- Gudomana
- Posts : 52
Join date : 2018-08-20
World Series 1
Tue Jan 19, 2021 11:28 pm
“แง้นนนนนน”
เสียงเครื่องยนต์คำรามกึกก้องดังทั่วสนาม มันมาจากรถยนต์สองคันที่วิ่งด้วยความเร็วมากกว่า 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถสีดำวิ่งนำ ในขณะที่รถสีน้ำเงินขับตามมาไม่ห่างกันมาก รถสีดำเบรกก่อนจะเข้าโค้งซ้าย เช่นเดียวกันกับรถสีน้ำเงินที่อยู่ข้างหลังที่ทำแบบเดียวกัน
“ชั้นห่างกับที่ 1 เท่าไหร่?” นักแข่งที่สวมหมวกกันน็อคสีขาวพูด ขณะที่นิ้วของเขากดปุ่มที่เขียนว่าวิทยุ
“นายห่างกับที่ 1 0.3 วินาที 0.3 วินาที” เสียงปลายสายตอบ
“แต่นายไม่จำเป็นต้องเร่งขนาดนั้นก็ได้นะ เรายังเหลืออีก 5 รอบ” เสียงปลายสายพูดต่อ
คนขับไม่ได้พูดอะไร แววตาของเขามุ่งมั่น เท้าของเขาเหยียบคันเร่ง สิ่งที่เขาเห็นในตอนนี้ไม่มีอะไรนอกจากสองข้างทางที่วิ่งตรงไปด้วยความรวดเร็ว และท้ายรถสีดำที่อยู่ข้างหน้าเขา เป้าหมายของเขามีอย่างเดียวในตอนนี้ คือแซงรถสีดำที่อยู่ข้างหน้าและมุ่งสู่ชัยชนะ
“ลองกันซักตั้งหน่อยละกัน” ชายหนุ่มพูดกับตัวเอง
ชายหนุ่มเชื้อสายเอเชียยืนอยู่หลังฉาก ร่างกายของเขาสูงและดูแข็งแรง เขาสวมชุดนักแข่งสีน้ำเงินที่มีลายขลิบ บนชุดที่เขาสวมมีสปอนเซอร์มากมาย ตรงกลางบริเวณกลางชุด มีข้อความที่เขียนว่า “บลู คอมเมต เรสซิ่ง” หากมองจากหลังม่านไปหาแสงสว่างที่ส่องอยู่กลางเวที จะเห็นผ้าคลุมวัตถุอะไรบางอย่าง หากเป็นแฟนการแข่งขัน “แข่งรถ” ก็จะรู้ได้ทันทีว่าวัตถุที่ถูกคลุมคือรถยนต์
เคียงข้างของชายหนุ่มนั้นเป็น ชายที่ดูสูงอายุ ผมของเขาขาวโผน ผิวของเขาเหี่ยว เขาสวมชุดสูทสีกรมท่าราคาแพง เขาพูดคุยกับทีมงาน ที่กำลังบอกกำหนดการของเขาในอีกไม่กี่นาทีถัดจากนี้ ชายแก่หันกลับมามอง ก่อนจะส่งยิ้มอ่อนๆให้กับชายที่ยืนอยู่ข้างๆเขา
“เป็นไงบ้าง วิลเลี่ยม? ตื่นเต้นไหม?” ชายแก่ถามชายที่มีชื่อว่า ‘วิลเลี่ยม’
“ตื่นเต้นมากครับ คุณไวท์ ตอนผมแข่งอยู่ที่ เวิล์ด ซีรีย์ 2 งานเปิดตัวของทีมไม่อลังการขนาดนี้เลย” ชายหนุ่มในชุดนักแข่งตอบ
“ไม่ต้องห่วงหรอก ไม่มีใครคาดหวังว่านายจะเป็นสุดยอดนักพูดอยู่แล้ว”
“แต่ทุกคนคาดหวังให้นายทำแต้มกับเราได้นะ ฮ่าๆ” ชายแก่หัวเราะพร้อมตบหลังของวิลเลี่ยม
วิลเลี่ยมไม่ได้ตอบอะไรกับคำพูดของชายแก่ แต่เขาได้ยิ้มเจือนให้ๆ
“คุณไวท์ค่ะ ใกล้ถึงเวลาแล้วค่ะ” หญิงที่ห้อยป้ายว่า ‘ทีมงาน’ พูดกับชายแก่
“โอเค” ไวท์พยักหน้าตอบ
ไฟในฮอลล์ดับลง เสียงดนตรีสุดเร้าใจดังขึ้น หน้าจอบนเวทีภาพของรถแข่งที่วิ่งบนสนามด้วยความเร็ว ภาพของนักแข่งที่เฉลิมฉลองบนโพเดี่ยมด้วยการฉีดแชมปเปญใส่นักแข่งคนอื่นๆที่ร่วมโพเดี่ยมกับเขา ก่อนที่ตัวอักษรคำว่า “บลู คอมเมต เรสซิ่ง” จะปรากฏอยู่กลางจอ ดนตรีหยุดลง และเสียงปรบมือจากผู้เข้าร่วมงานดังกึกก้อง ชายแก่ในชุดสูทราคาแพงเดินออกมาพร้อมกับโบกมือให้กับผู้เข้าร่วมงาน
