Navik (Register Section)

ผมเหงา... เล่น Apex Legends ช่วงนี้ไม่รุ่ง อยากหาไรเขียนแต่อารมณ์ตอนนี้ไม่ค่อยอยากที่จะเขียน Protonian สักเท่าไหร่ ยังไม่ได้ล้มโปรเจคเรื่องเก่านะแต่ว่าแค่อยากลองเขียนอะไรอย่างอื่นดู มันก็ไม่เชิงว่าอย่างอื่นซะทีเดียวหรอก ก็วนๆ แนวแฟนตาซีเหมือนเดิมละ xd

เรื่องนี้เขียนแบบตามใจฉัน... ตอนนึงน่าจะนานๆ ลงที (มั้ง) เพราะฉะนั้นอย่าคาดหวังกับผมมาก
ชื่อไทยไม่ได้คิด ช่วยหน่อยก็ดีย์ lal

สำหรับเรื่อง Navik นี้จะมีคอนเส็ปที่เล็กกว่าเรื่องก่อนพอดู แนวนิยายจะเน้นหลักไปทางแฟนตาซีเช่นเดิมแต่สเกลสถานที่เกิดเหตุจะไม่ใช่ระดับโลกเหมือนเรื่องที่ผ่านมาแต่เป็นเพียงแค่ดินแดนเล็กๆ เท่านั้น เช่นเดียวกันกับด้านสเกลพลังที่จะไม่ได้หวือหวาถึงระดับเรื่องก่อนแต่ก็ถือว่าตู้มๆๆๆๆๆๆ แบบนี้เลยพอควรอยู่ เรื่องนี้จะเป็นสไตล์ออกไปทางไวกิ้งแต่ไม่ได้มีอะไรที่เกี่ยวไปทางประวัติศาสตร์กาลก่อน เพราะฉะนั้นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเรื่องนี้จะไม่ได้มีอารมณ์ประมาณตามเป็นไวกิ้งซะทีเดียวแต่เป็นแฟนตาซีโทนนั้นเสียมากกว่า เหตุผลง่ายๆ เรื่องนี้เกิดในแดนที่คิดเอง โลกฉัน! กฏของฉัน! ไงละๆ แต่โดยมากผมจะ Base ประสบการณ์ วัฒนธรรม ประเพณีนั่นนี่นี่นั่นตามประเทศที่ผมอาศัยอยู่เข้ามาในเรื่องนี้ (ผมอยู่สวีเดน เมืองหนาว เมืองไวกิ้ง) อะไรประมาณนั้น ซึ่งการอ่านคำหรือนั่นนี่จะมีพื้นฐานมาจากการอ่านโดยใช้สำเนียงภาษาทางนี้ เพราะฉะนั้นอย่าแปลกใจที่ทำไมบางทีมันอาจเหน่อๆ แปลกๆ

แล้วก็แนวการเขียนเรื่องนี้จะมีการใช้คำคล้ายคลึงกับโพรโตเนี่ยนแต่จะมีการจัดหน้าและบรรยายที่แตกต่างนิดหน่อย

เช่นเดียวกันผมดำเนินเรื่องนี้ในมุมมองที่หนึ่งผ่านตัวละครหลักเช่นเดิม อันนี้ยังไม่ได้คิดว่าทุกตอนจะดำเนินผ่านทางตัวละครหลักเลยหรือจะมีบางตอนที่หันไปหาตัวละครอื่นมา

ส่วนเนื้อเรื่องโดยคร่าว...

