ายให้ได้ เราจะให้หัวใจของเกมส์รุกวันนี้เป็น คัตสึรากิคุง เข้าใจมั้ย!?!” 


ทางสเตฟานบอกแผนเสร็จก่อนที่นักเตะทุกคนจะลุกขึ้นมาตะโกนขานอย่างฮึกเหิมก่อนพวกเขาจะเดินออกจากห้องล็อคเกอร์ 11 คนตัวจริงไปยืนเตรียมวันนี้พวกเขาได้ใส่เสื้ออีกชุดเป็นชุดสีขาวที่คอเสื้อสีดำ ส่วนทางทีมซางามิอุระใส่ชุดสีส้ม เหมือนกับทีมชาติฮอลแลนด์ ก่อนที่พวกจะเดินเข้าสู่สนามทางสเตฟานเข้าไปจับไหล่ของอากิฮิโระก่อนจะ


“ถึงเวลาที่นายจะได้แก้แค้นแล้วละ ไปแสดงให้พวกนั้นดูกัน!”
“ครับ” ทางอากิฮิโระพยักหน้า ก่อนที่ทั้งสองจะเดินเข้ามาในสนามเพื่อเข้าแถวทำความเคารพ


“มาแล้วครับกับทั้งสองทีม การแข่งขันรอบรองชนะเลิศนัดสุดท้ายระหว่างทางทีม โตเกียว คาชิโกคุ และ ซางามิอุระ ถือว่าทั้งสองทีมทำผลงานได้ดีมากครับ โดยทางทีมโตเกียวคาชิโกคุนั้นยิงได้สี่ประตูขึ้นทุกนัด ส่วนทางทีมซางามิอุระก็มีผลต่างมากกว่าสองลูกทุกนัด แถมยังไม่เสียประตูเลยด้วยครับ” ทางผู้ประกาศพูดขึ้นมา


“ทางโค้ชของทีมโตเกียว คาชิโกคุ สเตฟาน เซาท์ธาร์ด เขาเป็นลูกครึ่งอเมริกัน อิตาเลี่ยน เขาเข้ามาทำให้ทีมโตเกียว คาชิโกคุแข็งแกร่งขึ้นมากใน 5 ปีที่ผ่านมา”


“ส่วนโค้ชของทีม ซางามิอุระ คือ ฮอนโก คุโบตะ โค้ชที่เข้ามาเปลี่ยนซางามิอุระ ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมาทำให้เป็นทีมที่ได้แข่งรายการทั่วประเทศอยู่ตลอด”


Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน  168781


“เจ้าขี้เมานั่นจะมาไม้ไหนอีกนะ” ทางสเตฟานคิดในใจก่อนจะเหลือบไปมองโค้ชของซางามิอุระอย่างคุโบโตะ


หลังจากนั้นผู้ประกาศก็ได้ประกาศรายชื่อผู้เล่น ก่อนที่เขาเริ่มจากประกาศรายชื่อผู้เล่นของทีมคาชิโกคุก่อน และหลังจากนั้นเขาก็ได้เริ่มประกาศของทีมซางามิอุระ จนมาถึงสองคนสุดท้าย


“หมายเลข 10 ฮิมูโระ มากิโอะ ปีสอง อดีตนักเตะของทีมเทนโนคุ ถึงเขาจะไม่เด่นมากในตอนมัธยมต้น แต่เขากลับกลายเป็นหัวใจของทีมซางามิอุระ และมาเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับทีมนี้ได้อย่างมากครับ”


Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน  53794

“หมายเลข 14 กัปตันทีม เทนโด ทัตสึมิ คนที่สวมหมายเลขเดียวกับสุดยอดตำนานอย่างโยฮัน ครัฟท์ ต้นตำรับของโททัลฟุตบอล”


Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน  Latest?cb=20130618165423


“การที่ทำให้สองคนนี้เล่นไม่ออก คือหนทางที่ทำให้ทางโตเกียว คาชิโกคุ ชนะได้ครับ จะเป็นยังไงต้องมาดูกัน และเป็นทางคาชิโกคุได้เริ่มเขี่ยบอลก่อนครับ”


ทางทีมเฮียวเทย์นำโดยทางมิยาซาวะเดินเข้ามาบนอัฒจรรย์ พวกเขามานั่งดูเกมส์ของทางโตเกียว คาชิโกคุ และทาง ซางามิอุระ ถือว่าเป็นการสอดแนมคู่แข่งของเขาในรอบชิง พวกเขามานั่งเป็นแถวยาว โดยทาง มิยาซาวะ นั่งข้าง เรียวทาโร่ ส่วนทาง ทากามินั่งอีกแถวที่อยู่ข้างบนถัดขึ้นจากแถวของมิยาซาวะไปหนึ่งแถว โดยเขานั่งข้างกับ โอคิฮาระ ยูโตะ ทางมิโดริคาวะที่เห็นก็หันไปมองหน้ากับเรียวทาโร่


“ชิ… เจ้าเปี๊ยกก็มาดูหรอเนี่ย?”


ทางมิโดริคาวะเขี่ยบอลเข้าไปให้ทางอากิฮิโระ ก่อนจะคืนบอลไปที่คัตสึรากิ เมื่อทางคัตสึรากิจับบอล นักเตะของทีมซางามิอุระก็วิ่งเข้ามาบีบถึงสองคนเลยทีเดียว ทางคัตสึรากิรีบส่งบอลไปให้ทางฟูจิมะเลี้ยงบอลผ่านปีกขวา ก่อนที่จะมีคนมาซ้อนอีกทางฟูจิมะก็ยังพลิกตัวหลบได้ แต่ตัวของเขานั้นยังแทบไม่ได้ขยับไปสูงกว่าเดิมมากเลย


จะมีกี่คนกันเนี่ย!


ทางฟูจิมะเหลือบไปเห็นทางมิโดริคาวะที่ส่งสายตามาหาเขา ก่อนที่ทางฟูจิมะจะส่งตัดไป ทำให้ทางมิโดริคาวะวิ่งหลุดเดี่ยวไปเลย แต่ว่าหลุดเดี่ยวตั้งแต่ครึ่งสนามงั้นหรอ ?


ปี๊ดดดดดดดดดดดดดดด!


กรรมการยกธงล้ำหน้าขึ้นมาเลยครับ ทำให้ทางโค้ชสเตฟานถึงกับตกใจเป็นอย่างมาก เพราะว่ากองหลังของทีมซางามิอุระ ดันไลน์แทบจะถึงครึ่งสนาม รวมถึงเคียวโกะด้วย


“บะ บ้าน่า! โกหกใช่มั้ย ?! เนี่ยดูสิล้ำหน้าตั้งแต่ตรงนั้นเลยหรอ ?” ทากามิที่อยู่ข้างบนพูดด้วยสีหน้าที่ตกใจอย่างสุด ๆ


“แนวรับคนสุดท้ายดันมาถึงตรงนี้เลยหรอ ?” ทางฟูจิมะตกใจเป็นอย่างมากเพราะเขาไม่คิดว่าทางกองหลังของทีมจะดันสูงขนาดนี้ ต่อให้ดันสูงขนาดนี้มิโดริคาวะก็ไม่น่าจะเช็คไลน์พลาด


ไลน์กองหลังดันสูงอย่างน่าเหลือเชื่อ แค่พ้นครึ่งวงกลมไปเองด้วยซ้ำ แต่การทำแบบนั้นก็ถือเป็นความเสี่ยงอย่างมาก ถ้าพวกเขาพลาดแม้แต่นิดเดียวทางมิโดริคาวะก็จะหลุดไปโล่งๆ เลย นี่หนะหรอ? แผนการของโค้ชฮอนโก เขาเลือกที่จะใช้กัปดักล้ำหน้าอย่างไม่ลังเล เซ็นเตอร์สองคนของทีมแท็คมือกัน ทางฮอนโกที่เห็นก็ยิ้มอย่างพอใจ


“แสดงให้พวกคาชิโกคุได้เห็นเลย เทนโด, ฮิมูระ ฟุตบอลของพวกนายที่จะเปลี่ยนวงการฟุตบอลของญี่ปุ่น”


“เนโอ โททัล ฟุตบอล”



Spoiler:
SpeedStar
SpeedStar
Posts : 35
Join date : 2018-08-20

Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน  Empty Re: Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน

Tue Aug 21, 2018 8:49 pm
ตอนที่ 7 : ฝ่าฟัน


“ชิ! เจ้าพวกบ้านี่แค่เริ่มมาก็ทำตัวน่ารำคาญจริงๆ แฮะ” มิโดริคาวะที่พึ่งโดนจับล้ำหน้าตั้งแต่ต้นเกมส์ถึงกับหัวเสีย


“เอาหละนะเกมส์จะเริ่มต่อจากนี้แล้วสินะ….” โค้ชฮอนโกของทีมซางามิอุระพูดขึ้นมา


ทางทีมซางามิอุระเตะฟรีคิก ทางเทนโดลงไปเตะฟรีคิกส่งบอลสั้นไปที่หากองหลังเบอร์ 6 ที่เข้ามารับบอล แต่ดูเหมืนอว่าทางมิโดริคาวะกำลังจะเข้ามาตัดบอลได้ 


แต่ไม่ใช่!