“ขอบคุณ ขอบคุณ” ไวท์พูดกับด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
“ยินดีที่ได้เจอกับทุกคนอีกครั้ง ผม เฟลชเชอร์ ไวท์ เจ้าของทีม บลู คอมเมต เรสซิ่ง”
“ในฤดูกาลที่แล้วของเรานั้น มันเป็นฤดูกาลที่ยากลำบากของพวกเรามาก ปีที่แล้วเราจบที่ 19”
“พวกเราเป็นทีมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และเรามีแฟนที่น่ารักทั่วโลก และเรารู้สึกผิดหวังมากกับการจบที่ 19”
น้ำเสียงของเจ้าของทีมเต็มไปด้วยความผิดหวัง
“ปีนี้จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลง ทุกคนที่โรงงานต่างทุ่มเทสร้างเครื่องยนต์ที่ดีที่สุด เพื่อแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้น”
“ปีนี้คือปีแห่งการเปลี่ยนแปลง เราจะเร็วขึ้น ซึ่งเราหวังว่าปีนี้เราจะสามารถคว้าโพเดี่ยม หรือ ชนะการแข่งขันเพื่อเป็นการขอโทษแฟนๆ” เจ้าของทีมกล่าวต่อ
“และนอกจากเปลี่ยนแปลงรถแล้ว เรายังเปลี่ยนนักแข่งของเราในปีนี้ด้วย”
“ขอทุกคนช่วยต้อนรับ วิลเลี่ยม การ์ดเนอร์”
เสียงปรบมือดังก้องฮอลล์ ดนตรีสุดแสนจะอลังการดังนำภาพของชายเชื้อสายเอเชียที่ฉายบนจอ ในชุดแข่งยืนกอดอก ก่อนภาพจะตัดเป็นภาพจังหวะที่ชายเชื้อสายเอเชียขับแซงหน้าคู่แข่งคนอื่น ตัวอักษรสีขาวเขียนว่า “แชมป์ เวิล์ด ซีรีย์ 2” ภาพของชายหนุ่มที่ชูถ้วยรางวัลท่ามกลางกระดาษที่โปรยลงมา ปรากฏหลังตัวอักษรสีขาวดังกล่าว ชายที่อยู่บนวิดีโอเดินออกมาจากหลังฉาก เขาโบกมือให้กับคนอื่นๆ เหมือนกับที่เจ้าของเขาทำเมื่อครู่นี้ รอยยิ้มที่อยู่บนหน้าเป็นรอยยิ้มที่แข็งกระด้างและฝืนธรรมชาติ ไวท์ยื่นมือมา ทั้งสองจับมือกัน และยืนคนละด้านกับวัตถุที่ถูกคลุมเอาไว้
“เป็นเกียรติมากเลยครับที่ผมได้มายืนที่นี่” วิลเลี่ยมพูดขึ้น
“ผมยังจำได้ว่าตอนผมยังเด็กๆ ผมได้มีโอกาสดู เวิล์ด ซีรีย์ 1 บ่อยมาก”
“และความทรงจำนึงที่ผมจำได้ดี คือท่านเซอร์ สแตน กิลดอน คว้าชัยชนะที่ แบรนด์ แฮทช์”
“มันเป็นเหมือนความฝันของผมมากเลยว่าซักวันนึงผมจะได้ขับรถสีน้ำเงิน และคว้าชัยชนะในบ้านเกิดของผม” วิลเลี่ยมพูดพร้อมหันมามองเจ้าของทีม
“วิลเลียม การ์ดเนอร์ โชว์ผลงานได้ดีมากใน เวิล์ด ซีรีย์ 2 และเราคิดว่านักแข่งอย่างวิลเลียมคือสิ่งที่เราต้องการ”
“วิลเลียม คุณตั้งเป้ายังไงกับการแข่งกับเราในฤดูกาลนี้บ้าง?” ชายแก่ถาม
“ผมอยากตั้งเป้าว่า ผมอยากจะคว้าโพเดี่ยมให้กับทีม”
“ถ้ามันได้แบบนั้นมันก็เยี่ยมไปเลยนะ” เฟลชเชอร์กล่าว
