DWO City
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Go down
Gudomana
Gudomana
Posts : 52
Join date : 2018-08-20

Frostbite Empty Frostbite

Sun May 12, 2019 8:27 pm
ปี 2020

“ฟู่ววว”

ชายที่อยู่ภายใต้เสื้อผ้าที่หนาเปล่าลมหายใจที่ออกมาเป็นไอเย็น 
ใบหน้าชายคนนี้ดูอ่อนวัยและมีผิวเหลืองดั่งชาวเอเชีย 
ดวงตาของเขามองไปยังกวางที่ก้มลงและเล็มหญ้าบนพื้นหิมะ 
บุรุษผู้นี้หยิบศรธนูที่อยู่บนหลังและง้างศร ชายหนุ่มปล่อยมือออก 
ศรพุ่งตัดผ่านอากาศและปักเข้าที่ลำคอของกวาง เหยื่อแผดร้องด้วยความเจ็บปวด 
มันพยายามจะวิ่งหนี แต่ด้วยความเจ็บปวดทำให้มันล้มลงไปนอนบนกองหิมะที่เย็นยะเยือก 
เลือดไหลออกมาจากปากแผล หยดเลือดสัมผัสเข้ากับหิมะที่ขาวโพลน 
ก่อนมันจะย้อมสีขาวให้มีสีแดงจางๆปนอยู่ 

เมื่อผู้ล่าเห็นเหยื่อของมันไม่ขยับ นักล่าก็ก้าวออกมาจากจุดที่เขายืนอยู่ 
สุนัขพันธุ์ไซบีเรียนเดินตามเจ้านายของมัน บนแผ่นหลังของเจ้าตูบขนสีเทามีกระเป๋าหนังสะพายอยู่ 
ชายเอเชียย่อตัวลงไปและมองซากศพของกวาง เขาควักมีดนักล่าออกมาจากเอว 

“ถึงช่วงที่ชั้นไม่ชอบเท่าไหร่แล้ว” หนุ่มพูดกับตัวเอง

เขาใช้มีดแล่เนื้อของกวางออก เลือดกระเซ็นติดผิวของเขา 
เขาใช้เวลาไม่นานในการแล่ส่วนเนื้อที่เขาต้องการได้ทั้งหมด 
ชายหนุ่มเปิดกระเป๋าบนหลังสุนัขคู่กายและนำชิ้นเนื้อทั้งหมดใส่เข้าไปในนั้น 
ชายหนุ่มหยิบผ้าขึ้นมา ผืนผ้าซึมซับของเหลวสีแดงสดออกจากใบหน้า 
เขานำผ้าสีเทาเช็ดเข้ากับใบมีดที่เปื้อนไปด้วยเลือดต่อ 
เพียงแค่รูดเดียวของเหลวสีแดงก็ถูกเช็ดออกจนหมด 
นักล่าก้มมองสุนัขของเขาที่นัยน์ตาของมันสะท้อนภาพใบหน้าของชายหนุ่ม 
บนปอกคอสีน้ำเงินที่เปื้อนไปด้วยฝุ่นเขียนว่า “โอริโอ้” 

“ไปกันเถอะ โอริโอ้” ชายหนุ่มพูดกับสุนัขคู่ใจของเขาเบา

มันไม่เห่าตอบ แต่มันเดินตามเจ้านายมันที่เดินฝ่ากองหิมะ 
ทุกอย่างนั้นเงียบสงัด ไม่มีเสียงอะไรเลยนอกจากเสียงฝีเท้าของมนุษย์ 
ก้อนเมฆลอยละล่องไปบนฝืนนภาสีครามตามสายลม 
ลมเย็นยะเยือกสัมผัสผิวของบุรุษ แม้ลมจะหนาวเพียงใด 
แต่ด้วยชุดที่ปกป้องเขาจากลมหนาวทำให้ความหนาวไม่สามารถกัดกินร่างของเขาได้ 
ในขณะที่ทั้งสองกำลังเดินทาง พวกเขาก็ชะลอตัวลงเมื่อสุนัขของเขาส่งเสียงขู่ออกมาจากลำคอของมัน
ดวงตาของมนุษย์เบิกโพลนขึ้น มือของเขาดึงขวานปีนเขาออกมาจากหลัง 
เขาเงี่ยหูฟังและได้ยินเสียงคำรามอะไรบางอย่าง 

ชายหนุ่มหยุดอยู่ที่ชายผิวเทาที่ยืนหันหลังให้เขา 
ศีรษะของชายคนนี้ล้าน ตัวของเขาเอียงไปทางซ้ายเล็กน้อย 
มันหยุดกับที่ท่ามกลางหิมะที่ฝังเคี้ยวลงบนร่างของเขา 
ชายคนนี้ส่งกลิ่นเหม็นสาบเตะจมูกของทุกคนที่ได้กลิ่นของมัน 
บุรุษผู้นี้เดินตรงไปยังชายที่หันหลังให้ช้าๆ เสียงฝีเท้าของเขาเบาบาง 
เมื่อเขาเข้าใกล้กับเป้าหมาย เขาก็ง้างและใช้ขวานสับเข้าที่กลางศีรษะของชายคนดังกล่าว 
เลือดกระเซ็นติดเข้าใบหน้าที่เขาพึ่งเช็ดออกเมื่อกี้ 
ชายผิวเทาล้มลงและนอนแน่นิ่งท่ามกลางหิมะสีขาว 
เจ้าของขวานดึงขวานออก และใช้เท้าเขี่ยร่างของสิ่งที่เขาพึ่งฆ่าไปเมื่อครู่นี้

“ซอมบี้” ชายหนุ่มพูดกับตัวเองเบาๆ

ดวงตาชายหนุ่มมองซากศพที่นอนบนพื้น ผิวของมันเหี่ยว ดวงตาของมันไร้วิญญาณ 
เขายืนนิ่งพร้อมกับขวานไว้ในมือแน่น แม้ชีวิตของเขาจะสงบสุขเพียงใด 
แต่ทุกครั้งที่เขาเป็นสัตว์ประหลาดปรากฏอยู่ มันก็จะคอยเตือนเสมอว่า 

“โลกนี้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว”

//////////ปีที่แล้ว

“นายไม่ลืมอะไรนะ ลี” ชายผิวขาว รูปร่างสูงพูดกับชายเอเชีย
“ไม่ลืมอะไรแล้ว ชั้นเตรียมทุกอย่างที่ชั้นคิดว่าชั้นต้องใช้หมดแล้ว” ชายที่ถูกเรียกว่าลีตอบในขณะที่เขาปิดท้ายรถ

รถยนต์ของเขาเป็นรถ SUV สีเงิน สภาพของมันยังดูใหม่และรถไม่มีรอยขีดข่วน 
แม้ขนาดรถมันจะใหญ่ แต่ไม่มีผู้โดยสารคนอื่นนั่งอยู่บนรถ 
ลีเดินไปเปิดประตูคนขับที่อยู่ทางซ้ายมือ เขาหันไปมองเพื่อนของเขาที่ยืนอยู่ข้างรถสีเงิน 

“พวกเราต้องคิดถึงนายมากแน่ๆ” เพื่อนของลีพูดกับคนขับผ่านทางกระจกที่ลดลง
“นายก็เว่อร์ไปน่า ชั้นแค่ไปพักร้อนซักสัปดาห์สองสัปดาห์เอง” ลีพูดพร้อมกับยิ้มให้กับเพื่อนตัวเอง
“ฮ่ะๆ นายพูดถูก อย่าลืมของฝากชั้นด้วยล่ะ” ฝรั่งกล่าว
“แน่นอน ชั้นไม่ลืมแน่” คนขับยิ้มและขับรถออกจากที่จอดรถ

หน้าต่างรถเลื่อนปิด หนุ่มเอเชียใช้มือของเขาเปิดวิทยุบนรถ 
ดนตรีแนวป๊อปดังขึ้นในรถ คนขับใช้นิ้วเคาะกับพวงมาลัยไปตามจังหวะของเพลง
ทิวทัศน์เปลี่ยนไปตามระยะทางที่รถวิ่ง 
จากเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คนและรถรามากมาย เป็นถนนที่นานทีถึงจะมีรถขับสวนทางกับเขา 
ลีเหลือบมองทิวทัศน์นอกหน้าต่างทางซ้าย ทุ่งหญ้าสีเขียวกจีปรากฏให้เห็นตลอดทั้งทาง 
เบื้องหลังทุ่งหญ้าคือเงาของหุบเขา ในขณะที่ลีกำลังดื่มด่ำกับธรรมชาติ 
เสียงเพลงก็ถูกตัดและแทนที่ด้วยเสียงผู้ประกาศสาว

“ขณะนี้ทางรัฐบาลได้ออกมาเปิดเผยว่า มีเชื้อโรคระบายอยู่ในหลายพื้นที่ของสหรัฐฯ ขอให้ประชาชนคอยระมัดระวัง และรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีหากพบอาการผิดปกติ” 

เสียงประกาศดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่เพลงจะกลับมาเล่นเหมือนเดิม 
ลีไม่ได้สนใจเสียงประกาศ เพราะใจของเขาจดจ่ออยู่ที่การพักร้อนที่เขารอคอยมาอย่างเนิ่นนาน 
ในที่สุดเขาก็ขับมาถึงจุดหมาย เขานำรถของเขาไปจอดตรงจุดหมาย 
ชายหนุ่มดับเครื่องและก้าวลงมาจากรถ ลีสะพายกระเป๋าเป้และลากสัมภาระออกมาจากท้ายรถ 
ลีลากกระเป๋าและเดินผ่านป้าย “หุบเขา ซิลเวอร์ ซัมมิท” 