กองกลางของทีมซางามิอุระอีกคนวิ่งตัดเข้ามาเอาบอลตัดหน้าของทางมิโดริคาวะก่อนจะส่งบอลไปที่แบ็คขวาที่วิ่งเต็มขึ้นมา ก่อนจะส่งบอลไปที่กองกลางคนนั้น แต่ว่าทางเทนโดเข้ามารับบอลก่อนจะเปิดบอลยาวไปให้กองกลางตัวรุกอย่างมากิโอะ ที่วิ่งฉีกออกไปทางปีกซ้ายก่อนจะเปิดบอลเรียดเข้ามา แต่ว่าทางคิมูระสไลด์บอลดักเอาไว้ได้ก่อนที่บอลจะออกข้า
ไปเป็นลูกทุ่มของทีมซางามิอุระ


“ทำไมซางามิอุระ ส่งบอลรวดเร็วและแม่นยำขนาดนั้นละคะ พวกเราแทบตามไม่ทันเลย” เคียวโกะพูดขึ้นมา
“ใช่ครับ… เป็นการที่ทำให้ดูคลุมเครือจนไล่ตามบอลไม่ทัน การให้คู่ต่อสู้เปิดฉากบุกทะลวงด้วยการเลี้ยงที่ยากลำบาก จากที่คนที่เลี้ยงบอลดีอย่างฟูจิมะแทบจะไม่ได้ขยับไปไกลมากเลย ผมเลยพยายามอัดกองกลางเข้าให้ และกองกลางที่ครูเลือกก็คือกองกลางที่ทำหน้าที่เป็นม้างาน เพื่อวิ่งทำลายเกมส์รุกของซางามิอุระ แต่นี่ก็เป็นเพียงวิธีที่แก้ไขเพียงนิดเดียว… ตอนนี้เราพยายามมองหา “ความลับ” ของเนโอ โททัลฟุตบอลอยู่ ที่ถูกพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น ถ้าเราหาทางแก้ไม่ทันละก็…. อาจจะตกรอบไปเลยก็เป็นได้” 

“ว่าแต่ทำไมโค้ชถึงไม่ส่งที่มีเซนส์ในการเล่นสูงอย่างคุณอารากิลงหรอคะ? ถ้ามีเขาอยู่คงทำอะไรสักอย่างแน่” เคียวโกะถามกับสเตฟาน
“เอาจริงๆ มันก็จริงอยู่ว่าอารากิมีเซนส์บอลระดับอัจฉริยะ แต่ที่ทำแบบนี้ผมก็แค่ฝึกพวกเขาแค่นั้นเอง” สเตฟานพูดพร้อมยิ้มออกมา
“ฝึกงั้นหรอคะ?”

“ใช่แล้ว ในอารากิคือคนมีเซนส์บอลในระดับสูงอาจจะไม่ถึงขั้นรุ่นอัจฉริยะ แต่เขาเป็นนักเตะประเภทที่สามารถเปลี่ยนเกมส์ได้ ถึงเอสของเราตอนนี้จะเป็นมิโดริคาวะ แต่การที่บอลจะไปถึงเขาได้นั้น ก็ต้องมีอารากิเข้ามาเติมเต็มส่วนนั้น และเขาอาจจะเป็นอีกคน ถ้าเจอทีมอย่าง เฮียวเทย์ เขาคงถูกตัดออกไปจากเกมส์ เราต้องลองเล่นโดยไม่มีเขาดูบ้าง ใช่มั้ยละอารากิคุง?” ทางโค้ชสเตฟานพูดพร้อมมองไปที่อารากิ ทางอารากิก็พยักหน้าตอบเพราะเหมือนเขารู้ว่าที่เขาไม่ได้ลงตอนนี้เพราะว่าอะไร


“นี่เคียวโกะจัง… อย่าลืมไปนะว่าเรายังมีรุ่นพี่คัตสึรากิที่สามารถเดินเกมส์ได้ และรุ่นเรายังมีรุ่นพี่อากิฮิโระอีก ขอแค่อดทนสักนิดหน่อยก็ยังดี” อารากิที่นั่งอยู่ม้านั่งสำรองบอกกับเคียวโกะ คำพูดนั้นมันทำให้ทางเคียวโกะยังพอที่จะโล่งอกไปได้บ้าง ถึงแม้สถานการณ์ตอนนี้ทางทีมโตเกียว คาชิโกคุที่เจอระบบของซางามิอุระไปแทบจะหาบอลไม่เจอ


“ไม่ว่าการบุกจะสวยงามแค่ไหน สุดท้ายแล้วฟุตบอลก็ต้องวัดกันที่จำนวนประตูที่ยิงได้ คนที่กุมกุญแจของการแข่งขันที่ดุเดือดนี้ไม่แน่ว่า…. อาจจะเป็นผู้เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูมั นน่าเจ็บใจจริงๆ ที่การแข่งขันแบบนี้ผมกลับทำได้เพียงนั่งดูเท่านั้น!” ทางริคิมารุพูดขึ้นมา มือของเขากำแน่นด้วยความเจ็บใจทั้งที่เกมส์แบบนี้ เขากลับได้นั่งดูเพื่อนร่วมทีมของตัวเองเล่นเท่านั้น
“ไม่ใช่นั่งดูเพียงอย่างเดียวหรอกนะริคิมารุคุง”


เอ๋ ?


“ครูไม่เคยคิดว่าเธอด้อยกว่าชินจิเลยนะ เธอทำให้ครูทึ่งไปเลยด้วยซ้ำเวลาซ้อม แต่ว่าทางชินจิเป็นผู้รักษาประตูที่มีประสบการณ์กว่าแค่นั้นเอง เธอเป็นผู้รักษาประตูที่สามารถอ่านเกมส์และมีเซนส์ในการตัดบอลที่ดีกว่าเขา…”
“โดยปกติแล้ว เขาจะไม่เปลี่ยนผู้รักษาประตูในการแข่งขัน แต่ผมไม่ได้ยึดติดกับเรื่องแบบนั้น และถ้าครูคิดว่าเธอเหมาะกับการรับมือเนโอ โททัลฟุตบอลนี้ ครูจะส่งเธอลงไปทันที ในตอนนี้ขอแค่ให้ร่วมสู้กับพวกเขา แล้วพยายามจินตนาการในหัวของเธอ ว่าเธอจะทำยังไงกับจังหวะต่างๆที่เกิดขึ้น เท่านั้นเอง” ทางสเตฟานพูดพร้อมมองไปที่ริคิมารุด้วยสีหน้าที่กระตุ้นทางริคิมารุเป็นอย่างดี


“อะ…. ครับ!” ริคิมารุพยักหน้าด้วยสีหน้าที่ดูมั่นใจก่อนที่จะมองกลับไปที่เกมส์การแข่งขัน


หลังจากที่ทางซางามิอุระได้บุกชุดแรกของตัวเองไม่สำเร็จนั้นพวกเขาก็ส่งบอลไปมา เหมือนพวกเขากำลังหาช่องเพื่อเจาะทางคาชิโกคุอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นแล้วทางคาชิโกคุนั้นก็ยังคืนคุมโซนได้อย่างเหนียวแน่น และการไล่บอลของโยชิโนริ มาโคโตะ และทาง อิวาซากิ ซาคาอิ ก็ยังไม่สามารถทำให้ทางซางามิอุระทำอะไรได้สะดวกจนตอนนี้เวลาผ่านไปเกือบ 10 นาทื ทางคาชิโกคุแทบจะยังไม่ได้แตะบอลเลยแม้แต่น้อย


“ชิ… พวกนั้นพยายามให้เอาประตูจากเรา 1 ลูก จากการโจมตีแบบนั้นสินะ แบบนี้เจ้าหน้าหวาน กับเจ้าซาคาอินั่น ไม่ไหวแน่ถ้าขืนยังเล่นแบบนี้อยู่” มิโดริคาวะคิดในใจ

“นี่นายสองคนหนะจะวิ่งเยอะไปแล้ว! เดี๋ยวมันจะมีช่องและที่สำคัญนายจะเหนื่อยเกินความจำเป็นอีกด้วย” ทางคัตสึรากิตะโกนสั่งมาโคโตะและทางซาคาอิ ทำให้พวกเขาวิ่งน้อยลงแล้วพยายามย่องเพื่อคุมโซนเอาไว้ก่อน


(เอาหละนะรุ่นพี่เทนโด ได้เวลาลุยแล้ว)

ทางมากิโอะส่งสายตาไปหาเทนโด ก่อนที่ทางเทนโดจะวิ่งฉีกหนีทางซากาอิ ก่อนที่ทางมากิโอะจะเปิดบอลยาวมาให้เทนโดจับบอลลงมานิ่วนวล ทางเทนโดวิ่งขึ้นมาก่อนที่ทางไคโตะจะวิ่งเข้ามาประกบแต่ว่าทางเทนโดนั้นก็ล็อคบอลหลบไปได้ ก่อนที่ทางเรียวเฮย์จะเข้ามาซ้อน แต่ว่าทางเทนโดจิ้มบอลออกไปด้านข้าง ทางมากิโอะวิ่งเข้ามายิงเต็มข้อด้วยขาขวาแบบไม่ต้องจับบอล บอลนั้นจะกำลังจะพุ่งเสียบเข้ามุมประตู แต่ว่าทางชินจิ โคบายาชิ ผู้รักษาประตูของทีม คาชิโกคุพุ่งปัดออกไปได้ แต่บอลนั้นยังไม่พ้นขีดอันตรายทางนักเตะของซางามิอุระจะวิ่งเข้ามาซ้ำ แต่ว่าทางเทปเปย์วิ่งเข้ามาเตะบอลเคลียร์ขึ้นหน้าไป 


บอลนั้นลอยขึ้นไปข้างหน้าทางมิโดริคาวะวิ่งเข้าไปตามบอลก่อนจะจับบอลมาได้ แต่ตรงที่เขายืนอยู่นั้นเป็นเหมือนมุมอับและตอนนี้ทางนักเตะของทีมซางามิอุระเข้ามาประกบเขาแล้วถึงสองคน

(หน็อย….! ลงมาเร็วจังนะ)


ทางมิโดริคาวะสับขาเหมือนจะเลี้ยงกลับไปแต่ว่าเขากลับที่จะเลี้ยงกินเส้นขึ้นไป แต่ว่าทางนักเตะของซางามิอุระก็ยังตาม ก่อนที่ทางมิโดริคาวะจะเลี้ยงขึ้นมาจากริมเส้นฝั่งขวาฉีกหนีนักเตะของซางามิอุระ


“เห้!!!”