“เอาล่ะ ถึงเวลาแล้ว เวลาที่ทุกคนรอคอย เวลาที่เราจะดึงผ้าคลุมออกแล้ว” เจ้าของทีมเดินไปจับผ้าที่คลุมอยู่บนรถ ก่อนที่เขาจะดึงมันออก
เมื่อผ้าคลุมที่บดบังหายไป รถสีน้ำเงินก็ปรากฏออกมา มันเป็นสีน้ำเงินที่ตัดสลับกับขาว ข้างรถมีสปอนเซอร์มากมาย บริเวณจมูกของรถนั้นมีหมายเลข 27 ปรากฏอยู่ เสียงปรบมือดังขึ้นอีกครั้ง วิลเลียมมองรถสีน้ำเงินที่จอดอยู่ตรงหน้าเขาโดยไม่ละสายตา เพราะรถคันนี้จะเป็นสหายคู่ใจของเขาในการต่อสู้กับเพื่อความยิ่งใหญ่ที่จะขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ถัดจากนี้
===
“อีเล็กซ์ทรอนิค มอเตอร์สปอร์ต เวิล์ด ซีรีย์ เป็นการแข่งขันรถยนต์ไฟฟ้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก” เสียงของผู้บรรยายพูดขึ้นในขณะภาพพื้นหลังเป็นรถหลายคันซิ่งบนถนนที่ทอดเป็นทางตรงยาว
“แม้ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า แต่ด้วยเทคโนโลยี ทำให้รถที่ใช้ในการแข่งขันไม่ได้ช้าไปกว่ารถที่ใช้น้ำมันขับเคลื่อนเลย”
“20 นักแข่งจาก 20 ทีม จะต่อสู้กันช่วงชิงการเป็นเจ้าถนน และ ถูกเรียกว่าเป็นนักแข่งที่เร็วที่สุดในโลก”
“การต่อสู้ใน 4 ทวีป และ 14 ประเทศ กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว”
“แล้วใครจะเป็นแชมป์ เวิล์ด ซีรีย์ ปีนี้?”
“เราจะได้รู้กันเร็วๆนี้”
เสียงเครื่องยนต์คำรามกึกก้องดังทั่วสนาม มันมาจากรถยนต์สองคันที่วิ่งด้วยความเร็วมากกว่า 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถสีดำวิ่งนำ ในขณะที่รถสีน้ำเงินขับตามมาไม่ห่างกันมาก รถสีดำเบรกก่อนจะเข้าโค้งซ้าย เช่นเดียวกันกับรถสีน้ำเงินที่อยู่ข้างหลังที่ทำแบบเดียวกัน
“ชั้นห่างกับที่ 1 เท่าไหร่?” นักแข่งที่สวมหมวกกันน็อคสีขาวพูด ขณะที่นิ้วของเขากดปุ่มที่เขียนว่าวิทยุ
“นายห่างกับที่ 1 0.3 วินาที 0.3 วินาที” เสียงปลายสายตอบ
“แต่นายไม่จำเป็นต้องเร่งขนาดนั้นก็ได้นะ เรายังเหลืออีก 5 รอบ” เสียงปลายสายพูดต่อ
คนขับไม่ได้พูดอะไร แววตาของเขามุ่งมั่น เท้าของเขาเหยียบคันเร่ง สิ่งที่เขาเห็นในตอนนี้ไม่มีอะไรนอกจากสองข้างทางที่วิ่งตรงไปด้วยความรวดเร็ว และท้ายรถสีดำที่อยู่ข้างหน้าเขา เป้าหมายของเขามีอย่างเดียวในตอนนี้ คือแซงรถสีดำที่อยู่ข้างหน้าและมุ่งสู่ชัยชนะ
“ลองกันซักตั้งหน่อยละกัน” ชายหนุ่มพูดกับตัวเอง
ชายหนุ่มเชื้อสายเอเชียยืนอยู่หลังฉาก ร่างกายของเขาสูงและดูแข็งแรง เขาสวมชุดนักแข่งสีน้ำเงินที่มีลายขลิบ บนชุดที่เขาสวมมีสปอนเซอร์มากมาย ตรงกลางบริเวณกลางชุด มีข้อความที่เขียนว่า “บลู คอมเมต เรสซิ่ง” หากมองจากหลังม่านไปหาแสงสว่างที่ส่องอยู่กลางเวที จะเห็นผ้าคลุมวัตถุอะไรบางอย่าง หากเป็นแฟนการแข่งขัน “แข่งรถ” ก็จะรู้ได้ทันทีว่าวัตถุที่ถูกคลุมคือรถยนต์
