Home
Latest images
Search
Register
Log inรับสมัคร Game of Drama (Illusion เก่า)
+2
Shades of Kay
Gudomana
6 posters
Login to reply
Gudomana- Posts : 52
Join date : 2018-08-20
รับสมัคร Game of Drama (Illusion เก่า)
Wed Aug 26, 2020 4:56 pm
เดี๋ยวก็ตกงานแล้วเขียนนิยายนอนกินเงินชดเชยดีกว่า สำหรับคนที่ไม่เคยอ่าน Illusion เรื่องนี้เกี่ยวกับวงการละคร ซึ่งพระเอกเป็นคนเขียนบทและอยากเปลี่ยนแปลงวงการละครไทยที่มีแต่ละครแนวซ้ำซาก ไม่มีโปรเล้าจ์จ๊ะ
สิ่งที่ต้องการ
- เจ้าของสถานีโทรทัศน์ บลูมีเดีย
- เพื่อนพระเอกที่ทำงานในวงการบันเทิงและอยู่ในสถานีบลูมีเดีย
- เด็กสาวข้างห้องพระเอก อยู่ในช่วง ม.ปลาย (หรือช่วง ปี 1 ของมหาวิทยาลัย) หัวแข็ง เย็นชา ที่มีทักษะการแสดง
ใบสมัคร
รูป : (ลายเส้นการ์ตูน)
ชื่อ :
ชื่อเล่น :
ส่วนสูง/น้ำหนัก :
อายุ :
อาชีพ :
นิสัย + ประวัติ :
อื่นๆ : (ที่ไม่รู้จะใส่ไว้ตรงไหน)
**ความลับหลังไมค์**
===
พระเอก
รูป :
ชื่อ : ถิรเจตน์ ศิริพงศ์รักษา
ชื่อเล่น : เจตน์
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 170/64
อายุ : 32
อาชีพ : นักเขียนบทละคร
สิ่งที่ต้องการ
- เจ้าของสถานีโทรทัศน์ บลูมีเดีย
- เพื่อนพระเอกที่ทำงานในวงการบันเทิงและอยู่ในสถานีบลูมีเดีย
- เด็กสาวข้างห้องพระเอก อยู่ในช่วง ม.ปลาย (หรือช่วง ปี 1 ของมหาวิทยาลัย) หัวแข็ง เย็นชา ที่มีทักษะการแสดง
ใบสมัคร
รูป : (ลายเส้นการ์ตูน)
ชื่อ :
ชื่อเล่น :
ส่วนสูง/น้ำหนัก :
อายุ :
อาชีพ :
นิสัย + ประวัติ :
อื่นๆ : (ที่ไม่รู้จะใส่ไว้ตรงไหน)
**ความลับหลังไมค์**
===
พระเอก
รูป :
ชื่อ : ถิรเจตน์ ศิริพงศ์รักษา
ชื่อเล่น : เจตน์
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 170/64
อายุ : 32
อาชีพ : นักเขียนบทละคร
Shades of Kay- Posts : 21
Join date : 2018-08-20
Re: รับสมัคร Game of Drama (Illusion เก่า)
Wed Aug 26, 2020 6:18 pm
รูป : 
ชื่อ : อังศุมาลิน สิริวานิชกุล
ชื่อเล่น : ลิน
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 167cm / 47kg
อายุ : 38
อาชีพ : ผู้กำกับ
นิสัย + ประวัติ : คุณพ่อของเธอเป็นผู้กำกับชื่อดัง ท่านชอบบทประพันธ์เรื่องคู่กรรมมาก จึงตั้งชื่อให้เธอว่า อังศุมาลิน เธอได้รับโอกาสได้เข้าวงการตั้งแต่ยังเด็กโดยที่ไม่ได้มีประสบการณ์ด้านการแสดงมาก่อนเลย แต่ก็ยังได้รับบทดีๆอยู่เสมอแม้จะไม่ถึงขั้นตัวเด่นก็ตาม เมื่อโตเป็นสาว เธอก็เริ่มได้รับบทบาทเด่นๆมากขึ้น จึงทำให้ถูกเขม่นบ่อยครั้ง เพราะเหมือนเธอพึ่งบารมีคุณพ่อเพื่อให้ตัวเองดังทั้งๆที่ฝีมือไม่ได้เรื่อง แต่เธอก็ไม่ย่อท้อและพยายามพัฒนาตัวเองจนได้รับการยอมรับ เมื่อย่างเข้าสู่วัย 30 ต้นๆ คุณพ่อของเธอก็เสียชีวิต เธอจึงสานต่องานของคุณพ่อด้วยการผันตัวมาเป็นผู้กำกับ และได้รับการจับตามองในฐานะผู้กำกับหน้าใหม่ไฟแรง ทำให้เธอเริ่มห่างจากอาชีพนักแสดง จนปัจจุบันก็กลายเป็นผู้กำกับอย่างเต็มตัว
ด้านนิสัย เธอจะเป็นคนจริงจังและทุ่มเทกับงาน ในเวลางานเธอจึงจะเข้มงวดและเป๊ะมาก โดยไม่สนว่านักแสดงคนนั้นๆจะเด่นจะดังมาจากไหน ทำให้บางครั้งนักแสดงที่ได้ร่วมงานกับเธอจึงรู้สึกอึดอัด แต่ถ้าใครที่ได้รู้จักเธอดีๆแล้วจะรู้ว่าเธอไม่ใช่คนใจร้ายใจดำแต่อย่างใด เธอแค่อยากให้งานออกมาสมบูรณ์แบบเท่านั้น ตอนนอกเวลางานเธอจึงเป็นคนอารมณ์ดีและเป็นมิตร และมักจะมีน้ำใจกับคนในกองถ่ายโดยการพาไปเลี้ยงข้าวบ้างอะไรบ้าง เพื่อคลายเครียดจากงานที่เหนื่อยกันมาทั้งวัน
อื่นๆ : ยังโสดแม้อายุจะใกล้เลขสี่แล้ว เพราะทุ่มเทให้กับงานจนไม่สนใจเรื่องนี้
