DWO City
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Go down
CosmicTerror
CosmicTerror
Admin
Posts : 53
Join date : 2018-08-20
Age : 25
https://dwocity.forumotion.com

Our Road Our Chance Empty Our Road Our Chance

Fri Nov 15, 2019 2:41 pm
บทนำ

“ถึงเวลาแล้วสินะ..”

เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นท่ามกลางหมู่มวลของกลุ่มผู้ชาย น้ำเสียงที่สั่นเครือและเต็มไปด้วยอารมณ์ความตื่นเต้น ทุกคนต่างมองหน้าไปยังต้นเสียง เป็นชายหนุ่มที่มีผมทรงหยิกหยักศกค่อนข้างยาว มีนัยน์ตาสีดำจ้องทะลุผ่านเลนส์ในแว่นตากรอบสีดำขริบแดง ร่างกายที่ท้วมใหญ่กำลังกอดคอร่วมกับชายคนอื่นที่มีลักษณะแตกต่างกันไป

“เราทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจทุกอย่างเพื่อวันนี้” ชายสวมแว่นยังคงกล่าวต่อไป
“อีกเพียงแค่ก้าวเดียว ความฝันของเราก็จะเป็นจริง”
“ให้โลกได้รู้ซะบ้างว่า ไอ้ทีมเล็กๆ โง่ๆ จากประเทศไทยก็สามารถเป็นแชมป์โลกได้ สิ่งที่แม้แต่อเมริกาแม่งก็ยังทำไม่ได้!”

เสียงจากชายหนุ่มในแว่นดำหยุดลงหลังจากปลุกใจเพื่อนร่วมทีมที่กำลังตั้งวงกอดคอกัน เสมือนเป็นสัญญาณเมื่อหนุ่มแว่นหยุดพูด ชายอีกคนที่อยู่ข้างๆ กับเขาที่มีผมทรงวัยรุ่นสีฟ้าน้ำทะเล หน้าตาคมคายดูมีเสน่ห์ก็เอ่ยปากขึ้น

“เราก็แค่ต้องทำอะไร แค่ชนะทีมเกาหลี 3 เกมเท่านั้น! กะอีแค่ทีมจากยุโรปมันมีอะไรน่ากลัวกันเชียว อย่าลืมสิว่าเราก็เคยชนะมันมาแล้ว!”
“ชนะทีมยุโรปเหรอ” ชายอีกคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามถาม เป็นหนุ่มแว่นที่มีร่างกายผอมกว่ามากเมื่อเทียบกับสองคนก่อนหน้านี้ไว้ผมสั้นสีดำตามรูปแบบทั่วไปของคนเอเชีย
“ใช่ ชนะทีมยุโรป คุณตลกเหรอ กูจริงจังนะสัส” ชายผมสีฟ้าตอบแบบปัดทิ้ง
“โถ่ ไม่โบ๊ะบ๊ะเลย”

“นี่ๆ เราอย่าลืมนะว่ามีใครอยู่ทีมฝั่งตรงข้ามอีกคนน่ะ” ชายอีกคนที่มีผมทรงสีดำโฉบเฉี่ยวพร้อมหน้าตาคมเข้มไม่แพ้กับชายในผมสีฟ้าสะท้อนแสง มีแผลเป็นบริเวณเหนือคิ้วขวาก็ทักขึ้นมา
“อ่อ ใช่ เป็นผู้เล่นที่… เคยเป็นอดีตเพื่อนร่วมทีมของเรา” ชายร่างท้วมตอบ
“แต่นั่นก็ทำให้ผมได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมนี้นะ.. และหลังจากนั้นก็ทำให้ผมได้เจอกับอะไรที่มันสุดยอดแบบนี้ ผมดีใจมากที่ได้ชิงแชมป์โลกครั้งแรก” ชายคนสุดท้ายที่ล้อมวงเป็นคนที่มีอายุน้อยที่สุดและตัวเล็กกว่าชายร่างบางเสียอีก ผมคลุมไว้หน้าม้ายาวสีดำ กล่าวขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้ม

“ก็ต้องขอบคุณเขาเหมือนกันนะ ที่ทำให้เราเริ่มอยากพัฒนาตัวเองจริงๆ” ชายร่างเล็กพูดเสริม
“ผมรอวันนี้มานานแล้ว เดี๋ยวจะซัดให้เต็มเหนี่ยวเลย” ชายผมสีฟ้าพูดด้วยความตื่นเต้น
“เห้ย คุณน่ะ ระวังโดนโซโล่คิลนะ” ชายผู้มีแผลเป็นกล่าว
“ฮึ่ย! คนอย่างผมไม่มีทางโดนหรอก รู้ไหมว่าเขาเรียกผมว่าอะไร เทพแห่งคอนโทรลเมจนะคุณ จำไว้ๆ”


“ถึงเวลาขึ้นเวทีแล้วครับ!” เสียงเรียกจากระยะไกลดังขึ้นมาจากภายนอกห้องพักที่พวกเขาทั้งห้าคนอาศัยและกอดคอกันอยู่ เป็นเสียงจากทีมงานที่จัดการแข่งขันครั้งนี้มาให้สัญญาณว่าถึงเวลาขึ้นเวทีแล้ว
“เอ้า ไปกันเถอะ!” ทุกคนเปลี่ยนจากกอดคอมาเป็นยื่นมือมาไว้ที่กลางวงแทน
“พวกเราจะต้องเป็น…”

“แชมป์โลก!!”

และนี่ก็คือตำนานของทีมอีสปอร์ตที่ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการแค่หนึ่งปี แต่กลับสร้างผลงานและชื่อเสียงให้กับประเทศที่พวกเขาจากมาได้อย่างที่ไม่มีใครอาจทำได้

ตำนานของ..

แดชชิ่ง ไวท์ อาวล์ อีสปอร์ต [Dashing White Owl E-Sports]

CosmicTerror
CosmicTerror
Admin
Posts : 53
Join date : 2018-08-20
Age : 25
https://dwocity.forumotion.com

Our Road Our Chance Empty Re: Our Road Our Chance

Fri Nov 15, 2019 2:43 pm
ตอนที่ 1

“ฮัลโหลๆ”
“ได้ยินๆ”
“นี่ก็นัดสุดท้ายแล้วสินะ”

เสียงทั้งหมดที่ได้ยินกันทั้งหมดนี้ดังมาจากโปรแกรมสมัยใหม่ที่ทำให้ผู้ที่ใช้งานคอมพิวเตอร์สามารถพูดคุยถึงกันได้ในแต่ละห้องเสียงออนไลน์ ซึ่งในตอนนี้มีเสียงของผู้ชายทั้งหมดห้าคนที่ดังขึ้นอยู่ในห้องเสียงหนึ่งจากโปรแกรมที่ชื่อว่าดิสคอร์ส (Discourse)

เหตุผลที่ชายหนุ่มทั้งห้าคนมารวมตัวโดยได้นัดหมายแบบนี้เป็นเพราะว่าพวกเขาจะมาแข่งขันในเกมชื่อดังเกมหนึ่งสไตล์โมบ้า (MOBA) ที่ถึงแม้จะเป็นเกมแนวที่มีอายุอยู่ในวงการเกมมามากกว่า 10 ปีแล้ว เกมประเภทนี้ก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่ ซึ่งเกมที่ห้าหนุ่มห้ามุมจะมาแข่งขันคือเกมที่ชื่อว่า ซัมมิท ออฟ ฮีโร่ (Summit of Heroes) หรือเกมซอมหรือซม (SOM) ที่คนมักเรียกกันแบบย่อๆ เกมโมบ้าแบบห้าต่อห้าที่มีเนื้อเรื่องคร่าวๆ ว่าด้วยเมื่อมนุษย์ในโลกบางคนได้รับพลังพิเศษหรือแข็งแกร่งขึ้นมาต่อสู้กับสัตว์ประหลาดจากต่างมิติภัยร้ายอันยิ่งใหญ่ที่มนุษยชาติต้องเผชิญ

เกมซอมเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในทั่วทุกมุมโลก สามารถต่อกรได้กับเกมโมบ้าเกมแรกที่ครองใจคนมาตลอดเกือบ 10 ปีอย่าง โดน่าทรี (DONA Three) ด้วยความสดใหม่และแปลกไปจากเกมโดน่าทรี รวมถึงการนำระบบของโดน่าทรีมาทำให้ดีขึ้น จนทำให้วงการอีสปอร์ตหรือการแข่งเกมอิเล็กทรอนิกส์เติบโตและพัฒนาก้าวไปอีกขั้น รวมถึงวงการอีสปอร์ตในประเทศไทยด้วยเช่นกันที่เริ่มต่างมีองค์กรทีมเข้ามาลงทุนร่วมเข้าแข่งขันด้วย

ปัจจุบันในปี ค.ศ. 2020 เป็นซีซั่นที่ 7 ของเกมซอม หรือปีที่ 6 ของการแข่งขันอีสปอร์ต เนื่องจากเริ่มมีการแข่งขันจริงๆ ในซีซั่นที่ 2 ของเกม และเหมือนทุกปีที่ผ่านมา ก็จะมีการแข่งขันภายในประเทศเพื่อเฟ้นฟาตัวแทนแต่ละประเทศเข้าไปคัดเลือกเป็นตัวแทนภูมิภาคหรือทวีป จนเข้าไปสู่การแข่งขันระดับโลก

ทั้งห้าคนนี้ก็มีความฝันที่จะได้เจิดจรัสบนเวทีระดับโลกในเกมซอมเช่นกัน

และแน่นอนว่าชายหนุ่มทั้งห้าคนนี้คือคนไทย

“กว่าไมค์กูจะติดเสียที” เสียงเข้มของชายคนหนึ่งดังขึ้นมา ชายคนนี้มีชื่อว่า แม็ค เป็นหนึ่งในสามสมาชิกดั้งเดิมของกลุ่มห้าคนนี้ที่รวมตัวกันก่อตั้งทีมไทยเล็กๆ ทีมนี้ ชื่อไอดีในเกมของเขาคือ จีจีซี (GGC) ซึ่งมีที่มาจากชื่อไอดีเต็มๆ GodGlassChest ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยตรงๆได้ว่า ‘เทพหีบแก้ว’ ซึ่งหีบแก้วคือนามสกุลของเขา
“รอบนี้กว่าจะติดใช้เวลานานกว่าปกตินะ” เสียงเล็กหน่อยๆ ดังขึ้นตามมาซึ่งเจ้าของมีชื่อว่า ที แต่ก็ไม่มีใครเรียกเขาว่าที เพราะคนอื่นๆ มักจะเรียกชื่อเขาตามชื่อไอดีว่า กูโด ซึ่งมาจากไอดีที่ชื่อ กูโดมานะ (Gudomana) สมาชิกดั้งเดิมอีกหนึ่งคนของทีม
“สงสัยไมค์มันตื่นเต้น จะเห็นเราเข้ารอบแล้ว” เสียงที่ตามมาเป็นเสียงจากชายที่ชื่อว่า วิน หรือชื่อไอดี แกสบี้ (Gatsby)

“เดี๋ยวโดนแน่ สุดยอดมิดเลนแห่งประเทศไทยอย่างแม็คจะแบกเราจนชนะ” เสียงที่เป็นเอกลักษณ์โผล่มาอวยเพื่อนร่วมทีมนั้นเป็นเสียงของลีโอ หนึ่งในสามสมาชิกดั้งเดิม ผู้ที่มีชื่อไอดีในเกมว่า คอสมิก (Cosmic)
“ไม่มีใครในประเทศเทพเท่าเขาคนนี้แล้วบอกเลย ขนาดความหล่อก็ยังไม่มีใครสู้เขาได้” เสียงอีกคนที่อวยเพื่อนร่วมทีมตามมาอย่างติดๆ เป็นของบิล หรือชื่อไอดีในเกม อัลฟี่ (Alfie)
“พวกคุณน่ะพอเลยนะ ทำไมกูถึงได้กลายเป็นมีมของพวกมึงไปแล้วเนี่ย” แม็คตอกกลับคำอวย
“ถามตัวคุณเองสิ” ลีโอตอบกลับทันควัน