ณ ดินแดนทางตอนเหนือที่ถูกเรียกว่าแดนแห่งเหมันต์ รู้จักกันดีในนาม “ยัลลิเวียร์” (Jällivayr) เป็นหนึ่งในถิ่นฐานที่ชนพื้นเมืองไวกิ้งที่อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก กระนั้นมันไม่ใช่การอาศัยอยู่อย่างสามัคคีสงบสุข หากแต่มีการแบ่งแยกชนเผ่าและเกิดสงครามเพื่อแย่งชิงทรัพยากร อาณาเขตเพื่อความอยู่รอดในดินแดนอันหนาวเหน็บนี้ ซึ่งอุปสรรคในการเป็นอยู่ในดินแดนนี้นั้นไม่ใช่เพียงแค่ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูต่างเผ่าเท่านั้น หากแต่เรื่องความขัดสนลำบากในปัจจัยสี่ที่ยากยิ่งจะหาได้ ฤดูหนาวที่ยาวนานหลายเท่ามากกว่าฤดูอื่นๆ น้อยครั้งจะปรากฏใบไม้ผลิ และถ้าโชคดีจริงๆ ก็อาจพอได้สัมผัสแดดคิมหันต์ฤดูหกเจ็ดวันก็ถือว่ามากแล้ว อีกทั้งยังมีสัตว์เดรัจฉาน สิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือมารอาคมทั่วผืนป่า ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ผิดเพี้ยนก่อให้เกิดพลังอาคมเวทที่มีผลกระทบต่อทุกชีวิตในผืนแดน นั่นคือสิ่งที่เหล่าไวกิ้งเผชิญอยู่ในแดนดินเช่นนี้ จึงถือว่าผืนดินเหมันต์อันกว้างใหญ่นี้หาได้เป็นแผ่นดินปกติทั่วไป

แต่นอกจากนั้นแล้วยังมีปรากฏการณ์ประหลาดอีกหนึ่งที่เกิดขึ้นในดินแดนยัลลิเวียร์แห่งนี้ซึ่งจะเกิดขึ้นโดยประมาณหนึ่งศตวรรษต่อครั้ง ในช่วงเหมันต์ฤดูของปีนั้นจะมีเกาะขุนเขาขนาดเล็กผุดขึ้นมาจากมหาสมุทร ภายในเต็มไปด้วยพลังเวทอาคมปริศนาที่ไม่มีใครพิสูจน์ถึงต้นตอที่มาได้ สถานที่และเหตุการณ์นั้นถูกเรียกว่า “นาวิก” (Navik)

ว่ากันว่าเวทมนตร์ภายในเกาะแห่งนั้นมีผลทำให้พรของใครก็ตามที่เดินทางไปถึงบนยอดสุดแห่งขุนเขานาวิกเป็นจริงได้ บ้างก็มีกล่าวว่าผู้นั้นจะมีอำนาจเหมือนดั่งจ้าวโลกจนกว่าระยะเวลาจะครบอีกรอบและเกิดเหตุการณ์วนซ้ำทุกๆ ศตวรรษ ด้วยคำเล่าจากปากต่อปากที่ไม่รู้ว่ามันเป็นจริงหรือไม่เป็นเหตุผลให้หลายชีวิตทั่วทุกมุมโลกแห่งนี้มุ่งไปยังนาวิกและต่อสู้เพื่อไปถึงยอดสุดแห่งนาวิก

โยริก ไบย์สเตริม (Jórekr Bergström) หนึ่งในไวกิ้งสังกัดเผ่า “ฮริสธีร์” (Hreysti) ผู้อาศัยอยู่ในแดนเหมันต์แห่งนี้ จะต้องเอาชีวิตรอดจากภัยทั้งหมดในเหตุการณ์นาวิกครั้งนี้




แล้วก็ที่นี่ไม่ใช่โลกความเป็นจริงนะ เป็นอารมณ์แบบโพรโตเนี่ยน โลกในจักรวาลผม... เพราะฉะนั้นถ้าตรรกะเพี้ยนมันจะอ้างว่านี่โลกผม 

แปะทิ้งไว้ก่อน

รูป: Patroklos Alexander [Soul Calibur VI]