ชื่อ : อังศุมาลิน สิริวานิชกุล
ชื่อเล่น : ลิน
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 167cm / 47kg
อายุ : 38
อาชีพ : ผู้กำกับ
นิสัย + ประวัติ : คุณพ่อของเธอเป็นผู้กำกับชื่อดัง ท่านชอบบทประพันธ์เรื่องคู่กรรมมาก จึงตั้งชื่อให้เธอว่า อังศุมาลิน เธอได้รับโอกาสได้เข้าวงการตั้งแต่ยังเด็กโดยที่ไม่ได้มีประสบการณ์ด้านการแสดงมาก่อนเลย แต่ก็ยังได้รับบทดีๆอยู่เสมอแม้จะไม่ถึงขั้นตัวเด่นก็ตาม เมื่อโตเป็นสาว เธอก็เริ่มได้รับบทบาทเด่นๆมากขึ้น จึงทำให้ถูกเขม่นบ่อยครั้ง เพราะเหมือนเธอพึ่งบารมีคุณพ่อเพื่อให้ตัวเองดังทั้งๆที่ฝีมือไม่ได้เรื่อง แต่เธอก็ไม่ย่อท้อและพยายามพัฒนาตัวเองจนได้รับการยอมรับ เมื่อย่างเข้าสู่วัย 30 ต้นๆ คุณพ่อของเธอก็เสียชีวิต เธอจึงสานต่องานของคุณพ่อด้วยการผันตัวมาเป็นผู้กำกับ และได้รับการจับตามองในฐานะผู้กำกับหน้าใหม่ไฟแรง ทำให้เธอเริ่มห่างจากอาชีพนักแสดง จนปัจจุบันก็กลายเป็นผู้กำกับอย่างเต็มตัว
ด้านนิสัย เธอจะเป็นคนจริงจังและทุ่มเทกับงาน ในเวลางานเธอจึงจะเข้มงวดและเป๊ะมาก โดยไม่สนว่านักแสดงคนนั้นๆจะเด่นจะดังมาจากไหน ทำให้บางครั้งนักแสดงที่ได้ร่วมงานกับเธอจึงรู้สึกอึดอัด แต่ถ้าใครที่ได้รู้จักเธอดีๆแล้วจะรู้ว่าเธอไม่ใช่คนใจร้ายใจดำแต่อย่างใด เธอแค่อยากให้งานออกมาสมบูรณ์แบบเท่านั้น ตอนนอกเวลางานเธอจึงเป็นคนอารมณ์ดีและเป็นมิตร และมักจะมีน้ำใจกับคนในกองถ่ายโดยการพาไปเลี้ยงข้าวบ้างอะไรบ้าง เพื่อคลายเครียดจากงานที่เหนื่อยกันมาทั้งวัน
อื่นๆ : ยังโสดแม้อายุจะใกล้เลขสี่แล้ว เพราะทุ่มเทให้กับงานจนไม่สนใจเรื่องนี้
NARA- Posts : 30
Join date : 2018-08-20
Re: รับสมัคร Game of Drama (Illusion เก่า)
Wed Aug 26, 2020 8:21 pm
รูป : Yukina Minato
ชื่อ : ณัชชา วิราฤดี
ชื่อเล่น : สาลี่
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 158 ซม. / 43 กก.
อายุ : 18 ปี
อาชีพ : นักศึกษา
ประวัติ (ภูมิหลัง):
-'สาลี่' เติบโตมาโดยการเป็นเด็กสร้าง เด็กปั้นของพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็ก โดยที่พ่อแม่ของเธอเป็นคนธรรมดาไม่ได้มีบทบาทอยู่ในวงการบันเทิงแต่อย่างใด เพียงแต่พยายามผลักดันสาลี่ที่เป็นเด็กน้อยน่ารักหน้าตาดีตั้งแต่ยังเด็กให้ไปออดิชั่นตามรายการต่างๆ ที่รับสมัครเด็กเข้ารายการ เช่นรายการตอบปัญหา รายการแข่งขันทำอาหาร รายการแข่งขันร้องเพลง ตลอดจนไปออดิชั่นเป็นนักแสดงในบทเด็กอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ในวัยเด็กของสาลี่แทบไม่มีเวลาว่างเป็นของตัวเอง ต้องคอยเตรียมตัวไปออดิชั่น ไปออกรายการต่างๆ นอกจากยุ่งกับงานแล้วยังต้องเจียดเวลาไปเรียนพิเศษ เช่นเรียนร้องเพลง เรียนเต้น เรียนทำอาหาร เพื่อที่จะได้โดดเด่น มีความสามารถและเพิ่มโอกาสให้มากกว่าคนอื่นๆ
-อย่างไรก็ตามสาลี่ก็ทำให้ความฝันของพ่อแม่เธอเป็นจริงได้ เธอมีความสามารถถึงขั้นได้เล่นละครภาคค่ำตั้งแต่ยังเด็ก เคยประกวดชนะรายการร้องเพลง ชนะรายการตอบปัญหา เรียกได้ว่าผลงานในวงการเข้าตาพวกผู้ใหญ่เป็นอย่างมาก เท่านั้นไม่พอ การเรียนที่โรงเรียนของเธอก็ไม่น้อยหน้าเพราะอยู่ในระดับท็อปของที่โรงเรียน (ส่วนนึงเพราะพ่อแม่ยัดให้ไปเรียนกวดวิชาเพื่อจะได้มีความรู้สู้ในรายการตอบปัญหา) เมื่อเป็นเด็กเทพเพอร์เฟคได้ถึงขั้นนี้ คนรอบข้างทั้งญาติพี่น้อง เพื่อนที่โรงเรียนจึงพากันมารุมล้อมและพยายามเข้าหา และทุกๆคนต่างเชื่อว่าอนาคตของสาลี่นั้นต้องสว่างสดใสและไปได้ไกลอีกมากมาย แต่ทว่า...
