Frostbite [Register]

รูป :

ชื่อ : ดาร์เรน แม็กคาลลัม (Darren McCallum)

อายุ : 26

น้ำหนัก-ส่วนสูง : 187/72

ประวัติ : ชายหนุ่มที่เกิดมาเพื่อเป็นหัวหน้าอย่างแท้จริง ตั้งแต่เด็กเขาเป็นหัวหน้ากลุ่มทำงาน หัวหน้าห้อง หัวหน้าระดับชั้น หัวหน้าชมรม ประธานนักเรียน ประธานสโมสรนิสิต ฯลฯ ทุกอย่างที่ต้องการผู้นำเขาผ่านมาแล้วเกือบทั้งหมด จริงๆเขาเองในทีแรกก็ไม่ได้ชอบหรืออยากเป็นหัวหน้าห้องด้วยตัวเอง แค่รำคาญตอนที่มันไม่มีใครยอมเป็นเลยเป็นเองแม่งเลย แล้วกลายมาเป็นว่าพอเวลาผ่านไปก็เลยรู้สึกว่าตัวเองชอบและชำนาญในการเป็นผู้นำคน ถึงแม้จะแค่ในระดับโรงเรียน-มหาวิทยาลัยก็ตาม เมื่อได้รับปริญญามาก็เริ่มเข้าสู่วงการทำงาน แต่ว่าด้วยความที่เป็นเด็กจบใหม่ก็เลยต้องทำงานใต้คน ไม่ได้เป็นหัวหน้าทันทีเหมือนที่เขาได้เป็น เขาก็พยายามทำงานหนักเพื่อไต่เต้าตัวเองเป็นตำแหน่งหัวหน้าให้เร็วที่สุด จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์พลิกโลกขึ้น และเขาก็รู้สึกตื่นตระหนกในทีแรก แต่เขามองว่ามันเป็นโอกาส โลกเข้าสู่ยุคใหม่ บัดนี้ถึงเวลาที่เขาจะมีโอกาสก้าวมาเป็นผู้นำแล้ว

คาแร็คเตอร์ : ตามสไตล์หัวหน้าทั่วๆไป ใจกว้าง จิตใจแข็งแกร่ง รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น มีความมั่นใจในตัวเองสูง มีแพชชั่น มองการณ์ไกล มีความเด็ดขาด และวุฒิภาวะที่สูงเกินกว่าวัยหนุ่ม และจุดแข็งที่ทำให้เขาสามารถเป็นหัวหน้าที่ดีมาตลอดได้จนครองตำแหน่งหัวหน้าต่างๆมากมาย คือการปลุกใจ การกระตุ้นผู้อื่น ทำให้ผู้อื่นรู้สึกว่าอยากจะตามเขา อยากจะเชื่อมั่นในตัวชายหนุ่มคนนี้

แต่ปัญหาของชายคนนี้ก็คือ เนื่องจากว่าเขาครองตำแหน่งหัวหน้ามานานและเกือบตลอดในช่วงชีวิตของเขา มันทำให้เขารู้สึก Obsessed กับตำแหน่งหัวหน้าหรือผู้นำ เขาจะไม่อยากเสียตำแหน่งนี้ให้ใคร และเขาก็ไม่อยากให้ใครมาแย่งตำแหน่งผู้นำไปจากเขา

ความสามารถ : (as mentioned) ความเด็ดขาด การปลุกใจ/กระตุ้นผู้อื่น

รูป : 