ชื่อ: Alvis Herleifr

ฉายาตัวละคร: The Venomous Fangs (เขี้ยวเล็บนาคราช)/ The Rogue One (ผู้นอกรีต) xd

อายุ: 29

เผ่า: ไวกิ้ง - ฮาเวิคก์

ประวัติ: ชายที่เกิดมาในชนเผ่าฮาเวิคก์ที่ใช้กำลังในการแก้ปัญหาทุกสิ่งทุกอย่าง บ้าเลือดและบ้าคลั่ง ซึ่งในช่วงแรกเขาก็ได้รับการสอนจากพ่อแม่ในเผ่าฮาเวิคก์ให้กลายไปเป็น stereotype ของไวกิ้งฮาเวิคก์ก็คือต้องแข็งแรง ร่างกายกำยำ บ้าเลือด ใช้กำลังในการแก้ปัญหา เขาก็จะโตไปเป็นหนึ่งในประชากรรูปแบบพื้นฐานของฮาเวิคก์ แต่จุดเปลี่ยนชีวิตของเขาคือพลังธาตุพิษที่ทำให้เขารับรู้ถึงความจริง ในเมื่อเขามีพลังธาตุพิษที่สามารถใช้ปลิดชีพศัตรูได้ด้วยนานาวิธี ทำไมเขาจำเป็นที่จะต้องเข้าไปบุกป่าฝ่าดงใช้กำลังต่อสู้กันซึ่งๆหน้า ในเมื่อเขามีวิธีการที่ง่ายกว่านั้น นับแต่นั้นมาแนวคิดของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปจากแนวคิดของฮาเวิคก์กลายมาเป็นสิ่งอื่น ซึ่งจะว่าเกือบจะ เกือบจะเข้าข่ายเป็นนิสัยของไวกิ้งคู่อาฆาตอย่างฮรีสธีร์ จนทำให้ถูกตามล่าจากเพื่อนชาวเผ่าฮาเวิคก์ด้วยกันเอง จนต้องเร่ร่อนหนีตายไปวันๆ เพียงเพราะแนวคิดที่แปลกไป เมื่อดูหมดหนทางในการเอาตัวรอด ไอเดียสุดท้ายที่เขานึกออกก็คือการไปถึงนาวิกเพื่อที่เขาจะได้พลิกกลายเป็น 'ผู้ชนะ' ในเกมไล่จับครั้งนี้

คาแรกเตอร์: เจ้าเล่ห์เจ้ากล ใช้สมองในการแก้ปัญหาผิดไปจากรูปแบบปกติของไวกิ้งเผ่าฮาเวิคก์ และไม่สนใจด้วยว่าวิธีการที่เขาใช้จะเป็นแบบไหนขอเพียงแค่ได้ผลลัพธ์ก็พอ พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อรักษาชีวิตของตัวเอง everything is for himself เกลียดเพื่อนเผ่าฮาเวิคก์แบบสุดขั้วเนื่องจากชีวิตของเขาต้องลำบากเพราะพวกแม่ง แต่ก็ไม่ได้ชื่นชอบหรือรู้สึกถูกใจชอบใจเผ่าคู๋อาฆาตอย่างฮริสธีร์เพราะเขาก็ยังไม่ได้รู้จักฮริสธีร์อย่างแท้จริงนอกเสียจากเคยฟังข้อมูลข่าวสารจากเพื่อนเผ่าฮาเวิคก์ ทำให้ยังมีความรู้สึกว่าเป็นศัตรูกับฮริสธีร์ และตอนนี้เขาก็เป็นศัตรูกับฮาเวิคก์ ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ร้ายแรงมากๆ แต่ก็เหมือนที่ได้บอกไว้ เขา จะ ไม่ มี วัน ยอม ตาย โดย เด็ด ขาด

อาวุธ: ดาบนาม Eitrormr มีคุณสมบัติของการเป็นดาบอาบยาพิษรุนแรง



พลังธาตุ: พิษ

กระบวนท่า: ส่วนใหญ่จะเป็นการใช้พลังพิษของตัวเองไปทำอย่างอื่นเสียมากกว่า วางยา อาบยาพิษ นู่นนี่นั่น แต่ถ้าหากต้องเผชิญหน้าจริงๆล่ะก็

ปรสิตอสรพิษ (Venomous Wrap) - สะบัดดาบเพื่อปลดปล่อยพลังพิษเป็นลำแสงรูปทรงเหมือนงูพิษเข้าไปรัดส่วนต่างๆของเป้าหมาย แล้วแต่การใช้งานหรือบางครั้งก็รัดทั้งตัว สิ่งที่ถูกรัดจะค่อยๆโดนพิษเล่นงานไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหลุดพ้นจากเงื้อมมือนี้
ภุชงค์แตกฉาน (Venomous Explosion) - สาดพิษออกไปรอบๆร่างกายของตนเองเหมือนดั่งระเบิด ทั้งนี้สามารถปลดปล่อยระเบิดพิษ (ภุชงค์แตกฉาน) อันนี้โดยที่ตัวระเบิดสามารถระเบิดจากตัวปลายของปรสิตอสรพิษได้
ห่าพิรุณยฆาต (Poisoned Raindrop) - ปล่อยพิษมุ่งสู่อากาศแล้วแปรสภาพให้กลายเป็นเม็ดฝนที่เต็มไปด้วยเชื้อและสารพิษรุนแรง
พิษกร่อนสลาย (Corrosive Acid) - ปล่อยพิษ (กรด) ใส่สิ่งของจนทำให้สิ่งที่ได้รับสารนี้เกิดการสึกกร่อนและค่อยๆย่อยสลายไปเรื่อยๆ