-เมื่อสาลี่อายุได้ 10 ต้นๆกำลังเข้าเรียนในระดับมัธยม พ่อของสาลี่ที่เป็นตัวตั้งตัวตี ทำงานอย่างหนักและคอยหาเงินมาสนับสนุนผลักดันสาลี่มาตลอดก็เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งปอด ซึ่งนั่นทำให้ทุกอย่างในชีวิตของสาลี่หยุดชะงัก... จริงอยู่ที่ว่าเธอเป็นเด็กที่น่าจับตามองมากที่สุดคนหนึ่ง ทว่า ณ ตอนนั้นเธอโลดแล่นอยู่บนวงการในฐานะของดาราเด็ก ซึ่งถ้าดาราเด็กไม่สามารถพัฒนาตัวเองให้เฉิดฉายและเติบโตได้ สปอตไลท์ในวงการบันเทิงก็จะปิดลงที่ตรงนั้น และการสูญเสียพ่อของสาลี่มันทำร้ายสภาพจิตใจของเธออย่างแสนสาหัส สาลี่ไม่สามารถฟื้นตัวได้เร็วและใช้เวลามูฟออนจากตรงนั้นอยู่หลายปี ในขณะที่แม่ของเธอก็รับภาระค่าใช้จ่ายในการเรียนพิเศษและผลักดันต่างๆนาๆไม่ไหว ทำให้การเป็นเด็กสร้างของเธอสิ้นสุดเพียงเท่านี้
-การสูญเสียครั้งนั้นมันกระทันหันมากเสียจนทำให้จิตใจของเธอสับสนอลม่านไปหมด ช่วงชีวิตตอนม.ต้นของเธอแทบไม่ได้คบหาสมาคมกับใครเลย (ไม่มีเพื่อน) เธอกลายเป็นเด็กเก็บกด เก็บตัว เป็นโรคซึมเศร้า หน้าตาบูดบึ้ง โลกมืดหม่น สิวขึ้น เครียดโทรมจนดูไม่ได้ โชคยังดีที่เธอดูเหมือนจะมีพรสวรรค์ด้านการเรียนจึงพอประครองตัวให้การเรียนยังคงดีอยู่ไม่เสียอนาคต
***(สำคัญๆอยู่ตรงนี้) อย่างไรเสียเมื่อขึ้นม.ปลาย สาลี่กลับมาลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง เธอมูฟออนจากช่วงชีวิตตอนม.ต้นของเธอ สอบเข้าโรงเรียนดัง หางานอดิเรกใหม่ๆทำ เติบโตและสร้างตัวตนของเธอให้กลับมาเฉิดฉายอีกครั้ง งานอดิเรกหลักของสาลี่คือศึกษาเกี่ยวกับวงการภาพยนตร์ การละครและการแสดงอย่างลึกซึ้งถึงกึ๋น เธอเข้าชมรมการแสดงของโรงเรียนและได้ขึ้นเป็นประธานชมรมตอนม.6 เคยเป็นเฮดเขียนบทให้กับละครเวทีโรงเรียน(และมหาลัยตอนขึ้นปีหนึ่ง) แน่นอนว่ามีเอเจนซี่มาติดต่อเธอให้กลับไปเข้าวงการอยู่หลายครั้ง เธอปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่าขอโฟกัสกับการเรียนให้เพอร์เฟคก่อน (แค่ตอบส่งๆไปเท่านั้นแหละ)
นอกจากนั้นเธอยังศึกษาเกี่ยวกับการเขียนบทละครหรือเขียนบทภาพยนตร์อย่างละเอียด จนเรียกได้ว่าเป็นเนิร์ดด้านนี้ก็ไม่ผิดนัก ซึ่งบ่อยครั้งที่สาลี่จะชวนเพื่อนๆที่โรงเรียนไปดูหนังและออกมาวิพากย์วิจารณ์ได้เป็นฉากต่อฉาก และอีกเรื่องคือสาลี่เป็นคนที่เกลียดและอคติกับละครไทยมากๆ ด้วยความซ้ำซากจำเจและบทพูดที่ไม่เป็นธรรมชาติของมันที่มีให้เห็นได้แทบจะทุกเรื่อง
นิสัยหลักๆของเธอก็คือ
-เธอเป็น Perfectionist และเป็นคนอีโก้จัด มักมีคนเข้าใจว่าเธอเป็นพวกสวยเลิศเชิดหยิ่ง ไม่แคร์ความรู้สึกของใครใดๆ ซึ่งความจริงก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นงานอะไร สาลี่จะมีมาตรฐานที่สูงลิ่วและจะไม่อ่อนข้อให้กับความหย่อนยานใดๆทั้งสิ้น ซึ่งหลายครั้งที่ทุกๆคนพบว่าเธอเป็นคนที่ทำงานด้วยลำบาก
-ชอบพูดด้วยน้ำเสียงที่ห้วนๆหยิ่งๆ ที่แย่คือเวลาใครทำอะไรไม่พอใจหรือผิดพลาดก็มักจะไม่ยอมบอกข้อผิดพลาดเหล่านั้นออกมา แต่จะพูดกลับไปว่า 'ก็ไปลองใช้สมองหาดูเอาเองสิ ว่าผิดตรงไหน' จะจู้จี้จุกจิก ขี้บ่นเฉพาะกับคนที่สนิทด้วยเท่านั้น ถ้ากับคนที่ไม่ค่อยสนิทก็จะไม่ยอมบอกว่าพวกเค้าทำอะไรให้ไม่พอใจแต่จะสะบัดผมและเดินจากไปอย่างไม่สนใจใยดี (เป็นคนที่โคตรของโคตรเยอะ) หน้าตาเป็นไงนิสัยก็เป็นอย่างนั้นแหละ น่าจะพอเดาๆได้
ปม :
-เมื่อขึ้นม.ปลายและรวบรวมสติให้กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัวได้แล้ว สาลี่มักจะตั้งคำถามเกี่ยวกับความฝันของตัวเองและพ่อที่เสียไป เธอมีความสับสนอยู่ภายในใจว่าชีวิตนี้ตกลงเธอเดินตามความฝันของใคร ถ้าเป็นความฝันของพ่อแม่มาตลอดแล้วความฝันจริงๆแล้วของเธอคืออะไร บางครั้งเธอก็รู้สึกคับแค้นใจว่าชีวิตในวัยเด็กของเธอถูกพรากไปก็เพราะเธอเอาแต่ทำตามความฝันของพ่อแม่ ครั้งนึงเธอเคยค้นพบว่าตัวเองเป็นเหมือนตุ๊กตาที่กลวงโบ๋ว มีแต่ความว่างเปล่า ไม่มีความฝัน ไม่มีความรู้สึกนึกคิด ไม่มีตัวตนเป็นของตัวเอง ซึ่งเหมือนว่าเธอจะเริ่มคลำทางหาคำตอบได้เมื่อได้พบและสัมผัสกับกลุ่มเพื่อนและมิตรภาพตอนม.ปลาย แต่สุดท้ายมันก็จางหายไปอยู่ดีเมื่อต้องแยกจากกันตอนขึ้นมหาลัย
อื่นๆ :
-พ่อของสาลี่ทำงานหนักมากๆเพื่อที่จะหาเงินมาช่วยผลักดันลูก ด้วยความเครียดจึงสูบบุหรี่จัด(ติดมานานแล้ว) จนมะเร็งปอดกลายเป็นภัยเงียบ รู้ตัวอีกทีก็ระยะสามและก็ทรุดหนักจนจากไปในที่สุด
-นอกจากความสามารถด้านการแสดงที่ติดตัวมาตั้งแต่เด็กและศึกษาเพิ่มตอนม.ปลายแล้ว สาลี่ยังร้องเพลงได้เพราะมากๆอีกด้วย โดยใครก็คาดไม่ถึงว่าเธอจะชอบดนตรีร็อค
-ปัจจุบันสาลี่อาศัยอยู่ในหอพักเอกชนและพึ่งเข้าเรียนในคณะแพทย์ศาสตร์ เพราะตั้งแต่พ่อเสียแม่ของเธออยากให้เธอทำอาชีพที่เกี่ยวกับการช่วยชีวิตผู้คน ซึ่งถ้าหากเธอทุ่มเทกับการเรียนในคณะนี้จริงๆเธอก็จะไม่มีวันได้หวนกลับสู่วงการอีกเลย การตัดสินใจข้อนี้ก็เป็นหนึ่งในปมของเธอเช่นเดียวกัน
ชื่อ : ณัชชา วิราฤดี
ชื่อเล่น : สาลี่
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 158 ซม. / 43 กก.