ชื่อ : Juan Sebastián Carvallo 

อายุ :  24

น้ำหนัก-ส่วนสูง : 174/61

ประวัติ : นักมวยสากลที่กำลังเป็นแชมป์ WBC รุ่นไลท์เวทในขณะนี้ ในวัยเด็กได้เติบโตขึ้นที่สลัมในประเทศแม็กซิโกซึ่งสภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยความรุนแรง ความยากจนและความลำบาก ทุกครั้งที่ฆวนประสบพบเจอความรุนแรงบ้างก็จากพวกเพื่อนบ้านเฮงซวย บ้างก็จากพวกขี้ยาข้างถนน บางทีคนที่ทำร้ายเขาหนักที่สุดเผลอๆจะเป็นพ่อขี้เมาของเขาด้วยซ้ำไป ทุกครั้งที่เขาเจอเรื่องเล่านั้นเขาจะระบายความโกรธแค้นเหล่านั้นใส่ไปที่กระสอบทราย เขาต่อยมันทุกวันเหมือนกับว่ากระสอบทรายนั่นคือไอ้พวกจังไรที่มากลั่นแกล้งเขาทุกวัน แต่หารู้ไม่ว่าไอ้ลีลาการปล่อยหมัดไปสู่กระสอบทรายของเขานั้นดันไปเข้าตาอดีตโค้ชนักมวยวัย 68 ปีที่เดินผ่านหลังบ้านของเขามาเจอ โดยโค้ชคนนั้นได้แนะนำให้เขาไปเป็นนักมวยใต้ดินเพื่อหาเงินเลี้ยงตัวเอง ซึ่งฆวนในวัย 15 ปีก็เห็นด้วยเพราะเขาทำอะไรอย่างอื่นไม่ค่อยเป็นนอกจากชกมวย โดยสไตลล์การต่อสู้ของเขาคือการเดินวนๆแล้วปล่อยหมัดแย็ปรัวๆใส่คู่ต่อสู้ หมัดของไม่หนักมากแต่โอกาสเข้าเป้าสูงมากแทบจะ always เมื่อเข้าไปแย็ปโดนเป้าแล้วเขาก็จะถอยออกมาแล้วก็ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนหมดเวลาเป็นการเก็บคะแนนไปเรื่อยๆ เนื่องจากฆวนเป็นคนที่เคลื่อนไหวได้เร็วมากทำให้คู่ต่อสู้โจมตีเขาไม่ค่อยโดนจนแพ้คะแนนไป บางคนก็เหนื่อยและโดนแย็ปเข้าหน้านวดไปเรื่อยๆจนน็อคไปเอง แต่ฆวนก็มีข้อเสียอย่างนึงคือมีคางที่เปราะเอามากๆ ถ้าใครต่อยโดนแถวๆคางแกได้ก็จะได้เห็นฆวนลงไปจูบพื้นผ้าใบของเวที (ซึ่งก็ต่อยไม่ค่อยโดนกันเพราะพี่แกไวมาก) แต่ถึงอย่างงั้นก็มีภาพที่ฆวนร่วงอยู่ 2-3 ครั้งได้ซึ่งนั่นคือตอนที่เขาประมาท

หลังจากวนเวียนในใต้ดินอยู่นาน ในที่สุดฟอร์มมวยของเขาก็ไปถูกโปรโมเตอร์มวยคนนึงและเขาคนนั้นก็ได้พาฆวนไปเซ็นสัญญาเป็นนักมวยอาชีพใน 21 ปี โดยเขาทำผลงานได้ดีเอามากๆ เขาชนะห้าไฟท์ติดก่อนจะได้แชมป์เฉพาะกาลในไฟท์ที่หกและได้เข็มขัดแชมป์สภามวยโลกในไฟท์ที่เจ็ดและเขายังป้องกันแชมป์มันได้อีกสองครั้ง นั่นทำให้สถิติตอนนี้ของเขาอยู่ที่ 9-0 ซึ่งเขาทำเงินได้มากมายจากการชกมวยและโปรโมทไฟท์ ด้วยความที่เขามีสไตลล์การชกและการพูดยี่ยวนกวนประสาทน่าตบบ้องหู ทำให้ผู้คนมากมายต่างพากันซื้อตั๋วมาดูเขาโดนกระทืบคาเวที (แต่ก็ต้องกลับบ้านไปด้วยความผิดหวัง) ซึ่งในตอนนี้เขาเป็นจะเป็นเศรษฐีแล้ว และเมื่อเขามีเงินแล้วเขาก็เหลิงเพราะตอนที่ยังชกมวยใต้ดินอยู่นั้นเขาจำเป็นต้องประหยัดเพราะเงินที่ได้มานั้นมันไม่เยอะมาก ส่วนก็ใช้จ่ายค่าห้องล็อคเกอร์กับซื้อข้าวกินและซื้อบุหรี่มาสูบ ซึ่งในตอนนี้เขามีเงินมากมายแล้วเขาก็ใช้มันอย่างฟุ่มเฟือย ซื้อรถ ซื้อบ้านหรู ซื้อชุดหล่อๆ ซื้อผู้หญิง ซื้อเครื่องบิน ซื้อนาฬิกาข้อมือ กินไข่ปลาคาเวียร์เป็นอาหารว่าง นอกจากนี้เขายังจ้างโค้ชราคาแพงมาค่อยช่วยเขาด้วย ซึ่งในปัจจุบัน ณ ขณะนี้ ฆวนที่ครั้งหนึ่งเป็นแค่เด็กสลัมตอนนี้เขาได้พลิกตัวเองเป็นนักมวยในคลาบเศรษฐีซึ่งกำลังจะป้องกันแชมป์เป็นครั้งที่สาม แต่ทว่าก็ได้มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นทำให้ไฟท์นี้ต้องถูกยกเลิกไปตลอดกาล.....