เสียงวิหคที่แผดร้องดังขึ้นตลอดทาง 
ผสมผสานกับเสียงฝีเท้าของลีที่เหยียบย่ำบนทางเดินที่ถูกปากไว้ 
สองข้างทางเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียวและต้นไม้ใบเขียวกจี 
สายลมเย็นๆแตะผิวหนังของลี อีกไม่นานฤดูเหมันต์จะมาเยือนพร้อมกับความหนาว

“โฮ่งๆ” 

ลีหันไปตามเสียง สุนัขสีขาวดำตัวขนาดใหญ่วิ่งตรงมาด้วยใบหน้าเป็นมิตร 
ลีเห็นสุนัขเขาก็ยิ้มและย่อตัวพร้อมกับใช้มือลูบขนบนศีรษะของมัน

“ไง พ่อหนุ่ม หลงมาหรอ?” ลีพูดกับสุนัขด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

ลีมองปลอกคอของสุนัขตัวนี้ มันมีข้อความเขียนไว้ว่า “โอริโอ้” 
ลีกวาดตาไปรอบๆหาเจ้าของสุนัขในขณะที่นิ้วเกาคอโอริโอ้ 
สุนัขดูชื่นชอบกับสัมผัสรักของลี ชายเอเชียหยุดและยืนตรง

“ดูชั้นคงต้องเอานายไปฝากไว้กับพนักงานก่อนแฮะ” ลีพูดพร้อมเกาเส้นผมสีดำ

นักท่องเที่ยวเริ่มออกเดิน สุนัขเดินตามราวกับเขาเป็นเจ้าของมัน 
ลีเดินทางถึงทางแยกและพบกับชายร่างท้วมที่ในมือถือกระป๋องเบียร์ 
ใบหน้าของชายคนนี้ดูแก่ชรากว่าลีมากเป็นสิบๆปี ผมบางศีรษะของเขาค่อนข้างบางเบา 
หากมองจากด้านบนลงมือคงเห็นหนังศีรษะ เขาก้มมองสุนัข และถามชายหนุ่มที่เดินนำหน้า

“หมานายหรอ?” ชายอ้วนถาม
“อ่อ เปล่าครับ ผมแค่เจอมันหลงมา และกำลังจะพามันไปฝากไว้กับพนักงาน” ลีตอบด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร
“แต่มันดูติดนายนะ” ชายอ้วนพูดโดยมองสุนัขสีดำขาวที่เดินเคียงข้างชายชาวเอเชีย
“ฮ่ะๆ ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไม” ลีหัวเราะตอบ

“ชั้นชื่อ บ๊อบ ยินดีที่รู้จัก” บ๊อบยื่นมือมา
“แอนดรูว์ ลี ยินดีที่รู้จักเช่นกัน” ลีคว้ามือในขณะที่เขากำลังก้าวเท้ามาข้างหน้า
“ผมไม่เคยเจอคุณมาก่อนเลย ครั้งแรกหรอ?” ชายชาวเอเชียเป็นฝ่ายถามขึ้นมาบ้าง

“ใช่ เมียชั้นกับลูกชั้นอยากมาตั้งแคมป์ในฤดูร้อน” 
“ถ้าชั้นไม่ไป เดี๋ยวเมียได้หย่ากับชั้นพอดี” น้ำเสียงของบ๊อบเต็มไปด้วยความเซ็งแซ่ เขากระดกกระป๋องเบียร์เข้าปาก
“บางทีคุณอาจจะชอบก็ได้นะ ตอนมาครั้งแรกผมก็ไม่ชอบเท่าไหร่” ลีมองโลกแง่ดี

“นายมาที่นี่บ่อยหรอ?” อ้วนถาม
“มาครั้งแรกก็ประมาณ 6 ปีที่แล้ว หลังจากนั้นผมก็มาตลอด ตั้งแต่ผมคบกันแฟนจนตอนนี้เลิกกันไปแล้ว” ลีหัวเราะให้กับความเจ็บปวดของตัวเอง
“เหมือนนายจะชอบที่นี่นะ” บ๊อบถามต่อ
“มันทำให้ผมได้หนีจากความวุ่นวายน่ะ งานของผมในฐานะคอลลัมนิสต์เป็นงานที่ทำให้ผมประสาทเสียไม่น้อย ทั้งเรื่องเดธไลน์ ยอดขาย ความน่าสนใจของเนื้อหา” 
“พอฟังแบบนี้แล้ว มันก็ทำให้ชั้นรู้สึกว่าเป็นพนักงานเงินเดือนก็ไม่แย่” บ๊อบพูดหลังเป่าปาก

“นายพักที่กระท่อมไหน?” บ๊อบกลับมาเป็นฝ่ายถาม
“บริเวณ 7 หลังที่ 2” ลีตอบ
“ไม่ห่างกับที่ครอบครัวชั้นพักเท่าไหร่ เราคงมีโอกาสได้เจอกันบ่อยๆนะ” บ๊อบพูด

“ถ้างั้นชั้นไปก่อนล่ะ หวังว่าจะได้เจอกันอีกนะ ลี” บ๊อบกล่าวลา
“เช่นกัน” ลีตอบรับด้วยรอยยิ้ม

เมื่อทั้งสองแยกจากกัน ชายชาวเอเชียก็ตรงไปยังเล้าจ์ไม้ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางอุทยาน 
เขาเข้าไปเดินพูดคุยและทำเรื่องหาตัวเจ้าของสุนัขตัวนี้ 
ทว่าประกาศไปเท่าไหร่ก็ไม่มีใครปรากฏตัวมารับสุนัขของตนเอง 

“ถ้างั้นฝากเบอร์โทรศัพท์มือถือของผมไว้ก่อนละกัน ถ้ามีใครมาให้โทรมาเบอร์นี้” ลีพูดพร้อมกับยื่นนามบัตรของตัวเองให้กับพนักงานที่อยู่หลังเค้าเตอร์ เธอรับไว้ก่อนที่ลีจะเดินออกจากเล้าจ์พร้อมๆกับสุนัข
“ดูเหมือนเราคงต้องอยู่ติดกันพักนึงนะ” ชายเอเชียพูดกับสุนัขตัวเองที่มองหน้าของชายแปลกหน้า


/////คืนนั้น

ท้องฟ้ามืดมิด อากาศเย็นลงตามธรรมชาติ ลีนั่งอยู่บนเก้าอี้ในกระท่อมไม้ของเขา 
มันเป็นกระท่อมไม่ใหญ่มาก มันมีเตียง มีตู้เย็น และห้องน้ำให้ใช้ มันไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าให้เลือกใช้มาก
เนื่องจากสถานที่แห่งนี้ต้องการให้เป็นอุทยานพักผ่อนตามธรรมชาติ 
ในมือของลีมีหนังสืออยู่เล่มหนึ่ง มันเป็นหนังสือปกสีขาวที่เต็มไปด้วยคราบสกปรก 
นอกจากนี้ยังมีข้อความสีเทาที่เขียนว่า “ยามโลกล่มสลาย” 
บนพื้นใกล้เตียงนอน มีโอริโอ้ที่นอนแนบกับผ้าที่ลีปูไว้ให้

“ตึงๆ”
“ลี!!” เสียงตะโกนของบ๊อบดังขึ้นหลังจากที่เคาะประตูกระท่อม

ลีที่ตกใจเสียงตะโกนก็รีบลุกจากที่นั่งและตรงเปิดประตู 
เขาเห็นชายร่างท้วมในเสื้อกล้าม เสื้อกล้ามเขาเปื้อนเลือด 
บ๊อบใช้มือข้างขวาปิดแผลบริเวณแขนข้างซ้าย 
ของเหลวสีแดงไหลออกมาจากปากแผลและหยดบนพื้นเป็นทางยาว

“เกิดอะไรขึ้น?” ลีถามด้วยดวงตาเบิกโพลน
“ชะ ชั้นเองก็ไม่รู้ มะ มันมีชายคนนึงเข้ามา แล้วมัน...พระเจ้า”
“มันเข้ามา…” บ๊อบที่หวาดกลัวพูดจาไม่รู้เรื่อง
“หายใจลึกๆนะ บ๊อบ...เกิดอะไรขึ้น” ลีถามอีกครั้ง

“มีใครก็ไม่รู้บุกเข้ามาในกระท่อมเรา แล้วกัดคอเมียของชั้นกับลูกชั้น” บ๊อบสูดหายใจและเล่าให้ฟัง
“ก่อนที่มันจะกัดแขนชั้น” บ๊อบโชว์ผลให้ดู มันเป็นรอยเคี้ยวที่ฝังลงบนแขนของบ๊อบ
“พระเจ้า” ลีอุทานออกมา
“นายมาช่วยชั้นหน่อยได้ไหม” ชายร่างท้วมพูด

“โอเค ได้รอแปปนึงนะ” ลีเดินไปและหยิบขวานปีนผาขึ้นมาในมือ 
“เดี๋ยวผมจะโทรเรียก 911 ด้วย” ลีพูดพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา

เสียงสัญญาณโทรศัพท์มือถือดังขึ้นเมื่อนิ้วกดปุ่มสีเขียว ทว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจรับสายของลี

“ไม่มีใครรับ...ผมจะลองโทรไปเรื่อยๆตอนเดินไปละกัน” ลีพูดกับบ๊อบที่ใบหน้าหวาดกลัว
“นำทางผมไปหน่อย” ชายชาวเอเชียพูดต่อ