ทางคัตสึรากิตะโกนเรียกบอลจากมิโดริคาวะ แต่ที่ทางมิโดริคาวะก่อนจะคลึงบอลกลับมาแล้วส่งให้ทางคัตสึรากิ เปิดบอลนั้นย้อยเข้ามาหาทางอากิฮิโระที่กำลังรอวอลเล่ย์ แต่ว่าทางมากิโอะ มากระโดดโหม่งสกัดออกมาได้


“เจ้านั่น ไม่จริงน่า! ลงมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” อากิฮิโระถึงกับตกใจ


บอลนั้นออกไปกลายเป็นลูกทุ่มของทางทีมโตเกียว คาชิโกคุ ทางฟูจิมะทุ่มมาให้ทางคัตสึรากิที่วิ่งข้ามฝากเข้ามาเอาบอลแต่จะแปะบอลคืนไปให้ทางฟูจิมะ ทางฟูจิมะเลี้ยงบอลกินตัวมาก่อนจะหลบนักเตะของทีมซางามิอุระไปหนึ่งคน และสองคน ตอนนี้ทางฟูจิมะอยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมของเขตโทษแต่เขาแทบจะออกจากเส้นแล้ว มีกองหลังเข้ามาปิด แต่ว่าทางฟูจิมะก็หลบคนที่สามกินเส้น ก่อนที่ผู้รักษาประตูของทีมซางามิอุระเข้ามาปิดมุม ทางฟูจิมะงัดบอลไปให้ทางมิโดริคาวะที่จะวิ่งเข้ามากระโดดโหม่ง แต่ว่ามีกองหลังเข้ามาสกรีนเอาไว้ถึงสองคนก่อน ก่อนที่ทางกองหน้าหมายเลข 14 ของซางามิอุระอย่างเทนโด ทัตสึมะ จะเคลียร์ออกไป


“โอ้โห! เกือบไปแล้วครับการบุกชุดแรกของทีมโตเกียว คาชิโกคุ สร้างความปั่นป่วนให้ทางซางามิอุระเป็นอย่างมากเลยครับ” ผู้ประกาศพูดขึ้นมา

บอลนั้นลอยเข้ามาหามาโคโตะ ก่อนที่ทางมาโคโตะจะจับบอลได้ แต่ว่ามีนักเตะของทีมซางามิอุระวิ่งเข้ามาไล่บอลถึงสามคนแล้ว ก่อนที่ทางมาโคโตะนั้นจะเลือกส่งกลับไปที่เรียวเฮย์ ก่อนเรียวเฮย์จะออกบอลไปฝั่งขวาให้คิมูระ ส่งบอลกลับไปให้พี่ชายของเขาอย่าง ไคโตะที่วิ่งเข้ามาซัพพอร์ต ก่อนที่ทางไคโตะจะส่งบอลให้ทางคัตสึรากิที่พยายามมาล้วงบอล แต่ว่าทางนักเตะของซางามิอุระที่เข้ามาบี้อยู่ตลอดเวลาก็เข้ามาตัดบอลได้สำเร็จ


“เอาหละถึงเวลาของเราแล้วผลจากการไล่ล่าบอล ทำให้เราเริ่มกลยุทธ์ของเราได้แล้ว คู่ต่อสู้วิ่งขึ้นไปกันหลายคนแล้ว ทำให้เหลือผู้เล่นที่เล่นเกมส์รับน้อยลง ถึงเวลาของพวกนายทั้งสองคนแล้วละ มากิโอะ, เทนโด” โค้ชของซางามิอุระอย่างฮอนโก คุโบตะคิดในใจพร้อมยิ้มออกมา

ทางนักเตะของทีมซางามิอุระส่งบอลขึ้นมาก่อนที่ทางมากิโอะจะเข้ามารับบอล ก่อนจะซิ่งบอลวัน-ทู กับเพื่อนร่วมทีมก่อนจะส่งบอลคืนหลังไปให้ทางเทนโดที่กำลังวิ่งขึ้นมาเปิดบอลไปกราบขวา ก่อนที่จะเปิดบอลกลับมาให้นักเตะของซางามิอุระเข้ามาโหม่ง แต่ว่าทางเทปเปย์บล็อคเอาไว้ได้ แต่บอลนั้นก็ยังไม่พ้นขีดอันตราย นักเตะอีกคนของซางามิอุระวิ่งเข้ามาแปด้วยขวา แต่ว่าทางเรียวเฮย์ก็สกัดเอาไว้ได้ ทางเทนโดเข้าไปเก็บบอลก่อนจะล็อคมายิงด้วยซ้าย แต่ว่าทางชินจิ ก็ยังกระโดดปัดออกไปได้อีก ทำให้ทางทีมโตเกียว คาชิโกคุรอดจากการเสียประตูไปอย่างหวุดหวิด


“เกือบไปแล้วนะคาชิโกคุ” ทางทากามิที่ดูอยู่ข้างบนพูดขึ้นมา
“แต่จะต้านทานได้สักกี่น้ำกันหละ ถึงคุณภาพนักเตะของคาชิโกคุจะเหนือกว่าอยู่มาก แต่รูปเกมส์ตอนนี้ก็เห็นๆกันอยู่ว่าใครเหนือกว่า และอีกอย่างคาชิโกคุ ไม่ได้ส่งทีมที่ดีที่สุดลงด้วย” มิยาซาวะพูดเสริม
“นั่นสินะ ชั้นเอะใจตั้งแต่เขาเลือกจะใช้ 3-5-2 แล้ว ถึงโค้ชชองคาชิโกคุจะเป็นคนอิตาลีก็เถอะ แต่แผนที่เขาใช้ไม่เหมือนกับที่อิตาลีชอบทำกันเลย” ยูโตะพูดขึ้นมาในขณะที่ตัวเองกำลังเอาแก้มวางลงที่มือของตนเอง


“แต่เขาก็ยังมีคนที่สามารถเปลี่ยนกระแสเกมส์ได้อยู่นะครับ” เรียวทาโร่พูดขึ้นมา
“นายหมายถึงมิโดริคาวะงั้นหรอ?” ทากามิถาม
“ใช่ครับ…”
“แต่ว่าเขาแทบไม่ได้เล่นบอลเลยนา… ก็มีแค่จังหวะแรกที่สร้างความหวือหวาได้บ้าง”
“นั่นหละครับ ผมส่งบอลให้เขาบ่อยตอนอยู่ที่เทนโนคุ และเวลาที่เขาได้บอลเขาสามารถสร้างอะไรมหัศจรรย์ได้ตลอด นั่นหละครับเขาถึงเป็นเอสของทีม”
“เห….! น่าสนุกดีนี่ ชั้นอยากจะดวลกับเจ้านั่นเร็วๆจังแฮะ” ทากามิพูดออกมาด้วยความตื่นเต้น แววตาเขาเป็นประกายเมื่อทางเรียวทาโร่บอกกับเขา เพราะเขาก็เป็นกองหน้าเหมือนกัน เขาอยากจะดวลกับมิโดริคาวะดูบ้าง


กลับมาในเกมส์เป็นทางซางามิอุระที่บุกอยู่ฝ่ายเดียวจนเวลาล่วงเลยไปเกือบจะสามสิบนาทีแล้ว ทางทีมที่มีสุดยอดเกมส์รุกอย่างทีมโตเกียว คาชิโกคุนั้นยังแทบหาโอกาศบุกไม่ได้ มีเพียงจังหวะที่ทางมิโดริคาวะลากไปเมื่อต้นเกมส์เท่านั้น ทางซางามิอุระได้เตะมุมจากการสกัดของไคโตะ ทางเทนโดเข้าไปวางบอลเพื่อเตะมุม ก่อนจะมีนักเตะของทีมซางามิอุระวิ่งเข้ามาเอาบอล ทางมาโคโตะวิ่งบีบเข้าไป แต่เมื่อเห็นการวิ่งของทางเทนโดทำให้ทางมาโคโตะแปลกใจ


หรือว่า!?!


ทางเทนโดเปิดบอลไปอีกฝั่งให้ทางมากิโอะที่วิ่งเข้ามาเอาบอล ทำให้ทางทีมโตเกียว คาชิโกคุนั้นแทบไม่ทันได้ระวัง เพราะไม่คิดว่าพวกเขาจะเล่นกันแบบนี้


“เสาใกล้และเสาไกลเป็นเรื่องที่เห็นบ่อยๆ แล้วเด็ก ม.ปลาย สมัยนี้ก็มักจะเตะมุมสั้นกัน ถ้าจะทำให้คาดไม่ถึงละก็ต้องเตะบอลโด่งไปอีกฝั่ง!” คำพูดของโค้ชฮอนโก คุโบตะ เมื่อตอนวางแทคติคให้กับทีม


“เยี่ยมสวยมากรุ่นพี่เทนโด! ส่งได้พอดีเป๊ะ” มากิโอะยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อทางเทนโดส่งบอลมาให้เขาพอดี เขาตั้งขาวอลเล่ย์


“จะยิงแบบไม่จับตั้งแต่ตรงนั้นงั้นหรอ!?!” เทปเปยพูดขึ้นมา เขาเลยวิ่งไปปิดมุม


แต่ว่าทางมากิโอะ ฮาล์ฟ วอลเล่ย์เปิดเข้ามาตรงกลางก่อนที่นักเตะของซางามิอุระจะโหม่งชงไป ทำให้ทางชินจินั้นหลงทางไปแล้ว ซึ่งเปิดช่องให้นักเตะเบอร์ 5 ของทีมวิ่งเข้ามายิงเตะข้อ แต่ว่า


บอลไปชนคานอย่างน่าเสียดาย


“มะ ไม่จริงน่า…. การยิงเมื่อกี้ก็ไม่มีอะไรผิดพลาดนี่นา หรือว่า!?!”


มิโดริคาวะ!


“ไนซ์ มิโดริคาวะ!” ชินจิพูดขึ้นมา
“ครับรุ่นพี่….”


(บอลลูกนั้นควรจะเป็นประตูไปแล้ว ถ้าเจ้ามิโดริคาวะไม่ยื่นขามากันได้ ใช้สัญชาติญาณการเป็นกองหน้าของตัวเองให้รู้ว่าคู่ต่อสู้จะยิงมาแบบไหนสินะ แต่ว่าเจ้าหมอนี่น่าจะไม่ลงมารับลึกถึงขนาดนี้หนิ)


“นี่รุ่นพี่มากิโอะ…”
“หะ…. หืมมมมมม”
“ถ้าอยากจะยิงทีมผม รุ่นพี่ควรทำให้ดีกว่านี้นะ” มิโดริคาวะพูดพร้อมชี้ไปที่ทางมากิโอะ ก่อนที่ทางมิโดริคาวะจะวิ่งกลับตำแหน่งไป


“หึ…. น่าสนุกดีหนิ”


“เห็นหรือยังครับเคียวโกะจัง การเล่นเมื่อกี๊นี้” โค้ชสเตฟานพูดกับเคียวโกะ
“เห็นค่ะ… ไม่คิดว่าจะใช้มุมอับของริมเส้นอีกฝั่งด้วยลูกเตะมุมแบบนั้น”

“เรื่องนั้นถือว่าเป็นแค่ “การเซอร์ไพร์ส” แต่สิ่งที่อันตรายกว่านั้นก็คือ พวกเขาเล่นด้วยการที่ไม้ต้องจับบอลเลย พวกเขาพัฒนาจากปีก่อนมากกว่าเดิมเยอะเลยนะครับ”
“ค่ะ…..”
“พอรวมกับฟุตบอลที่เน้นด้วยการส่งบอลสั้น และการครองบอล เข้ากับความเร็วของไดเร็คเพลย์แล้วละก็ จะทำให้สามารถเปลี่ยนสปีดบอลช้าเร็วได้อย่างอิสระ”


“น่าเสียดายนะ แต่ก็คงไม่เป็นอะไรหรอกใช้จังหวัดนี้ฉุดคาชิโกคุเข้าสู่ วังวน ของพวกนายสร้างขึ้น และหลังจากนั้นคู่ต่อสู้จะเริ่มเล่นกันสะเปสะปะ….” โค้ชฮอนโกบ่นพึมพำกับตัวเอง
“แล้วหลังจากนั้นก็จะเป็น เนโอ โททัล ฟุตบอลที่แท้จริง!”