คาแร็คเตอร์ : เนื่องจากว่าเขาหนีออกจากบ้านเป็นนักมวยตัวคนเดียวตั้งแต่อายุ 15 ซึ่งทำให้ฆวนนั้นสนใจแต่ "ตัวเขาเอง" เขาไม่เคยคิดว่าคนอื่นจะเป็นตายร้ายดียังไง ขอให้ตัวเขาเองนั้นอยู่รอดสุขสบายแค่นั้นก็พอแล้ว ตัวเขาต้องมาก่อนคนอื่นเสมอไม่ว่ายังไงก็ตาม เป็นคนที่จะแย่งอาหารจากเด็กน้อยด้วยเหตุผลที่ว่าเขาเป็นคนเจอก่อน ไม่แบ่งของอะไรใครแม้แต่นิดเดียว ถ้าเกิดสถานการณ์ไม่ค่อยดีเขาจะเป็นคนที่หนีไปเป็นคนแรกๆ เจอยอมร่วมมือกับคนอื่นก็ต่อเมื่อตัวเขานั้นจะได้ประโยชน์จากการร่วมมือในครั้งนี้ ไม่ชอบหมา (ที่ชอบเห่าเสียงดังติดๆกัน ถ้าไม่เห่าก็จะเฉยๆ) จะไม่ยอมให้ใครแตะสัมภาระของเขาเด็ดขาดเพราะในนั้นมีเงินอยู่ เวลาเครียดมากๆชอบสูบบุหรี่ ชอบขู่ที่จะใช้ความรุนแรงเวลามีคนมาขัดคอเขา พูดจาเห็นแก่ตัวและไม่แคร์ความรู้สึกของคนอื่น

ความสามารถ : การที่เขาเป็นนักมวยแน่นอนว่าสภาพร่างกายของเขาจะฟิตกว่าคนอื่น เหนื่อยยาก คาร์ดิโอ้เยอะ สู้และหลบซอมบี้ในระยะปะชิดได้ดี แต่ถึงอย่างงั้นเขาก็ไม่ค่อยสู้เพราะสไตลล์การต่อสู้เขานั้นมันไม่เหมาะกับซอมบี้เอาเสียเลย ก็เลยเน้นหลบเอาซะมากกว่า มีแรงค่อนข้างเยอะ ปฐมพยาบาลได้บ้างนิดหน่อย (เคยเห็นลูกทีมทำบ่อย)

รูป :