เคียงข้างของชายหนุ่มนั้นเป็น ชายที่ดูสูงอายุ ผมของเขาขาวโผน ผิวของเขาเหี่ยว เขาสวมชุดสูทสีกรมท่าราคาแพง เขาพูดคุยกับทีมงาน ที่กำลังบอกกำหนดการของเขาในอีกไม่กี่นาทีถัดจากนี้ ชายแก่หันกลับมามอง ก่อนจะส่งยิ้มอ่อนๆให้กับชายที่ยืนอยู่ข้างๆเขา
“เป็นไงบ้าง วิลเลี่ยม? ตื่นเต้นไหม?” ชายแก่ถามชายที่มีชื่อว่า ‘วิลเลี่ยม’
“ตื่นเต้นมากครับ คุณไวท์ ตอนผมแข่งอยู่ที่ เวิล์ด ซีรีย์ 2 งานเปิดตัวของทีมไม่อลังการขนาดนี้เลย” ชายหนุ่มในชุดนักแข่งตอบ
“ไม่ต้องห่วงหรอก ไม่มีใครคาดหวังว่านายจะเป็นสุดยอดนักพูดอยู่แล้ว”
“แต่ทุกคนคาดหวังให้นายทำแต้มกับเราได้นะ ฮ่าๆ” ชายแก่หัวเราะพร้อมตบหลังของวิลเลี่ยม
วิลเลี่ยมไม่ได้ตอบอะไรกับคำพูดของชายแก่ แต่เขาได้ยิ้มเจือนให้ๆ
“คุณไวท์ค่ะ ใกล้ถึงเวลาแล้วค่ะ” หญิงที่ห้อยป้ายว่า ‘ทีมงาน’ พูดกับชายแก่
“โอเค” ไวท์พยักหน้าตอบ
ไฟในฮอลล์ดับลง เสียงดนตรีสุดเร้าใจดังขึ้น หน้าจอบนเวทีภาพของรถแข่งที่วิ่งบนสนามด้วยความเร็ว ภาพของนักแข่งที่เฉลิมฉลองบนโพเดี่ยมด้วยการฉีดแชมปเปญใส่นักแข่งคนอื่นๆที่ร่วมโพเดี่ยมกับเขา ก่อนที่ตัวอักษรคำว่า “บลู คอมเมต เรสซิ่ง” จะปรากฏอยู่กลางจอ ดนตรีหยุดลง และเสียงปรบมือจากผู้เข้าร่วมงานดังกึกก้อง ชายแก่ในชุดสูทราคาแพงเดินออกมาพร้อมกับโบกมือให้กับผู้เข้าร่วมงาน
“ขอบคุณ ขอบคุณ” ไวท์พูดกับด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
“ยินดีที่ได้เจอกับทุกคนอีกครั้ง ผม เฟลชเชอร์ ไวท์ เจ้าของทีม บลู คอมเมต เรสซิ่ง”
“ในฤดูกาลที่แล้วของเรานั้น มันเป็นฤดูกาลที่ยากลำบากของพวกเรามาก ปีที่แล้วเราจบที่ 19”
“พวกเราเป็นทีมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และเรามีแฟนที่น่ารักทั่วโลก และเรารู้สึกผิดหวังมากกับการจบที่ 19”
น้ำเสียงของเจ้าของทีมเต็มไปด้วยความผิดหวัง
“ปีนี้จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลง ทุกคนที่โรงงานต่างทุ่มเทสร้างเครื่องยนต์ที่ดีที่สุด เพื่อแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้น”
“ปีนี้คือปีแห่งการเปลี่ยนแปลง เราจะเร็วขึ้น ซึ่งเราหวังว่าปีนี้เราจะสามารถคว้าโพเดี่ยม หรือ ชนะการแข่งขันเพื่อเป็นการขอโทษแฟนๆ” เจ้าของทีมกล่าวต่อ
“และนอกจากเปลี่ยนแปลงรถแล้ว เรายังเปลี่ยนนักแข่งของเราในปีนี้ด้วย”
“ขอทุกคนช่วยต้อนรับ วิลเลี่ยม การ์ดเนอร์”