อายุ : 18 ปี
อาชีพ : นักศึกษา
ประวัติ (ภูมิหลัง):
-'สาลี่' เติบโตมาโดยการเป็นเด็กสร้าง เด็กปั้นของพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็ก โดยที่พ่อแม่ของเธอเป็นคนธรรมดาไม่ได้มีบทบาทอยู่ในวงการบันเทิงแต่อย่างใด เพียงแต่พยายามผลักดันสาลี่ที่เป็นเด็กน้อยน่ารักหน้าตาดีตั้งแต่ยังเด็กให้ไปออดิชั่นตามรายการต่างๆ ที่รับสมัครเด็กเข้ารายการ เช่นรายการตอบปัญหา รายการแข่งขันทำอาหาร รายการแข่งขันร้องเพลง ตลอดจนไปออดิชั่นเป็นนักแสดงในบทเด็กอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ในวัยเด็กของสาลี่แทบไม่มีเวลาว่างเป็นของตัวเอง ต้องคอยเตรียมตัวไปออดิชั่น ไปออกรายการต่างๆ นอกจากยุ่งกับงานแล้วยังต้องเจียดเวลาไปเรียนพิเศษ เช่นเรียนร้องเพลง เรียนเต้น เรียนทำอาหาร เพื่อที่จะได้โดดเด่น มีความสามารถและเพิ่มโอกาสให้มากกว่าคนอื่นๆ
-เมื่อสาลี่อายุได้ 10 ต้นๆกำลังเข้าเรียนในระดับมัธยม พ่อของสาลี่ที่เป็นตัวตั้งตัวตี ทำงานอย่างหนักและคอยหาเงินมาสนับสนุนผลักดันสาลี่มาตลอดก็เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งปอด ซึ่งนั่นทำให้ทุกอย่างในชีวิตของสาลี่หยุดชะงัก... จริงอยู่ที่ว่าเธอเป็นเด็กที่น่าจับตามองมากที่สุดคนหนึ่ง ทว่า ณ ตอนนั้นเธอโลดแล่นอยู่บนวงการในฐานะของดาราเด็ก ซึ่งถ้าดาราเด็กไม่สามารถพัฒนาตัวเองให้เฉิดฉายและเติบโตได้ สปอตไลท์ในวงการบันเทิงก็จะปิดลงที่ตรงนั้น และการสูญเสียพ่อของสาลี่มันทำร้ายสภาพจิตใจของเธออย่างแสนสาหัส สาลี่ไม่สามารถฟื้นตัวได้เร็วและใช้เวลามูฟออนจากตรงนั้นอยู่หลายปี ในขณะที่แม่ของเธอก็รับภาระค่าใช้จ่ายในการเรียนพิเศษและผลักดันต่างๆนาๆไม่ไหว ทำให้การเป็นเด็กสร้างของเธอสิ้นสุดเพียงเท่านี้
ประวัติช่วงท้าย + นิสัย:
-การสูญเสียครั้งนั้นมันกระทันหันมากเสียจนทำให้จิตใจของเธอสับสนอลม่านไปหมด ช่วงชีวิตตอนม.ต้นของเธอแทบไม่ได้คบหาสมาคมกับใครเลย (ไม่มีเพื่อน) เธอกลายเป็นเด็กเก็บกด เก็บตัว เป็นโรคซึมเศร้า หน้าตาบูดบึ้ง โลกมืดหม่น สิวขึ้น เครียดโทรมจนดูไม่ได้ โชคยังดีที่เธอดูเหมือนจะมีพรสวรรค์ด้านการเรียนจึงพอประครองตัวให้การเรียนยังคงดีอยู่ไม่เสียอนาคต
***(สำคัญๆอยู่ตรงนี้) อย่างไรเสียเมื่อขึ้นม.ปลาย สาลี่กลับมาลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง เธอมูฟออนจากช่วงชีวิตตอนม.ต้นของเธอ สอบเข้าโรงเรียนดัง หางานอดิเรกใหม่ๆทำ เติบโตและสร้างตัวตนของเธอให้กลับมาเฉิดฉายอีกครั้ง งานอดิเรกหลักของสาลี่คือศึกษาเกี่ยวกับวงการภาพยนตร์ การละครและการแสดงอย่างลึกซึ้งถึงกึ๋น เธอเข้าชมรมการแสดงของโรงเรียนและได้ขึ้นเป็นประธานชมรมตอนม.6 เคยเป็นเฮดเขียนบทให้กับละครเวทีโรงเรียน(และมหาลัยตอนขึ้นปีหนึ่ง) แน่นอนว่ามีเอเจนซี่มาติดต่อเธอให้กลับไปเข้าวงการอยู่หลายครั้ง เธอปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่าขอโฟกัสกับการเรียนให้เพอร์เฟคก่อน (แค่ตอบส่งๆไปเท่านั้นแหละ)
นอกจากนั้นเธอยังศึกษาเกี่ยวกับการเขียนบทละครหรือเขียนบทภาพยนตร์อย่างละเอียด จนเรียกได้ว่าเป็นเนิร์ดด้านนี้ก็ไม่ผิดนัก ซึ่งบ่อยครั้งที่สาลี่จะชวนเพื่อนๆที่โรงเรียนไปดูหนังและออกมาวิพากย์วิจารณ์ได้เป็นฉากต่อฉาก และอีกเรื่องคือสาลี่เป็นคนที่เกลียดและอคติกับละครไทยมากๆ ด้วยความซ้ำซากจำเจและบทพูดที่ไม่เป็นธรรมชาติของมันที่มีให้เห็นได้แทบจะทุกเรื่อง
นิสัยหลักๆของเธอก็คือ
-เธอเป็น Perfectionist และเป็นคนอีโก้จัด มักมีคนเข้าใจว่าเธอเป็นพวกสวยเลิศเชิดหยิ่ง ไม่แคร์ความรู้สึกของใครใดๆ ซึ่งความจริงก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นงานอะไร สาลี่จะมีมาตรฐานที่สูงลิ่วและจะไม่อ่อนข้อให้กับความหย่อนยานใดๆทั้งสิ้น ซึ่งหลายครั้งที่ทุกๆคนพบว่าเธอเป็นคนที่ทำงานด้วยลำบาก