ชื่อ : Christine Bishop คริสติน บิชอป

อายุ : 24

น้ำหนัก-ส่วนสูง : 170 cm / 59 kg

ประวัติ : เด็กสาวผู้เกิดมาพร้อมกับจิตใจสาธารณะ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น เธอจึงมีความใฝ่ฝันอยากเป็นทหารเพื่อปกป้องประเทศชาติ เมื่อย่างเข้าวัยรุ่นจึงเข้าศึกษาโรงเรียนเตรียมทหาร พอเรียนได้อยู่ 1 ปี ก็ถูกคุณแม่ของเธอขอร้องให้เลิกเรียนเพราะไม่อยากให้เธอไปเป็นทหารเนื่องจากกลัวเธอจะเป็นอันตราย ด้วยความที่อยากให้แม่สบายใจเธอจึงออกมากลางคัน และเริ่มหันมาสนใจด้านวิชาชีพนักข่าว ซึ่งเป็นอีกอาชีพที่เธอใฝ่ฝันเช่นกัน เมื่อเรียนจบมาจึงได้เป็นผู้ประกาศข่าวภาคสนามของช่องข่าวช่องหนึ่ง หลังจากที่ข่าวเรื่องเชื้อโรคระบาดเริ่มเกิดขึ้นในสหรัฐ เธอมีความรู้สึกสนใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ และด้วยจิตใจสาธารณะของเธอ เธอจึงมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะช่วยเหลือผู้ติดเชื้อ โดยหารู้ไม่ว่าเชื้อดังกล่าวร้ายแรงกว่าที่เธอคิด และคนธรรมดาอย่างเธอไม่มีวันที่จะหยุดยั้งมันได้

คาแร็คเตอร์ : จิตใจดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น จนบางทีก็เกือบทำอะไรโง่ๆ อย่างเช่นช่วยคนโดนกัดโดยไม่สนว่าอีกไม่นานคนๆนั้นจะเป็นซอมบี้ แต่เมื่อเธอได้รับรู้ถึงความอันตรายของเชื้อนรกตัวนี้ ความคิดของเธอก็เริ่มเปลี่ยนไปบ้าง แต่ก็ยังมีจิตใจสาธรณะอยู่ดี ช่วยใครได้ก็จะช่วย นอกจากนี้เธอยังมีไหวพริบในการเอาตัวรอด สามารถใช้อาวุธปืนเพื่อป้องกันตัวเองได้ ด้วยประสบการณ์ที่เคยเรียนโรงเรียนทหารมา 1 ปี แม้จะไม่ได้ยิงเก่งหรือแม่นแบบจับวาง แต่เธอก็ไม่เป็นตัวถ่วงของทีมแน่นอน

ความสามารถ : ใช้ปืนได้บ้าง แต่จุดเด่นของของเธอคือความมีไหวพริบ สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ต่างๆได้อย่างดีเยี่ยมและรวดเร็ว โดยเฉพาะยามที่จะต้องเอาตัวรอด

รูป : Jesse Eisenberg (Lex Luthor)




ชื่อ : Joseph Wayne
อายุ : 32 ปี
น้ำหนัก-ส่วนสูง :
ประวัติ :

คาแร็คเตอร์ : เจ้าของบริษัท ......... ผู้แทบจะผูกขาดกับสาธารณูประโภคแทบจะทุกอย่าง ภายนอกนั้นทุกคนเห็นเขาเหมือนแสงสว่างที่จะนำความสงบสุขมาให้กับโลก เขานั้นแจกจ่ายพวกถุงยังชีพแด่ผู้เหลือรอด แน่นอนว่าทุกคนนั้นแทบเห็นเขาเป็นฮีโรเลยก็ว่าได้ แต่สุดท้ายนั้นที่เขาทำไปเพราะความหวังดีจริงๆหรือเปล่า ?

บุคลิกของเขานั้น เหมือนเป็นคนที่จะพูดให้เข้าใจยาก มันเต็มไปด้วยปรัชญา หรือคำพูดให้คนชวนเชื่อ รอบคอบ หว่านล้อมเก่ง เป็นคนฉลาดหลักแหลม แล้วดขานั้นยังเป็นคนที่มีความเชื่อแปลกๆอีก  เขาไม่คิดว่าซอมบีนั้นเป็นอันตราย แต่มันคือวิวัฒนาการขั้นต่อไปของมวลมนุษยชาติต่างหากละ