บ๊อบพยักหน้าและเริ่มเดินนำลี เขาก้าวเท้าอย่างเร่งรีบ พร้อมกุมบาดแผลของตัวเอง 
เลือดยังคงหยดตามทาง ลีเดินตามและยังคงพยายามที่จะติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 
ทว่าไม่มีใครรับสัญญาณขอความช่วยเหลือจากเขา 
ยิ่งก้าวไปเรื่อยๆ ความกังวลเริ่มก่อตัวขึ้นในใจของลี 
เขาเริ่มรู้สึกได้ว่าเหตุการณ์แปลกประหลาดกำลังเกิดขึ้นรอบตัวเขา 
ไม่ทันที่จะถึงที่เกิดเหตุบ๊อบก็หยุดเดินและยืนนิ่งอยู่กับที่

“บ๊อบ?” ลีลดโทรศัพท์มือถือลงและขานชื่อเพื่อนใหม่

บ๊อบหันกลับมาช้าๆ ผิวหนังของเขาซีด ดวงตาของเขาว่างเปล่าราวกับไร้วิญญาณ 
บ๊อบเริ่มก้าวเท้ามาหาลีช้าๆ พร้อมกับส่งเสียงคำรามที่ดุร้าย

“บ๊อบ เกิดอะไรขึ้น” ลีถามซ้ำด้วยความฉงน

ทว่าเมื่อชายชาวเอเชียรู้ตัว บ๊อบก็อยู่ตรงหน้าและกดลีลงไปกับพื้น 
ขวานของลีและโทรศัพท์มือถือหลุดออกจากมือและตกอยู่ข้างๆ 
บ๊อบที่ง้างเคี้ยวพยายามจะกัดกินร่างของชายหนุ่ม 
ลีใช้มือยันร่างของผู้โจมตีเขาไว้ก่อนจะตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงสับสน

“บ๊อบ แกทำบ้าอะไรของแก บ๊อบ!!” ชายที่ถูกจู่โจมขานชื่อเพื่อเรียกสติของชายร่างท้วม

ด้วยน้ำหนักของเขาทำให้ชายหนุ่มไม่สามารถยกบ๊อบออกไปจากตัวเองได้ 
ลีเอื้อมมือไปหาขวานที่อยู่ใกล้ๆ เจ้าของขวานคว้ามันไว้และใช้ขวานสับเข้าที่ศีรษะของศัตรู 
เลือดกระเซ็นติดใส่ใบหน้าของลี บ๊อบหยุดนิ่ง ลีรีบผลักร่างของบ๊อบออก 
และมองสิ่งที่ตัวเองทำลงไป เลือดสดๆหยดจากคมขวาน ใบหน้าของลีเปื้อนไปด้วยเลือด 
เขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เขาทำลง เขากลายเป็น “ฆาตกร” เสียแล้ว
ลีที่หมดเรี่ยวแรงเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือจากเพื่อนและเรียกสายเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง 
คราวนี้มีคนรับสาย

“คุณตำรวจ ผมฆ่าคนต-” 
“ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรับมือกับกลุ่มซอมบี้จำนวนมากที่ระบายทั่วประเทศ”
“ขอให้ประชาชนรีบไปศูนย์หลบภัยทันที” เสียงที่ตอบรับลีเป็นเสียงบันทึกของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ใบหน้าของลีเต็มไปด้วยความสับสน เสียงบันทึกเล่นอีกครั้ง 
หนุ่มเอเชียยกหูลงและกดวางสาย มือของเขารีบเข้าอินเตอร์เน็ต 
สิ่งแรกที่เขาเห็นคือข่าวสารเกี่ยวกับซอมบี้จำนวนมาก 
ดวงตาสีดำมองข้อความที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอมือถือ มันเป็นวินาทีที่โลกกำลังจะเปลี่ยนไป 
ลีลดมือถือลงและเงยมองขึ้นท้องฟ้าที่มืดมิด

“ว้อด เดอะ ฟั-” 
Gudomana
Gudomana
Posts : 52
Join date : 2018-08-20

Frostbite Empty Re: Frostbite

Tue May 14, 2019 1:36 pm
Episode 1 : Encounter

///ปัจจุบัน


ลีลืมตาตื่นขึ้นมา สิ่งแรกที่ผู้รอดชีวิตเห็นคือดวงตากลมสีดำคู่หนึ่งที่จ้องหน้าเขา 
มันเป็นดวงตาของสหายคู่ใจ หนุ่มเชื้อสายเอเชียยิ้มและลุกขึ้นมานั่งบนเตียง
 มือของชายหนุ่มลูบขนสีขาวดำของโอริโอ้ ลีลุกขึ้นมาจากเตียง 
เขานำอาหารสุนัขเทลงไปชามสีแดงที่วางอยู่บนพื้นไม้ 
โอริโอ้รีบกระโดดลงมาจากเตียงและกินอาหารที่อยู่ในชาม 
ลีนั่งลงบนเตียงและมองโอริโอ้ที่นั่งกินอาหารอยู่บนพื้น ลีมองออกไปนอกหน้าต่าง 
สิ่งที่เขาเห็นคือหิมะที่ขาวโพลน แม้เขาจะอยู่ในกระท่อมไม้ที่มิดชิด 
แต่ด้วยอากาศที่หนาวเกือบเลขหลักเดียว ทำให้ลียังสามารถรู้สึกได้ถึงความหนาวจากภายนอก 

“โอริโอ้ เดี๋ยวเราจะออกไปสำรวจข้างนอกกันนะ” ลีพูดกับสุนัข
“โฮ่ง” มันเห่าตอบราวกับเข้าใจในสิ่งที่ชายหนุ่มพูด

ลีคว้าเสื้อกันหนาวมาสวม มันเป็นเสื้อตัวเดิมกับที่เขาใส่เมื่อวาน 
เขาคว้าเอาอุปกรณ์จำเป็น รวมไปถึงธนูคู่กายของเขา ลีผลักประตูบ้าน 
ฮัสกี้ก็เดินตามเขาไป มันเป็นอีกวันที่เงียบสงบท่ามกลางโลกที่วุ่นวาย 
ท้องฟ้าสีฟ้าครามราวกับผืนนภากำลังมีความสุข 
นักสำรวจเดินไปตามเส้นที่วางไว้ในหัว แม้พื้นมันจะถูกคลุมด้วยหิมะ 
แต่มันก็ไม่เป็นอุปสรรคในการเดินทางสำหรับชายหนุ่ม 
เขาเดินมาถึงกระท่อมไม้หลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ข้างๆกระท่อมไม้อื่นๆที่หน้าตาไม่ต่างกัน 
ลีชะโงกผ่านหน้าต่างเข้าไป นอกจากข้าวของที่กระจัดกระจาย เขาก็ไม่เห็นสิ่งมีชีวิตอย่างอื่น

“แอ๊ด” ลีเปิดประตูไม้ช้าๆเพื่อไม่ให้เกิดเสียงดัง

ลีย่องและกำขวานในมือแน่น เมื่อชายหนุ่มไม่เห็นอสูรกายในสถานที่เขาอยู่ 
ลีก็ลดขวานลง และเริ่มคุ้ยกระเป๋าและตู้ 

“ไหนดูซิมีอะไรบ้าง...มันฝรั่งทอดกรอบ...ขนมถุง” ลีบรรยายสิ่งที่ตัวเองเจอในขณะที่เขากำลังค้นหาสิ่งของในกระเป๋าที่ตกอยู่บนพื้น
“น้ำขวด ยาสีฟัน…” ลีหยิบของที่สามารถช่วยให้เขามีชีวิตรอดได้มาวางไว้ข้างตัว 

ลียังค้นกระเป๋าต่อไปเรื่อยๆและเขาก็พบกับรูปของชายวัยกลางคนและลูกชายที่ดูเหมือนเป็นวัยรุ่นยืนคู่กัน 
ใบหน้าทั้งสองยิ้มแย้มและดูมีความสุข ดูจากบรรยากาศข้างหลังและชุดที่วัยรุ่นสวมใส่แล้ว มันเหมือนเป็นวันเรียนจบระดับไฮล์สคูล 
หลายครั้งที่ลีเห็นรูปพวกนี้เขามักสงสัยว่าชะตากรรมของในรูปเป็นเช่นใด 
ลีวางรูปลงที่เดิมและนำของจำเป็นที่เขาพบเก็บใส่กระเป๋าทั้งหมด และยืนขึ้นมาจากพื้น 
ลีก้าวเท้าออกจากกระท่อมพร้อมกับสุนัขคู่ใจของตัวเอง ลีปิดประตูเบาๆเพื่อไม่ให้เกิดเสียง
ชายหนุ่มหยิบมีดขึ้นมาและขูดแผ่นป้ายสีทองที่บอกเบอร์ห้อง
เพื่อทำสัญลักษณ์ว่าสถานที่แห่งนี้ ได้รับการสำรวจแล้ว 