ทางชินจิโยนบอลไปให้ทางเรียวเฮย์ ก่อนจะส่งบอลให้ทางฟูจิมะ ทางฟิจมะยังคงเลี้ยงบอลผ่านเช่นเดิม แต่ว่าก็มีตัวมาซ้อนได้อย่างทันท่วงที ทำให้ทางฟูจิมะเกิดอาการรำคาญเป็นอย่างมาก


“ชิ! เจ้าพวกนี้”


เมื่อทางฟูจิมะเสียสมาธิไปแปปเดียว ก็โดนคนแรกที่เขาเลี้ยงผ่าน ฉกบอลมาแต่มันโดนขาของทางฟูจิมะด้วย นั้นทำให้ฟูจิมะนั้นไม่พอใจอย่างสุดๆ ก่อนจะวิ่งเข้าไปตัดฟาวล์อย่างรุนแรงจนนักเตะคนนั้นล้มลงไป จนกรรมการต้องรีบเป่านกหวีดเพื่อหยุดเกมส์


“เบอร์ 11 ทีมสีขาว เข้าบอลหนัก”
“อะไรกัน!?! ก็เจ้านี่มันมาเข้าแรงชั้นก่อนหนิ” ฟูจิมะพูดแต่กรรมการไม่สน ก่อนจะเดินหนีทางฟูจิมะไป
“เห้ยยยย! หันมาสิวะ จะหนีกันรึไงมาอธิบายกันให้เข้าใจก่อน” ฟูจิมะเดินเข้าไปหากรรมการ เหมือนตื้อให้กรรมการหันมาตอบคำถามของเขา แต่ว่าทางกรรมการถอนหายใจก่อนจะควัก


[color:c540=e6e619]ใบเหลือง!


ทางฟูจิมะที่โดนเข้าไปก็เหมือนจะยังไม่จบ แต่ว่าทางมิโดริคาวะเข้ามาจับแขนไว้ก่อน


“เห้ย! ใจเย็นสิวะ… เจ้าบ้า เดี๋ยวก็ได้โดนไล่ออกหรอก….”
“ชิ… ก็มันน่าโมโหนี่หว่า… กว่าจะได้บอลแล้วต้องมาเจออะไรแบบนี้อีก!”


ชิ…


ทางฟูจิมะเดินกลับไปโดยไม่สนใจทางมิโดริคาวะ เขาไปยืนรอพวกทีมซางามิอุระเล่นลูกฟรีคิก


“เห้อ… กะไว้แล้วต้องเป็นแบบนี้” ทางโค้ชสเตฟานพูดพร้อมถอนหายใจ

“เห้เห้ เจ้าเบอร์ 11 นั่นหัวร้อนจังเลยแฮะ แต่ว่าเจ้านั่นเป็นใครกันไม่ยักจะเคยเห็นเลยแฮะ….” ทากามิบ่น
“ได้ข่าวมาว่าเขามาจากบราซิล ชื่อฟูจิมะ คิโยดะ”
“งั้นหรอ…? เทคนิคใช้ได้เลยนะ แต่ก็หัวร้อนไปหน่อยแค่นั้นเอง….”


“หึหึ… เหมือนผมจะได้เหยื่อคนใหม่แล้วสินะ” เสียงของชายคนหนึ่งพูดขึ้นมา เขาย้อมผมสีเหลือง คล้ายๆกับ ทากามิ แตต่างกันแค่ทากามิทำแค่ไฮไลท์บางส่วน แต่เขาคนนี้ย้อมแค่ปลายผมเท่านั้น และสายตาของเขานั้นออกจะดูเจ้าเล่ห์ มองไปที่ฟูจิมะด้วยสายตาที่เป็นประกาย เหมือนกับเขาอยากเจอกับชายคนนี้

Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน  Strike?page=1&scrollTo=5238

“นี่นายหนะ…. ให้มันน้อยๆหน่อย คาชิโกคุ ยังแทบไม่ได้บุกเลย ถ้าเราได้เจอกับซางามิอุระละ” ทางทากามิเขาไปล็อคคอแกล้งชายคนนั้น
“นะ นี่ ระ รุ่นพี่ทากามิ มันหายใจ มะ ไม่ออกนะ!”


ลูกฟรีคิกของซางามิอุระทางเทนโดส่งสั้นให้กับเพื่อนร่วมทีมของตัวเอง ก่อนที่พวกเขาจะกลับมาส่งบอลช้าเร็วโดยสลับตำแหน่งตามวิถีของโททัลฟุตบอล ทำให้ทางทีมคาชิโกคุต้องพยายามวิ่งไล่บอลเพื่อเอาบอลกลับมา


“เสร็จชั้นละ!”


ทางฟูจิมะวิ่งมาตัดบอลได้เขาเลี้ยงขึ้นไปอย่างรวดเร็ว


“วิ่งตามฟูจิมะขึ้นไป!” คัตสึรากิตะโกนสั่งเพื่อนร่วมทีมของตน ทำให้ทางทีมคาชิโกคุโหมบุกเอาคืนหวังจะรีบยิงประตูขึ้นนำให้ได้ ทางฟูจิมะส่งไปให้มาโคโตะแต่ว่า มาโคโตะถูกบีบถึงสามคนโดยมาโคโตะนั้นไม่สามารถไปข้างหน้าได้ ในช่วงเวลาที่มาโตโจะกำลังคิดแค่แปปเดียวเท่านั้นทางทีมซางามิอุระก็แย่งบอลมาได้ ก่อนจะรีบส่งบอลไปข้างหน้าให้กับเทนโด ทางเทนโดจับบอลได้แต่ว่าทาง มิโดริคาวะเข้ามาเบียดเอาไว้


“อะไรกัน!?! ลงมาถึงตรงนี้เลยอย่างงั้นหรอ!?!”


ทางเทนโดรีบยิงแต่ว่าบอลนั้นชนเสา ถ้าตรงกรอบคงเป็นประตูไปแล้ว เพราะว่าทางชินจินั้นขาตายไปแล้ว ก่อนที่เรียวเฮย์จะเคลียร์ออกไป แต่ก็เจอซางามิอุระหนุนบอลกลับคืน ก่อนที่ทางมากิโอะจะกระโดดโหม่งสวน แต่ว่าทางเทปเปย์เข้ามาบล็อคได้ทัน บอลนั้นเด้งออกไปข้างๆ แต่ว่าก็หนีไม่พ้น ทางนักเตะเบอร์ 7 ของซางามิอุระเปิดเรียดเข้ามาให้ทางเทนโดที่วิ่งเข้ามาแปเน้นๆ แต่ว่าทางเรียวเฮย์ยื่นขากันไว้ได้ แต่ว่าบอลนั้นไม่เป็นใจนั้นยังแฉลบเข้ามา ทางมากิโอะวิ่งเข้ามาเตะเข้าไปเต็มข้อระยะประชิด แต่ว่าทางชินจิเอามือมาขวางไว้ บอลนั้นกระแทกเข้าไปเต็มมือของชินจิ บอลนั้นเด้งขึ้นฟ้า ก่อนที่มันจะร่วงบอลลงมาช้าๆ ก่อนที่มันจะตกในเส้นประตู


ซึ่งหมายความว่า


ปี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!


“ซางามิอุระนำทีมโตเกียว คาชิโกคุไปได้ 1-0 ในนาทีที่ 35 จากการทำประตูของ ฮิมูโระ มากิโอะ!”


ทางเทนโดวิ่งขึ้นไปขี่หลังของมากิโอะ ต่างเหล่านักเตะของทีมจะวิ่งกรูเข้าไปดีใจด้วย


“จนได้นะ มากิโอะ!”
“ลำบากเหมือนกันนะรุ่นพี่เทนโด”


“รับแล้วรับอีก… บุกแล้วบุกอีก แต่แล้วเทพที่สิงสถิตในประตูก็เลือกที่มอบรอยยิ้มให้กับทีมซางามิอุระครับ!”


“อย่าพึ่งหลงระเริงไปนะพวกนายหนะ! นี่ทีมโตเกียว คาชิโกคุเลยนะเลยนะ ประตูเดียวยังบ่พอเน้ออออ!” โค้ชฮอนโกตะโกนอยู่ข้างสนาม
“โอ้ เชื่อมือพวกเราได้เลยตาแก่!”


“โถ่เว้ยยยยยยย!” ฟูจิมะตะโกนออกมาด้วยความโกรธ ที่โดนนำไปก่อน


แต่ว่าข่าวร้ายก็คือชินจิ ที่รับลูกของมากิโอะเข้าไปนั้นยังคงนอนเจ็บอยู่ ทางเทปเปย์ที่เห็นอย่างนั้น เข้าไปดูอาการของชินจิที่ยังเจ็บข้อมือของตัวเองอยู่ ดูท่าจะไม่ไหว ทางเทปเปย์ทำแขนกากบาทบอกว่าทางชินจินั้นไม่ไหวแล้ว


“นี่ริคิมารุคุง… ถอดเสื้อคลุมออกซะ ได้เวลาของนายแล้ว…”
“คะ ครับ….”