แน่นอนในห้องแลปของเขานั้นมีการทดลองอะไรแปลกๆ เกี่ยวกับยีนส์ของซอมบี้ โดยการใช้มนุษย์ สัตว์ ในการเป็นหนูทดลอง แล้วเขาจะทำได้ยังไงละ ? การหว่านล้อมของเขา การพูดชวนเชื่อ ความช่วยเหลือปลอมๆ ที่เขาสร้างให้คนอื่นนั่นละคือการซื้อใจ คนที่ถูกเขาจับมานั้นส่วนมากถูกไอ้นี่หลอกทั้งสิ้น แล้วเขาจะกำจัดคนที่รู้เห็นหรือคนที่จะทรยศเขาอย่างทรมาน เขาดูคนออกว่าใครกันคิดจะทรยศเขา เขาจะสั่งจับมาแล้วทรมานจนตายเลยก็ว่าได้ หรือไม่ใครคิดว่าการทำของเขามันโคตรเพ้อฝัน มันไม่ใช่หนังผีชีวะหรืออะไร แต่มันมีขนาดนี้ถ้านี่มันคือวิวัฒนาการต่อไปของมนุษยชาติจริงๆละ มันอาจจะเป็นสิ่งที่พระเจ้ากำหนดมาให้แล้ว ถ้าใครคิดว่ามันโคตรจะไร้สาระ เขาก้จะไม่เก็บไว้ และตอนนี้เขานั้นเหมือนเขาจะมียาสกัดรักษาเชื้อโรคแต่จริงหรือเปล่านั้นไม่มีใครบอกได้นอกจากตัวของโจเซฟเอง


ความสามารถ :

รูป: Chris Tucker



ชื่อ: Edward Carter
อายุ:  25 ปี
น้ำหนัก-ส่วนสูง: 176 ซม. / 72 กก.

ประวัติ: เด็กหนุ่มอนาคตไกลที่กำลังอยู่ในระหว่างการศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในยุโรป เขาอยู่ในระหว่างศึกษาปริญญาโทหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์แต่ทั้งนี้การตัดสินใจในด้านการเรียนที่สูงระดับนี้หาใช่จะมาจากเขาแต่เพียงผู้เดียว จริงอยู่ที่ว่าเขาผู้นี้ชื่นชอบการรังสรรค์ สร้างสิ่งของเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงเลือกที่จะศึกษาในด้านนี้แต่เช่นเดียวกันเขาก็ได้รับแรงกดดันจากครอบครัวเป็นอย่างหนักในด้านการศึกษา เวลาพักผ่อนและเวลาที่จะทำอะไรที่ต้องการจริงๆ นั้นค่อนข้างน้อย เขาอยากที่จะสร้างสิ่งของในเชิงปฏิบัติเป็นหลักหาใช่ทฤษฏีที่ต้องนั่งจดท่องจำไปวันๆ จนเกิดภาวะเครียดในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามเขาก็ต้องทนเรียนไปวันๆ โดยที่ไม่สามารถทำอะไรหรือพูดความในใจกับสิ่งที่ตัวเองต้องการจริงๆ กับครอบครัวได้ 