เมื่อสักครู่นี้มีคำศัพท์ที่อาจจะไม่คุ้นหูคือคำว่ามิดเลน หรือเป็นตำแหน่งประจำของแม็ค ในเกมซอมเกมนี้ เมต้าที่ผู้เล่นลงมติกันว่าเป็นรูปแบบการเล่นที่ดีที่สุดจากแผนที่มีทั้งหมด 3 เลนและป่าสองฝั่งคือการให้คนหนึ่งยืนเลนบน หรือตำแหน่งท็อป(เลน) คนหนึ่งยืนเลนกลางหรือตำแหน่งมิด(เลน) หนึ่งคนฟาร์มสัตว์ป่าหรือจังเกิล และสองคนสุดท้ายอยู่เลนล่างหรือตำแหน่งบอท(เลน)และซัพพอร์ท ซึ่งการแบ่งตำแหน่งของทีมนี้คือ บิลเป็นทอป วินเป็นจังเกิล แม็คเป็นมิด ทีเป็นบอท ส่วนลีโอเป็นซัพพอร์ท

“เข้าเรื่องๆ รอบ 32 ทีมสุดท้ายนี้จะเล่นแบบ 2 ใน 3 เกม จะมีทั้งหมด 16 ทีมเท่านั้นที่จะเข้าผ่านจากรอบ Open Qualifier ไปสู่การแข่งขันในรายการต่อไปหรือรอบ National Qualifer หมายความว่าถ้าเราชนะรอบนี้เราก็จะมีโอกาสได้เข้าแข่งขันในระดับมืออาชีพแล้ว” ทีอธิบาย
“ถ้าชนะจริงๆ กูต้องบินจากสวีเดนกลับมาแข่งที่ประเทศไทยใช่ไหม” บิลพูดเชิงติดตลก เขาเป็นชายคนเดียวที่ถึงแม้จะเป็นคนไทยโดยกำเนิดแต่มาอาศัยอยู่ที่สวีเดนด้วยเหตุผลทางครอบครัว
“ยังมั้ง National Qualifer ก็จะแบ่งเป็นรอบแบ่งกลุ่มกับรอบเพลย์ออฟ ซึ่งเฉพาะรอบเพลย์ออฟเท่านั้นที่จะแข่งแบบออฟไลน์ ถ้าเราเข้าไปถึงรอบเพลย์ออฟได้ตอนนั้นคุณค่อยบินมาละกัน” ทีอธิบายให้บิลฟังต่อ
“แม่งลำบากกูต้องมานั่งลุ้นอีก จะซื้อตั๋วล่วงหน้าก็ไม่ได้!” บิลบ่นต่อไป

“ก็ทำไงได้ ประเทศไทยแม่งยังไม่มีการแข่งขันอีสปอร์ตอย่างเป็นระบบเสียที เมื่อไหร่จะมีลีคจริงๆ จังๆ กับเขาบ้างเสียที” ลีโอเป็นคนบ่นต่อบ้าง
“ก็ผลงานแม่งห่วยไง คนมันเลยไม่มาลงทุน ต่อให้มีทีมไทยที่ได้ไปแข่งเวิลด์สุดท้ายก็อันดับรั้งท้ายตลอด” ทีก็อธิบายต่อไปซึ่งปกติก็เป็นหน้าที่หลักของเขาอยู่แล้ว
“คือมันก็พอมีทีมมืออาชีพบ้าง แต่ก็น้อยอ่ะ มันเลยต้องมาจัดรอบ Open Qualifer ที่ให้ใครมาสมัครก็ได้แบบนี้” วินแสดงความคิดเห็นบ้าง
“เนี่ยเดี๋ยวเราจะไปสร้างผลงานเอง จะได้มีคนมาลงทุนสร้างทีมบ้าง” แม็คกล่าวติดตลก

“มาว่ะๆ”
“ก็บอกแล้วให้แม็คแบกเดี๋ยวเราก็ชนะเอง ง่ายๆ อีซี่ๆ” กูโดพูดขึ้น
“เห้ย คุณพอเลยนะ ตอนนี้เราควรมาคุยเรื่องการดราฟต์ตัวกันก่อน” แม็ครีบตัดบทเปลี่ยนเรื่องทันทีก่อนที่ทุกคนจะเริ่มหันมาอวยเขาอีกครั้ง
“พวกเรา แดชชิ่งไวท์อาวล์ (Dashing White Owl) จะต้องเจอทีมไนฟโนเวล (Knife Novel)” ลีโอกล่าว
“ทำไมชื่อมันฟังดูคุ้นๆแปลกๆนะ” แม็คถาม
“คุณน่ะคิดไปเอง”

“เท่าที่เห็นมาจากการถ่ายทอดสดก็มักจะหวังพึ่งให้แครี่บอทเลนเกิดคนเดียว ซึ่งคนที่รับตำแหน่งนั้นมีชื่อไอดีว่า นิม (Nim) ทุกอย่างประเคนให้มันคนเดียวหมด และจังเกิลที่เดินเกมได้น่ารำคาญอย่าง ตาต้าร์ (Tatar) ซึ่งมีฮีโร่ประจำตัวคือโจ๊กเกอร์ (Joker)” กูโดอธิบายสิ่งที่เขาทราบให้เพื่อนๆ ได้ฟัง
“โจ๊กเกอร์.. ไอ้ฮีโร่ที่อัลติสามารถแยกร่างได้หลายตัวสินะ แม่งน่ารำคาญมากเลยนะ” วินผู้ที่เชี่ยวชาญตำแหน่งจังเกิลกล่าว
“ที่ต้องระวังก็มีแค่นั้นแหละ ถ้าเราแบนโจ๊กเกอร์เราก็จะตัดตัวเดินเกมหลักไปได้ตัวนึง.. แล้วก็พยายามไม่ให้เลนล่างเกิดมาก โอกาสที่จังเกิลจะช่วยพยุงเลนล่างของทีมฝ่ายตรงข้ามมีสูงมาก” ทีอธิบายถึงแผนการที่ควรจะเล่นในค่ำคืนนี้

โจ๊กเกอร์ (Joker) เป็นฮีโร่ในเกม SoM ที่มีสร้างความน่ารำคาญต่อผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามเป็นอย่างมาก เป็นฮีโร่ต้นเกมสไตล์แอสซาซินที่สามารถแกงค์เลนได้ค่อนข้างง่ายด้วยสกิลแรกหรือสกิล Q ของโจ๊กเกอร์ ‘Disappeared’ ที่สามารถวาร์ปในระยะสั้นๆ พร้อมกับอยู่ในสถานะล่องหนชั่วครู่หนึ่ง แล้วตามด้วยสกิลที่สามหรือสกิล E อย่าง ‘Poison Dagger’ ที่สร้างดาเมจรุนแรงและทำให้ศัตรูติดสถานะสโลว์

“งั้นที่เหลือก็แบนตัวที่เราไม่อยากเจอละกัน” ลีโอกล่าวเสริม
“ถ้างั้นก็ไปวอร์มกันก่อนไป อีกชั่วโมงนึงก็จะถึงเวลาแข่งตอนสองทุ่มแล้ว” วินเสนอ

—————


“สุดท้ายก็ทางนั้นก็เล่น หลิว หว่องสินะ”
“เป็นจังเกิลตัวต้นเกมอีกตัวที่สามารถสร้างสรรค์เพลย์ได้หลากหลาย ก็คงไม่แปลกหรอกที่ทางนั้นจะหยิบมาให้กับตาต้าร์”

เมื่อถึงเวลาแข่งขัน ทั้งสองทีมก็เตรียมพร้อมและเข้าสู่การแข่งขันด้วยการประเดิมด้วยการดราฟต์และแบนฮีโร่ ในช่วงดราฟต์เฟสนี้แต่ละทีมจะได้แบนฮีโร่คนละ 3 ตัวจากนั้นจะสลับกันเลือดฮีโร่ไว้เล่นอีก 3 ตัว และเข้าสู่แบนเฟสอีกครั้งซึ่งจะแบนฮีโร่อีก 2 ตัว จากนั้นแต่ละทีมจะสลับกันเลือกฮีโร่ 2 ตัวที่เหลือ ซึ่งแน่นอนว่าทางฝั่งทีมแดชชิ่งไวท์อาวล์ได้ทำตามแผนที่วางไว้คือการแบนโจ๊กเกอร์และอีกสองตัวที่เขาไม่ต้องการพบเจอในแบนเฟสแรก

เนื่องจากทางทีมแดชชิ่งไวท์อาวล์อยู่ฝั่งทีมสีฟ้าทำให้เขาได้เริ่มเลือกแบนและเลือกฮีโร่ก่อน แต่ทางฝั่งทีมสีแดงอย่างทีมไนฟโนเวลก็จะได้สิทธิ์เลือกฮีโร่ทีละสองตัวแทนเพราะเลือกทีหลัง

จากนั้นการดราฟต์ฮีโร่ก็เป็นไปตามปกติ สิ่งที่น่าสนใจคือทางฝั่งของทีมไรเฟิลโนเวล ได้เลือกหยิบ หลิว หว่อง (Liu Wong) มาให้ทางจังเกิลจอมป่วนอย่างตาตาร์ ซึ่งหลิว หว่อง เป็นฮีโร่ที่มีจุดเด่นคือความพลิ้วไหว พุ่งไปไหนมาไหนได้สะดวก เข้าออกการต่อสู้ได้โดยง่าย และมีดาเมจต้นเกมที่ค่อนข้างรุนแรง ซึ่งสามารถพอนำมาแทนฮีโร่ตัวโปรดอย่างโจ๊กเกอร์สำหรับตาต้าร์ได้

“ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายก็พอจะศึกษาทีมเรามาบ้างอยู่นะ แม่งแบนไม่ให้กูเล่นบามิคเนี่ย (Bamic)” ลีโอบ่นอุบอิบหลังจากที่ถึงช่วงแบนเฟสสอง
“เอาน่า ยังไงมันก็คงไม่มาแบนซัพพอร์ทแทงค์ทุกตัวหรอก” ทีปลอบใจเบาๆ

บามิค (Bamic) เป็นฮีโร่ซัพพอร์ทที่มีความถึกทนสมกับการเป็นแทงค์และสามารถช่วยเหลือและคอยดูแลเพื่อนร่วมทีมในเลนได้ด้วยสกิลแรกหรือสกิล Q อย่าง ‘Star’s Blessing’ คอยฮีลให้ได้อยู่เป็นระยะๆ และจุดเด่นของเขาก็คงหนีไม่พ้นสกิลอัลติเมทอย่าง ‘Universe Aura’ ด้วยการอาบเพื่อนร่วมทีมในระยะด้วยแสงแห่งจักรวาลคอยคุ้มกันไม่ให้โดนดาเมจใดๆทั้งสิ้น ซึ่งถือเป็นตัวเก่งของทางฝั่งลีโอ ซัพพอร์ทของทีมแดชชิ่งไวท์อาวล์

“อืม อีกฝ่ายหยิบ เซทธิน (Saithyn) มาเป็นแครี่บอทเลนสินะ ถ้างั้นซัพพอร์ทหยิบมาเป็นมีโอน่าละกัน (Miona)” ลีโอกล่าวหลังจากเห็นตัวแครี่เลนล่างของทีมฝั่งตรงข้าม

เซทธินเป็นแครี่ยิงไกลหรือมาร์คแมนที่จุดเด่นคือระยะการยิงพื้นฐานที่ไกลที่สุดในเกม ทำให้สามารถข่มคู่ต่อสู้ในเลนได้ไม่ยาก ส่วนไมโอน่าเป็นซัพพอร์ทที่สามารถเข้าถึงตัวอีกฝ่ายและสามารถสร้างคิลได้เลยตั้งแต่เลเวล 2

หลังจากที่ทั้งสองทีมเลือกฮีโร่กันเสร็จสิ้นก็เหลือแต่รอเวลาให้หมดและรอโหลดเข้าสู่เกมอย่างแท้จริงเสียที ในระหว่างนี้ทั้งสองฝั่งต่างก็เตรียมคุยแผนการเล่นไปพลางๆ จนกระทั่ง…

“ยินดีต้อนรับสู่สนามแห่งการตัดสิน (Judgement’s Arena)”

—————

“เราขึ้นเลเวลสองก่อนเขาแล้ว”
“จะเอาเลยไหมล่ะ ผมพร้อมช่วยพี่เสมอ”
“อย่าเพิ่ง ตอนนี้ใกล้ป้อมไป รอมินเนี่ยนเวฟต่อไปอาจได้ลุ้น”