ทางทีมโตเกียว คาชิโกคุ ได้ทำการเปลี่ยนตัวโดยส่งทาง นากาอิ ริคิมารุ ลงมาแทน ชินจิ โคบายาชิที่ได้รับอาการบาดเจ็บ ทางริคิมารุเดินเข้ามาในสนาม หัวใจของเขาสั่นไปหมด เขาทำอะไรไม่ถูกก่อนจะเดินไปที่ประตู


“นี่นายหนะ… อย่าพลาดง่ายๆหละ ไม่งั้นจะเสียชื่อคนญี่ปุ่นเอานะ” เรียวเฮย์เข้ามาบอกกับริคิมารุพร้อมตบไหล่ ทางริคิมารุพยักหน้า ก่อนที่สีหน้าเขานั้นจะดูเปลี่ยนไปเป็นมั่นใจขึ้น ทางมิโดริคาวะก็หันไปยิ้มให้ ถึงพวกเขาจะโดนนำอยู่แต่พวกเขาก็ยังไม่ยอมแพ้

“เอาหละ! เวลายังเหลือไปทวงประตูของเราคืนมากันเถอะ!” คัตสึรากิตะโกนกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมของตนเอง
“โอ้วววววววววววว!” ทีมโตเกียว คาชิโกคุตะโกนอย่างหึกเหิม


“คาชิโกคุยังไม่ยอมแพ้สินะ…” เรียวทาโร่พูดพร้อมยิ้มอย่างพอใจ


ทางทีมโตเกียว คาชิโกคุไปเอาบอลมาวางเอาไว้ก่อนจะเริ่มเขี่ยบอลใหม่ พวกเขาดูใจเย็นขึ้น ไม่รุกรี้รุกรนจนเกินไป ทางโค้ชสเตฟานที่เห็นอย่างนั้นก็ยิ้มอย่างพอใจ ที่เห็นลูกทีมของตัวเองนั้นสติยังไม่หลุดเท่าไหร่ พวกเขากลับไปส่งบอลอย่างใจเย็น เพราะรู้ว่าพลีพลามบุกเท่าไหร่ก็จะยิ่งโดนสวนง่ายเท่านั้น 


“ไม่น่าเชื่อเลยนะ ว่าคาชิโกคุจะใจเย็นได้ถึงขนาดนี้ สมแล้วกับเป็นเจ้าสเตฟานฝึกลูกทีมมาขนาดนี้เลยเรอะ” ฮอนโกหันหน้าไปมองสเตฟานที่ดูใจเย็น

หลังจากที่ทีมโตเกียว คาชิโกคุ พยายามต่อบอลอยู่นานแถมยังต้องรีบมือกับการไล่ล่าบอลของทีมซางามิอุระอีก ทางโตเกียว คาชิโกคุก็มีโอกาศบุก โดยทางอากิฮิโระพยายามพาบอลขึ้นมาก่อนจะเลี้ยงผ่านไปสองคน ก่อนจะส่งบอลไปให้ทางมิโดริคาวะที่วิ่งขึ้นมาหลุดไปได้ ก่อนที่เขาจะหลุดไปดวลเดี่ยวกับผู้รักษาประตู


“ไม่ยอมหรอกน่า!!” ทางมากิโอะลงมาหนึ่งต่อหนึ่งกับมิโดริคาวะ


ทางมิโดริคาวะ สับขาไปซ้ายทีขวาทีก่อนจะกระชากไปขวาซ้ายของตัวเองทำให้ทางมากิโอะนั้นเสียหลักแล้วล้มลงไปเลย ก่อนที่มิโดริคาวะจะดวลเดี่ยวกับผู้รักษาประตูแล้วยิงเข้าไป


ปี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!


“เสมอได้แล้วครับ ทางทีมโตเกียว คาชิโกคุกลับมาได้อย่างรวดเร็ว ในนาทีที่ 44 จากการทำประตูของมิโดริคาวะ โชอิจิ นักเตะอัจฉริยะจากทีมเทนโนคุ การเลี้ยงของเขาเมื่อกี๊ทำให้ผมนึกถึงอาเดรียโน่ อดีตสุดยอดกองหน้าของทีมชาติบราซิลเลยนะครับ!”
“ใช่ครับ เป็นการล็อคหลบจนคู่ต่อสู้เสียหลักก่อนจะยิงด้วจยเท้าซ้ายของตัวเองด้วยความหนักหน่วงเข้าไป เป็นประตูที่สวยงามมากครับ! แต่ก็ต้องชมกองส่งของอากิฮิโระ เซย์ซินด้วยครับ”


“เอาจนได้สินะ…. เจ้ามิโดริคาวะ” เรียวทาโร่ที่ดูอยู่ข้างบนพูดออกมาด้วยสีหน้าที่ดูพอใจอย่างสุด ๆ


กรรมการเป่านกหวีดหมดเวลาในครึ่งแรก โตเกียว คาชิโกคุ เสมอกับ ทีม ซางามิอุระไป 1-1 โดยทีมซางามิอุระนำก่อนจาก ฮิมูโระ มาคิโอะ และตีเสมอในอีก 9 นาทีต่อมาจากมิโดริคาวะ โชอิจิ


ห้องล็อคเกอร์ของทีมคาชิโกคุ


“เอาหละพวกเราทำได้ดีมากในครึ่งแรก สุดท้ายก็หาจุดอ่อนของทีมซางามิอุระได้ก่อนหมดครึ่งแรก ต้องขอบใจพวกนายจริงๆ ที่ยังใจเย็นได้อยู่”
“เอาหละต่อไปนี้ครูจะทำการเปลี่ยนตัวรวดเดียว 4 คนเลย”

“โดยจะส่ง นาโอกิ ทาเกยาม่า, โคฮาคุ เอย์จิ, ทากายามะ จุน และทาง ไซจิ ฟุรุคาว่า ลงมาแทน มิโดริคาวะ โชอิจิ, โยชิโนริ มาโคโตะ, อิวาซากิ ซาคาอิ และ ฮิรางาโตะ เรียวเฮย์ ออก”
“และเราจะปรับแผนเป็น 4-4-1-1”


“อะไรกันครับโค้ช! ทำไมผมถึงโดนเปลี่ยนออก” ทางมิโดริคาวะค้านด้วยความแปลกใจ


“นายหนะพักก่อนเถอะ นี่ให้พวกเราจัดการเอง…. มันเป็นสิ่งที่พวกเราคิดไว้อยู่ก่อนแล้วละ” ทางคัตสึรากิ
“ชั้นรู้ว่ามันเสี่ยงมาก… แต่ก็ต้องเก็บนายเอาไว้ เพื่อล้มเฮียวเทย์”

“ตะ แต่ว่า…”

“นี่มิโดริคาวะคุงเชื่อใจรุ่นพี่เราเถอะนะ ที่พวกเขาทำอย่างนี้ก็เพราะพวกเขาคิดจะชนะ และถือเป็นการล้างแค้นสองปีก่อนด้วยนะครับ” ทางมาโคโตะพูดพร้อมยิ้มให้ทางมิโดริคาวะทางมิโดริคาวะไม่ได้เถียงอะไร ก่อนจะยอมๆ แต่สีหน้าของเขาก็ดูออกเลยว่าเซ็งขนาดไหน

“เอาหละ ถ้าเข้าใจแล้วก็เตรียมตัวกันได้เลย ไปล้มซางามิอุระกันเถอะพวกเรา!”
“โอ้ววววววว!”

ทางฟูจิมะเขาเป็นปีหนึ่งที่ไม่โดนเปลี่ยนออกถึงแม้ว่าเขานั้นจะโดนใบเหลืองไปแล้วก็ตาม ทางฟูจิมะเดินออกจากประตูทีหลังคนอื่น ก่อนที่โค้ชสเตฟานจะเข้ามาจับไหล่ของเขาไว้


“ที่ชั้นยังไม่เอานายออก เพราะว่าชั้นอยากให้นายทำให้ดีก่อน… นายเป็นนักเตะที่ดีนะ”
“ถ้าชั้นเอานายออกไป นายคงนอนไม่หลับแน่ ฉะนั้นก็ไปถล่มพวกนั้นเลยนายจะเล่นปีกซ้าย และ ชั้นจะให้ คิมูระยืนแบ็คซ้ายแทน”

“ครับ…” ทางฟูจิมะเดินออกไปสีหน้าเขาดูจริงจังขึ้น ซึ่งมันทำให้ทางสเตฟานเห็นถึงกับพอใจ


ห้องล็อคเกอร์ของทีมซางามิอุระ


“อย่าพึ่งร้อนรนไป…” โค้ชฮอนโกบอกกับนักเตะ โดยสีหน้าของนักเตะในทีมดูไม่ค่อยสู้ดีนัก เพราะว่าเขาใช้เวลาเกือบทั้งครึ่งเพื่อหาประตูแต่กลับโดนตีเสมออย่างง่ายดาย
“นี่พวกนายหนะ อย่าทำหน้าเหมือนแพ้ไปแล้วอย่างนั้นสิ… ไหนว่าจะเปลี่ยนวงการฟุตบอล ม.ปลาย ไม่ใช่หรอ…? ถ้ายอมตั้งแต่ตอนนี้แล้วความฝันที่พวกนายวาดกันไว้หละ” โค้ชฮอนโกพูดเตือนสติของพวกเขา ทำสีหน้าของเขาเริ่มเปลี่ยนไปทางเทนโดกัปตันทีมก็เลยพูดขึ้นมา

“เราจะมาท้อตอนนี้ไม่ได้นะทุกคน! อย่างที่โค้ชบอกถึงเจ้าพวกนั้นจะมีนักเตะจากรุ่นอัจฉริยะ แต่เราคือทีมที่จะปฏิวัติวงการฟุตบอล ม.ปลาย เราจะมายอมตอนนี้ไม่ได้!”
“โอ้วววววววว!”
“คิดแบบนั้นก็ดี…. งั้นก็เตรียมตัวไปลุยได้เลย โชว์ว่าเนโอ โททัล ฟุตบอลของพวกนายแข็งแกร่งแค่ไหน” โค้ชฮอนโกบอกกับเหล่านักเตะของทีมซางามิอุระ พวกเขาตอบอย่างดุดันก่อนจะเตรียมตัวลงสนาม”


อย่างพวกนายคงไม่ให้จบแค่นี้หรอก…

พวกนายฝ่าฟันอุปสรรค อย่างไม่ย่อท้อ ถึงทำให้มาถึงจุดนี้ได้


สนามฟุตบอลโรงเรียน ซางามิอุระ เมื่อสองปีก่อน


……. 


“อะไรกันเนี่ย? แม้แต่สนามฟุตบอลยังไม่ค่อยบำรุงหญ้าเป็นหย่อมๆ แบบนี้สินะ ทำไมโรงเรียนนึ้ถึงไปไม่ไกลสักที สมัยนี้แล้วสนามฟุตบอลยังเละแบบนี้อยู่อีกหรอเนี่ย?” ทางฮอนโก ที่พึ่งเข้ามาในโรงเรียนแห่งนี้ โดยเขาในตอนนั้นยังเป็นแค่อาจารย์ธรรมดา


ตุบ… ตุบ…


เขาหันไปเห็นบอลที่เด้งเข้ามาหาเขาก่อนจะมีเสียงนักเรียนคนหนึ่งตะโกนให้เขาเก็บบอลให้


“คุณลุงค้าบ… ช่วยเก็บบอลให้หน่อยได้ไหมครับ!” เทนโดตอนปีหนึ่งเรียกให้ฮอนโกเตะบอลให้ ก่อนที่เทนโดจะส่งบอลไปก่อนที่ทางเทนโดจะเดาะบอลขึ้นมาก่อนจะเดาะไปข้างหลังแล้วใช้ส้นเท้าเดาะ เขาหันไปเห็นเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังเล่นฟุตบอลอยู่


“พวกเธอนี่ ฝีมือไม่เลวเลยนี่….”