“ไปกันต่อเถอะ” ลีพูดกับโอริโอ้ที่จ้องมองใบหน้าของเจ้านาย

ลีเดินไปตามเส้นทาง ทว่าในขณะที่ลีเข้าใกล้จุดหมาย 
โอริโอ้ก็เริ่มส่งเสียงขู่ เจ้านายของสุนัขที่เห็นปฏิกริยาของสัตว์เลี้ยง 
ก็หยิบธนูออกมาจากแผ่นหลังของเขา ชายผมดำก้าวเท้าช้าๆไปข้างหน้าด้วยความระมัดระวัง 
ดวงตาของลีกวาดไปรอบๆเพื่อหาผู้รุกรานอาณาจักรของเขา ลีเดินผ่านต้นไม้จำนวนมาก 
รอบๆต้นไม้มีเชือกผูกไว้อยู่ เขาตรงลึกเข้าไปในพงไพร ยิ่งลึกเข้าไปในพงไพร ต้นไม้ยิ่งเยอะขึ้นเรื่อยๆ
ชายชาวเอเชียหยุดลงเมื่อเขาเห็นหญิงชาวเชื้อสายเอเชียอีกคนที่ห้อยหัวอยู่ข้างหน้าเขา 
ถ้าให้บอกตามตรงเธอเป็นคนที่มีใบหน้าที่ทั้งคมเข้มและงดงาม 
เชือกพันข้อเท้าของเธอทำให้อยู่ตำแหน่งนี้ อายุของเธอดูไม่แตกต่างจากลีเท่าไหร่นัก 
เธอเป็นหญิงตัวเล็กและรูปร่างบาง โอริโอ้ส่งเสียงเห่าและขู่สลับกันไป 
ชายถือธนูง้างธนูไปยังหญิงที่กับดักพร้อมกับพูดจาข่มขู่

“เธอเป็นใคร?” 
“ชั้นชื่อวาตานาเบะ ริเอะ ชั้นแค่มาหาอาหารแถวนี้” หญิงคนนี้พูดกับชายที่มีอาวุธจ่อมาทางเธอ
“ได้โปรดช่วยแก้เชือกให้ชั้นที” ริเอะที่พึ่งแนะนำตัวขอร้อง

ลียืนเงียบ ทั้งเขาและโอริโอ้ยังคงมีท่าทีไม่เปลี่ยนแปลงต่อสาวแปลกหน้าผู้นี้

“ถ้านายไม่เชื่อใจชั้น ปืนของชั้นตกอยู่บนพื้น ชั้นให้นายไปก่อนเลยก็ได้” ริเอะพูดต่อ

เขาก้มมองไปบนพื้นหิมะตามคำพูดของริเอะและเห็นปืนตกอยู่ 
ลีเงยหน้าขึ้นมามองหญิงที่ออกอาหารที่ห้อยหัวอยู่ 
ชายผมดำถอนหายใจออกมาเป็นไอเย็นและลดธนูลง ลีตรงไปคว้าปืนขึ้นมา และใช้มีดหั่นเชือกออก หญิงสาวตกลงมาและหลังกระแทกกับกองหิมะที่เย็นยะเยือก 
เธอกล่าวขอบคุณในขณะที่เธอพยุงตัวเองขึ้นมาจากกองหิมะ

“รีบไปจากที่นี่ซะ ที่นี่เป็นพื้นที่ของชั้น” ดวงตาของลีเต็มไปด้วยความแข็งกระด้าง 
“แล้วคุณพอจะมีอาหาร จะแบ่งพวกเราไหม พวกเราไม่ได้กินข้าวมาหลายวันแล้ว” ริเอะพูดโดยไม่ได้สนใจคำสั่งของเจ้าของพื้นที่
“พวกเรา?” ลีทวนคำพูดของริเอะ
“ชั้นกับผู้รอดชีวิตอาศัยอยู่ในโรงเรียนแถวๆนี้ ในนั้นมีพวกเราอยู่หลายคน และตอนนี้อาหารก็เหลือน้อยมาก” ริเอะเล่าให้ฟังคร่าวๆ
“ขอร้องล่ะ จะให้ชั้นทำอะไรก็ยอม แบ่งอาหารให้พวกเราเถอะ” ริเอะกล่าวขอร้องพร้อมกับก้มหัวขอร้องลี

ลียืนเงียบชั่วครู่ โอริโอ้ยังคงเสียงขู่เช่นเคย 

“ก็ได้ ตามชั้นมา แต่ถ้าเธอคิดจะเล่นตุกติกอะไร ชั้นยิงเธอแน่” ลีขู่
“ขอบคุณมากค่ะ” ริเอะกล่าวขอบคุณด้วยรอยยิ้ม

ลีเดินนำหญิงปริศนาคนนี้ ไม่นานทั้งสองก้าวออกมาจากป่า 
เจ้าถิ่นเดินห่างริเอะมากเพื่อไม่ให้เธอสามารถขโมยปืนหรือทำร้ายร่างกายได้ 

“เอ่อ ชั้นยังไม่รู้ชื่อคุณเลย” ริเอะกล่าวจากข้างหลัง
“แอนดรูว์ ลี” ลีหันไปตอบ
“แอนดรูว์ ลี...หรือว่าคุณคือแอนดรูว์ ลี นักเขียนในนิตยสารรึเปล่า?!” สีหน้าของริเอะเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

“อืม ชั้นเองแหละ รู้จักชั้นหรอ?” น้ำเสียงของลีอ่อนลงหลังจากที่ได้ยินเสียงตื่นเต้นของหญิงสาว
“รู้จักซิ ชั้นเป็นแฟนตัวยงบทความของคุณเลย” ริเอะพูดต่อ
“เวลาชั้นนั่งรถสายตรวจและไม่มีอะไรทำ ชั้นก็จะหยิบนิตยสารของคุณมาอ่าน” แฟนคลับพูดต่อ

“รถสายตรวจ...เธอเคยเป็นตำรวจงั้นหรอ” ลีเปลี่ยนประเด็น
“ค่ะ ชั้นเคยเป็นตำรวจมาก่อน” ริเอะยืนยัน
“แปลกดีนะ พอเราพูดถึงอดีตของเรา เรายังรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องไม่นานนี้อยู่เลยทั้งๆที่มันเกิดขึ้นมาปีนึงแล้ว” ริเอะรำพึง
“อ่า…” ลีเห็นด้วย

“จ๊อก” เสียงท้องของริเอะร้องขึ้นมา
“บางทีเธอก็ควรจะหาอะไรกินด้วยนะ” ลีพูดติดตลก

ทั้งสองมาถึงหน้ากระท่อมของลี ลีก้าวเข้าไปในห้องส่วนริเอะยืนรออยู่ข้างนอก 
ชายวัยเกือบ 30 นั่งลงบนหิมะและก่อกองไฟเพื่อย่างเนื้อกวาง 
ริเอะที่ยืนมองกลืนน้ำลาย ดวงตาของเธอจับจ้องที่เนื้อกวาง 
สายตาของเธอเต็มไปด้วยความหิวกระหาย

“นั่งลงซิ” ลีเชื้อเชิญให้ริเอะนั่งลง

ริเอะนั่งลงไปในกองหิมะ เธอสัมผัสได้ถึงความเย็นบนพื้น 
แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกนัก โอริโอ้เดินมาและหมอบตัวข้างๆ 
เจ้านายคนปัจจุบันของมัน ลีใช้ศีรษะลูบศีรษะของมัน เจ้าตูบดูเคลิบเคลิ้มกับฝ่ามือของชายหนุ่ม

“แล้วที่โรงเรียนที่มีผู้รอดชีวิตเป็นยังไงบ้าง” ลีพูดในขณะปิ้งเนื้อกวางให้สุก
“ตอนแรกๆมันก็ดูดีอยู่หรอก พวกเรามีแปลงปลูกผัก มีฟาร์มไก่” ริเอะเล่า
“แต่พอเข้าฤดูหนาว ทุกอย่างมันก็แย่ลงอย่างชัดเจน” อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจเล่าให้ฟัง
“อ่าฮะ” ลีตอบรับ

“แล้วของคุณล่ะ ลี?” ริเอะถามบ้าง
“ตอนแรกๆก็มีคนอยู่นี่บ้าง แต่ไม่กี่วัน คนเหลือน้อยลงเรื่อยๆ และท้ายที่สุดก็เหลือชั้นคนเดียวนี่แหละ” ลีหันมาตอบ
“ชั้นว่าชั้นไม่ได้คุยกับคนมาเกือบปีแล้วเหมือนกัน” ลีหัวเราะ

“จะว่าไปเธอชื่อวาตานาเบะ ริเอะ เธอย้ายมาจากญี่ปุ่นหรอ?” ลียกเนื้อกวางห่างออกจากไฟ เพื่อดูความสุกของมัน
“ชั้นย้ายมาตอนที่ชั้นเรียนอยู่มัธยม เพราะพ่อของชั้นได้เลื่อนตำแหน่งให้มาทำงานที่นี่”
“ลำบากเหมือนกับการปรับตัวที่นี่” ริเอะเล่าอดีตของตัวเอง

ลีพยักหน้า เขานำเนื้อกวางที่เหลือวางไว้บนจาน และใช้มีดหั่นเนื้อออกไปสองส่วน และยื่นไปให้หญิงสาวที่นั่งตรงข้ามกับเขา

“คุณล่ะ ลี? ชื่อคุณเป็นอเมริกัน แต่หน้าคุณ เอ่อ…” ริเอะพยายามเลือกคำพูดในระหว่างตั้งคำถาม
“แต่หน้าชั้นไม่เหมือนพวกฝรั่งอ่ะนะ” ลีถามด้วยรอยยิ้ม

ริเอะพยักหน้าในขณะที่เธอนำเนื้อเข้าปาก

“บรรพบุรุษชั้นย้ายมาอเมริกาตั้งนานแล้ว และชั้นก็เกิดและโตที่อเมริกา” ลีตอบพร้อมกับนำอาหารเข้าปากบ้าง
“เนื้อกวางเป็นไงบ้าง?” 
“อร่อยค่ะ” ริเอะตอบสั้นๆพร้อมกับนำเนื้อเข้าปาก