ทางอีกฟากของเกม ทีมคู่ต่อสู้ของแดชชิ่งไวท์อาวล์หรือก็คือทีมไนฟโนเวลก็มีเสียงคุยดังขึ้นในโปรแกรมคุยเสียงเช่นเดียวกัน ซึ่งบทสนทนาข้างต้นเกิดขึ้นหลังจากที่ทั้งสองทีมโหลดเข้าสู่เกมเสร็จสิ้น และเริ่มเล่นไปเป็นเวลาประมาณ 2-3 นาที ซึ่งบทสนทนานี้เกิดขึ้นที่เลนล่างจากผู้เล่นตำแหน่งแครี่บอทเลนนิม (Nim) และผู้เล่นซัพพอร์ทประจำทีมอย่างเคอเรจ (Courage)

“เดี๋ยวผมแกงค์เลนล่างตอนเลเวลสามละกัน เดี๋ยวเคลียร์ฮิปโปก่อน” ตาต้าร์ (Tatar) จังเกิลประจำทีมกล่าวพร้อมค่อยๆ บังคับฮีโร่ของตนเอง หลิว หว่องต่อสู้กับสัตว์ประหลาดในป่าอยู่พลางๆ
“งั้นจะพยายามดันเลนเหมือนเดิมละกัน จะได้เข้ามาที่พุ่มข้างหลังได้” นิมกล่าวพร้อมบังคับฮีโร่ประจำตัว เซทธิน ให้ขยับไปมาพร้อมโจมตีใส่มินเนี่ยน เนื่องจากทีมไนฟโนเวลอยู่ทางฝั่งสีแดงสัตว์ป่าฮิปป์ที่มีรูปร่างคล้ายฮิปโปอยู่ค่อนข้างใกล้กับเลนล่างของสีแดง ตาต้าร์จึงใช้เวลาไม่นานถ้าอยากจะเดินจากฮิปโปมาที่เลนล่าง
“ตัวผมก็ช่วยพี่โป๊กได้สบายๆ มันไม่น่าจะกล้าเข้าใกล้เรามากหรอก” เคอเรจ ซัพพอร์ทผู้ที่บังคับตัว ‘ไบร่า’ (Byra) ซึ่งมีลักษณะเด่นคือการปลูกต้นไม้คอยช่วยยิงใส่ศัตรู

“ผมมาแล้ว พี่นิมเลิกดันได้เลยครับ” ตาต้าร์นำหลิว หว่องที่เลเวลสามจากการเคลียร์มินเนี่ยนป่าฝั่งล่างจนหมดสิ้นเดินมาเข้าประจำจุดรออยู่ในพุ่มหลังฝั่งสีแดง
“เคอเรจ ปล่อยให้มินเนี่ยนถอยมา จะได้ฆ่าง่ายๆ อีกฝ่ายไม่น่ารู้หรอก” นิมกล่าว
“รับทราบครับพี่” เคอเรจทำตามที่นิมบอกโดยพลัน

หลังจากที่มินเนี่ยนจำนวนมากกองรออยู่ที่ใกล้ๆ กับบริเวณป้อมปราการของทีมฝ่ายตรงข้าม บัดนี้มินเนี่ยนน้อยทหารกล้าจากทั้งสองฝั่งก็เข้ามาประจบพบกันอยู่ที่บริเวณเกือบตรงกลางของเลนแล้ว นอกจากมินเนี่ยนทั้งสองฝั่งที่กำลังต่อสู้กันอยู่นั้น ก็มีฮีโร่อีกสี่ตนที่อยู่คนละฝั่งกันซึ่งทางฮีโร่ของทางฝั่งสีฟ้าก็ยืนอยู่ใกล้ๆ ไม่ห่างมากนัก

“เคอเรจ นายต้องใช้สกิล E ให้โดนนะ พี่จะได้วาง W ลงตาม แล้วก็ตอนนี้พวกมันเลเวลสองกันหมดแล้ว ระวังคอมโบ E แล้ว Q ของมีโอน่าด้วย”
"ครับพี่”
“ถ้าโดนยังไงก็ตาย ยังไงก็ไม่รอด เฟิร์สบลัดที่เราใฝ่หามาต้องได้แน่นอน!” เสียงของตาต้าร์เต็มไปด้วยความตื่นเต้น เป็นจังเกิลที่กระหายเฟิร์สบลัดเป็นอย่างมาก

จังหวะนั้นเอง มีโอน่าก็เดินขึ้นมาข้างหน้าเกินกว่าตำแหน่งที่เขาควรจะอยู่ไปหน่อย ค่อนข้างใกล้กับมินเนี่ยนของทางฝั่งสีแดง แน่นอนว่าทางฝั่งผู้เล่นทีมสีแดงย่อมไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดมือ

“จังหวะนี้แหละเคอเรจ!” นิมตะโกนสั่งการ
“ได้เลยครับพี่!” เคอเรจกดใช้สกิล E ‘Menacing Roots’ ปล่อยเถาวัลย์พุ่งตรงไปหามีโอน่าทันที ในขณะเดียวกันก็ใช้สกิล W อย่าง ‘Evil Buds’ ปลูกดอกไม้ลงไปบนพื้นที่เถาวัลย์พุ่งไปหา ทำให้ดอกไม้ตูมนั้นบานขึ้นมาแล้วยิงใส่เป้าหมายที่ใกล้ที่สุดนั่นก็คือมีโอน่าทันที

แน่นอนว่าสิ่งที่พวกเขาทั้งสามคาดหวังว่าทุกอย่างจะลงหัวมีโอน่าและทำให้ได้เฟิร์สบลัดของเกมมาครอง แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็กลับเกิดขึ้น

“เห้ย!” เคอเรจตะโกนลั่นก่อนใครเพื่อน
“เชี่ย! มันบลิงก์เข้ามาสตั๊นแล้ว!” นิมตะโกนตามเช่นกันหลังจากที่อยู่ดีๆ มีโอน่าก็ใช้หนึ่งในสองฮีโร่อาร์ต ‘Hero’s Arts’ ที่พกมาด้วยอย่าง ‘บลิงก์’ (Blink) ที่จะทำให้วาร์ปในระยะสั้นๆ ได้ เข้ามาหาเคอเรจและทำให้ไบร่าตกอยู่ในสถานะสตั๊นทันที
“ชิบหายแล้ว ต้องเข้าแล้วแบบนี้!” ตาต้าร์พูดขึ้นก่อนจะใช้สกิลของตนเอง ‘Speed Vibrate’ มาร์คมีโอน่าและพุ่งเข้าไปหาตัวเป้าหมายทันทีเพื่อรีบทำดาเมจให้เร็วที่สุด แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดสองสิ่งหลังจากนี้ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง

“เห้ย! ฟาร์นานเดอะฟิฟธ์! (Farnan The Fifth) ทำไมมันมาอยู่เลนล่างด้วยล่ะ!” เคอเรจก็เป็นคนแรกที่ตะโกนออกมาอีกครั้ง

ฮีโร่ที่สวมชุดเกราะสีทองอร่ามกับใบหน้าที่คมเข้มพุ่งเข้ามาด้วยหอกขนาดยักษ์และทำให้ไบร่าลอยขึ้นอย่างสวยงามซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ไบร่าถูกสตั๊นด้วยฝีมือของมีโอน่าด้วยโล่ขนาดยักษ์ ทำให้หลอดเลือดบนหัวของไบร่าลดลงไปเกินกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว

“บ้าน่า..! ทำไมมีโอน่ามันถึงอัพสกิล W ตอนเลเวลสองล่ะ!!” เสียงตะโกนของตาต้าร์ตามมาติดๆ หลังจากที่ใช้ ‘Speed Vibrate’ เพื่อมาร์คและพุ่งเข้าไปหามีโอน่าแล้วเพื่อหวังทำความเสียหายและช่วยเหลือเคอเรจ แต่สิ่งที่เขาเจอคือมีโอน่าถูกหุ้มล้อมรอบไว้ด้วยแสงซึ่งเป็นผลจากสกิล W ‘Sunlight’ ทำให้ได้สถานะป้องกันเพิ่มขึ้นและความเสียหายที่ได้รับจะลดลง เมื่อสถานะดังกล่าวหมดลงจะระเบิดลำแสงออกรอบๆ สร้างดาเมจให้กับศัตรูอีกด้วย

การใช้สกิลเช่นนี้ทำให้ความเสียหายที่มีโอน่าควรจะได้รับจากหลิว หว่องลดลงเป็นอย่างมาก

และนอกจากนี้ โดยทั่วไปแล้วแทบไม่มีใครจะอัพสกิล W มาเมื่อบังคับมีโอน่าถึงเลเวลสอง เพราะมักจะอัพสกิล Q ที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามสตั๊นจากการโจมตีถัดไปอย่าง ‘Sunbash’และสกิล E ที่จะยืดดาบออกไปหาศัตรูแล้วพุ่งเข้าไปหาศัตรูที่จับได้อย่าง ‘Sunblade’ เพื่อการเข้าทำที่แน่นอนตั้งแต่เลเวลสอง หากดันอัพสกิล W มาแทนที่สกิลใดสกิลหนึ่ง จะไม่สามารถสร้างความกดดันอย่างที่มีโอน่าควรจะทำได้ตั้งแต่เลเวลสอง

การกระทำเช่นนี้หมายความว่า…

“พวกมัน..รู้อยู่แล้วว่าผมจะมาแกงค์ที่เลนล่าง!” ตาต้าร์หาข้อสรุปได้ในขณะที่พยายามถอยออกจากการต่อสู้

ในระหว่างนั้นเองไบร่าที่บังคับโดยเคอเรจก็เพิ่งจะมีโอกาสได้ขยับตัว แต่บนเรือนร่างสาวสวยผิวสีเขียวเหมือนดั่งใบไม้นั้นกลับมีระเบิดลูกหนึ่งวางอยู่บนหัวของเธอ พร้อมกับหลอดเลือดที่ก็ลดลงไปเรื่อยๆ จากการโจมตีโดยรอบ จนค่าพลังชีวิตใกล้เหลือศูนย์เต็มทน

“เป็นเพราะว่ามีโอน่ามันอัพสกิล W มาด้วยมันเลยทำให้มีดาเมจมากขึ้นกว่าเดิมอีก!” นิมสบถพร้อมๆ กับบังคับให้เซทธินยิงศัตรูไปมาจากระยะไกล แต่ก็ไม่เป็นผลนักเพราะมีฟาร์นานและมีโอน่าที่รับหน้าที่เป็นแทงค์คอยกันดาเมจไม่ให้ถึงแครี่ที่แท้จริงอย่างกูโดมานะ
“วะ เหวอ..! ตะ.. ต้อง.. ต้องหนี!” เคอเรจเกิดอาการตื่นตระหนกและใช้ฮีโร่อาร์ตอย่างบลิงก์เพื่อวาร์ปตนเองกลับฝั่งพยายามหนี สร้างระยะห่างได้นิดหน่อย แต่พลังชีวิตของเธอก็ใกล้หมดเต็มทนพร้อมกับยังมีระเบิดอยู่บนหัวของเธออีกด้วย
“น่าจะรอดได้อยู่นะ” หลิว หว่องพุ่งไปหาไบร่าด้วยสกิล W ‘Protect’ เพื่อมอบโล่ให้กับเธอเพื่อป้องกันดาเมจจากระเบิดที่จะระเบิดภายในไม่ช้านี้
“เดี๋ยววางกับดักกันไว้ให้.. ไอ้ต้น! ระวัง!!” นิมวางสกิล W ที่เป็นกับดักลงไปเพื่อโซนไม่ให้อีกฝ่ายเข้ามา แต่หลังจากที่เขาเห็นสิ่งหนึ่งกระโดดเข้ามาหา เขาก็รู้สึกตัวแล้วว่าสิ่งที่พวกเขาสามคนกำลังทำอยู่ มันสายเกินไปแล้ว

“อะไรเหรอ.. อ๊ะ!” เคอเรจเพิ่งรู้สึกตัวว่ามีอะไรกระโดดเข้ามาหาเขาได้รวดเร็วมาก จากระยะที่ห่างไกลก็มีคนร่างเล็กที่กระโดดเข้ามาหาด้วยปืนระเบิดขนาดใหญ่
“บลิงก์ แล้ว Missile Jump!” ตาต้าร์พยายามเดินมาบังไม่ให้มนุษย์ร่างเล็กถือปืนยักษ์ตนนี้ยิงใส่ ที่เข้ามาหาด้วยการบลิงก์เแล้วยังจะกระโดดเข้ามาใส่ ระยะห่างระหว่างฮีโร่สองตัวไม่เหลืออีกต่อไปแล้ว

เมื่อรับความเสียหายจาก Missile Jump การโจมตีปกติ และระเบิดที่ระเบิดออกบนหัวของไบร่า เสียงที่ทุกคนคุ้นเคยต่างก็ดังขึ้นทั่วสนามแห่งการตัดสิน

“เฟิร์สบลัด!”