เสียงปรบมือดังก้องฮอลล์ ดนตรีสุดแสนจะอลังการดังนำภาพของชายเชื้อสายเอเชียที่ฉายบนจอ ในชุดแข่งยืนกอดอก ก่อนภาพจะตัดเป็นภาพจังหวะที่ชายเชื้อสายเอเชียขับแซงหน้าคู่แข่งคนอื่น ตัวอักษรสีขาวเขียนว่า “แชมป์ เวิล์ด ซีรีย์ 2” ภาพของชายหนุ่มที่ชูถ้วยรางวัลท่ามกลางกระดาษที่โปรยลงมา ปรากฏหลังตัวอักษรสีขาวดังกล่าว ชายที่อยู่บนวิดีโอเดินออกมาจากหลังฉาก เขาโบกมือให้กับคนอื่นๆ เหมือนกับที่เจ้าของเขาทำเมื่อครู่นี้ รอยยิ้มที่อยู่บนหน้าเป็นรอยยิ้มที่แข็งกระด้างและฝืนธรรมชาติ ไวท์ยื่นมือมา ทั้งสองจับมือกัน และยืนคนละด้านกับวัตถุที่ถูกคลุมเอาไว้
“เป็นเกียรติมากเลยครับที่ผมได้มายืนที่นี่” วิลเลี่ยมพูดขึ้น
“ผมยังจำได้ว่าตอนผมยังเด็กๆ ผมได้มีโอกาสดู เวิล์ด ซีรีย์ 1 บ่อยมาก”
“และความทรงจำนึงที่ผมจำได้ดี คือท่านเซอร์ สแตน กิลดอน คว้าชัยชนะที่ แบรนด์ แฮทช์”
แบรนด์ แฮทช์ (Brand Hatch) เป็นสนามแข่งในประเทศอังกฤษ และเป็นหนึ่งในสนามแข่งที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดแห่งหนึ่ง
“มันเป็นเหมือนความฝันของผมมากเลยว่าซักวันนึงผมจะได้ขับรถสีน้ำเงิน และคว้าชัยชนะในบ้านเกิดของผม” วิลเลี่ยมพูดพร้อมหันมามองเจ้าของทีม
“วิลเลียม การ์ดเนอร์ โชว์ผลงานได้ดีมากใน เวิล์ด ซีรีย์ 2 และเราคิดว่านักแข่งอย่างวิลเลียมคือสิ่งที่เราต้องการ”
“วิลเลียม คุณตั้งเป้ายังไงกับการแข่งกับเราในฤดูกาลนี้บ้าง?” ชายแก่ถาม
“ผมอยากตั้งเป้าว่า ผมอยากจะคว้าโพเดี่ยมให้กับทีม”
“ถ้ามันได้แบบนั้นมันก็เยี่ยมไปเลยนะ” เฟลชเชอร์กล่าว
“เอาล่ะ ถึงเวลาแล้ว เวลาที่ทุกคนรอคอย เวลาที่เราจะดึงผ้าคลุมออกแล้ว” เจ้าของทีมเดินไปจับผ้าที่คลุมอยู่บนรถ ก่อนที่เขาจะดึงมันออก
เมื่อผ้าคลุมที่บดบังหายไป รถสีน้ำเงินก็ปรากฏออกมา มันเป็นสีน้ำเงินที่ตัดสลับกับขาว ข้างรถมีสปอนเซอร์มากมาย บริเวณจมูกของรถนั้นมีหมายเลข 27 ปรากฏอยู่ เสียงปรบมือดังขึ้นอีกครั้ง วิลเลียมมองรถสีน้ำเงินที่จอดอยู่ตรงหน้าเขาโดยไม่ละสายตา เพราะรถคันนี้จะเป็นสหายคู่ใจของเขาในการต่อสู้กับเพื่อความยิ่งใหญ่ที่จะขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ถัดจากนี้
===
“อีเล็กซ์ทรอนิค มอเตอร์สปอร์ต เวิล์ด ซีรีย์ เป็นการแข่งขันรถยนต์ไฟฟ้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก” เสียงของผู้บรรยายพูดขึ้นในขณะภาพพื้นหลังเป็นรถหลายคันซิ่งบนถนนที่ทอดเป็นทางตรงยาว
“แม้ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า แต่ด้วยเทคโนโลยี ทำให้รถที่ใช้ในการแข่งขันไม่ได้ช้าไปกว่ารถที่ใช้น้ำมันขับเคลื่อนเลย”
“20 นักแข่งจาก 20 ทีม จะต่อสู้กันช่วงชิงการเป็นเจ้าถนน และ ถูกเรียกว่าเป็นนักแข่งที่เร็วที่สุดในโลก”
“การต่อสู้ใน 4 ทวีป และ 14 ประเทศ กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว”
“แล้วใครจะเป็นแชมป์ เวิล์ด ซีรีย์ ปีนี้?”
“เราจะได้รู้กันเร็วๆนี้”
Permissions in this forum:
You cannot reply to topics in this forum
|
|