-ชอบพูดด้วยน้ำเสียงที่ห้วนๆหยิ่งๆ ที่แย่คือเวลาใครทำอะไรไม่พอใจหรือผิดพลาดก็มักจะไม่ยอมบอกข้อผิดพลาดเหล่านั้นออกมา แต่จะพูดกลับไปว่า 'ก็ไปลองใช้สมองหาดูเอาเองสิ ว่าผิดตรงไหน' จะจู้จี้จุกจิก ขี้บ่นเฉพาะกับคนที่สนิทด้วยเท่านั้น ถ้ากับคนที่ไม่ค่อยสนิทก็จะไม่ยอมบอกว่าพวกเค้าทำอะไรให้ไม่พอใจแต่จะสะบัดผมและเดินจากไปอย่างไม่สนใจใยดี (เป็นคนที่โคตรของโคตรเยอะ) หน้าตาเป็นไงนิสัยก็เป็นอย่างนั้นแหละ น่าจะพอเดาๆได้
-เมื่อขึ้นม.ปลายและรวบรวมสติให้กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัวได้แล้ว สาลี่มักจะตั้งคำถามเกี่ยวกับความฝันของตัวเองและพ่อที่เสียไป เธอมีความสับสนอยู่ภายในใจว่าชีวิตนี้ตกลงเธอเดินตามความฝันของใคร ถ้าเป็นความฝันของพ่อแม่มาตลอดแล้วความฝันจริงๆแล้วของเธอคืออะไร บางครั้งเธอก็รู้สึกคับแค้นใจว่าชีวิตในวัยเด็กของเธอถูกพรากไปก็เพราะเธอเอาแต่ทำตามความฝันของพ่อแม่ ครั้งนึงเธอเคยค้นพบว่าตัวเองเป็นเหมือนตุ๊กตาที่กลวงโบ๋ว มีแต่ความว่างเปล่า ไม่มีความฝัน ไม่มีความรู้สึกนึกคิด ไม่มีตัวตนเป็นของตัวเอง ซึ่งเหมือนว่าเธอจะเริ่มคลำทางหาคำตอบได้เมื่อได้พบและสัมผัสกับกลุ่มเพื่อนและมิตรภาพตอนม.ปลาย แต่สุดท้ายมันก็จางหายไปอยู่ดีเมื่อต้องแยกจากกันตอนขึ้นมหาลัย
อื่นๆ :
-พ่อของสาลี่ทำงานหนักมากๆเพื่อที่จะหาเงินมาช่วยผลักดันลูก ด้วยความเครียดจึงสูบบุหรี่จัด(ติดมานานแล้ว) จนมะเร็งปอดกลายเป็นภัยเงียบ รู้ตัวอีกทีก็ระยะสามและก็ทรุดหนักจนจากไปในที่สุด
-นอกจากความสามารถด้านการแสดงที่ติดตัวมาตั้งแต่เด็กและศึกษาเพิ่มตอนม.ปลายแล้ว สาลี่ยังร้องเพลงได้เพราะมากๆอีกด้วย โดยใครก็คาดไม่ถึงว่าเธอจะชอบดนตรีร็อค
-ปัจจุบันสาลี่อาศัยอยู่ในหอพักเอกชนและพึ่งเข้าเรียนในคณะแพทย์ศาสตร์ เพราะตั้งแต่พ่อเสียแม่ของเธออยากให้เธอทำอาชีพที่เกี่ยวกับการช่วยชีวิตผู้คน ซึ่งถ้าหากเธอทุ่มเทกับการเรียนในคณะนี้จริงๆเธอก็จะไม่มีวันได้หวนกลับสู่วงการอีกเลย การตัดสินใจข้อนี้ก็เป็นหนึ่งในปมของเธอเช่นเดียวกัน
IamKurtCobian- Posts : 108
Join date : 2018-08-20
Age : 26
Re: รับสมัคร Game of Drama (Illusion เก่า)
Wed Aug 26, 2020 9:46 pm
**- เพื่อนพระเอกที่ทำงานในวงการบันเทิงและอยู่ในสถานีบลูมีเดีย
รูป : Matsuda Jinpei
ชื่อ : ดิษฐ์ ณ ถลาง (ชื่อ ดิษฐ์ นามสกุล ณ กลาง)
ชื่อเล่น : ดิษ
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 183/71
อายุ : 32
อาชีพ : โปรดิวเซอร์
นิสัย + ประวัติ :
เกิดมาในครอบครัวที่ค่อนข้างมีหน้ามีตาในสังคม และพ่อกับแม่ก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับสถานที่บลูมีเดีย ทำให้ดิษ ได้เข้ามาทำงานในวงการบันเทิงตั้งแต่สมัยวัยรุ่น โดยทำตั้งแต่ ตัดต่อ ช่างไฟ ไปยัน ผู้ช่วยช่างภาพ เรียกได้ว่ามีประสบการณ์เกินอายุไปเยอะ หลังจากเรียนจบ เจ้าตัวก็มาทำงานเป็นพนักงานเต็มตัว ในฐานะโปรดิวเซอร์
ในตอนแรกๆนั้น นิสัยของดิษ เป็นแบบตรงไปตรงมา เป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ และสามารถมองเห็นPotential ของสิ่งที่น่าจะโด่งดังในอนาคตได้ แต่ว่าด้วยอายุเจ้าตัวที่ยังถือว่าไม่มากนัก ทำให้ไอเดียของเจ้าตัวมักถูกปัดตกไปหลายๆครั้ง นั่นทำให้ดิษ ต้องปรับตัวตามสภาพในการทำงาน กลายเป็นคนที่มีความสามารถในการประจบประแจงเป็นเลิศ สามารถขายไอเดียที่ดูงงๆแปลกๆ ให้ลูกค้าและผู้บริหารได้หลายต่อหลายครั้ง จนได้รับฉายาในที่ทำงานว่า "โปรดิวเซอร์ลิ้นทอง" เพื่อที่จะขายงานให้ผู้บริหารไฟเขียวได้ ดิษ ยอมทำทุกอย่าง ต่อให้ต้องนั่งคุกเข่าก็ตาม ทำให้เพื่อนเก่าของเขาหลายๆคนแทบจะไม่เชื่อสายตา เมื่อเห็นดิษ ที่เคยเป็นคนมีนิสัยเถรตรง กลายเป็นคนขี้ประจบประแจงไปซะแล้ว
นิสัยส่วนตัวนั้น ในสมัยก่อน ดิษ จะเป็นคนเงียบขรึม เป็นคนพูดจาฉะฉาน ตรงไปตรงมา ชอบอยู่คนเดียวบ่อยๆ เป็นแบบ ติสท์ๆหน่อย เรียกว่าเป็นคนหล่อเท่คนนึงก็ว่าได้
แต่ในปัจจุบัน ดิษ กลายเป็นคนเฮฮา ตลก และเข้ากับคนอื่นได้ดี และมักจะแสดงความขี้ขลาดออกมาอยู่บ่อยๆอย่างเช่น "เห้ยแบบนี้มันจะดีจริงๆน่ะหรอ" "แน่ใจนะว่าจะไม่ทำให้ฉันขายหน้า" เป็นต้น หลังจากเสร็จงาน เจษก็จะกลายเป็นพนักงานเงินเดือน ที่ใช้ชีวิตไปวันๆ เลิกงานเสร็จ ก็ไปเที่ยวคาราโอเกะ ดื่มเหล้า ตื่นเช้ามา ก็ทำงาน เลียแข้งเลียขาผู้บริหาร วนไปเรื่อยๆ