ผู้ที่เก็บคิลแรกของเกมการแข่งขันระหว่างแดชชิ่งไวท์อาวล์และไนฟโนเวลครั้งนี้ ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากฮีโร่ ‘คริสลาน่า’ (Chrislana) บังคับโดยผู้ที่มีชื่อว่า ที หรือไอดีกูโดมานะ ซึ่งตอนนี้ก็กระโดดกลับไปหาเพื่อนด้วยสกิล Missile Jump ที่จะรีเซ็ตคูลดาวน์หากได้รับคิลหรือแอสซิสต์ได้นั่นเอง

—————

3 นาทีก่อนหน้านี้

“เราไปปักวาร์ดที่บลูบัฟของอีกฝั่งกันเถอะ”

ลีโอกล่าวขึ้นพร้อมกับเดินทางไปกับเพื่อนร่วมทีมของเขาอีกสองคน คริสลาน่าของทีและโซเฟียน่า (Sophiana) ฮีโร่คุมลูกบอลเครื่องจักรของแม็ค เดินตรงไปยังป่าของบริเวณฝ่ายตรงข้าม และปักวาร์ดที่บริเวณการ์เดี้ยนบลูบัฟของป่าฝั่งสีแดงสำเร็จได้โดยราบรื่น ไม่พบกับใครทั้งสิ้น

“ทำไมไม่มีใครมายืนกันหน่อยเหรอ นี่เราขโมยได้เลยนะเนี่ย” ลีโอกล่าว
“สงสัยน่าจะอยู่พุ่มเลนล่างรอดักคนหลงกัน” ทีแสดงความเห็นด้วยการคาดเดา

ทั้งสมาชิกห้าคนของทีมแดชชิ่งไวท์อาวล์ต่างคาดการณ์กันว่าโอกาสที่ทางฝั่งทีมไนฟโนเวลจะเคลียร์ป่าฝั่งล่างก่อนแล้วลงมาแกงค์ที่เลนล่างทันทีอยู่ที่ประมาณ 90% เพราะเกมที่พวกเขาได้รับเลือกให้ถ่ายทอดสดทั้งสองเกมที่ได้เล่นและชนะมา พวกเขาก็ทำแบบนี้ ดังนั้นแล้วเกมนี้จะไปแตกต่างอะไร

และใช่ สิ่งที่ทีคาดเดาก็เป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะในขณะที่พวกเขากำลังไปปักวาร์ดเพื่อเพิ่มการมองเห็นในป่าของฝ่ายตรงข้าม ทั้งสามคนของทีมไนฟโนเวล นิม ตาต้าร์ และเคอเรจกำลังยืนรออยู่ในพุ่มไม้ล่างสุดของแม่น้ำที่แบ่งฝั่งระหว่างทีมสีฟ้าและทีมสีแดง รอดักคนหลุดตำแหน่งอยู่นั่นเอง ทำให้คลาดกันกับที ลีโอและแม็คที่เดินสวนกันคนละทาง

“นั่นไงๆ ทั้งสามตัวเดินกลับมาจากข้างล่าง มันอยู่ตรงพุ่มนั้นจริงๆ ด้วย” หลังจากเวลาผ่านไปสักพัก ทั้งสามคนของทีมสีแดงก็เดินกลับมาประจำการที่บลูบัฟของตน

แต่หลังจากที่ยึกยักกันอยู่สักพัก นิมกับเคอเรจก็เดินออกมาแล้วเข้าไปยืนรอประจำที่เลนทันที โดยปกติแล้วถ้าหากผู้เล่นจังเกิลจะเริ่มที่ป่าฝั่งใด ผู้เล่นคนอื่นที่อยู่ประจำเลนนั้นๆจะคอยเข้าไปช่วยในการต่อสู้กับมินเนี่ยนป่าครั้งแรกเท่านั้นแล้วค่อยเดินกลับไปที่เลน จะช่วยให้จังเกิลเคลียร์ป่าได้เร็วแต่แลกกับข้อมูลที่เผยออกไป เพราะจะทำให้อีกฝ่ายรู้ว่าจังเกิลเริ่มที่ป่าฝั่งใดและสามารถคาดการณ์ตำแหน่งของจังเกิลได้จากข้อมูลนั้น

การที่คู่หูบอทเลนของทีมไนฟโนเวลไม่ช่วยตาต้าร์ในการเคลียร์มินเนี่ยนป่าตัวแรกของเขา หรือภาษาทางเทคนิคเรียกว่า ‘ลีช’ (Leash) ทำไปเพื่อปกปิดข้อมูลของจังเกิลแลกกับความเร็วในการเคลียร์ของตาต้าร์ แต่หารู้ไม่ว่าทางทีมแดชชิ่งไวท์อาวล์ได้ปักวาร์ดไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

“ถ้างั้นเราก็ต้องเข้าเลนตามมัน.. ไม่งั้นเราตามเลเวลช่วงแรกแน่ๆ” ลีโอเป็นกังวล
“แต่ป่าฝั่งล่างเราต้องใช้เวลานานนะ ถ้าเดินไปเดินมาเคลียร์บลูบัฟของเราที่อยู่ข้างบนด้วยเดี๋ยววินจะมาแกงค์ล่างให้เราไม่ทัน” ทีกล่าว
“ถ้างั้นเราก็ต้องเล่นเซฟๆ รอแกสบี้มาแกงค์ได้”
“แต่อีกฝ่ายอาจจะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นแล้ววินจะเล่นเลนล่างลำบาก” ทีกล่าวต่อ
“ถ้างั้นก็ให้พี่บิลทำเหมือนว่าลีชที่บลูบัฟแต่จริงๆแล้วเราสามคนกำลังตีเรดบัฟอยู่ ทีนี้เราก็จะเข้าเลนช้าทั้งสองเลนแล้วรอดักเคาน์เตอร์แกงค์ที่เลนล่างเอา” วินเสนอไอเดีย
“เออ ดีๆๆ” ทีเห็นด้วยอย่างยิ่ง
“ได้!” บิลบังคับ ‘เน็นเซ็น’ (Nenzen) ฮีโร่นินจาสายฟ้าปาชูริเค็นเลี้ยวให้มายืนรออยู่ที่บลูบัฟของฝั่งสีฟ้าที่ประจำอยู่ที่ป่าฝั่งบนทันที

หลังจากนั้นแผนการของทางทีมแดชชิ่งไวท์อาวล์ก็ดำเนินไปได้ตามปกติโดยที่ทั้งสองเลนของฝั่งทีมสีฟ้าได้เข้าเลนช้ากันทั้งคู่ สร้างความสับสนให้กับทีมฝ่ายตรงข้ามเป็นอย่างมาก แต่นั่นก็เป็นผลที่ทำให้ทั้งเลนบนและเลนล่างนั้นถูกมินเนี่ยนฝ่ายตรงข้ามดันและเลเวลที่ตามกว่าคู่ต่อสู้ในเลน

“เราขึ้นเลเวลสองก่อนเขาแล้ว”
“จะเอาเลยไหมล่ะ ผมพร้อมช่วยพี่เสมอ”
“อย่าเพิ่ง ตอนนี้ใกล้ป้อมไป รอมินเนี่ยนเวฟต่อไปอาจได้ลุ้น”

ในระหว่างนั้นเองวินก็กำลังเคลียร์โกเล็มที่อยู่ใกล้กับเลนล่างของทีมสีฟ้ามากที่สุดอยู่ ส่วนลีโอและทีก็กำลังพยายามลาสฮิตมินเนี่ยนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อทำให้เลเวลไม่ตามฝ่ายตรงข้ามจนเกินไปแม้จะโดนดันอย่างหนักตั้งแต่เริ่มเกม

“มันเริ่มเลิกดันมินเนี่ยนแล้ว” ลีโอสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ
“แสดงว่าหลิวหว่องน่าจะกำลังเดินเข้ามาในพุ่มหรือไม่ก็กำลังเดินมา ถ้างั้นเราก็ต้องรีบดันให้วินเข้ามาได้บ้าง” ทีกล่าวพร้อมช่วยดันมินเนี่ยนกลับไปกับลีโอ จนพวกเขาขึ้นเลเวลสองตามมาเช่นเดียวกัน จนทำให้มินเนี่ยนกลับไปอยู่กลางเลน
“ผมเดินไปเข้าพุ่มมันก็น่าจะเห็นนะ” วินตอนนี้ขึ้นเลเวลสามแล้วยืนรออยู่หลังป้อมที่เลนล่าง เพราะถ้าเดินไปไกลกว่านี้จะเข้าระยะการมองเห็นของมินเนี่ยนฝ่ายสีแดง แล้วแผนทุกอย่างจะล้มเหลว
“ไม่เป็นไร ผมอัพ Q กับ W มาก่อน น่าจะยื้อเวลาให้คุณเดินมาได้ทันพอดี” ลีโอกล่าว

หลังจากที่ได้ดันมินเนี่ยนไปอีกชั่วครู่หนึ่ง..

“พร้อมนะ” ลีโอถาม
“พร้อม” ทีและวินตอบพร้อมกัน
“ถ้างั้นเดินออกไปล่อละ”

มีโอน่าเดินขึ้นหน้าเกินกว่าที่ควรจะทำจนอยู่ในระยะตีใกล้ของมินเนี่ยนฝั่งสีแดง แน่นอนว่าทางฝั่งผู้เล่นทีมสีแดงย่อมไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดมือ

“จังหวะนี้แหละเคอเรจ!” นิมตะโกนสั่งการ
“ได้เลยครับพี่!” เคอเรจกดใช้สกิล E ‘Menacing Roots’ ปล่อยเถาวัลย์พุ่งตรงไปหามีโอน่าทันที ในขณะเดียวกันก็ใช้สกิล W อย่าง ‘Evil Buds’ ปลูกดอกไม้ลงไปบนพื้นที่เถาวัลย์พุ่งไปหา ทำให้ดอกไม้ตูมนั้นบานขึ้นมาแล้วยิงใส่เป้าหมายที่ใกล้ที่สุดนั่นก็คือมีโอน่าทันที

“เสียใจด้วยเพราะกูรู้อยู่แล้วว่าจะต้องใช้สกิลนั้น!” ลีโอใช้บลิงก์พุ่งเข้าไปหาไบร่าแล้วกดใช้สกิล Q ‘Sunbash’ ใส่เธอทันทีเพื่อสร้างสถานะสตั๊นทำให้สามารถหลบสกิลต้นไม้ที่จะเข้ามารัดตัวได้ แล้วหลังจากที่เขาโดนมาร์คโดยสกิลของหลิว หว่องเขาก็กดสกิล W ‘Sunlight’ ทันทีเพื่อลดดาเมจลง ซึ่งยื้อเวลาให้วินนำฟาร์วานพุ่งเข้ามาหาไบร่าออกมาจากพุ่มได้ทันท่วงที

และหลังจากนี้ก็เป็นไปตามอย่างที่เรารู้กัน

“ให้มันรู้เสียบ้างว่ามันกำลังเล่นกับใครอยู่” วินกล่าว
CosmicTerror
CosmicTerror
Admin
Posts : 53
Join date : 2018-08-20
Age : 25
https://dwocity.forumotion.com

Our Road Our Chance Empty Re: Our Road Our Chance

Fri Dec 06, 2019 11:56 am
ตอนที่ 2

หลังจากที่ทางฝั่งทีมแดชชิ่งไวท์อาวล์สามารถเก็บคิลแรกของเกมไปได้แล้ว รอยแตกร้าวของการเล่นจากฝั่งทีมไนฟโนเวลก็ค่อยๆ เริ่มแสดงออกมา จนทำให้เกมการแข่งขันครั้งนี้เข้าสู่รูปแบบการต่อสู้อย่างเต็มสูบ

“ผมมาแล้ว! เข้าเลยๆ!” เสียงของตาต้าร์ดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของฮีโร่ที่เปลือยท่อนบน หลิว หว่อง พระตาบอด พุ่งเข้ามาหาคริสลาน่าที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากบริเวณแม่น้ำเหนือเลนล่าง ซึ่งตอนนี้เขามีเลเวลอยู่ที่ 5 ส่วนทุกๆ คนที่อยู่ในเลนล่างมีเลเวลอยู่ที่ 4
“มันไม่คิดหรอกว่าต้าจะมาอีกรอบก่อนเลเวล 6” นิมกล่าวพร้อมใช้เซทธินยิงใส่คริสลาน่าที่อยู่ติดกับหลิวหว่อง
“ผมใช้ W นะ” เคอเรจหรือต้นเสริม