ลีพยักหน้าและยืนขึ้น เขาเดินกลับเข้าไปในกระท่อม ลีเปิดประตู้เย็นที่ไม่ทำงาน 
ภายในมีอาหารกระป๋องมากมายหลายชนิดวางเรียงกันอยู่ 
ลีหยิบอาหารกระป๋องจำนวนหนึ่งออกมาและใส่กระเป๋าอีกใบ 
ลีออกมาจากกระท่อมตัวเองและนำกระเป๋าที่มีอาหารกระป๋องยื่นให้ ริเอะทำหน้างุนงงแต่รับไว้ 
เธอวางมันลงและเปิดซิบกระเป๋า เมื่อเธอเห็นสิ่งของภายใน 
ดวงตาก็เบิกโพลนและมองหน้าของลีที่ยืนอยู่ข้างหน้าเธอ 

“ชั้นคงให้หมดไม่ได้หรอกนะ เพราะชั้นเองก็คงต้องกินเหมือนกัน” ลีพูดตามตรง
“ชั้นเข้าใจ แค่คุณลี แบ่งอาหารให้พวกเรา ชั้นก็ดีใจแล้ว” ริเอะยิ้มให้และรูดซิบกระเป๋า

ริเอะกินเนื้อกวางหมดและลุกขึ้นมา ลียังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม 

“แล้วคุณต้องการอะไรจากชั้น?” ริเอะถามด้วยสีหน้ากังวล
“ห๊ะ อ่อ ไม่ต้องหรอก ถือว่าชั้นช่วยละกัน” ลีปฏิเสธ
“จะดีหรอ?” ริเอะถามเพื่อความมั่นใจ

“พอดีชั้นเป็นพวกชอบหลอกตัวเองน่ะ ชั้นยังชอบคิดว่าโลกนี้ปกติดีอยู่”
“และการที่ชั้นได้ช่วยคนอื่น มันก็ทำให้ชั้นยังเชื่อว่าโลกนี้ยังปกติอยู่” ลีตอบด้วยรอยยิ้ม

แม้เขาจะยิ้มออกมา แต่รอยยิ้มของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง 
ริเอะเงียบ เธอพยักหน้าและกล่าวขอบคุณอีกครั้ง 
ลีหยิบปืนที่เขาเหน็บไว้ในกระเป๋ากางเกงออกมาและยื่นให้กับริเอะ

“ชั้นคงต้องคืนมันด้วย ไม่งั้นเธอคงไม่มีอาวุธป้องกันตัวตอนขากลับ” ลีพูด

ริเอะมองและรับปืนไว้

“ขอบคุณมากค่ะ ถ้าไม่ได้คุณลีวันนี้ ชั้นคงลำบากมากแน่ๆ” ริเอะกล่าวขอบคุณอีกครั้ง เธอลืมเลือนไปแล้วว่าวันนี้เธอเปล่งวาจาคำนี้ออกมากี่ครั้ง
“คุณลี มาอยู่กับพวกเราไหม ถ้าได้คนแบบคุณ มันคงดีมากแน่ๆ” ริเอะเอ่ยเชิญชวน
“ไม่ล่ะ ชั้นอยู่ห่างกับคนอื่นมานานแล้ว และชั้นก็ชอบวิถีชีวิตแบบนี้” ลีปฏิเสธ
“ถ้างั้นชั้นหวังว่าเราจะได้พบกันอีกครั้งนะ” ริเอะกล่าวพร้อมยื่นมือมาข้างหน้า
“เช่นกัน” ลีตอบพร้อมกับคว้ามือของหญิงสาว

เธอปล่อยมือออก พร้อมกับหันหลังและเดินออกไป เธอเดินห่างลีออกไปเรื่อยๆจนท้ายที่สุดลีไม่สามารถเห็นเธอได้อีกแล้ว 

///

ริเอะเดินแบกกระเป๋าและหยุดหน้าประตูรั้ว บนกำแพงมีข้อความ “ซิลเวอร์ วัลเลย์ ไฮล์สคูล” 
เวรยามที่ยืนส่องไฟอยู่บนหอคอยไม้ก็ได้สั่งเปิดประตูให้ริเอะเดินเข้าไปในอาคาร 
ภายในมีกลุ่มคนมากมายที่เหมือนรอคอยการกลับมาของเธอ 
ริเอะนำกระเป๋ามาวางไว้กลางโต๊ะที่ตั้งอยู่ตรงกลาง รอบๆโต๊ะมีผู้คนที่หิวโหยมากกว่า
เธอเริ่มรูดซิบกระเป๋าและนำอาหารกระป๋องออกมา มันมีจำนวน 6 กระป๋องด้วยกัน 

“ชั้นหามาได้เท่านี้” ริเอะกล่าว

ชายร่างกายบึกบึนทรงสกรีนเฮ้ดหยิบกระป๋องอาหารขึ้นมาดู 
กล้ามมัดของเขาเต็มไปด้วยรอยสักหลากหลายสี 
ใบหน้าของเขาดูน่าเกรงขามและเต็มไปด้วยหนวดเครา หากให้คาดเดาจากรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า 
เขาคงอายุประมาณ 30 กลางๆ ชายคนนี้หันกลับมาหาริเอะที่ยืนอยู่ในจุดเดิม

“ถ้าแบ่งกันกินคงอยู่ได้ซักวันสองวัน” ชายหน้าตานักเลงพูด
“หาได้จากไหน” ชายคนเดิมถามต่อในขณะมือเขายังถืออาหารกระป๋อง
“ชั้นเจอคนใจดีแบ่งให้อาหารกระป๋องให้ชั้นตอนที่ชั้นไปสำรวจอุทยาน” ริเอะเล่าตามความจริง

“ที่อุทยานมีกลุ่มผู้รอดชีวิตอยู่หรอ?” ชายสักลายถามด้วยใบหน้าสนใจ
“เปล่าค่ะ มีแค่คนเดียว” 
“แล้วหมอนั่นมีเสบียงเยอะไหม?” ชายคนเดิมถามต่อ

ริเอะเงียบ เธอดูลังเลกับคำตอบของเธอ

“ริเอะ...หมอนั่นมีเสบียงเยอะไหม?” เขาถามซ้ำแต่น้ำเสียงดูเคร่งครึมกว่าเดิม
“เยอะค่ะ สารวัตร” ริเอะตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“ถ้างั้นพรุ่งนี้ เราเตรียมไปบุกอุทยานแล้วปล้นเสบียงมันมา” ชายที่ริเอะเรียกว่าสารวัตรตะโกนพูดกับชายหลายคนที่อยู่ล้อมรอบเขา
“แต่สารวัตร เขาอุตส่าห์ช่วยแบ่งอาหารให้พวกเรา เราไม่ควรจะตอบแทนเขาแบบนี้นะ” ริเอะแย้ง

“ริเอะ โลกนี้มันไม่ใช่แบบนั้นแล้วเธอก็รู้ สิ่งสำคัญในโลกนี้คือความอยู่รอด”
“ไม่ใช่มิตรภาพและความถูกต้อง ของแบบนั้นมันกินได้ซะที่ไหน” สารวัตรพูดขึ้น

“แต่ชั้นเห็นด้วยกับริเอะนะ” เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นมา
“ให้ตายซิ พอเป็นเรื่องแบบนี้ต้องเป็นแกทุกที ดาร์เรน” สารวัตรบ่น

ทุกสายตาจับจ้องไปที่ชายฝรั่งใบหน้าหนุ่มที่มีรูปร่างสูงใหญ่ 
เส้นผมของเขาเป็นสีน้ำตาล เฉกเช่นเดียวกันกับนัยน์ตาของเขา 
ใบหน้าของเขามีความยียวนกวนประสาท 
เชื่อว่าตอนที่ชายคนนี้อยู่ในโรงเรียนไฮล์สคูล คงมีคนหมั่นหน้าเขาไม่น้อย 
ดาร์เรนก้าวเท้าขึ้นมาช้าๆและร่วมบทสนทนาที่เกิดขึ้นอยู่รอบๆโต๊ะไม้

“ชั้นจะไม่พูดเรื่อง ‘ความถูกต้อง’ เพราะชั้นรู้ว่าคนเลวๆแบบนาย คงไม่สนใจอยู่แล้ว”
“แต่เราไม่รู้เลยว่าข้อมูลที่ริเอะได้มาเป็นข้อมูลจริงรึเปล่า บางทีหมอนั่นอาจจะโกหกเธออยู่ก็ได้” ดาร์เรนพูด
“ริเอะ เล่าให้ฟังหน่อยได้ว่า เธอเจอหมอนั่นได้ไง” ชายผมน้ำตาลนั่งบนโต๊ะไม้และมองหญิงชาวญี่ปุ่น
“ชั้นติดกับดักของเขา ในขณะที่ชั้นกำลังสำรวจอุทยาน ก่อนที่หมอนั่นจะพาชั้นลงมา” ริเอะย้อนความ

ดาร์เรนใช้มือลูบคางของตัวเองและหันไปพูดกับผู้รอดชีวิตคนอื่นๆที่อาศัยในโรงเรียน 

“ถ้าหากเราไปบุกโง่ๆเพราะความคิดโง่ๆของสารวัตร ชั้นว่าเราได้ตายกันหมด” ดาร์เรนพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

ผู้รอดชีวิตหันหน้าคุยกันพร้อมกับพยักหน้าเห็นด้วยกับสิ่งที่ดาร์เรนพูด 
ชายผมน้ำตาลหันกลับไปและพบกับปลายกระบอกปืนที่จ่อหน้าของเขาอยู่ มันเป็นปืนของสารวัตร 
ใบหน้าของสารวัตรดูแดงก่ำ ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว 
ดาร์เรนสะดุ้ง แต่ทว่าเขายังคงยืนหยัดอยู่ที่เดิม มือไม้ของเขาสั่น 

“มึงชอบทำให้กูดูโง่ กูเหลืออดกับมึงเต็มทีแล้ว ถ้ามึงไม่หุบปากกูจะยิงมึงไส้แตก”
“เอาเลยซิ ยิงเลย” ดาร์เรนท้าทาย พร้อมแสยะยิ้ม
“แน่นอน กูยิงมึงแน่” สารวัตรใช้นิ้วโป้งปลดเซฟตี้ปืนออก

“ปัง!!” 