ดิษ มีสกิลในการพูดเป็นเลิศ เขามีคอนเนคชั่นมากมาย ทั้งสปอร์เซอร์ ผู้กำกับ ตากล้อง คนเขียนบท รวมถึงเหล่านักแสดงชื่อดังมากมาย ทำให้เมื่อไรที่โปรเจ็คของเขาได้รับการอนุมัติ ก็จะสามารถเปิดกล้องถ่ายทำได้ในเวลาไม่นาน ข้อเสียก็คือ ด้วยความที่สนิทสนมและชอบประจบประแจงคนนู้นทีคนนี้ที ทำให้เหล่าโปรดิวเซอร์ด้วยกันไม่ค่อยชอบขี้หน้าเขาเท่าไรนัก
อื่นๆ :
1.ถ้าคุณเห็นดิษ เมามาในเวลางาน ไม่ต้องตกใจ เพราะนั่นหมายความว่า เขาไปขายงานให้ลูกค้ามา ท่าไม้ตายที่ได้ผลทุกครั้งในการนำเสนอโปรเจคของเขาก็คือ การมอมเหล้าลูกค้านั่นเอง
2.ดิษ มักจะพรีเซ้นท์งานของเขาในสถานที่แปลกๆ เช่น คอกเทลเล้าจ์ อาบอบนวด และ สถานที่อโคจรอีกมากมาย ถ้าเจอลูกค้าใจบุญหน่อย ก็ขายระหว่างปฎิบัติธรรมเลย
รูป : Matsuda Jinpei
ชื่อ : ดิษฐ์ ณ ถลาง (ชื่อ ดิษฐ์ นามสกุล ณ กลาง)
ชื่อเล่น : ดิษ
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 183/71
อายุ : 32
อาชีพ : โปรดิวเซอร์
นิสัย + ประวัติ :
เกิดมาในครอบครัวที่ค่อนข้างมีหน้ามีตาในสังคม และพ่อกับแม่ก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับสถานที่บลูมีเดีย ทำให้ดิษ ได้เข้ามาทำงานในวงการบันเทิงตั้งแต่สมัยวัยรุ่น โดยทำตั้งแต่ ตัดต่อ ช่างไฟ ไปยัน ผู้ช่วยช่างภาพ เรียกได้ว่ามีประสบการณ์เกินอายุไปเยอะ หลังจากเรียนจบ เจ้าตัวก็มาทำงานเป็นพนักงานเต็มตัว ในฐานะโปรดิวเซอร์
ในตอนแรกๆนั้น นิสัยของดิษ เป็นแบบตรงไปตรงมา เป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ และสามารถมองเห็นPotential ของสิ่งที่น่าจะโด่งดังในอนาคตได้ แต่ว่าด้วยอายุเจ้าตัวที่ยังถือว่าไม่มากนัก ทำให้ไอเดียของเจ้าตัวมักถูกปัดตกไปหลายๆครั้ง นั่นทำให้ดิษ ต้องปรับตัวตามสภาพในการทำงาน กลายเป็นคนที่มีความสามารถในการประจบประแจงเป็นเลิศ สามารถขายไอเดียที่ดูงงๆแปลกๆ ให้ลูกค้าและผู้บริหารได้หลายต่อหลายครั้ง จนได้รับฉายาในที่ทำงานว่า "โปรดิวเซอร์ลิ้นทอง" เพื่อที่จะขายงานให้ผู้บริหารไฟเขียวได้ ดิษ ยอมทำทุกอย่าง ต่อให้ต้องนั่งคุกเข่าก็ตาม ทำให้เพื่อนเก่าของเขาหลายๆคนแทบจะไม่เชื่อสายตา เมื่อเห็นดิษ ที่เคยเป็นคนมีนิสัยเถรตรง กลายเป็นคนขี้ประจบประแจงไปซะแล้ว
นิสัยส่วนตัวนั้น ในสมัยก่อน ดิษ จะเป็นคนเงียบขรึม เป็นคนพูดจาฉะฉาน ตรงไปตรงมา ชอบอยู่คนเดียวบ่อยๆ เป็นแบบ ติสท์ๆหน่อย เรียกว่าเป็นคนหล่อเท่คนนึงก็ว่าได้
แต่ในปัจจุบัน ดิษ กลายเป็นคนเฮฮา ตลก และเข้ากับคนอื่นได้ดี และมักจะแสดงความขี้ขลาดออกมาอยู่บ่อยๆอย่างเช่น "เห้ยแบบนี้มันจะดีจริงๆน่ะหรอ" "แน่ใจนะว่าจะไม่ทำให้ฉันขายหน้า" เป็นต้น หลังจากเสร็จงาน เจษก็จะกลายเป็นพนักงานเงินเดือน ที่ใช้ชีวิตไปวันๆ เลิกงานเสร็จ ก็ไปเที่ยวคาราโอเกะ ดื่มเหล้า ตื่นเช้ามา ก็ทำงาน เลียแข้งเลียขาผู้บริหาร วนไปเรื่อยๆ
ดิษ มีสกิลในการพูดเป็นเลิศ เขามีคอนเนคชั่นมากมาย ทั้งสปอร์เซอร์ ผู้กำกับ ตากล้อง คนเขียนบท รวมถึงเหล่านักแสดงชื่อดังมากมาย ทำให้เมื่อไรที่โปรเจ็คของเขาได้รับการอนุมัติ ก็จะสามารถเปิดกล้องถ่ายทำได้ในเวลาไม่นาน ข้อเสียก็คือ ด้วยความที่สนิทสนมและชอบประจบประแจงคนนู้นทีคนนี้ที ทำให้เหล่าโปรดิวเซอร์ด้วยกันไม่ค่อยชอบขี้หน้าเขาเท่าไรนัก
อื่นๆ :
1.ถ้าคุณเห็นดิษ เมามาในเวลางาน ไม่ต้องตกใจ เพราะนั่นหมายความว่า เขาไปขายงานให้ลูกค้ามา ท่าไม้ตายที่ได้ผลทุกครั้งในการนำเสนอโปรเจคของเขาก็คือ การมอมเหล้าลูกค้านั่นเอง
2.ดิษ มักจะพรีเซ้นท์งานของเขาในสถานที่แปลกๆ เช่น คอกเทลเล้าจ์ อาบอบนวด และ สถานที่อโคจรอีกมากมาย ถ้าเจอลูกค้าใจบุญหน่อย ก็ขายระหว่างปฎิบัติธรรมเลย
OshiCapcher039- Posts : 20
Join date : 2018-08-20
Re: รับสมัคร Game of Drama (Illusion เก่า)
Thu Aug 27, 2020 9:34 am
รูป : (ลายเส้นการ์ตูน) Saber
ชื่อ : ชาลิสา พาณิชย์พัฒนา
ชื่อเล่น : วาโย
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 165 ซม. / 49 กก.