แต่ในขณะนั้นเองก็มีอัศวินในชุดเกราะสีทองกระโจนพุ่งออกมาจากพุ่มไม้ในเลนล่างที่ใกล้กับฝั่งสีฟ้าออกมาทำให้หลิวหว่อง ลอยขึ้นอยู่บนอากาศ

“ฟาร์นานอีกแล้วเหรอ! ทำไมมันอยู่ทุกที่ที่กูไปเลยวะ!” ตาต้าร์ตะโกนด้วยความไม่สบอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง
“บ้าน่า.. มันคาดเดาการเดินของป่าฝั่งเราได้ขนาดนี้เลยเหรอ!” นิมไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง

“ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น!” ลีโอตะโกนพร้อมใช้สกิล E ของมีโอน่าพุ่งเข้าไปหาหลิวหว่อง ก่อนจะตามด้วยสกิล Q เพื่อสตั๊นไม่ให้หลิวหว่องได้เดินไปไหน
“ฆ่ามันๆ” ทีเดินตามมาวางระเบิดใส่ด้วยสกิล E ‘Sticky Bomb’ แล้ว W กระโจนเข้ามาหาหลิวหว่องเพื่อทำดาเมจให้เร็วที่สุด ก่อนที่หลิวหว่องจะได้ขยับไปไหน
“อีซี่ว่ะ อีซี่คิล สงสัยจะอีซี่เกมด้วย” วินกล่าวขึ้นหลัวร่างไร้วิญญาณของหลิวหว่องร่วงลงไปกองอยู่บนพื้นตามด้วยเสียงประกาศในเกมเพื่อส่งสัญญาณให้เพื่อนร่วมทีมคนอื่นทราบว่าวินสามารถเก็บคิลจากศัตรูได้

“เลนล่างได้คิลกันอีกแล้วเหรอ” บิลถามในขณะที่เขากำลังต่อสู้อยู่กับทอปเลนของฝ่ายตรงข้ามที่มีชื่อไอดีว่า ‘ไบรอัน’ (Bryan) ซึ่งฮีโร่ที่ไบรอันคุมนั้นมีชื่อว่า ‘ราเดียส’ (Radius) ฮีโร่ผู้บัญชาการของทหารจากอเมริกาที่ใช้ขวานเป็นอาวุธ
“ก็ในเมื่อจังเกิลฝ่ายตรงข้ามอยากจะเล่นที่เลนล่างนักล่ะก็ เราก็กระทืบมันซะ” วินกล่าว
“เลนกลางขึ้นเลเวล 6 กันแล้วนะ ระวังด้วยเพราะลนิเฟีย (Lanifia) ฝ่ายตรงข้ามเอาฮีโร่อาร์ตเป็น ‘วาร์ป’ มา” แม็คเสริมหลังจากที่เขาเพิ่งแลกเลือดในการต่อสู้ที่เลนกลางกับมิดเลนฝ่ายตรงข้าม ‘เอดิเตอร์’ (Editor)

“นี่ ถ้ามันเล่นเลนล่างไม่ได้ก็เปลี่ยนมาเล่นเลนฉันบ้างก็ได้นะยะ ฉันก็ขึ้นเลเวล 6 แล้วนะ” เอดิเตอร์หรือผู้หญิงที่มีนามว่า นู ผู้หญิงขี้จับผิดกล่าวขึ้นหลังจากที่เห็นว่าเลนล่างของทีมไนฟโนเวลเสียสองคิลให้กับฝ่ายตรงข้ามไปแล้ว
“ได้เลยครับเจ๊ เดี๋ยวผมเกิดแล้วเอาบลูบัฟ แล้วไปเอาเลนกลางกันต่อเลย” ตาต้าร์ตอบกลับทันที เหมือนในทีมนี้จะมีระดับชนชั้นอย่างชัดเจน
“อย่าโชว์กากดิ” ชื่อไอดีไบรอันหรือนามว่า ‘เคน’ ผู้ชายขี้โมโหและขี้หาเรื่องกล่าวตาม
“อย่าให้กูเห็นมึงตายนะไอ้เคน” นิมตอกกลับ

“ผมมาแล้วครับเจ๊ มาเอาบลูบัฟเลย” ตาต้าร์กำลังต่อสู้กับโกเลมบลูบัฟโดยยื้อไว้ไม่ให้ตาย รอเวลาให้ลนีเฟียของเอดิเตอร์มาลาสฮิตเพื่อจะได้ครองบลูบัฟไป ซึ่งจะทำให้เธอใช้สกิลได้บ่อยขึ้น
“มาแล้วๆ ขอบใจมาก” นูตอบกลับก่อนจะโยนสกิลน้ำแข็ง E ‘Frostbite’ เข้าไปหาโกเลมบลูบัฟ แต่ในจังหวะนั้นเอง..

“ลนิเฟียไม่มีไข่แล้ว เข้าไปเลย!” แม็คกล่าว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ในช่วงที่แม็คต้องต่อสู้กับจูอยู่ตามลำพังที่เลนกลางนั้น เขาสามารถทำให้ลนิเฟียมีพลังชีวิตเหลือศูนย์ ทำให้สกิลพาสซีฟของมันทำงาน ‘Rebirth’ ทำให้ช่วงระยะเวลาหนึ่งหากไข่ของลนิเฟียไม่ถูกทำลาย เธอจะกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง เนื่องจากสกิลนี้มีคูลดาวน์ที่นานทำให้ไข่ของลนิเฟียยังไม่พร้อมสำหรับการจู่โจมฉับพลันครั้งนี้
“ผมเข้าแล้ว!” วินตะโกนขึ้นพร้อมๆกับนำฟาร์นาน อัศวินชุดเกราะทองคำกระโจนพุ่งเข้าไปหาธงชาติอังกฤษของตนเองที่อยู่ใกล้ๆกับนกน้ำแข็งลฟีเนีย ทำให้สัตว์ปีกสีฟ้าตัวนนี้ลอยขึ้นอยู่กลางอากาศ
“เข้าแบบนี้ ก็ต้องรวบแล้ว!” แม็คใช้สกิลอัลติเมทของโซเฟียน่า ‘Order: Pullwave’ ทำให้ลฟิเนียที่ล่องลอยอยู่กลางอากาศนั้นโดนดึงลงมาแล้วติดสถานะสตั๊นต่อทันที ประกอบกับการโจมตีของฟาร์นาน หลอดเลือดก็ลดลงอย่างรวดเร็วจนกระทั่งเหลือศูนย์

“หลิวหว่องอยู่อีกฝั่งของบลูบัฟ จะเอาต่อไหม” วินถาม
“มันเอาไม่ได้แล้ว สกิลเราหมดแล้ว เดี๋ยวก็โดนเตะอัดหน้าหรอก” แม็คตอบกลับ
“เลนอื่นเขาสนุกสนานกันจังเลยนะ มีแต่เลนกูที่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย!” บิลกล่าวในขณะที่เขากำลังเผชิญหน้าอยู่กับราเดียส
“พี่บิลไม่ตายก็ดีแล้ว ปั่นขวานทีหน้าแหก” วินตอบ

“อ่าว พูดงี้ดูถูกกูเหรอไอ้เด็กฟักทอง”
“เปล่า มันสู้เลนยากอยู่แล้ว ไม่ได้ว่าพี่แก๊กนะ” แกสบี้พยายามแก้ตัว
“งั้นก็มาช่วยแกงค์เลนกูสิ!”
“เดี๋ยวขอเอามังกรก่อนละกันนะ แต่ผมไม่การันตีนะว่าผมไปคนเดียวจะเอาราเดียสมันลงได้”
“งั้นเดี๋ยวไปช่วยแกงค์เลนบนด้วย” ลีโอจึงกล่าวเสริมในขณะที่เขาพามีโอน่าไปยืนร่วมต่อสู้กับมังกรธาตุน้ำที่ปรากฏกายอยู่ที่บ่อมังกรบริเวณแม้น้ำเลนล่างพร้อมกับฟาร์นานของวิน โซเฟียน่าของแม็ค และคริสลาน่าของที

“เลนล่างขึ้นไปบนแม่น้ำ.. มันน่าจะเอาไปมังกรแหละ” นิมกล่าวหลังจากที่เห็น
“แล้วเราไม่ไปสู้กับมันเหรอ” เคอเรจถามคนอื่นๆ
“ถ้าเรายังมีลนิเฟียอยู่เราอาจจะสู้ได้ แต่ตอนนี้มันจะสู้ลำบากเพราะเขามีสี่คนแต่เรามีแค่สาม เพราะไอ้เคนก็ยังไม่มีวาร์ปด้วยใช่ไหม”
“อีกสองนาทีนู่นถึงจะกลับมาใช้ได้”
“อืม ถ้างั้นปล่อยมังกรตัวแรกไปเถอะ”

“จะดีเหรอพี่ นั่นมังกรดินเลยนะ! มังกรดินเลยนะ!” เคอเรจยังไม่อยากที่จะเสียมังกรธาตุดินตัวนี้ไป ซึ่งจะมอบค่าเกราะและค่าต้านทานเวทมนตร์ให้กับทีมที่ได้ครอบครองไป
“ไอ้ต้น! อยากจะเสียแค่คืบหรืออยากจะเสียถึงศอกด้วยล่ะ” นิมถามกลับด้วยสุภาษิตดัดแปลงเอง
“ขะ เข้าใจแล้วครับ” เสียงของต้นหรือเคอเรจหงอยลง

หลังจากที่ทางฝั่งทีมแดชชิ่งไวท์อาวล์คว้ามังกรตัวแรกของเกมได้สำเร็จ ทางทีมนกฮูกขาวจึงได้รีเซ็ตและกลับบ้านไปจับจ่ายใช้สอยเงินที่ได้มาในเกมเพื่อซื้อไอเทมต่อไป แล้วจึงกลับเข้าเลนของตนเหมือนเช่นเคย ยกเว้นเสียแต่ลีโอที่พามีโอน่าและวินที่นำฟาร์นานไปรอดักราเดียสที่เลนบนตามคำขอของบิล

“เดี๋ยวกูล่อซื้อมันเอง” บิลกล่าวก่อนจะเดินไประยะที่ใกล้กับราเดียสมากขึ้น ซึ่งราเดียสมีสกิล E ที่ชื่อว่า ‘Apprehend’ ทำให้เขาสามารถใช้ขวานลากศัตรูในระยะเข้ามาประชิดตัวของเขาได้ ซึ่งนั่นคือสิ่งที่บิลกำลังทำอยู่

แน่นอนว่าทางเคนที่คุมราเดียสอยู่ก็ไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดลอยไป ถึงแม้ราเดียสจะมีดาเมจที่รุนแรง แต่เนื่องจากเน็นเซ็นเป็นฮีโร่ระยะไกล ทำให้เขาไม่ค่อยได้มีโอกาสทำดาเมจใส่เท่าไรนัก พอเห็นจังหวะเช่นนี้เขาก็ย่อมต้องเข้าหาเป็นธรรมดา

ประกอบกับอีกหนึ่งเหตุผลที่ว่า

หลิวหว่องได้ยืนรออยู่ในพุ่มของเลนบนแล้ว

“จังหวะนี้แหละ!” เคนตะโกนขึ้นพร้อมใช้สกิล E สามารถดึงเน็นเซ็นของบิลเข้ามาได้อย่างไม่มีปัญหา แล้วทันทีทันใด หลิวหว่องก็กระโจนเข้ามาหาราเดียสด้วยสกิล W ‘Protect’ ทำให้เข้ามาอยู่ในระยะการโจมตีได้ทันที แล้วตามด้วยสกิล Q เพื่อมาร์คเน็นเซ็นเอาไว้
“ชิบหายแล้ว!” บิลจึงใช้สกิลอัลติเมทของเน็นเซ็น ‘Thunderstorm’ สร้างพายุสายฟ้ารอบๆ ตัวของเน็นเซ็นแน่นอนว่าทั้งหลิวหว่องและราเดียสอยู่ในระยะอย่างไร้ข้อโต้แย้ง
“ผมอ้อมหลังมากับแกสบี้แล้ว” ลีโอกล่าวขึ้นพร้อมใช้สกิลคอมโบของมีโอน่าสุดคลาสสิก E W เพื่อพุ่งเข้ามาหาราเดียสพร้อมโล่ทำให้ถึกยิ่งขึ้น และใช้สกิล Q ‘Sunbash’ กับหลิวหว่อง แต่ก็ช้าไปนิดหน่อย