เสียงปืนที่ระเบิดออกมา ทำให้ซอมบี้ที่อยู่รอบๆหันมามองตามเสียง 
เหล่าซากศพมีชีวิตเริ่มก้าวเท้าช้าๆ และมุ่งหน้าสู่ต้นเสียง

////

Spoiler:
Gudomana
Gudomana
Posts : 52
Join date : 2018-08-20

Frostbite Empty Re: Frostbite

Sat May 18, 2019 1:34 pm
Episode 3 : Chaos Rising

ลีนั่งอยู่บนเก้าอี้เล้าจ์สีเขียว ในมือมีหนังสือการ์ตูนแนวซุปเปอร์ฮีโร่
แววตาของชายหนุ่มดูนิ่งเฉยกับสิ่งที่เขาอ่านอยู่ หนุ่มเชื้อสายเอเซียหันไปมองหน้าต่างข้างนอก
มันเป็นคืนที่มืดมิดและหนาวเหน็บ สิ่งเดียวที่เขาเห็นคือความมืด
ลีหันกลับมาใส่ใจหนังสือการ์ตูนในมือ โอริโอ้นอนอยู่บนเตียง ดวงตาของมันปิดสนิท
ทันใดนั้นดวงตาของเจ้าตูบก็เบิกโพลนขึ้น หูของมันตั้งราวกับมันได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง
โอริโอ้กระโดดลงจากเตียงและยืนอยู่หน้าประตูไม้

“มีอะไรหรอ โอริโอ้?” ลีถามพร้อมลดหนังสือการ์ตูนในมือลง

แม้โอริโอ้จะไม่ได้ให้คำตอบ แต่ลีก็ได้ยินเสียงของเครื่องยนต์รถที่ขับมาด้วยความเร็ว
มันจอดลงที่หน้ากระท่อมของลี ชายผมดำมองด้วยความสับสน
แต่เขารวบรวมสติและหยิบเอาไฟฉายและขวานปีนผาในมือ
ลีเปิดประตูกระท่อมออกไป โอริโอ้เดินตามติดๆ
อากาศมันหนาวเย็นกว่าช่วงยามที่ดวงตะวันเฉิดฉายมาก
ลีส่องไฟฉายไปยังรถตู้สีดำที่จอดกลืนเป็นกับความมืด ประตูรถเปิดออกมาช้าๆ
ริเอะก้าวออกมาจากรถพร้อมกับยกมือทั้งสองข้างแสดงความจำนน

“ริเอะ?” ลีขานชื่อของหญิงที่อยู่ตรงหน้าด้วยใบหน้าสับสน
“ลี เราต้องการความช่วยเหลือของนาย” ริเอะพูดขึ้นมา
“ต้องการความช่วยเหลือ? แล้วเธอเข้ามาที่นี่ได้ยังไง? แล้วรถนั่นมายังไง?” เจ้าถิ่นตั้งคำถามเป็นชุด
“เราขับรถพังประตูเข้ามา” ริเอะพูดเบาๆ แต่น้ำเสียงของเธอสามารถส่งถึงลี
“ห๊ะ?!” ลีอุทานออกมาด้วยน้ำเสียงตกใจ

ประสาทรับเสียงเริ่มได้ยินเสียงคำรามของอสูรกาย
ลีหันไปส่องไฟฉายตามเสียง เขาเห็นเงาของซากศพเดินได้จากระยะไกล
โชคดีที่สัตว์ประหลาดพวกนี้มันเดินช้าและยิ่งมีกองหิมะขวางตามทาง
ยิ่งทำให้ความเร็วของพวกมันชะลอลงไปมาก ลีหันกลับไปมองริเอะ
เธอยังคงชูมือขึ้นดั่งเดิม

“เธอคงไม่ได้มากันแค่สองสามคนใช่ไหม?” ลีถาม

ริเอะตอบรับด้วยการพยักหน้า

“ถ้างั้นชั้นจะพาไปเล้าจ์กลางของอุทยาน แต่รอชั้นแปปนึง” ผู้ที่อาศัยในอุทยานนานนับปีกล่าว

ลีหันกลับไปและกวาดหยิบอาหารกระป๋องมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
เขาไม่มีเวลามากพอที่จะหยิบทุกอย่างได้ ลีหยิบอาหารและของจำเป็น
เมื่อเขาได้ทุกอย่างที่เขาต้องการ ลีก็วิ่งกลับไปที่รถ

“ไปกันเถอะ” ลีพูดกับริเอะ หญิงสาวพยักหน้า

ทั้งสองขึ้นรถ ลีเรียกโอริโอ้ให้ขึ้นมา สุนัขสีกระดานหมากรุกกระโดดขึ้นรถและนั่งบนตักของเจ้านายมัน
ลีหันไปรอบๆและเห็นคนแปลกหน้ามากมาย ลีปิดประตูรถ
คนขับรถก็เหยียบคันเร่งและหมุนล้อรถไปข้างหน้า
ชายที่อยู่นั่งข้างหน้าข้างคนขับชะโงกหน้าและพูดกับลีที่นั่งอยู่ข้างหลัง

“ชั้นชื่อดาร์เรน เราคงต้องร-”
“เรื่องแนะนำตัวไว้ทีหลัง คนขับเลี้ยวซ้ายแยกหน้า” ลีตัดประโยคของดาร์เรน
“โอเค” คนขับรถตอบด้วยสำเนียงแปลกๆ

“พวกมันยังตามมาไหม?” หญิงสาวชาวเอเชียอีกคนที่มีผมน้ำตาลอ่อนพูดด้วยน้ำเสียงปกติในขณะที่หันกลับไปมองข้างหลัง
“ชั้นไม่เห็นแล้วนะ” ริเอะตอบกลับ
“จอดข้างหน้า” ลีออกคำสั่ง

ดาร์เรนเหยียบเบรก รถสีดำหยุดนั่งอยู่กับที่
ลีเปิดประตูรถและเดินนำเข้าไปยังกระท่อมไม้ขนาดใหญ่
รถยนต์ถูกดับเครื่อง ผู้รอดชีวิตคนอื่นๆที่โดยสารมากับคันนี้รีบวิ่งตามลี
เมื่อทุกคนเข้ามาอยู่ภายในกระท่อม ลีก็รีบปิดประตูไม้
ชายเชื้อสาวชาวเอเชียเปิดไฟฉายขึ้นมา ทุกสายตาจับจ้องมายังเขา
ลีพูดเบาๆกับผู้รอดชีวิตคนอื่นๆให้รอเขาครู่หนึ่ง
ทุกคนพยักหน้า ลีเดินหายเข้าไปในความมืดพร้อมกับไฟฉายในมือ
เขาหยุดอยู่หน้ากล่องสีเทาเล็กๆ

“เจอแล้ว” ลีพูดเบาๆ

เขาใช้มืออีกข้างที่ว่างอยู่เปิดฝาที่เย็นยะเยือกออก
เขาจะใช้มือสับสวิตซ์ ดวงไฟทุกดวงเริ่มสว่างไสว
ความมืดถูกลบทิ้งภายในชั่วพริบตา

“ฮวน กับ ปาโช่ มาช่วยชั้นดันเฟอร์นิเจอร์ขวางประตูหน่อย” ดาร์เรนหันไปพูดกับชายชาวลาตินสองคน

ชายเชื้อสายลาตินที่ถูกเรียกช่วยดาร์เรนเข็นตู้หนังสือรวมถึงโต๊ะเพื่อขวางทางประตูไว้
ไม่นานประตูก็ได้รับการป้องกันอย่างแน่นหนาลีก็เดินกลับมา
ในมือเขาปิดไฟฉาย เนื่องจากในวินาทีนี้เขาไม่จำเป็นต้องให้แสงสว่างนำทางอีกแล้ว
ลีมองผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ สายตาของเขาแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขาไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก

“มีใครอยากจะเล่าให้ชั้นฟังไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?” ลีถามน้ำเสียงของแปดเปื้อนไปด้วยความโกรธ

ผู้รอดชีวิตทุกคนมองหน้ากันเอง ดาร์เรนจะก้าวเท้าขึ้นมา และจ้องเข้าไปในนัยน์ตาของลี

“อย่างแรกชั้นต้องขอโทษนาย และพวกเรามีเรื่องอธิบายให้นายฟังเยอะมากเลยนะ” ดาร์เรนพูด
“นายชื่อดาร์เรนใช่ไหม...ไหนมีเหตุผลอะไรว่ามา” ลีกอดอกพร้อมกับถามชายหนุ่มผมน้ำตาล
“โอเค เรื่องมันมีอยู่ว่า…” ดาร์เรนเริ่มเล่า