“แหะๆ ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ… พวกเราไม่เคยลงรายการไหนด้วยซ้ำ ถึงจะมีชมรมก็เถอะ ว่าแต่คุณเป็นใครหรอครับ?”


“ชั้นเป็นอาจารย์ใหม่ของที่นี่ ชื่อ ฮอนโก ชั้นบอกว่าจะมาเป็นโค้ชฟุตบอลของที่นี่ แต่ ผอ. ให้ชั้นมาดูสนามก่อนจะตัดสินใจ”


เมื่อทางฮอนโกบอก ทางเทนโดก็ถึงกับดีใจจนตาเป็นประกายเขารีบไปเรียกเพื่อนๆ ของเขามาหาฮอนโกก่อนจะพูดคุยกันไปเรื่อยๆ ด้วยความสนุกสนาน ที่โรงเรียนนี้ไม่เคยเข้าแข่งรายการไหนก็เพราะว่าพวกเขาไม่มีครูฝึก และชมรมก็กำลังจะถูกยุบโดนมีแค่เด็กปีหนึ่งเท่านั้นที่อยู่ในชมรม


“ขอร้องเถอะครับ ถึงสนามไม่ดี แต่มาเป็นโค้ชให้เราเถอะครับ เราอยากแข่งเหมือนคนอื่นบ้าง!”
“โอเค ชั้นตกลง!”


เมื่อทางฮอนโกตกลง ทางซางามิอุระก็ได้เริ่มทำการฝึกซ้อม โดยทางฮอนโกที่ดูนั้นเขาเห็นว่าทีมของเขาแต่ละคนมีความฟิตมาก แต่ว่ายังขาดทักษะในการส่งบอลอยู่เพราะไม่ได้ส่งมากพอ เริ่มแรกพวกเขาแทบไม่มีลูกฟุตบอลด้วยซ้ำ แต่ก็ใช้ลูกวอลเล่ย์บอลเตะทำให้พวกเขาเริ่มส่งบอลได้แม่นยำขึ้นอย่างรวดเร็ว ทุกคนได้เรียนรู้โดยทางฮอนโกเริ่มซึมซับโททัลฟุตบอลให้กับพวกเขา และได้รู้เทคนิคที่ทำให้ส่งบอลโดยไม่จับ

อินเตอร์ไฮท์สองปีก่อน


“โรงเรียนน้องใหม่อย่างซางามิอุระ ชนะโตเกียว คาชิโกคุไปได้ 1-0 โดยทั้งที่มีแค่เด็กปี 1 เท่านั้น”


ถึงปีนั้นเราจะไปไม่ไกลถึงฝันแต่เราก็ประกาศให้รู้ว่าทางซางามิอุระจะผงาดในอีกไม่ช้า และปีต่อมาเราก็ได้ ฮิมูระนั้นเป็นส่วนที่เติมเต็มของเราเป็นอย่างมาก จากคนนอกสายตาของเทนโนคุ มาสู่นักเตะหมายเลข 10 ของทีม


โททัลฟุตบอลที่สมบูรณ์ของครัฟท์มันยังยากเกินไปสำหรับเด็ก ม.ปลาย ชั้นพยายามคิดสิ่งที่สมบูรณ์ที่สุดให้กับพวกเขา จนมาอยู่วันหนึ่งที่ชั้นซื้อของที่ซุปเปอร์ มาร์เกต


“ไอ้หยา… เหม่อยังไงถึงได้หยิบมาเยอะขนาดนี้เนี่ย!?!” เขามองไปที่ตะกร้าของเขาทีใส่ของเต็มไปหมด… 


หรือว่า!?!


การวางของของซุปเปอร์มาเกต คือ การวางของที่ต้องใช้คู่กันมาอยู่ใกล้ๆกัน ทำให้ลูกค้าต้องหยิบโดยที่ไม่รู้ตัว… นี่อาจจะมาใช้กับโททัล ฟุตบอลแบบใหม่ของเราได้


นี่หละคือ เนโอ โททัล ฟุตบอล!


การใช้จุดเด่น ลบจุดด้อย และสร้างโททัล ฟุตบอลขึ้นมาใหม่….


วินเทอร์ คัพ ปีก่อน


“โรงเรียนซางามิอุระ สามารถชนะการดวลจุดโทษกับทีมโตเกียว คาชิโกคุ สามารถเข้ารอบ 16 ทีมไปได้ครับ!”


แต่สิ่งที่มันเจ๋งกว่าก็คือ….


ความรักที่มีต่อฟุตบอลของเด็กพวกนี้….. ไม่ได้น้อยไปกว่าใครเลย….


แล้วพวกเราจะใช้ เนโอ โททัล ฟุตบอล ที่พวกเราร่วมกันสร้าง เพื่อปฏิวัติวงการฟุตบอล มัธยมปลายของญี่ปุ่นให้ดูเอง!


-------------------------------------


Spoiler:
SpeedStar
SpeedStar
Posts : 35
Join date : 2018-08-20

Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน  Empty Re: Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน

Tue Aug 21, 2018 8:51 pm
ตอนที่ 8 : ลบล้างอดีต




หลังจากที่จบการแข่งขันในครึ่งแรกในการแข่งขันฟุตบอลประจำจังหวัดโตเกียว ระหว่างทีมโรงเรียนโตเกียว คาชิโกคุ และ ทีมโรงเรียน ซางามิอุระ โดยตอนนี้สกอร์ยังอยู่ที่หนึ่งประตูต่อหนึ่งโดยประตูแรกทางทีมซางามิอุระขึ้นนำไปก่อนจากการซ้ำเข้าประตูของ ฮิมูโระ มากิโอะ ในนาทีที่ 35 แต่ว่าก่อนหมดครึ่งแรกเพียง 1 นาที ทางโรงเรียนโตเกียว คาชิโกคุก็กลับมาตีเสมอได้อย่างรวดเร็วจาก มิโดริคาวะ เอสสไตร์เกอร์ของทีม โดยครึ่งหลังนักเตะทั้งสองทีมกลับเดินเข้ามาในสนามโดยทางทีม คาชิโกคุนั้นเปลี่ยนตัวเอานักเรียน ปี 1 ออกหมดส่งมาแต่นักเรียนรุ่นพี่ ที่จะแก้แค้นทีมซางามิอุระ ที่พวกเขาแพ้ไปสองปีติด โดยมีเพียงทางนากาอิ ริคิมารุ ที่เปลี่ยนตัวแทน ชินจิ โคบายาชิที่ได้รับอาการบาดเจ็บที่ข้อมือ และ ฟูจิมะ คิโยดะ ที่ทางโค้ชสเตฟานให้โอกาศได้แก้ตัว ส่วนทางทีมซางามิอุระยังใช้นักเตะชุดเดิม




“เห… เจ้ามิโดริคาวะได้ออกไปนั่งซะงั้น ขนาดยิงเข้านะเนี่ย” ทากามิศูนย์หน้าของทีมเฮียวเทย์พูดขึ้นมาหลังจากที่เห็นทางทีมคาชิโกคุเปลี่ยนตัวแทบจะยกชุด
“เหมือนพวกนั้นอยากจะเอาคืนหนะนะ เพราะแพ้มาสองปีติด” ซานาดะบอกกับทากามิ
“งั้นหรอ? แต่มันก็เสี่ยงมากเลยนา… ถ้าแพ้มาชั้นว่าไม่คุ้มเลยนะ เนาะ ยูโตะ” ทากามิบ่นพร้อมหันไปถามยูโตะ




“ชั้นก็พูดอะไรไม่ได้หรอก ถ้าพวกนั้นไม่มั่นใจคงไม่คิดจะทำแบบนี้หรอก”




เมื่อเกมส์ในครึ่งหลังเริ่มขึ้นก็เป็นทางซางามิอุระที่ได้เขี่ยลูกเริ่มเล่นก่อน พวกเขานั้นยังคงเล่นด้วยคอนเซปเดิม คือการส่งบอลสั้นแล้ววิ่งวนตำแหน่งกันเรื่อยๆ โดยทางทีมคาชิโกคุนั้นเดินคุมโซนอย่างใจเย็น ดูแล้วการให้เหล่ารุ่นพี่ที่มีประสบการณ์มากกว่าเล่นในเกมส์ที่อึดอัดแบบนี้น่าจะดีกว่า พวกเขาเลือกที่จะเปลี่ยนกองกลางที่ใช้ในการไล่บอลอย่างโยชิโนริ มาโคโตะออกแล้วส่งทางไซจิ ฟุรุคาว่าซึ่งเป็นนักเตะเชิงสูงเข้ามาแทนที่ เกมส์นั้นเป็นไปได้อย่างสูสืทั้งสองแลกกันบุกได้อย่างดุเด็ดเผ็ดมันส์ สมกับการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ที่เทียบกับนัดก่อนที่เฮียวเทย์สามารถถล่มคู่แข่งไปอย่างง่ายดาย 




“เอาหละตัดบอลได้แล้ว วิ่งขึ้นไปเลยทุกคน!” คัตสึรากิที่ตัดบอลได้ตะโกนสั่งเพื่อนร่วมทีมของตัวเองบุกขึ้นไป




ทางคัตสึรากิเปิดบอลยาวไปให้ทางฟูจิมะที่วิ่งมาทางกราบซ้าย เขาจับบอลลงได้ก่อนที่จะมีนักเตะของทีมซางามิอุระเข้ามาบังไว้ 




“ชิ… เจ้าพวกนี้ชั้นจะขยี้พวกแกเอง”




ทางฟูจิมะหยุดก่อนจะใช้เท้าทั้งสองข้าง บังคับบอลให้ขึ้นมาจากพื้นแล้วใช้ส้นเท้าข้างใดข้างซ้ายของตัวเองกระดกบอลข้ามศีรษะตนเองและคู่แข่งที่อยู่ข้างหน้า บอลนั้นข้ามหัวนักเตะของซางามิอุระ เขามองลูกบอลที่ข้ามผ่านศรีษะเขาเหมือนกับการแหงนมองรุ้งกินข้าม ซึ่งท่าที่ทางฟูจิมะใช้นั่นก็คือ “ท่าเรนโบว์”




“เห้ยๆ นึกว่าเจ้านั่นจะมีดีแค่หัวร้อนอีกนะนั่น!” ทากามิที่ดูอยู่ถึงกับตกใจเมื่อเห็นทางฟูจิมะใช้ท่าเรนโบว์
“นี่ๆ ยามาบูกิ ชั้นว่าไม่แน่นะว่าเจ้านั่นจะขยี้นายเองก็ได้ ฮิฮิ” ทากามิหันไปหาชายผมทองที่ชื่อว่ายามาบูกิ ที่บอกว่าฟูจิมะจะเป็นเหยื่อของเขา




“ชิ… เดี๋ยวถ้าได้เจอกันเดี๋ยวก็รู้เองหละรุ่นพี่!”