เพราะว่าตัวของเน็นเซ็นนั้นได้ลอยกลับเข้าไปในป้อมปราการฝั่งสีฟ้าแล้วจากสกิลอัลติเมทของหลิวหว่อง ‘Rage Kick’ ลูกเตะของพระตาบอด สร้างความเสียหายอย่างรุนแรง แต่โชคดีที่ลีโอเข้ามาสตั๊นตาต้าร์ได้ทัน เพราะผลของสกิล Q ‘Speed Vibrate’ ที่มาร์คตัวเน็นเซ็นเอาไว้ ทำให้หลิวหว่องสามารถพุ่งเข้าไปหาตัวที่มาร์คได้อีกครั้งในระยะเวลาสั้นๆ แต่ลีโอเข้ามาสตั๊นก่อนที่หลิวหว่องจะพุ่งเข้าไปหาเพื่อปิดบัญชีเน็นเซ็น

ในขณะเดียวกันฟาร์นานของแกสบี้หรือวินก็พุ่งเข้ามาตามมาด้วยเช่นเดียวกันด้วยคอมโบที่เราเห็นกันจนเบื่อที่เลนล่างแล้วอย่าง E > Q ทำให้ราเดียสนั้นลอยขึ้นกลางอากาศไปชั่วขณะ ก่อนที่จะตามด้วยสกิลอัลติเมท ‘Earthshaker’ สร้างดาเมจรุนแรงให้กับทั้งหลิวหว่อง และราเดียส พร้อมทำให้พื้นดินผุดขึ้นมาเป็นกำแพงขังทั้งสองตนไว้

เนื่องจากหลิวหว่องอยู่ในระยะการโจมตีของป้อมปราการและได้ทำดาเมจใส่ฮีโร่ของทีมสีฟ้า ป้อมปราการจึงเล็งมิสไซล์มายังตัวของหลิวหว่อง ประกอบกับความเสียหายจากสกิลอัลติเมทของฟาร์นานและผลพวงจากมีโอน่า ทำให้เขาเสียชีวิตลงอย่างรวดเร็ว

“อะไรกันอีกวะ! ฟาร์นานแม่งอยู่ทุกที่ที่กูอยู่เลย!” ตาต้าร์บ่นด้วยความโมโหอีกครั้ง
“ไม่เป็นไร ผมจัดการเองต่อได้” เคนกล่าวก่อนที่จะใช้ฮีโร่อาร์ต บลิงก์ หลุดจากกรงพื้นดินของฟาร์นานอย่างง่ายดาย ทำให้ลดระยะห่างจากเน็นเซ็นที่อยู่ในป้อมและใช้สกิลอัลติเมทของตน ‘Freedom Guillotine’ กระโดดจามขวานใส่ฮีโร่ปาชูริเค็นจนแตกสลายเป็นผุยผง

“แตก! กูเนี่ยแตก!” บิลตะโกนออกมา
“ชิบหายแล้วทีนี้” ลีโอกล่าวตามมาเพราะเขาไม่เหลือสกิลอะไรแล้ว ซึ่งก็เป็นไปอย่างที่เขาคิดราเดียสตามมาใช้คอมโบสกิล Q W สร้างดาเมจให้กับเขาก่อนที่จะใช้สกิลอัลติเมทอีกครั้ง ซึ่งสกิลอัลติเมทของดาเรียสจะรีเซ็ตตัวเองหากสามารถใช้ฆ่าศัตรูได้ ทำให้มีโอน่ากลายเป็นศพที่สองของกิโยตินครั้งนี้

“ดับเบิลคิล!” เสียงประกาศดังไปทั่วสนาม
“แต่ไม่เป็นไร มันก็น่าจะโดนป้อมยิงจนตาย” ลีโอกล่าวขึ้นถึงแม้ฮีโร่ของเขาจะถูกฆ่าไปในการต่อสู้ที่เลนบนครั้งนี้ และไม่นานมิสไซล์นัดสุดท้ายก็ยิงเข้าใส่ตัวของราเดียส ทำให้พลังชีวิตหมดไป ส่วนเครดิตการฆ่าตกไปอยู่ที่วิน ฟาร์นานเนื่องจากเป็นคนทำความเสียหายคนสุดท้าย
“เดี๋ยวผมไปเอาอารีน่าสปิริตต่อนะ” วินรีบเคลียร์ฝูงมินเนี่ยนที่อยู่ตรงหน้าเขาที่เลนบนก่อนจะนำฟาร์นานเดินไปที่บริเวณแม่น้ำ ซึ่งมีบ่อเกิดของอารีน่าสปิริตรอให้ฮีโร่มาต่อสู้ด้วย ซึ่งทีมที่สามารถฆ่ามันได้จะสามารถนำวิญญาณดวงนี้มาใช้ในการต่อสู้กับป้อมปราการได้ต่อไป
“เอาเลย เลนกลางดันอยู่” แม็คกล่าวในขณะที่โซเฟียน่าก็กำลังทำความเสียหายให้กับป้อมปราการที่เลนกลางของฝ่ายตรงข้าม ในขณะที่นกน้ำแข้งลนิเฟียคุมโดยเอดิเตอร์เพิ่งมาถึงหลังจากที่กลับมาเกิดใหม่

ในโอกาสนี้จึงเป็นโอกาสที่เหมาะสมอีกครั้งสำหรับทีมแดชชิ่งไวท์อาวล์ที่จะเก็บ Objective สำคัญของเกมเพื่อช่วยให้เดินเกมต่อไปด้วยความได้เปรียบอีกครั้ง เพราะพลังชีวิตของฟาร์นานก็ยังเกือบเต็มเนื่องจากแทบจะไม่โดนความเสียหายใดๆ เลยจากการต่อสู้เมื่อสักครู่นี้ อีกทั้งมินเนี่ยนเลนบนและเลนกลางก็ดันติดอยู่กับป้อมของฝ่ายตรงข้าม และไม่มีใครที่จะมาต่อกรหรือแย่งชิงอารีน่าสปิริตได้เพราะทั้งทอปเลนและจังเกิลของฝ่ายตรงข้ามกำลังรอเวลาเกิดใหม่อยู่ ส่วนทั้งมิดเลนและบอทเลนของฝ่ายตรงข้ามก็ยังอยู่ที่เดิม

ทำให้วินสามารถเก็บอารีน่าสปิริตด้วยตัวคนเดียวได้อย่างสบายๆ

วึนจึงมาปล่อยอารีน่าสปิริตที่เลนบนพร้อมกับเน็นเซ็นของบิลเพื่อนำเงินที่ได้จากการทุบเพลตโล่ของป้อมปราการฝ่ายตรงข้ามมาให้บิล เพื่อให้ต่อสู้กับราเดียสที่มีสองคิลได้ง่ายขึ้นและสามารถตามทันได้โดยไม่ตายในการเบิร์สสกิลใส่ทีเดียวของราเดียส

และหลังจากนั้นช่วงต่อมาของเกมนี้การต่อสู้ก็ค่อยๆ ลดลง เนื่องจากทางฝั่งทีมไนฟโนเวลค่อยๆ เริ่มเล่นอย่างปลอดภัยมากขึ้นหลังจากที่แผนการให้ตาต้าร์ยอดจังเกิลประจำทีมไปป่วนแต่ละเลนนั้นกลับโดนโต้กลับโดยวินที่ไปปรากฏทุกที่

เหตุที่เกิดปรากฏการณ์เช่นนั้นได้ไม่ใช่ว่าวินเป็นหมอดูพยากรณ์ปูโลกเบี้ยวหรืออะไรก็ตาม

เพียงแต่เป็นผลมาจากการปักวาร์ดในเขตป่าของฝ่ายตรงข้าม (จริงๆมันอ่านว่าวอร์ดแต่คนไทยมันก็เรียกวาร์ดไปหมดแล้วรวมถึงกูด้วยเพราะฉะนั้นช่างมัน)

ด้วยการปักวาร์ดที่ลึก ทำให้ทีมแดชชิ่งไวท์อาวล์สามารถมองเห็นตัวตนของตาต้าร์ในป่าบางบริเวณได้ และทำให้พวกเขาได้รับข้อมูลถึงตำแหน่งของตาต้าร์ และคาดเดาต่อไปได้ว่าเขาจะไปอยู่ที่ไหนต่อ

อย่างเมื่อตอนที่วินกับแม็คเก็บคิลจากลนิเฟียไปได้ก็เป็นเพราะว่าวาร์ดที่ปักอยู่บริเวณบลูบัฟของป่าฝั่งสีแดงทำให้พวกเขาทั้งสองคนเห็นว่าทางหลิวหว่องกำลังต่อสู้กับบลูบัฟและรอให้ลนิเฟียมารับพลังงานนี้ไป ทำให้พวกเขารีบถ่อไปสร้างความกดดันทันที

จนกระทั่งถึงนาทีที่ 12 ของเกม มังกรตัวที่สอง มังกรธาตุน้ำก็ตกเป็นของทีมแดชชิ่งไวท์อาวล์ ทำให้นอกจากค่าเกราะและค่าต้านทานเวทที่เพื่อเขาได้รับเพิ่มมาแล้ว พวกเขายังได้รับอัตราการฟื้นฟูพลังชีวิตเพิ่มขึ้นอีกด้วย

หลังจากนั้นมังกรตัวที่สามจึงปรากฏออกมาเป็นมังกรเพลิง ซึ่งทำให้สนามแห่งการตัดสินแปรเปลี่ยนสภาพไปตามธาตุของมังกรตัวที่สาม ทำให้พุ่มบางพุ่มและกำแพงบางทางถูกทำลายลง ทำให้มีช่องทางในการเดินมากยิ่งขึ้น และหลังจากนี้มังกรธาตุที่จะปรากฏมีเพียงแค่มังกรเพลิงเท่านั้น

เกมจึงดำเนินต่อไปด้วยความได้เปรียบของทีมแดชชิ่งไวท์อาวล์ ที่ดำเนินเกมตามแบบฉบับเกมซอมอย่างที่ทุกคนรู้กัน คือการเวียนกันดันเลนเพื่อทำลายป้อมปราการของฝ่ายตรงข้ามในเลนที่ยังไม่ถูกทำลาย โดยเริ่มจากเลนกลางแล้วตามด้วยเลนล่าง เพื่อเป็นการคุมพื้นที่บริเวณมังกรอีกด้วย

แน่นอนว่าทางทีมไนฟโนเวลไม่ยอมโดนเดินเกมอยู่เฉยๆ พวกเขาจึงพยายามหาจังหวะในการโต้กลับในขณะที่ทางทีมแดชชิ่งไวท์อาวล์กำลังพากันมาดันป้อมที่บริเวณเลนล่าง ในระยะเวลาที่เหลือเพียงแค่อีก 30 วินาทีมังกรตัวที่สามก็กำลังจะกลับมาเกิดให้ทั้งสองทีมต้องแย่งชิงกัน

“ผมวาร์ปมาข้างหลังตรงพุ่มสามแยกแล้วนะ มันเห็นไหม” เคนกล่าวขึ้นหลังใช้ฮีโร่อาร์ต ‘วาร์ป’ มาบนวาร์ดของทางฝั่งทีมสีแดงเพื่ออ้อมหลังสมาชิกของทีมสีฟ้าที่กำลังอยู่ติดกับป้อมปราการฝั่งสีแดงของเลนล่าง
“มันยังไม่ถอยนะ” เคอเรจตอบ
“ถ้างั้นก็เข้าๆๆ!” นิมออกคำสั่ง
“จัดไปครับนิม!” ตาต้าร์ตะโกนตาม
CosmicTerror
CosmicTerror
Admin
Posts : 53
Join date : 2018-08-20
Age : 25
https://dwocity.forumotion.com

Our Road Our Chance Empty Re: Our Road Our Chance

Fri Dec 06, 2019 11:56 am
ตอนที่ 2 (ต่อ)