///ก่อนปัจจุบันราวๆหนึ่งชั่วโมง

“แน่นอน กูยิงมึงแน่” สารวัตรใช้นิ้วโป้งปลดเซฟตี้ปืนออก

นิ้วของเขาเตรียมเหนี่ยวไก ทว่าก่อนที่สารวัตรจะลั่นปืน ริเอะจับมือของสารวัตรยกขึ้น
ปืนยิงขึ้นฟ้า มันพลาดเป้าหมายของมันอย่างชัดเจน
ริเอะออกแรงและแย่งปืนของสารวัตรมาไว้ในมือของตัวเอง
เธอปลดแม็กกาซีนปืนลงพื้นก่อนจะโยนปืนออกจากห่างตัวของเธอ

“เธอทำบ้าอะไรของเธอ ริเอะ!!” สารวัตรตะโกนด้วยความหงุดหงิด
“สารวัตรต่างหากที่ทำบ้าอะไร!! ทำแบบนี้เดี๋ยวพวกซอมบี้ก็บุกมาพอดี” ริเอะต่อปากต่อคำ

“ตึง!!” ประตูโรงเรียนถูกเปิดออก

ใบหน้าของชายที่เป็นผู้เปิดประตูเต็มไปด้วยความหวาดกลัว บนแผ่นหลังของเขาสะพายปืนกลอัตโนมัติ 
เขาเงยหน้าขึ้นมาเพื่อพูดกับสารวัตร

“สารวัตรครับ มีซอมบี้หลายตัวบุกมาตรงนี้ครับ”
“ทุกคนไปหยิบปืน เรามีงานต้องสะสาง” สารวัตรตะโกนสั่ง

เขาเหลือบมามองหน้าริเอะและดาร์เรนชั่วครู่ และเดินจากไป
ริเอะเตรียมจะเดินตาม ทว่าดาร์เรนคว้าข้อมือเธอไว้
หญิงชาวญี่ปุ่นสะดุ้งและหันกลับไปหาดาร์เรน

“อย่าพึ่งไป ชั้นว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะหนี” ดาร์เรนพูดด้วยน้ำเสียงกระซิบกระซาก
“ห๊ะ?” ริเอะอุทานด้วยความสงสัย
“บอกตรงๆนะ ชั้นยังแปลกใจเลยที่เราอยู่รอดได้นานขนาดนี้ ไอสารวัตรมันแสดงให้เห็นแล้วว่ามันไม่เหมาะเป็นผู้นำ”
“ซอมบี้ชั้นไม่กลัวหรอก กลัวผู้นำโง่” ดาร์เรนพูดต่อ

ริเอะกระชากแขนของตัวเองออก เธอลูบข้อมือของตัวเอง
กระนั้นเธอยังคงยืนอยู่ที่เดิม

“ถ้างั้นเราจะทำยังไง” ริเอะสนใจคำเชิญชวนของดาร์เรน
“เราจะอาศัยจังหวะชุลมุน ขับรถหนี” ดาร์เรนเล่าแผนการ
“แผนนี้มีแค่นายและชั้น?” ริเอะถามต่อ

“มีคนอื่นๆอยู่นิดหน่อย”
“จากนั้นพอเราหนีออกมาได้แล้ว เธอก็นำทางเราไปยังอุทยาน” หลังจากที่ดาร์เรน
“เราน่าจะมีโอกาสรอดที่นั่นมากกว่าที่นี่” ดาร์เรนโน้มน้าว

ริเอะยืนคิดอยู่ชั่วครู่ เธอพยักหน้าตอบรับข้อเสนอของสาริกาลิ้นทอง

///ปัจจุบัน

“จากนั้นพวกเราก็ปล้นรถและขับมาที่นี่” ดาร์เรนเล่าให้ฟัง

ลีที่ฟังเรื่องนี้จบลง เขาก็ใช้นิ้วนวดสันจมูกของเขา ใบหน้าลีเต็มไปด้วยความโกรธและความหงุดหงิด

“บอกตรงๆเลยตอนนี้ชั้นขี้เกียจคิดอะไรแล้ว” ลีพูดในขณะนิ้วโป้งและชี้นวดสันจมูก
“ชั้นจะขึ้นไปนอนข้างบน ส่วนนี่คือเสบียงที่ชั้นหยิบมาได้ จะกินก็กิน”
“แต่เหลือให้ชั้นกับโอริโอ้หน่อยแล้วกัน” ลีพูดพร้อมกับโยนกระเป๋าสะพายไปข้างหน้า

สิ้นเสียง ชายหนุ่มก็ก้าวขึ้นชั้นสองของกระท่อม โอริโอ้เดินตาม
แต่ก่อนที่ลีจะขึ้นชั้นสอง ริเอะวิ่งตามมา เสียงฝีเท้าที่เร่งรีบของหญิงสาว ทำให้ลีหันกลับมา
ดวงตาของสาวญี่ปุ่นสะท้อนภาพใบหน้าของอดีตคอลลัมนิสต์ที่มือจับราวบันไดไม้ที่เย็นเฉียบ

“คุณลี โกรธพวกเรารึเปล่า?” ริเอะถาม

ชายที่ถูกถามเงียบและก้าวขึ้นชั้นสอง ชั้นสองมีขนาดแคบกว่าชั้นแรกมาก
มันมีห้องเพียงแค่ 4 ห้องเท่านั้น ลีเปิดประตูห้องในสุดฝั่งซ้าย
เมื่อประตูไม้ไม่ได้บดบังสายตา ลีก็เห็นเตียงนอนสองเตียงที่วางอยู่คนละมุมห้อง
ลีทิ้งตัวลงบนเตียง เขารู้สึกถึงความเหนื่อยล้าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้
โอริโอ้กระโดดขึ้นมาบนเตียงและขดตัวข้างกับเจ้านายของมัน
ลีใช้มือลูบขนของมัน ปลายขนสัมผัสเข้ากับผิวหนังของชายเชื้อสายเอเชีย
ดวงตาลีปิดลง และเขาก็ผล็อยหลับในที่สุด

ลีตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ทุกอย่างมืดสนิทและเงียบสงัด เขาไม่รู้ว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงกี่ยาม
ลีลุกขึ้นมานั่งช้าๆเพื่อจะไม่เป็นการปลุกสหายคู่ใจ ลีเปิดประตูห้องนอนเบาๆ
ไฟทุกดวงที่เคยสว่างดับมืด ดูเหมือนผู้มาพักอาศัยคนอื่นจะปิดไฟหมดแล้ว
แม้ทุกอย่างจะมืด แต่ลีก็สามารถเดินตามเส้นทางได้ ราวกับเขามองเห็นในรัตติกาล
ลีมองลงไปชั้นล่าง เขาเห็นตะเกียงไฟฟ้าตั้งอยู่ตรงกลาง ล้อมรอบผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ
ลีเห็นชายคนหนึ่งนั่งอยู่ในวงล้อม ลีก้าวลงจากบันได ชายลาตินที่นั่งอยู่ในวงล้อมหันมาตามเสียง ใบหน้าเขามีอายุ ใต้จมูกมีหนวด เส้นผมของเขาเป็นสีน้ำตาล มันพะรุงพะรังและไร้ความเป็นระเบียบ
ในมือชายลาตินมีกระติกเหล็กเล็กๆอยู่

“ไง” ลีทักทาย
“ไง” ชายลาตินตอบพร้อมกับกระดกกระติกเหล็ก
“นอนไม่หลับหรอ?” ลีถาม
“อืม” ชายชาวลาตินตอบสั้นๆ

ลีกวาดสายตาไปรอบๆ เขาเห็นแต่ผู้ชายที่นอนอยู่รอบตะเกียง ไม่มีริเอะหรือหญิงอื่นเลย

“ริเอะล่ะ?”
“พวกสาวๆไปนอนชั้นสอง” คู่สนทนาตอบ
“เอ่อ...ผมขอโทษที่โมโหเมื่อช่วงค่ำนะ พวกคุณก็แค่พยายามรอดชีวิตเหมือนผมเท่านั้น” ลีกล่าวขอโทษ
“ไม่เป็นไร ชั้นเข้าใจ ถ้าชั้นเป็นนายชั้นก็คงโมโหเหมือนกันแหละ” ชายลาตินยกกระติกเหล็กอีกครั้ง

“ชั้นชื่อปาโช่ เปนญ่า” ชายลาตินแนะนำตัว
“แอนดรูว์ ลี” ลีแนะนำตัวเองกลับ
“ชั้นคิดว่าทุกคนในนี้รู้จักนายแล้วล่ะ ริเอะแนะนำตัวนายแล้ว ตอนที่นายหลับ” เปนญ่าตอบพร้อมกับยิ้มอ่อนๆ

“แล้ว คุณดื่มอะไรอยู่ เปนญ่า?” ลีถาม
“เหล้า สนไหม?” เปนญ่าพูดพร้อมกับยื่นกระติกให้
“ไม่เป็นไร ผมไม่ดื่ม” ลีปฏิเสธ

เปนญ่าดึงกระติกกลับ และกระดกเหล้า เขาลดกระติกลงและมองเข้าไปในตะเกียงแสง

“นายมีครอบครัวไหม?” เปนญ่าถาม ดวงตาเขายังถูกสะกดไว้กับตะเกียง
“ไม่มีเลย ตอนที่โลกมันเปลี่ยนไป ก็เหลือผมแค่คนเดียวแล้ว” ลีหันมาตอบ
“คุณล่ะ?” ลีถาม

เปนญ่าเงียบ เขาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อและควักรูปออกมา
มันเป็นรูปของเปนญ่าและหญิงที่ดูมีอายุใกล้เคียงกับเขา ตรงกลางมีเด็กสองคนยืนเรียงกันอยู่
พวกเธอดูมีความสุข บางทีมันอาจจะเป็นวันที่พวกเธอมีความสุขที่สุดในชีวิตเลยก็ได้
เขายื่นรูปมาให้ลี ลีรับไว้และมองรูป