อายุ : 26 ปี
อาชีพ : เจ้าของสถานีโทรทัศน์
นิสัย + ประวัติ :
ค่อนข้างเนี๊ยบในการทำงานต่าง ๆ แต่ก็จะไม่ก้าวก่ายขบวนการคิดสร้างสรรค์ของคนอื่น แต่ด้วยความเนี๊ยบของเธอเองทำให้คนอื่น ๆ ค่อนข้างเกรงใจที่จะคุยด้วยเพราะว่าเป็นถึงเจ้าของสถานีคนอื่นเขาก็คงจะคิดว่าเธอเองนั้นคงจะถือตัวตามภาษาคนเป็นหัวหน้า แต่นิสัยของเธอเองจริง ๆ นั้นค่อนข้างไม่ถือตัวและเป็นกันเองก็คือสามารถคุยเล่นแบบเพื่อนได้เลยเธอไม่ได้ถือตัวและไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่งอะไรขนาดนั้น และด้วยความเป็นคนรุ่นใหม่ของเธอจึงทำให้เธอเข้าใจตลาดคนรุ่นใหม่มากกว่าว่าต้องการจะรับรู้สื่อเกี่ยวกับอะไร และเธอค่อนข้างมี connection มากมายเพราะว่าพ่อแม่ของเธอก็อยู่ในแวดวงธุรกิจ และแวดวงไฮโซ ทำให้เธอก็ค่อนข้างรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่มาพอสมควร
" วาโย " ชาลิสา พาณิชย์พัฒนา เกิดมาในตระกูลที่เพียบพร้อมด้วยทรัพย์สิน และโตขึ้นมาท่ามกลางหมู่ของคนรวยและผู้มีหน้ามีตาในสังคม ทำให้เธอค่อนข้างเป็นคนที่ติดหรูพอสมควรเลยแหละ แต่เมื่อเธอได้เรียนมหาลัยสังคมรอบข้างเธอก็เปลี่ยนไปเธอติดดินมากขึ้นและเข้าใจหัวอกคนอื่นมากขึ้น สังคมมหาลัยหล่อหลอมให้เธอกลายเป็นคนที่เข้าใจโลกมากขึ้น โลกที่ไม่ได้มีแต่พวกคนรวย และเมื่อเธอเรียนจบ เธอก็อยากจะทำธุรกิจของเธอขึ้นมาอย่างนึงซึ่งมันจะเป็นสิ่งที่เธอชอบที่สุด คือการทำ " สื่อ "
อื่นๆ : (ที่ไม่รู้จะใส่ไว้ตรงไหน)
- ไม่ชอบให้คนเรียกคุณวาโย ให้เรียกวาโยเฉย ๆ
- ชอบเลี้ยงข้าวพนักงาน
ชื่อ : ชาลิสา พาณิชย์พัฒนา
ชื่อเล่น : วาโย
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 165 ซม. / 49 กก.
อายุ : 26 ปี
อาชีพ : เจ้าของสถานีโทรทัศน์
นิสัย + ประวัติ :
ค่อนข้างเนี๊ยบในการทำงานต่าง ๆ แต่ก็จะไม่ก้าวก่ายขบวนการคิดสร้างสรรค์ของคนอื่น แต่ด้วยความเนี๊ยบของเธอเองทำให้คนอื่น ๆ ค่อนข้างเกรงใจที่จะคุยด้วยเพราะว่าเป็นถึงเจ้าของสถานีคนอื่นเขาก็คงจะคิดว่าเธอเองนั้นคงจะถือตัวตามภาษาคนเป็นหัวหน้า แต่นิสัยของเธอเองจริง ๆ นั้นค่อนข้างไม่ถือตัวและเป็นกันเองก็คือสามารถคุยเล่นแบบเพื่อนได้เลยเธอไม่ได้ถือตัวและไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่งอะไรขนาดนั้น และด้วยความเป็นคนรุ่นใหม่ของเธอจึงทำให้เธอเข้าใจตลาดคนรุ่นใหม่มากกว่าว่าต้องการจะรับรู้สื่อเกี่ยวกับอะไร และเธอค่อนข้างมี connection มากมายเพราะว่าพ่อแม่ของเธอก็อยู่ในแวดวงธุรกิจ และแวดวงไฮโซ ทำให้เธอก็ค่อนข้างรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่มาพอสมควร
" วาโย " ชาลิสา พาณิชย์พัฒนา เกิดมาในตระกูลที่เพียบพร้อมด้วยทรัพย์สิน และโตขึ้นมาท่ามกลางหมู่ของคนรวยและผู้มีหน้ามีตาในสังคม ทำให้เธอค่อนข้างเป็นคนที่ติดหรูพอสมควรเลยแหละ แต่เมื่อเธอได้เรียนมหาลัยสังคมรอบข้างเธอก็เปลี่ยนไปเธอติดดินมากขึ้นและเข้าใจหัวอกคนอื่นมากขึ้น สังคมมหาลัยหล่อหลอมให้เธอกลายเป็นคนที่เข้าใจโลกมากขึ้น โลกที่ไม่ได้มีแต่พวกคนรวย และเมื่อเธอเรียนจบ เธอก็อยากจะทำธุรกิจของเธอขึ้นมาอย่างนึงซึ่งมันจะเป็นสิ่งที่เธอชอบที่สุด คือการทำ " สื่อ "
อื่นๆ : (ที่ไม่รู้จะใส่ไว้ตรงไหน)
- ไม่ชอบให้คนเรียกคุณวาโย ให้เรียกวาโยเฉย ๆ
- ชอบเลี้ยงข้าวพนักงาน
CosmicTerrorAdmin- Posts : 53
Join date : 2018-08-20
Age : 25 
Re: รับสมัคร Game of Drama (Illusion เก่า)
Thu Aug 27, 2020 1:59 pm
รูป : Tazaki/Joker Game
ชื่อ : อนันต์ ดุจธรณี
ชื่อเล่น : พาน