ด้วยความเครียดสะสมที่นับวันก็เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ มันจึงทำให้เขารู้สึกเบื่อการเรียน เบื่อระบบ เบื่อความจริง เบื่อทุกสิ่งทุกอย่าง เบื่อโลก อยากตายยยยยย! ด้วยความกดดันเหล่านั้นเริ่มทำให้เขามีความคิดเพ้อฝันว่าถ้าเกิดวันหนึ่งโลกเข้าสู่กาลอวสานโดยที่เขายังใช้ชีวิตอยู่ในระบบโง่ๆ นี้ไปวันๆ ละ? ถ้าเกิดว่าวันหนึ่งมีระเบิดนิวเคลียร์จากฟากฟ้าที่ถูกสั่งการโดยเอไอพยศเหมือนในหนังคนเหล็กมันจะเป็นยังไง? ถ้าเกิดว่าวันหนึ่งที่เขากำลังนั่งจิบกาแฟ มือกดแลปท็อปของตัวเองในร้านสตาร์บัคแล้วปรากฏก็อดซิลล่าจากมหาสมุทรแดนไกลมันจะมีผลเช่นไรกับเขา? หรือว่า... ถ้าเกิด... วันหนึ่งเขาต้องมาใช้ชีวิตอยู่กับกลุ่มผู้คนแปลกหน้า แลกเปลี่ยนความเห็น มีบทสนทนาเชิงลึกท่ามกลางกองเพลิงในยามราตรี หลบซ่อนอยู่ในแหล่งลี้ภัย ต้องต่อกรกับเหล่าฝูงเดรัจฉานอมนุษย์ ขับรถชนร่างไร้วิญญาณหรือประดิษฐ์กับดักระเบิดโคตรจะเท่แบบหนังซอมบี้มันจะเป็นยังไงวะไอ้สัส! ทั้งนี้ความคิดเหล่านี้ก็น่าจะบอกแล้วว่าเขาเป็นหนึ่งในผู้ที่คลั่งไคล้ภาพยนตร์มากขนาดไหน เจาะจงโดยเฉพาะหนังฮอลลิวูด 

เขามีความคิดแบบนั้นสุมในหัวของตัวเองเป็นเวลานานแสนนานราวกับเฝ้าหวังว่าให้อะไรแบบนี้มันเกิดขึ้นจริงๆ เขาเบื่อที่จะใช้ชีวิตอยู่กับโลกธรรมดาไปวันๆ แล้ว เขาอยากจะสัมผัสกับเหตุการณ์บ้าบิ่นแบบนี้สักครั้งแม้ว่าตายก็ไม่สน ยังไงก็ตามถ้าอยู่แล้วพบเจอแต่ความน่าเบื่อโง่เง่าเหล่านั้น สู้วิ่งเสี่ยงชีวิตแบบเอ็กซ์ตรีมสุดขั้วแล้วตายแม่งดีกว่าไอ้หมาแม่เย็ด แต่อย่างว่ามันก็เป็นแค่ความคิดโง่ๆ ที่มาจากในหนังของนักศึกษาคนนึงที่แสนจะหน่ายกับชีวิตประจำวันของตัวเองเท่านั้น

สิ่งเดียวที่ยังทำให้เขามีลมหายใจจนถึงทุกวันนี้และไม่ปิดชีวิตของตนเองจากภาวะความกดดัน ความเครียดแบบผู้อื่นคือกิจกรรมยามว่างของเขาที่เป็นการสร้างประดิษฐ์อะไรประหลาดๆ หรือกิจกรรมที่แสนจะเอ็กซ์ตรีมเพื่อระบายความเครียดจนทำให้เขามีบาดแผลรอบตัวเต็มไปหมด

แต่กระนั้นเขาก็ไม่เคยคิดเคยฝันว่าวันหนึ่ง... ในช่วงระหว่างปิดเทอมพักการศึกษาของเขา ในช่วงระหว่างที่เขากำลังใช้เวลาพักผ่อนนี้ลองมาเที่ยวอเมริกาดูสักครั้ง สัมผัสแดนแห่งฮอลลิวูด พบเจอกับดารา ผู้กำกับหรือสถานที่อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับภาพยนตร์ที่เขาชื่นชอบ โดยที่เขาไม่ได้คิดเลยว่าไอ้ความคิดที่สุมหัวเขามาเป็นเวลานานนั่นกำลังจะเกิดขึ้นกลายเป็นความจริง