“ลูกสาว คุณน่ารักดีนะ” ลีกล่าวชม
“ฮ่า! ลูกสาวของชั้นน่ารักเสมออยู่แล้ว ชั้นรู้สึกว่านี่น่าจะพรที่ดีที่สุดในชีวิตชั้น” เปนญ่าหัวเราะออกมา
“แล้ว….” น้ำเสียงของลีแผ่วลง
“ชั้นไม่รู้ แต่ชั้นเชื่อว่าพวกเธอยังอยู่ที่ไหนซักแห่ง” เปนญ่าตอบพร้อมกับกระดกเหล้าเพื่อลืมความเศร้าในร่างกาย

ลียื่นรูปคืน เจ้าของภาพรับไว้ ชายหนุ่มลุกขึ้นจากพื้นไม้ที่เย็นยะเยือกและหันมาหาเปนญ่า

“ถ้างั้น ผมกลับไปนอนล่ะ”
“อ่า” เปนญ่าตอบ

ลีลุกกลับและเดินไปนอนในห้องนอนเขา โอริโอ้ยังคงนอนอยู่ที่เดิม
ดวงตาของมันปิดสนิท เสียงลมหายใจของมันแผ่วเบา
ลีทอดร่างลงบนเตียงเบาๆ เขาหลับตาลง

//เช้า

“ตอนนี้ข้างนอกเป็นไงบ้าง?” ดาร์เรนถามในขณะที่เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้

เบื้องหน้าเขามีอาหารกระป๋องจำนวนหนึ่งวางเรียงอยู่
มันมีอาหารกระป๋องหลากหลายรูปแบบ
รอบโต๊ะมีผู้รอดชีวิตที่ฝากชีวิตไว้กับหนุ่มวัย 26 รวมไปถึงเจ้าถิ่นนั่งอยู่
หญิงชาวเอเชียที่มีรูปร่างสมส่วนผมน้ำตาลที่มัดผมลุกขึ้นและเดินตรงไปยังหน้าต่าง
เธอมองออกไปข้างนอก ท่ามกลางกองหิมะยังมีเหล่าซากศพที่เดินไปเดินมาอยู่จำนวนหนึ่ง
แต่ความเร็วที่พวกมันเคลื่อนตัวเรียกว่าช้าราวกับมันหยุดอยู่นิ่งกับที่

“ยังพอมีอยู่บ้าง แต่พวกเราน่าจะเล่นงานมันได้”
“ขอบใจที่บอก จาเน็ต” ดาร์เรนพยักหน้าตอบ หญิงนามจาเน็ตที่ยืนอยู่ที่หน้าต่าง
“ลี นายยังมีเสบียงเหลือที่กระท่อนนายไหม?” ดาร์เรนหันมาถามลี

“ยังมีอีก เสบียงที่เรามีตอนนี้คือเท่าๆที่ผมหยิบได้” ลีตอบ
“นายคิดว่านายไปหยิบมาได้ไหม?” ดาร์เรนถาม
“ก็ได้อยู่หรอก แต่ชั้นคงต้องการเพื่อนไปด้วยซักคน” ชายเชื้อสายเอเชียตอบ

“ถ้างั้นชั้นอาสาเอง” ริเอะชูมือขึ้นมา
“โอเค รบกวนพวกนายด้วยละกัน” ดาร์เรนพูดกับริเอะและลีที่นั่งอยู่คนละมุม

หลังจากที่ทั้งสองเตรียมตัวเสร็จสิ้น พวกเขาพร้อมกับโอริโอ้ก็ก้าวออกจากกระท่อม
จำนวนของอสูรมากกว่าช่วงกลางวันของเมื่อวานอย่างเห็นได้ชัด
เหล่าซอมบี้เดินเข้ามาอุทยานหลังจากที่ประตูรั้วถูกทลายออก
ลีเดินนำหน้าอย่างระมัดระวังเพื่อเลี่ยงไม่ให้เหล่าซากศพทุกตัวในอุทยานออกตามล่าร่างอันแสนโอชาสำหรับพวกมัน ลีมาถึงกระท่อมที่เคยเป็นที่อยู่ของเขา รอบๆมีซอมบี้ยืนอยู่ราวๆสามตัว
ลีหยิบศรออกมาและเล็งไปยังศีรษะซอมบี้ ลีสูดหายใจลึกๆและปล่อยมือออก
ศรพุ่งทะลุสายลมและเสียบเข้ากลางหัวของอสูร มันล้มลงไป และนอนจมกับกองหิมะ

“นายยิงแม่นกว่าที่ชั้นคิดนะ” ริเอะพูด
“สถานการณ์แบบนี้ มันก็ต้องทำให้ชั้นยิงแม่นล่ะนะ” ลีหยิบลูกธนูออกมาอีกดอก

ลูกธนูอีกดอกลอยและปักเข้าซอมบี้อีกตัว
มันเหลืออสูรอีกเพียงตัวเดียวที่ไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับมัน
ลียิงธนูอีกดอกและปักเข้าใส่กลางหัวของมัน
ลีได้ทำการฆ่าความตายด้วยมือทั้งสองของเขา ลีลดมือลงและเก็บธนูไว้ข้างๆกับศร

“ไปกันเถอะ” ลีกล่าวกับริเอะ

ริเอะพยักหน้า ลีเดินตรงเข้าไปในกระท่อมของเขาเอง ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม หนังสือการ์ตูนที่เขาวางไว้บนเก้าอี้หนังสีแดง ยังคงคว่ำอยู่ ลีเดินไปเปิดตู้เย็นและหยิบเอาอาหารกระป๋องส่งให้กับริเอะ หญิงชาวญี่ปุ่นรับไว้และนำใส่กระเป๋า

“คุณลี คุณโกรธรึเปล่า?” ริเอะถามคำถามเดิม

มือของลีที่กำลังล้วงตู้เย็นหยุด ไม่นานนักเขาก็หยิบอาหารกระป๋องออกมาและยื่นให้กับริเอะ
แม้เธอจะยังไม่ได้รับคำตอบแต่เธอก็รับเสบียงจากชายหนุ่มที่เธอพึ่งพบได้ไม่นาน

“ตอบตามตรง ผมก็โกรธแหละ โกรธมากด้วย” ลีให้คำตอบอย่างสัจจริง
“ชั้นอยู่ของชั้น แต่อยู่ดีๆพวกเธอก็ลากชั้นเข้าไปร่วมกับปัญหาที่พวกเธอเจอ” ลีหยิบอาหารกระป๋องออกมาและส่งให้
“ขอโทษจริงๆ ชั้นรู้ว่าชั้นไม่ควรทำแบบนี้” ริเอะกล่าวขอโทษ
“ใช่ พวกเธอไม่ควรทำแบบนี้” ลีซ้ำเติมคำพูดของริเอะ
“แต่ว่าตอนนี้ชั้นติดกับพวกเธอแล้ว ชั้นก็คงต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อรอด” ลีพูดพร้อมกับยื่นอาหารกระป๋องให้ริเอะ

หญิงชาวยิ้มและรับไว้ เธอเก็บอาหารกระป๋องและสะพายบนแผ่นหลังของเธอ
ลีนำอาหารกระป๋องที่เหลือ พร้อมกับเครื่องใช้อื่นๆที่ลีไม่ได้นำมาด้วยเข้าใส่กระเป๋าของตัวเองเช่นกัน
ลีเหลือบไปเห็นถุงอาหารสุนัข ชายผมดำหันกลับมามองโอริโอ้ที่ดวงตาสองสีของมันกำลังจ้องเขาอยู่

“แน่นอน ชั้นไม่ลืมของนายหรอกน่า โอริโอ้” ลีกล่าวพร้อมกับหยิงอาหารสุนัขเข้าใส่กระเป๋า

หางของโอริโอ้กระดิก แม้ลีจะไม่ได้จบเอกสาขา “ภาษาสุนัข” มา
แต่เขาก็เข้าใจว่าสุนัขของสื่ออะไร ทั้งสามก้าวออกจากกระท่อม
ทว่าพวกเขาสัมผัสได้ถึงสายลมที่พัดอย่างรุนแรง
เสียงของกิ่งไม้ที่ไร้ใบที่สั่นไหวราวกับมันพร้อมจะหักออกตลอดเวลา
ริเอะพยายามจับเส้นผมของเธอไม่ให้ปลิวไปกับสายลม ลีเริ่มได้ยินเสียงใบพัดที่ใกล้ขึ้นมาเรื่อยๆ
ลีแหงนมองขึ้นฟ้าและเห็นเฮลิคอปเตอร์สีขาวที่โบยบินอยู่บนท้องฟ้า
ใบหน้าของลีเต็มไปด้วยความฉงน

“นี่เป็นเฮลิคอปเตอร์ของโจเซป เวนย์” เสียงประกาศดังขึ้น
“คุณเวนย์ได้นำทิ้งเสบียงอาหารไว้รอบเมืองเพื่อช่วยผู้รอดชีวิตทุกคนอยู่”
“พวกเราจะนำอารยธรรมที่รุ่งเรือนของพวกเรากลับมา” เสียงประกาศพูดต่อ

เฮลิคอปเตอร์บินจากไป ลีและริเอะยืนมองยานยนต์ที่หายลับไปตาไปกับท้องฟ้า
ทั้งสองได้แต่ยืนเงียบและประมวลสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อชั่วครู่นี้
Sponsored content

Frostbite Empty Re: Frostbite

Back to top
Similar topics
Permissions in this forum:
You cannot reply to topics in this forum