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 185/78
อายุ : 31
อาชีพ : นักแสดง
นิสัย + ประวัติ : นักแสดงอันดับต้น ๆ ของประเทศไทยที่ผันตัวมาจากพิธีกรรายการข่าวชื่อดังจากค่ายสถานีชื่อดังที่ได้รับความนิยมช่วงหนึ่งเพราะว่าความมีเสน่ห์และคาริสม่าที่สูงของเขา หลังจากที่เห็นกระแสตอบรับที่ดี เขาจึงตัดสินใจผันตัวมาเป็นนักแสดงในบทละครต่าง ๆ โดยมีจุดเริ่มต้นจากละครในค่ายสถานีเดียวกัน ด้วยระดับความนิยมของเขา ก็ทำให้ละครเรื่องนั้นประสบความสำเร็จ และถนนสู่การเป็นนักแสดงจึงโรยด้วยกลีบกุหลาบ หลังจากนั้นมาเขาก็ยังได้รับความนิยมอยู่ แต่คำวิจารณ์ที่มากโขในสื่อโลกออนไลน์เป็นในทางเดียวกัน คือ เขารับแต่บทแบบเดิม ๆ ในละครแบบเดิม ๆ ก็ดังแต่แบบเดิม ๆ จนทำให้ตอนนี้กระแสก็เริ่มกำลังจะตกแล้ว
โดยตัวเขาเองเป็นคนที่อัธยาศัยดี พูดเก่ง มีเสน่ห์ มีคารมณ์ มีคาริสม่า เป็น extrovert พร้อมพบคนใหม่ ๆ เต็มที่ ชอบพบปะสังสรรค์กับทุกคน ทำให้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในฐานะพิธีกรรายการข่าวสมัยก่อน จนปัจจุบันมาเป็นนักแสดงก็ใช้ทักษะและนิสัยดังกล่าวให้เป็นประโยชน์ แต่เหตุผลที่เขาเอาแต่เล่นละครแบบเดิม ๆ ก็เป็นเหตุผลแบบเดิม ๆ เหมือนกัน ก็เพราะว่ามันได้รายได้ดี มีงานเข้าตลอด ไม่เห็นจำเป็นจะต้องเปลี่ยนอะไร เล่นแบบเดิม ๆ ก็ได้เงินตลอด ไม่เห็นต้องให้ตัวเองลำบากเลย จริง ๆ ตัวเองก็ไม่ได้ชอบมากนักหรอก แต่ว่าในใจลึก ๆ ก็คืออยากจะแสดงอะไรดี ๆ เจ๋ง ๆ แหวก ๆ บ้าง แต่มันไม่คุ้มที่จะเสี่ยงเอาชื่อตัวเองที่โด่งดังอยู่ไปทิ้ง
อื่นๆ : ชอบดูละครเวที และมีความฝันว่าอยากจะเห็นละครเวทีไทยโด่งดัง มีชื่อเสียง ก้าวไกลและทัดเทียมระดับโลก
ชื่อ : อนันต์ ดุจธรณี
ชื่อเล่น : พาน
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 185/78
อายุ : 31
อาชีพ : นักแสดง
นิสัย + ประวัติ : นักแสดงอันดับต้น ๆ ของประเทศไทยที่ผันตัวมาจากพิธีกรรายการข่าวชื่อดังจากค่ายสถานีชื่อดังที่ได้รับความนิยมช่วงหนึ่งเพราะว่าความมีเสน่ห์และคาริสม่าที่สูงของเขา หลังจากที่เห็นกระแสตอบรับที่ดี เขาจึงตัดสินใจผันตัวมาเป็นนักแสดงในบทละครต่าง ๆ โดยมีจุดเริ่มต้นจากละครในค่ายสถานีเดียวกัน ด้วยระดับความนิยมของเขา ก็ทำให้ละครเรื่องนั้นประสบความสำเร็จ และถนนสู่การเป็นนักแสดงจึงโรยด้วยกลีบกุหลาบ หลังจากนั้นมาเขาก็ยังได้รับความนิยมอยู่ แต่คำวิจารณ์ที่มากโขในสื่อโลกออนไลน์เป็นในทางเดียวกัน คือ เขารับแต่บทแบบเดิม ๆ ในละครแบบเดิม ๆ ก็ดังแต่แบบเดิม ๆ จนทำให้ตอนนี้กระแสก็เริ่มกำลังจะตกแล้ว
โดยตัวเขาเองเป็นคนที่อัธยาศัยดี พูดเก่ง มีเสน่ห์ มีคารมณ์ มีคาริสม่า เป็น extrovert พร้อมพบคนใหม่ ๆ เต็มที่ ชอบพบปะสังสรรค์กับทุกคน ทำให้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในฐานะพิธีกรรายการข่าวสมัยก่อน จนปัจจุบันมาเป็นนักแสดงก็ใช้ทักษะและนิสัยดังกล่าวให้เป็นประโยชน์ แต่เหตุผลที่เขาเอาแต่เล่นละครแบบเดิม ๆ ก็เป็นเหตุผลแบบเดิม ๆ เหมือนกัน ก็เพราะว่ามันได้รายได้ดี มีงานเข้าตลอด ไม่เห็นจำเป็นจะต้องเปลี่ยนอะไร เล่นแบบเดิม ๆ ก็ได้เงินตลอด ไม่เห็นต้องให้ตัวเองลำบากเลย จริง ๆ ตัวเองก็ไม่ได้ชอบมากนักหรอก แต่ว่าในใจลึก ๆ ก็คืออยากจะแสดงอะไรดี ๆ เจ๋ง ๆ แหวก ๆ บ้าง แต่มันไม่คุ้มที่จะเสี่ยงเอาชื่อตัวเองที่โด่งดังอยู่ไปทิ้ง
อื่นๆ : ชอบดูละครเวที และมีความฝันว่าอยากจะเห็นละครเวทีไทยโด่งดัง มีชื่อเสียง ก้าวไกลและทัดเทียมระดับโลก
Permissions in this forum:
You cannot reply to topics in this forum|
|
|