ตาต้าร์ใช้สกิล Q ของหลิวหว่องเพื่อมาร์คตัวฮีโร่ของศัตรู ซึ่งฮีโร่ผู้เคราะห์ร้ายของทางฝั่งแดชชิ่งไวท์อาวล์คือฟาร์นาน แล้วจึงพุ่งเข้าไปหาทันที แต่สิ่งที่เขาทำก็ไม่ใช่เข้าไปทำดาเมจใส่ฟาร์นานตามปกติ แต่กลับบลิงก์เข้าไปหาข้างหลังของคริสลาน่าแล้วใช้สกิลอัลติเมท ‘Rage Kick’ เตะหนูน้อยถือปืนระเบิดกระเด็นกลับเข้าไปทางฝั่งป้อมปราการสีแดง แล้วจากนั้นก็โดนสกิล E ของไบร่า ‘Menacing Roots’ จับรั้งตัวหนูน้อยตัวนี้เอาไว้ ตามด้วยสกิล W ‘Caketrap’ ของเซทธิน ทำให้คริสลาน่าไม่อาจขยับไปไหนได้เลย แล้วโดนความเสียหายอยู่อย่างต่อเนื่อง

แต่ในขณะเดียวกัน วินที่คุมฟาร์นานอยู่เห็นดังนั้นแล้ว จึงตัดสินใจใช้สกิลคอมโบสุดคลาสสิก E แล้ว Q พุ่งเข้าไปหาทั้งไบร่าและเซทธินที่กำลังเข้ามาทำดาเมจเพื่อให้ทั้งสองตัวนั้นลอยขึันบนกลางอากาศ เป็นจังหวะเดียวกับที่บิลใช้วาร์ปเพื่อวาร์ปมาที่มินเนี่ยนใกล้ๆกับฟาร์นาน

“กูกำลังวาร์ปไป วินมึงยื้อไว้ก่อน” บิลกล่าวขึ้น
“ผมจะพยายาม!” วินเดินถอยออกมาหาเพื่อนๆ ที่อยู่ไม่ห่างนักเพราะเนื่องจากเซทธินสามารถหลบหลีกออกข้างได้ทัน เป็นปฏิกิริยาที่ถือว่ารวดเร็วพอสมควร และไบร่าอยู่สุดระยะพอดี ทำให้สกิลการเข้าของวินไม่โดนใครเลย
“เข้าไปช่วยอยู่ ตอนนี้ไม่ต้องไปสนใจราเดียส เข้าไปหามันให้หมด! ” ลีโอตะโกนพร้อมใช้สกิลการเข้าวงการต่อสู้ของตนเอง E ‘Sunblade’ จับตัวเซทธินแล้วพุ่งเข้าไปหาได้แล้วตามด้วย Q เพื่อสตั๊นทันที ในจังหวะนั้นเองลนิเฟียได้ใช้อัลติเมทของตนเอง ‘Glacial Storm’ และสกิลอัลติเมทของไบร่า ‘Strugglethorns’ ก็ทำงานพร้อมกันสร้างความเสียหายให้ฟาร์นาน มีโอน่าและคริสลาน่าเป็นอย่างมากและทำให้ทั้งติดสถานะสโลว์และลอยขึ้นกลางอากาศ ส่วนราเดียสของเคนกำลังเดินมาจากพุ่มบริเวณแม่น้ำทางฝั่งของเลนล่าง ซึ่งคนที่ใกล้ที่สุดในตอนนี้คือโซเฟียน่าของแม็คที่อยู่บริเวณขื่อกำแพงที่ยื่นออกมาตรงแม่น้ำใกล้กับฝั่งของป้อมปราการสีแดง

“จังหวะนี้แหละ!” แม็คกับลีโอกดลงไปที่ปุ่ม R พร้อมเพรียงกันนำอัลติเมทของทั้งสองมาบังเกิด อัลติเมทของมีโอน่า ‘Sunflare’ ทำให้เรียกแสงอาทิตย์ลงมาสาดส่องที่ตัวเซทธินจนสตั๊นไม่อาจขยับไปไหนได้ต่อ ส่วนอัลติเมทของแม็ค ‘Order: Pullwave’ รวบฮีโร่ศัตรูทั้งสองที่อยู่ในระยะหรือก็คือเซทธินกับไบร่าเข้ามาหาตัวของมีโอน่าที่มีบอลจักรกลติดอยู่สร้างดาเมจอีกเป็นจำนวนมาก

ในขณะเดียวกันหลิวหว่องของตาต้าร์ก็กำลังทำความเสียหายให้คริสลาน่าของทีที่เพิ่งจะมีโอกาสได้ขยับตัวเสียทีแต่พลังชีวิตของเขาเหลือแค่ 150 หน่วย สิ่งสุดท้ายที่เขาตัดสินใจทำก่อนจะสูญเสียชีวิตไปก็คือ

“ผมอัลติใส่ราเดียสแล้ว” ทีกล่าวก่อนที่หน้าจอของเขาจะเป็นสีเทาด้วยน้ำมือของหลิวหว่องและต้นไม้ของไบร่า

สกิลอัลติเมทของคริสลาน่า ‘Erupted Shot’ สร้างความเสียหายให้กับฮีโร่ที่โดนและที่สำคัญคือศัตรูจะถูกผลักถอยหลังไประยะหนึ่ง หมายความว่าราเดียสที่ตอนนี้อุตส่าห์ใช้บลิงก์ของตนเพื่อย่นระยะเข้ามาหาโซเฟียน่าแล้วจะใช้สกิล E ‘Apprehend’ เพื่อดึงเข้ามาหาตัวเองเพราะตอนนี้เขาสูญเสียเวลาไปมากแล้วเพื่อจะเดินอ้อมหลังเข้ามาหา ถึงแม้ว่าตาต้าร์อาจจะเปิดไฟท์เร็วไปนิดหน่อย แต่ปฏิกิริยาสวนกลับของแดชชิ่งไวท์อาวล์ถือว่ายอดเยี่ยมและเด็ดขาด ทำให้เคนเพิ่งจะเดินมาถึง แต่ความฝันนั้นก็พังทลายเพราะอัลติเมท ‘Erupted Shot’ ของทีที่ผลักเขากลับไปแทบจะเกือบที่เดิมอีกครั้ง

“ไอ้เหี้ย! กูเพิ่งจะมาถึง!” เคนตะโกนสบถออกมาเสียงดังฟังชัด
“ชิบหายแล้วพี่ เน็นเซ็นมาแล้ว!” เคอเรจที่บลิงก์หนีออกมาทันทีหลังจากโดนความเสียหายจาก ‘Order: Pullwave’ อัลติเมทจากแม็คไปกล่าวเตือนออกมา
“ยังไงกูก็หลบไม่ทันแล้ว เอดีแครี่ตายห่ากันทั้งคู่แหละไฟท์นี้” นิมกล่าวแบบตัดพ้อ

เน็นเซ็นของบิลเสร็จสิ้นการวาร์ปแล้วใช้สกิล E ‘Lightning Rush’ พร้อมกดอัลติเมท ‘Thunderstorm’ เข้าการต่อสู้อย่างรวดเร็วสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างซึ่งโดนถึงลนิเฟียที่อยู่ใกล้กับป้อมปราการและไบร่าที่บลิงก์หนีออกมาด้วยเช่นกัน และเป็นการปิดบัญชีเซทธินทำให้พลังชีวิตเหลือศูนย์ ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างเก็บคิลไปคนละหนึ่งคิล แต่สถานการณ์ตอนนี้เป็นทางฝั่งไวท์อาวล์ที่ได้เปรียบ เพราะพลังชีวิตของไบร่าใกล้หมดเต็มทน

หลังจากนั้นเพียงแค่เสี้ยววินาที ฟาร์นานของวินก็กระโจนเข้ามาหาไบร่าด้วยสกิลอัลติเมท ‘Earthshaker’ ครอบคลุมตัวของไบร่าด้วยกำแพงพื้นดิน และความเสียหายพื้นฐานของมันก็เพียงพอที่จะปิดบัญชีไบร่าได้แล้ว ถึงแม้จะมีสกิล W ของลนิเฟีย ‘Ice Wall’ ทำให้ทั้งฟาร์นานและเน็นเซ็นชะงักไปสักครู่และขวางทางเดิน แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร ทำให้สถานการณ์ตอนนี้อยู่ที่ 3 ต่อ 4

ราเดียสเองในที่สุดก็เข้ามาถึงระยะประชิดของโซเฟียน่าแล้วจัดการใช้สกิลเบิร์สคอมโบสร้างความเสียหายให้แม็คเป็นจำนวนมากประกอบกับหลิวหว่องที่พุ่งเข้ามาด้วยสกิล ‘Protect’ ก็ตามสกิลต่อด้วยสกิล E ‘Rupture’ สร้างความเสียหายยิ่งขึ้นไปอีก แต่ความเสียหายนั้นก็โดนป้องกันไปบางส่วนด้วยสกิลของโซเฟียน่า ‘Order: Shield’ และสุดท้ายก็บลิงก์หนีไปทางฝั่งป้อมปราการสีฟ้า

แต่จังหวะนั้นเอง ตาต้าร์ได้คาดการณ์เอาไว้แล้วเพราะทราบดีว่าแม็คยังมีฮีโร่อาร์ตสำหรับการบลิงก์หนี เขาจึงคาดการณ์ออกว่าแม็คจะต้องบลิงก์ออกไปทางนี้แน่ๆ ทำให้เขาใช้สกิล Q ‘Speed Vibrate’ ได้โดนตัวของโซเฟียน่าที่บลิงก์หนีไปทันที เป็นคิลที่สองของไฟท์นี้สำหรับทางฝั่งไนท์โนเวล ทำให้สถานการณ์กลับมาเป็น 3 ต่อ 3
แต่ทุกอย่างก็เป็นอันสายเสียไปแล้วสำหรับทีมไนฟโนเวล เนื่องจากเน็นเซ็นที่สกิลอัลติเมทยังคงทำงานอยู่ได้กลับเข้ามาหาราเดียสที่เหลืออยู่กับมีโอน่าและหลิวหว่อง ส่วนฟาร์นานกำลังพยายามโซนลนิเฟียให้ไม่ให้เข้าการต่อสู้ที่เหลือ จนเก็บคิลหลิวหว่องไปได้ จังหวะนั้นเองวินจึงนำฟาร์นานพุ่งกลับเข้ามาโดนใส่ราเดียสทำให้ลอยขึ้นบนกลางอากาศ และโดนสกิลของเน็นเซ็นจนติดสถานะสตั๊น ในขณะที่มีโอน่าของลีโอก็ใช้สกิลสตั๊นใส่ราเดียสต่อเช่นกัน แล้วใช้สกิล E และ W ของตนเพื่อพุ่งเข้าไปหาลนิเฟียที่พยายามจะกลับเข้ามาช่วยราเดียส กลายเป็นว่าลนิเฟียต้องโฟกัสกับมีโอน่าที่ค่อนข้างแข็งแกร่งด้วยสกิล W ‘Sunlight’ จนไม่อาจฆ่าได้โดยง่าย

ในขณะที่ราเดียสออกจากสถานะสตั๊นมา พลังชีวิตก็ใกล้เหลือศูนย์เต็มทนแต่ด้วยสกิล Q ‘Decimate’ ทำให้พลังชีวิตกลับขึ้นมาอีกบางส่วน และทำให้พลังชีวิตของเน็นเซ็นเป็นฝ่ายที่จะใกล้เหลือศูนย์แทน จังหวะนั้นเองเคนจึงตัดสินใช้สกิลอัลติเมท ‘Freedom Guillotine’ เพื่อสังหารทิ้งเสีย

“ไม่ได้แดกกูหรอกรอบนี้!” บิลกดใช้งานไอเทม ‘Golden Hourglass’ ทำให้ร่างของเน็นเซ็นแปรเปลี่ยนเป็นทองคำที่ไม่สามารถตกเป็นเป้าหมายของสกิลใดๆ ได้ รวมถึงไม่สามารถใช้สกิลใดๆ ได้เช่นเดียวกัน ทำให้ ‘Freedom Guillotine’ ของราเดียสนั้นชะงักแล้วกลับลงมายืนเฉยๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และโดนสกิลของฟาร์นาน ‘Dragon Strike’ แทงเข้ามาพร้อมโจมตี เน็นเซ็นที่กลับมาจากร่างทองคำก็ช่วยใช้สกิลจนสามารถพรากชีวิตของราเดียสลงไปได้