“คาชิโกคุได้เด็กใหม่ที่ไม่ธรรมดาเลยนะยูโตะ” มิยาซาวะที่ดูอยู่พูดกับยูโตะ
“อืม… ชั้นก็ไม่คิดว่าเจ้านั่นจะทำได้ขนาดนี้เหมือนกัน” ยูโตะตอบกลับไป




“ถ้าทำได้มันไม่แปลกเท่าไหร่หรอก แต่การจะทำได้สมบูรณ์แบบขนาดนี้มันเหมือนคนบราซิลมาทำเองเลยก็ว่าได้ ไม่คิดว่าในญี่ปุ่นจะมีคนที่ทำได้เนียนตาขนาดนี้อยู่อีก” เรียวทาโร่อธิบาย




ทางฟูจิมะที่เรนโบว์หลบมาได้ก็เลี้ยงผ่านไปอีก 1 คนก่อนจะเปิดบอลด้วยซ้าย บอลนั้นลอบมาให้กับทางนาโอกิ ทาเกยาม่ากระโดดขึ้นโหม่ง แต่ว่ามีนักเตะของทางซางามิอุระเข้ามาบังไว้ ทำให้เขานั้นโหม่งไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ แต่ว่าด้วยความสูงของเขาที่สูงถึง 194 เซนติเมตร ทำให้เขาชนะในการโหม่งครั้งนี้แต่ว่ามันก็ยังไม่ดีพอที่จะผ่านมือของผู้รักษาประตูของทีมซางามิอุระเขาปัดออกไป ทำให้ทางคาชิโกคุได้ลูกเตะมุม ทางนาโอกิจับหัวของตัวเองด้วยความเสียดาย




ที่ม้านั่งสำรองทามิโดริคาวะที่ดูเกมส์อยู่ เขาทำหน้าที่ไม่ค่อยแฮปปี้เท่าไหร่สีหน้าของเขาออกอาการเซ็งสุดๆ เพราะเขาพึ่งเครื่องติดแท้ๆ แต่ต้องกลับมาโดนเปลี่ยนออก ทางเคียวโกะที่เห็นอย่างนั้นก็เอาหมัดไปชกแก้มของทางมิโดริคาวะ แต่หมัดนั้นไม่ใช่หมัดที่แรงเท่าไหร่ เหมือนชกไปเพื่อให้ทางมิโดริคาวะหันมา




“นี่! มิโดจัง… นายไม่มีสิทธิ์มานั่งทำหน้าแบบนี้นะ ขนาดรุ่นพี่อารากิไม่ได้ลงเขาก็ไม่ว่าอะไรเลย นายต้องเชียร์เพื่อนสิ!” เคียวโกะดุทางมิโดริคาวะ
“น่า ๆ เคียวโกะหมอนี่มันก็แค่เครื่องติดแล้วโดนเบรคเท่านั้นหละ แต่นายก็ยิ้มบ้างหน่อยซี่ เรายังไม่แพ้สักหน่อย” ทางอารากิพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มก่อนจะตบหัวของมิโดริคาวะ ก่อนจะขยี้หัวของมิโดริคาวะแต่ว่าทางมิโดริคาวะก็สบัดหัวออก
“มันเจ็บนะรุ่นพี่บุนตะ! ก็แค่เซ็งนิดหน่อยเองหนะ แค่ไม่มีอะไรไปขิงเจ้าเรียวทาโร่แค่นั้นเอง” ทางมิโดริคาวะบอก




“ขนาดฟูจิมะคุงทำได้ขนาดนั้น นายยังทำหน้าเบื่อๆ อยู่เลยหนิ” เคียวโกะบอกกับทางมิโดริคาวะ
“ก็ชั้นรู้อยู่แล้วน่าว่าหมอนั่นจะทำได้” มิโดริคาวะบอกกับเคียวโกะ




แต่เมื่อเขาหันทั้งสามคนหันหน้าไปหาทางเซป ไนล่าห์นักเตะสัญชาติอิยิปต์ของทีมที่ไม่ได้ลงในนัดนี้ เขานั่งกระสับกระส่าบ แต่ไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมา เหมือนเขาจะพอเข้าใจว่าเกมส์นี้รุ่นพี่อยากที่จะจัดการเอง แต่เมื่อเห็นเพื่อนเล่นในสนามมันก็อดไม่ได้ที่จะอยากเล่นด้วยเหมือนกัน




“เขาก็คงอยากเล่นเหมือนกันสินะ… แหะๆ” มิโดริคาวะพูดพร้อมหัวเราะแห้งๆ ทางโค้ชสเตฟานที่ยืนอยู่หันไปมองที่ม้านั่งสำรองเขาก็ยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู




แต่ว่าถึงตอนนี้รูปเกมส์ก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรไปมาก ทั้งสองทีมยังแลกบุกกันอย่างเมามันส์ โดยทำให้กองเชียร์ทั้งสองฝั่งตะโกนเชียร์กันอย่างสนุกสนาน ทางซางามิอุระที่ได้บอลโดยเทนโด ตอนนี้เขาอยู่ริมเส้นก่อนจะเปิดบอลเข้ามา บอลนั้นเป็นบอลที่ไม่สูงมาก ทางมากิโอะวิ่งเข้ามาวอลเล่ย์เต็มๆ บอลนั้นกำลังจะพุ่งเสียบเข้าสามเหลี่ยม แต่ว่าทางนากาอิ ริคิมารุ ผู้รักษาประตูที่มีความสูงเพียง 168 เซนติเมตร พุ่งปัดได้อย่างสวยงาม สร้างเสียงฮือฮาได้เป็นอย่างดี




“ดูสิ! นายเห็นมั้ยผู้รักษาประตูคนนั้นถึงจะตัวเล็กนิดเดียว แต่กระโดดสูงเป็นบ้าเลยแฮะ!” เสียงของกองเชียร์คนหนึ่งพูดออกมา




ทางซางามิอุระยังคงบุกต่อ แต่ช่วงหลังๆ ที่เขาเริ่มที่จะเปิดบอลเข้ามาเพราะว่า บอลเรียดนั้นแทบจะไม่ได้ผลกับทีมคาชิโกคุ เพราะว่าผู้รักษาประตูอย่าง ริคิมารุ สามารถออกมาตัดบอลได้ตลอดโดยยังไม่มีข้อผิดพลาด ทำให้ทางซางามิอุระเลือกที่จะไม่เสี่ยงต่อบอลบุกและแทงทะลุช่องเข้าไปข้างใน แต่ถึงอย่างนั้นแล้วก็ยังโดนการเซฟอันสุดยอดของริคิมารุเซฟเอาไว้ได้




คาชิโกคุได้เอาคืนบ้างโดยตอนนี้เวลาในครึ่งหลังผ่านไปเกือบสามสิบนาทีแล้ว แต่ทั้งสองก็ยังแทบจะไม่ผ่อนเกมส์กันเลย แต่แบบนั้นทีมซางามิอุระแทบจะจับเข่าด้วยความเหนื่อยกันแล้ว ทางโค้ชฮอนโกที่เห็นอย่างนั้นแล้ว เหมือนว่าท่าจะไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ เพราะว่าการไล่ล่าบอลที่มากเกินไป โดยที่ผ่านมาทีมที่เขาเจอนั้นแทบจะไม่สามารถต่อกรกับเขาได้เลย เขาจึงเลือกตัวสำรองมาอีกห้าคนทีเดียว เพื่อต้องการความสดกว่า 




“แบบนี้ไม่ดีแน่… เกมส์นั้นดุเดือดเกินไป ทำให้เราเสียพลังกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา… ถ้าพวกนั้นหยุดจังหวะนี้ไม่ได้ เราจบเห่แน่” ทางเทนโดที่ดูอยู่ถึงกับรู้สถานการณ์ในสนาม เพราะเขาเหลือบไปเห็นตัวสำรองของทีมซางามิอุระเตรียมลงสนามแล้ว




ทางไซจิ ฟุรุคาว่าได้บอลก่อนจะเลี้ยงผ่านไปสองคนอย่างง่ายดาย ก่อนจะส่งบอลไปให้ทางคัตสิรากิ ก่อนจะวางบอลยาวไปให้ตัวพักบอลอย่างนาโอกิ ทาเกยาม่า ทางนาโอกิที่เห็นทางอากิฮิโระที่วิ่งสอดเข้ามา เขากระโดดโหม่งชกเข้าไปให้ทางอากิฮิโระที่วิ่งเข้ามาก่อนจะวิ่งตะบันด้วยขาขวาบอลนั้นพุ่งเสียบเสาและผ่านมือของผู้รักษาประตูของทีมซางามิอุระเข้าไปซึ่งหมายความนั่นคือ




ปี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!




เสียงเฮดังลั่นสนาม กรรมการเป่านกหวีดเป็นสัญญาณว่าทีมโรงเรียนคาชิโกคุขึ้นนำซางามิอุระไป 2-1 จากการทำประตูของนักเตะหมายเลข 18 อากิฮิโระ เซย์ซิน!