คาแร็คเตอร์: ด้วยภาวะความเครียดที่เกิดขึ้นเป็นเวลานานได้ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเก็บกด จนเมื่อสิ่งที่เขาปรารถนาแบบลมๆ แล้งๆ เกิดขึ้นมันทำให้เขาอยากระเบิดทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเก็บไว้มานานเสียที ถึงเวลาจะได้มันส์แบบสุดโต่งแล้วโว้ย อย่างว่าเขาชอบทำอะไรที่หลุดโลก เมื่อไม่มีอะไรมาขวางเขาแล้ว ไม่มีครอบครัว ไม่มีภาระ ไม่มีการเรียน แม้แต่ฝูงซอมบี้ก็หยุดกูไม่ได้! Ain't no Stoppin' Me, NOW! กูอยากจะทำอะไรก็ทำแล้ว! แต่ทั้งนี้ไม่ใช่ว่าเขาจะทำนั่นนี่โดยไม่สนใจหีแตดอะไรแบบนั้น เขายังคงคิดอยู่ว่าการกระทำของเขานั้นจะสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นั่นคงจะมาจากการศึกษาและสังคมของเขาที่ยังทำให้เขามีจิตใต้สำนึกอยู่ว่าอะไรควรทำตอนไหนและอย่างไร 

เอ็ดวาร์ดมีความสามารถในการสร้างการประดิษฐ์ที่แปลกใหม่อย่างที่คนปกติเขาไม่คิดกัน ด้วยความชื่นชอบในการรังสรรค์สิ่งของอยู่แล้วบวกกับการศึกษาของเขาที่พอผ่านอะไรแบบนี้มาบ้าง จึงทำให้เขามีความเชี่ขวชาญพอควรในการประดิษฐ์สิ่งของเมื่อเทียบกับกลุ่มผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ แต่ทั้งนี้สิ่งประดิษฐ์ของเขามักจะมีฟังค์ชั่นบ้าบอกวนส้นตีนอยู่บ้าง เหมือนกับลึกๆ ในใจเขาก็อยากลองแกล้งคนบ้างอะไรแบบนี้ 

ทั้งนี้ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อครอบครัวของเขาเท่าไหร่นักแต่เขาเองก็ยังคงเป็นห่วงครอบครัวของตัวเอง บ้างก็เขาตระหนักคิดว่าเรื่องร้ายแบบนี้มันจะเกิดขึ้นกับครอบครัวของพวกเขาที่อยู่ยุโรปหรือไม่ หวังว่าพวกเขาจะปลอดภัยดี

และเอ็ดวาร์ดผู้นี้เป็นคนที่บ้าหนังมากๆ โดยเฉพาะหนังแนวแอ็คชั่น ยิงกันตูมต้ามหรืออะไรประมาณนี้ เอาเป็นว่าเขาบ้าหนังจนถึงขั้นที่ว่าอยากมีโมเม้นต์ของตัวเองบ้างในโลกจินตนาการอะไรแบบนั้น แต่ในเมื่อจินตนาการนั้นได้กลายเป็นความจริงเขาก็ยิ่งอยากที่จะสร้างโมเม้นต์ให้ทุกคนได้จดจำ ให้ทุกคนได้ Remember my name! เขาอยากที่จะวันหนึ่งเมื่อเหตุการณ์สงบลงผู้คนจะเรียกชื่อของเขา, Say my name nigga! SAY MY NAME! “Edward Carter”

เอ็ดวาร์ดนั้นมักจะถูกคนส่วนใหญ่โดยเฉพาะคนที่สนิทด้วยว่า “เอ็ด” หรือไม่ก็ “เอ็ดดี้”
 
ความสามารถ: เชี่ยวชาญการประดิษฐ์ การคราฟของ เก่งจริงเก่งจังขนาดที่ว่าเอาเศษเหล็กมาให้เขา มึงก็ยังเสือกสามารถสร้างอะไรขึ้นมาได้สักอย่างละ และมากครั้งเขามักจะมีความคิดบ้าๆ บอๆ ในสถานการณ์คับขันแต่มากครั้งเช่นกันที่ความคิดที่ไม่มีคาดถึงนั้นจะเป็นประโยชน์ให้รอดชีวิตได้

อื่นๆ: จะตายห่าก็เพราะความคิดบ้าๆ ของแม่งนี่ละ
เหตุที่มารูปและนามสกุลนี้เพราะผมอยากให้ตัวละครนี้ตะโกนเรียกพระเอก “ไอ้ลี!” แบบในหนังแอ็คชั่นเรื่องหนึ่ง
“กูโดนตะเกียบเสียบตูด แต่มึงพูดแค่เสียใจหรอ?”