“สวย!” ลีโอตะโกนด้วยความพึงพอใจ
“เอามังกรต่อๆ” วินกล่าวขึ้นพร้อมพาฟาร์นานเดินไปที่บ่อมังกรพร้อมๆกับเน็นเซ็นและมีโอน่า
“ระวังลนิเฟียด้วย เลือดเหลือครึ่งหลอดมาเบิร์สใส่เราตายได้เหมือนกัน” ทีเตือนเอาไว้
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวผมโซนมันเอง ถ้ามันเข้ามาก็โดนคอมโบผมกับแกสบี้ใส่ตายได้เหมือนกัน” ลีโอตอบ

หลังจากนั้นถึงแม้ว่าลนิเฟียของเอดิเตอร์จะพยายามเข้ามาขัดขวางการต่อสู้กับมังกรของทีมแดชชิ่งไวท์อาวล์ก็จริง แต่ก็เป็นไปตามที่ลีโอได้บอกเอาไว้ คือถ้าหากลนิเฟียล้ำเส้นเข้ามา ก็ไม่มีทางที่นกน้ำแข็งตัวนี้จะมีชีวิตรอดกลับไปได้ ทำให้ได้แต่เพียงมองมังกรถูกพรากชีวิตไปแบบไม่อาจทำอะไรได้ทั้งสิ้น

จนสุดท้ายแล้วเกมการแข่งขันครั้งนี้ก็กลายเป็นการสโนวบอลของทีมฝั่งสีฟ้าที่ต่อมาด้วยการเงินที่นำไปถึง 3 พันโกลด์ในระยะเวลา 18 นาทีก็ทำให้การต่อสู้ครั้งๆ ต่อไปที่เหลือตกอยู่ในกำมือของนกฮูกขาวทั้งสิ้น อารีน่าสปิริตตนที่สองก็เป็นฝ่ายทีมสีฟ้าที่คว้าไปได้และปลดปล่อยออกมาทำลายป้อมปราการของศัตรูได้อีกหนึ่งป้อม

การต่อสู้ครั้งใหญ่ต่อมาที่เกิดขึ้นเมื่อนาทีที่ 21 โดยการเงินของทั้งสองทีมนั้นห่างกันอยู่ถึง 5 พันโกลด์ที่บริเวณป่าฝั่งบนของสนามใกล้กับบ่อของสัตว์ในตำนานอีกตัวหนึ่งนอกจากมังกรที่ปรากฏตัวในสนามแห่งการตัดสิน ‘อาร์กอน’ เป็นสัตว์ประหลาดที่รูปร่างคล้ายงูเลื้อยขนาดมโหฬารที่มีดวงตาถึง 12 ดวงและเขี้ยวฟันที่แหลมคมและใหญ่ยักษ์ ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ในพื้นที่ของตนเอง เป็น Objective สำคัญของเกมซอมเพราะจะมอบัฟอาร์กอนให้กับทุกคนในทีมเป็นเวลาสามนาที ทำให้มินเนี่ยนของฝั่งตนแข็งแกร่งขึ้นและมอบพลังโจมตีและพลังเวทมนตร์ให้เป็นเวลา 3 นาที

ทางฝั่งทีมแดชชิ่งไวท์อาวล์ก็กำลังเตรียมปักวาร์ดแถวบริเวณป่าฝั่งบนของทีมสีแดงเพื่อเปิดทัศนะการมองเห็น และเคลียร์จัดการวาร์ดของทีมศัตรูเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายมองเห็นได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง หตุที่พวกเขาสามารถทำแบบนี้ได้เพราะป้อมปราการบริเวณรอบนอกฐานของทีมสีแดงเกือบจะพังทลายไปหมดแล้ว เหลือเพียงแค่ป้อมปราการเลนล่างเท่านั้นที่ยังเหลือป้อมภายนอกอยู่ ทำให้ทีมสีฟ้าสามารถเข้ามาควบคุมพื้นที่ของฝ่ายตรงข้ามได้ง่ายมากขึ้นพร้อมทั้งการเงินที่นำห่างออกไปทำให้มีจำนวนไอเทมที่มากกว่าและทรงพลังกว่าฮีโร่ของทีมสีแดง หากทีมไนฟโนเวลสุ่มสี่สุ่มห้าเดินมาก็อาจจะโดนทีมฝ่ายตรงข้ามดักรออยู่ในป่าของตนก็เป็นได้

และนั่นก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ

หลังจากที่ทีมแดชชิ่งไวท์อาวล์เคลียร์วาร์ดทุกอันที่บริเวณป่าฝั่งบนและบ่ออาร์กอนแล้ว แทนที่พวกเขาจะฉวยโอกาสเอาอาร์กอนในขณะที่อีกฝ่ายกำลังง่วนอยู่กับการเคลียร์วาร์ดและปักวาร์ดของตนเอง แต่พวกเขาทั้งห้าคนกลับเลือกที่จะรอ มีโอน่า คริสลาน่า และโซเฟียน่ารอในพุ่มไม้ที่ตั้งอยู่บริเวณแม่น้ำที่ต้องเดินผ่านเพื่อไปหาอาร์กอน ส่วนเน็นเซ็นกับฟาร์นานรออยู่ที่บริเวณหลังกำแพงของกลุ่มมินเนี่ยนป่านกแรปเตอร์

ถึงแม้พุ่มไม้และกำแพงบางส่วนจะหายไปเนื่องจากสนามแห่งนี้กลายเป็นสนามของมังกรเพลิง แต่ว่าก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ต้องปักวาร์ดเพื่อเพิ่มการมองเห็น แต่จำนวนวาร์ดที่ต้องใช้จะลดลงจำนวนหนึ่ง ซึ่งหลังจากที่ทีมไนฟโนเวลรู้สึกตัวแล้วว่าทีมศัตรูหายไปจากแผนที่นานเกินไป พวกเขาจึงตั้งหน้าตั้งตาเดินไปที่บ่ออาร์กอนโดยเดินผ่านป่าของตนที่เต็มไปด้วยวาร์ดของทีมสีฟ้า โดยมีราเดียสและไบร่าผู้มีวาร์ดเยอะเพราะเป็นซัพพอร์ตที่สุดนำทางไป

เมื่อพวกเขาปักวาร์ดโยนลงไปในบ่อแล้วไม่พบกับทีมศัตรูอยู่ ทำให้พวกเขารู้สึกตัวอีกครั้งว่าพวกเขากำลังโดนหลอก แต่มันก็สายไปเสียแล้ว เพราะก่อนถึงบ่อบารอน สามคนที่เหลือที่เดินตามมาอยู่ที่บริเวณนกแรปเตอร์ซึ่งจังหวะนั้นเหมือนเป็นสัญญาณเรียกความตายมาเยือน

“จังหวะนี้แหละ!” ลีโอตะโกนให้สัญญาณ
“เอาเซทธินกับลนิเฟียให้ตาย” วินเอ่ยพร้อมนำฟาร์นานเข้าสู่การต่อสู่ด้วยคอมโบสุดคลาสสิกของเขาข้ามกำแพงที่ล้อมรอบนกแรปเตอร์ไว้ กระโจนเข้าไปและสามารถทำให้ลนิเฟียกับเซทธินลอยขึ้นกลางอากาศได้ทั้งคู่ ในจังหวะเดียวกันเน็นเซ็นของบิลก็บลิงก์ข้ามกำแพงมาแล้วเปิดสกิลอัลติเมท ‘Thunderstorm’ เข้าตามไปหาฟาร์นาน ส่วนหลิวหว่องที่ยังอยู่ในระยะของ Thunderstorm ใช้สกิล W ‘Protect’ พุ่งเข้าไปหาวาร์ดที่ตนเพิ่งปักเมื่อสักครู่นี้ หลบจากระยะของพายุสายฟ้าขนาดใหญ่ที่มีเน็นเซ็นเป็นศูนย์กลาง

ในขณะนั้นเอง แม็คใช้สกิล W ของโซเฟียน่า ‘Order: Burst’ ทำให้พื้นที่ที่บอลจักรกลอยู่ระเบิดออกซึ่งจะสร้างความเสียหายและสโลว์ศัตรูแต่มอบความเร็วการเคลื่อนที่ให้กับทีม ซึ่งบอลจักรกลอยู่ที่โซเฟียน่าทำให้ทั้งสามคนเดินจากแม่น้ำมาอย่างรวดเร็ว และตรงดิ่งเข้าไปมอบสกิล E ‘Order: Blockshield’ ให้กับฟาร์นานทำให้บอลติดอยู่กับฟาร์นานและมอบโล่ป้องกันความเสียหายให้ ก่อนที่จะใช้สกิลอัลติเมท ‘Order: Pullwave’ รวบดึงทั้งเซทธินและลนิเฟียเข้ามาหาและสร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก ประกอบกับความเสียหายจาก ‘Thunderstorm’ ของเน็นเซ็น ทำให้พลังชีวิตของทั้งสองใกล้เหลือศูนย์เต็มที

และแน่นอนว่าเมื่อเป็นเช่นนี้ ฟาร์นานของวินก็กระโดดใช้สกิลอัลติเมท ‘Earthshaker’ สร้างดาเมจทุกคนที่อยู่ในกรงกำแพงดินของตน เป็นดับเบิลคิลของฟาร์นานไป

ในขณะที่มีโอน่าของลีโอพุ่งเข้าไปหาไบร่าที่อยู่บริเวณกำแพงนอกของเรดบัฟที่ใช้สกิลอัลติเมทเพื่อป้องกันและทำให้ทั้งห้าคนของทีมแดชชิ่งไวท์อาวล์อยู่ในโซนที่จะโดนยกด้วยต้นไม้ขนาดยักษ์จากบนพื้น ทีนำคริสลาน่ากระโดดข้ามมาด้วยสกิล W ‘Missile Jump’ เข้ามายิงไบร่าพร้อมกับมีโอน่าได้และพ้นจากรัศมีของ ‘Strugglethorns’ ด้วยความเป็นซัพพอร์ททำให้ตัวของไบร่าแทบไม่มีของอะไรเลย และไม่อาจทนทานต่อการโจมตีของคริสลาน่าและมีโอน่าจนเสียชีวิตไปอีกคน

ราเดียสก็เดินกลับเข้ามาเบิร์สสกิลของตนใส่โซเฟียน่าจนสามารถใช้สกิลอัลติเมท ‘Freedom Guillotine’ สังหารคิลไปได้ ถึงแม้จะต้องใช้ฮีโร่อาร์ตเพื่อบลิงก์เข้าไปฆ่าหลังจากที่แม็คใช้สกิลทุกอย่างเสร็จแล้วและบลิงก์หนีออกจากการต่อสู้ เคนนำราเดียสเดินกลับมาจากแม่น้ำที่แม็คหนีไปเพื่อเผชิญหน้ากับคริสลาน่าของทีที่อยู่ในพื้นที่ที่อันตราย เพราะในขณะที่ทีโจมตีใส่ไบร่าอยู่นั้นหลิวหว่องของตาต้าร์ก็พุ่งเข้ามาทำความเสียหายเช่นกัน

แต่เน็นเซ็นกับฟาร์นานก็วิ่งเข้ามาหาเพื่อนร่วมทีมหลังจากที่ลนิเฟียกับเซทธินตายไปแบบไม่ได้ขยับแล้ว ถึงแม้ตอนนี้ลนิเฟียจะตกอยู่ในสภาพไข่รอการฟื้นคืนชีพก็ตาม แต่ก็ไม่คุ้มค่าต่อการยืนโจมตีใส่ไปเรื่อยๆ ทั้งสองจึงเข้ามาหาเพื่อจัดการกับหลิวหว่องก่อนที่จัดการราเดียสตามมา

ด้วยการร่วมมือร่วมใจของทีมแดชชิ่งไวท์อาวล์ ทำให้พวกเขาเก็บเอซหรือฆ่าฮีโร่ทั้ง 5 คนของทีมฝ่ายตรงข้ามได้แลกกับเสียชีวิตของโซเฟียน่าไปแค่คนเดียว จากนั้นจึงจัดการฆ่าอาร์กอนและได้บัฟอาร์กอนสุดแข็งแกร่งมา ก่อนที่จะปิดเกมได้ภายในเวลาเพียงแค่ 25 นาทีเท่านั้น

เกมแรกของการแข่งขันระหว่างทีมแดชชิ่งไวท์อาวล์และทีมไนฟโนเวล ทีมแดชชิ่งไวท์อาวล์เป็นฝ่ายชนะไป

และเกมที่สองก็เหมือนกัน เพราะกูขี้เกียจเขียนถึงมันแล้ว
Sponsored content

Our Road Our Chance Empty Re: Our Road Our Chance

Back to top
Permissions in this forum:
You cannot reply to topics in this forum