“สำเร็จ!” อากิฮิโระตะโกนออกมาด้วยความดีใจโดยปกติเขานั้นจะเป็นคนเงียบๆไม่ค่อยพูดอะไรแต่การยิงซางามิอุระเหมือนปลดปล่อยอะไรออกมาในใจของเขา




“คงเก็บมานานสินะ… รุ่นพี่อากิฮิโระ” อารากิพูดขึ้นมาทำให้ทางมิโดริคาวะสงสัย
“อะไรที่ว่าเก็บกดมานานหรอรุ่นพี่” มิโดริคาวะถาม




“ก็เขาติดทีมหลักมาตลอด 2 ปีเลยหละนะ และเวลาที่เจอทีมนี้แกก็จะเล่นไม่ออกตลอด ที่จริงเห็นนิ่งๆอย่างนั้น เขาก็เป็นคนอารมณ์ร้อนนะ…”




“เห….. จริงหรอเนี่ย!?!”




“ก็นะ… ปีก่อนที่แพ้จุดโทษ จุน เขายิงไม่เข้า รุ่นพี่เขาก็ไปโทษจุน แต่เอาตรงๆ เขาทำแบบนั้นก็ไม่ถูกหรอกนะ เราเคยเกือบมีเรื่องที่ไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่ แต่ว่าตอนนี้เขาเปลี่ยนไปเยอะมาก ถ้าป่านนี้เขาคงเล่นไม่ออกแล้ว เมื่อเจอสถานการณ์แบบนี้” อารากิอธิบาย




หลังจากที่ทางคาชิโกคุสามารถยิงได้ก็สร้างความมั่นใจให้พวกเขาเพิ่มมากขึ้น ส่วนทางซางามิอุระ ที่กำลังจะเปลี่ยนตัวปรากฏว่ามันสายเกินไปแล้ว พวกเขาเปลี่ยนนักเตะถึง 5 คน เพื่อลงมาไล่ล่าบอลพวกเขายังคงเลือกที่จะเล่นแบบเดิม แต่ว่าทางทีมคาชิโกคุเหมือนจะจับทางพวกเขาได้แล้ว แต่ว่าทางซางามิอุระก็ยังพยายามบุกแล้วบุกอีก ต้องชมผู้รักษาประตูอย่าง ริคิมารุที่สามารถออกมาตัดบอลได้ และ ความแข็งแกร่งของเทปเปย์ รวมถึงฟูจิมะที่สามารถสร้างความแตกต่างให้กับเกมส์นี้ได้ด้วยการลากเลื้อยของเขา จนมาตอนนี้เกมส์เหลือไม่ถึง 5 นาที สกอร์ยังอยู่ที่ 2-1 ทางโค้ชฮอนโกที่เห็นอย่างนั้นก็ถอนหายใจออกมา




“เราเสร็จพวกนั้นแล้วสินะ… การสร้างความแตกต่างของมิโดริคาวะแห่งรุ่นอัจฉริยะทำให้คาชิโกคุกลับมามีไฟอีกครั้ง แล้วการลากเลื้อยของเจ้าปีหนึ่งเบอร์ 11 นั่น… แต่พวกนั้นคงจะไม่ยอมแพ้แค่นี้หรอกนะ” โค้ชฮอนโกมองรูปเกมส์ที่ทีมของเขากำลังพยายามเต็มที่เพื่อได้ประตูคืนมาแต่กลับเป็นทางคาชิโกคุที่เกือบได้ประตูที่สามมากกว่า แต่สายตาของลูกทีมของเขานั้นยังไม่ยอมแพ้




“พวกเราจะไม่จบแค่นี้แน่! อย่ามาขวางซะให้ยาก!!!! เติมให้หมดเลยทุกคน” เทนโดกัปตันทีมของซางามิอุระตะโกนขึ้นมา
“โอ้ววววว!”




“อะไรกันเนี่ย…. บุกเยอะเกินไปแล้ว” ไซจิที่เห็นนักเตะของทีมซางามิอุระที่บุกกันขึ้นมาถึงกับผวา




ทางทีมซางามิอุระบุกในตอนนี้ได้ทำการบุกขึ้นมาทั้งทีมยกเว้นผู้รักษาประตู และตอนนี้ศูนย์กลางของการบุกคือ ฮิมูโระ มากิโอะ ตอนนี้พวกเขาต่อบอลไปมาอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ทางคาชิโกคุไม่สามารถตามสปีดบอลได้ทัน แต่ในเวลาแบบนี้พวกเขากลับทำได้ดีเกินคาด การส่งบอลของพวกเขานั้นเข้าขั้นคำว่าแม่นยำเลยทีเดียว พวกเขาพยายามที่จะหาประตูตีเสมอให้ได้ แต่ว่าทางทีมคาชิโกคุนั้นคุมโซนได้อย่างเหนียวแน่นและก็รอโอกาศที่จะสวนกลับอยู่เช่นกัน 




“จังหวะนี้หละนะ ที่จะตัดสินเกมส์… ถ้าซางามิอุระไม่สามารถจบจังหวะนี้ได้ พวกเขาก็จะไม่มีโอกาศแก้ตัวอีกแล้ว…” มิยาซาวะแห่งทีมเฮียวเทย์ที่กำลังดูอยู่พูดขึ้นมา
“นั่นสินะครับ….” เรียวทาโร่ตอบกลับ




มากิโอะมองเห็นช่องว่างเขาจึงส่งบอลไปให้ บอลนั้นผ่านเทปเปย์ไปก่อนที่ทางเทนโดจะวิ่งสอดเข้ามา




“บะ บ้าน่า!” เทปเปย์ถึงกับตกใจที่ทางเทนโดหลุดไปได้




แต่ถึงอย่างงั้นแล้วทางริคิมารุก็ยังออกมาปิดมุมไว้เพื่อไม่ให้เทนโดยิง แต่เมื่อทางริคิมารุสังเกตไปที่เทนโดเขาสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะ…






ชิพบอล!






“แย่แน่ แบบนั้นเจ้าเปี๊ยกไม่ไหวแน่!” มิโดริคาวะพูดขึ้นมา




บอลนั้นกำลังลอยเข้าประตูเวลาอันระทึกใจของพวกเขาเกิดขึ้น ทางริคิมารุนั้นไม่สามารถที่จะวิ่งกลับมาทันได้แล้ว เหล่านักเตะของทีมซางามิอุระกำลังจะวิ่งดีใจกับประตูตีเสมอของพวกเขา 




“อย่ามาดูถูกกันนะเว้ย… เจ้าพวกบ้า...”




ทางฟูจิมะ คิโยดะเข้ามาโอเวอร์เฮด คิก เคลียร์ออกมาได้ เหล่านักเตะของทีมซางามิอุระอึ้งกันทั้งสนาม เหล่ากองเชียร์เฮด้วยความสุดยอดของทางฟูจิมะบอลนั้นลอยออกไป ทางนาโอกินั้นหลุดเดี่ยวไปเลยเพราะว่าทีมซางามิอุระนั้นขึ้นมาเกินครึ่งสนามกันหมดแล้ว ทางผู้รักษาประตูของทางซางามิอุระวิ่งออกมา แต่ว่าทางนาโอกิส่งกลับคืนไปให้ทางคัตสึรากิที่อยู่ข้างหลัง




“ดูเอาไว้นะ… เวลาแบบนี้เขานี่หละ ไว้ใจได้มากที่สุด” อารากิบอกกับทุกคนให้ดูว่าทางคัตสึรากิจะทำอะไร




คัตสึรากิตัดสินใจง้างเท้ายิงบอลสวนไปเลย ผู้รักษาประตูนั้นที่วิ่งออกมานั้นก็รีบวิ่งกลับตำแหน่ง แต่ว่าบอลนั้นมันพุ่งเร็วก่อนบอลนั้นจะตุงตะข่ายเข้าไป




ปี้ดดดดดดดดดดด!


“เข้าไปแล้วครับ! ถือเป็นประตูตอกฝาโลงของทีมคาชิโกคุ โดยกัปตันทีมของพวกเขา หมายเลข 8 คัตสึรากิ คิโยชิ!”




เสียงเฮดังลั่นสนามพร้อมกับเสียงนกหวีดเป่าหมดเวลา ทีมคาชิโกคุทำได้สำเร็จพวกเขาสามารถแก้แค้นซางามิอุระได้สำเร็จด้วยสกอร์ 3-1 เหล่านักเตะของทีมซางามิอุระนั้นถึงกับทรุดลงไปเลย 




“ทุกคน! ลุกขึ้นมา มันยังไม่จบสักหน่อย!” ทางเทนโดตะโกนขึ้นมา
“เรายังมีแก้ตัวอีกนัด แล้วเราจะไปแก้แค้นในอินเตอร์ไฮให้ได้”




เหล่านักเตะของทีมซางามิอุระที่ได้กลั้นน้ำตาของตัวเองก่อนจะลุกขึ้นมาไปเข้าแถวทำความเคารพ หลังจากนั้นทางเทนโดเข้ามาจับมือกับทางคัตสึรากิ




“พวกเราแพ้ซะราบคาบเลย” เทนโดบอกกับคัตสึรากิ
“แต่ว่าในอินเตอร์ไฮถ้าได้เจอกันอีก เราไม่แพ้แน่!”
“อืม… แล้วชั้นจะรอ” คัตสึรากิตอบด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม




ทางมิโดริคาวะที่ดูได้แต่ดูเกมส์มาทั้งครึ่งหลัง เขามองไปที่ทีมของเขา เขากลับไม่รู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ลงเลยแม้แต่น้อย การที่เขาออกมาครั้งนี้มันทำให้เขาคิดว่ารุ่นพี่ของเขานั้นก็สุดยอดเช่นกัน






“พวกเราก็กลับได้แล้วสินะ… มิยาซาวะ” ทากามิพูดพร้อมลุกขึ้นมาจากที่นั่ง
“อืม… เราก็รู้แล้วว่าเราจะได้ชิงกับใคร… แต่ว่ายังไงซะผลลัพธ์มันก็เป็นเหมือนเดิม”




ทางทีมเฮียวเทย์ลุกขึ้นมาก่อนจะเดินออกจากสนาม ปล่อยให้ทางทีมคาชิโกคุดีใจกันในสนาม พวกเขายังต้องเจอกับราชาแห่งโตเกียวอย่างเฮียวเทย์ในอีกสามวัน ที่สนามอายิโนะโมโตะ สเตเดี้ยม และที่น่าสนใจกว่านั้นมันจะเป็นการเจอกันของสอนักเตะของรุ่นอัจฉริยะแห่งเทนโนคุระหว่าง มิโดริคาวะ โชอิจิ และ ทาง ฮายาโตะ เรียวทาโร่ อีกด้วยเช่นกัน
Sponsored content

Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน  Empty Re: Strike! พุ่งทะยานสู่ฝัน

Back to top
Permissions in this forum:
You cannot reply to topics in this forum