สุดท้ายมันก็ต้องมีอัลติสิ

ธาษตรีปนเปื้อน (Toxic Environment) - ปนเปื้อนทุกสิ่งทุกอย่างในรัศมีรอบตัวของเขากลายเป็นพิษ ผืนน้ำ ต้นไม้ แผ่นดิน ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนติดพิษและพร้อมที่จะปล่อยพิษให้กับทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในอาณาบริเวณนี้ ยกเว้นเขาที่ทนทานต่อพิษอยู่แล้ว

จุดประสงค์ในการเดินทางไปนาวิก/พรที่ต้องการให้เป็นจริง: กลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดและกำราบเหล่าสิ่งมีชิวิตตัวอื่นได้

เพิ่มเติม:

รูป: Fate/Strange Fake - True Rider


ชื่อ: นีอา สโตร์วิค (Nia Stórvik)
ฉายาตัวละคร: "แม่มดแห่งแดนจันทร์ครึ่งซีก (Witch of the Crescent Land)"
อายุ: 26
เผ่า: ต่างแดน (มีบรรพบุรุษเป็นชาวฮริสธีร์)

ประวัติ: นีอานั้นเกิดในตระกูลของนักรบที่สืบเชื้อสายดั้งเดิมมาจากชาวฮริสธีร์ที่ย้ายถิ่นฐานมาจากดินแดนนามยัลลีเวียร์เมื่อศตวรรษก่อน เธอได้ยินเรื่องราวมาว่าในคราวทวดของเธอยังหนุ่มอยู่นั้น เขาได้เข้าร่วมกับกลุ่มนักเดินทางที่เต็มไปด้วยชาวฮริสธีร์ด้วยกันไปสำรวจเกาะลึกลับที่มีนามว่า "นาวิก" ทว่าก็เกิดเหตุร้ายขึ้นทำให้ทวดของเธอเป็นผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียว ก่อนจะเดินทางออกมาจากยัลลีเวียร์ในเวลาหลายปีต่อมาและดำรงชีวิตต่อ ณ ดินแดนตะวันออกแห่งนี้ที่อุดมสมบูรณ์กว่ามาก

ปัจจุบันนั้นตระกูลของเธอทำกิจการค้าขายเป็นส่วนใหญ่ สินค้าทีี่มีชื่อเสียงของพวกเธอคือเครื่องเทศ และด้วยสิ่งนั้นจึงทำให้กิจการรุ่งเรืองและใช้ชีวิตได้อย่างผาสุขดี... จนกระทั่งได้มีโรคประหลาดมาเยือนเมืองแห่งนั้น มันเป็นโรคที่ไม่มีใครรู้จักมาก่อนและจะทำให้ผู้ติดโรคสูญเสียสัมปชัญญะและออกอาละวาดทำร้ายผู้อื่นด้วยกัน มันเป็นโรคที่สร้างความวุ่นวายให้กับผู้คนเป็นอย่างมาก ทว่าทางเจ้าเมืองก็สามารถระงับการกระจายเชื้อโรคได้สำเร็จลุล่วง กักขังผู้ติดเชื้อไว้ใต้ปราสาทเมือง

พ่อของนีอา "เฮอา" คือหนึ่งในผู้ติดเชื้อที่ถูกกักขังในปราสาท แม้จะโชคดีที่ไม่ถูกสังหารเหมือนกับผู้ติดเชื้อหลาย ๆ คน ทว่าด้วยเหตุนี้จึงทำให้ครอบครัวของเธอเจ็บปวดไม่แพ้กัน... นีอานำเงินในส่วนของเธอพยายามค้นคว้าหาทางรักษาอยู่หลายเดือน ทว่าก็ล้มเหลวทุกคราว จนสุดท้ายแล้วเธอจึงเลือกที่จะเชื่อในเรื่องเล่าที่สืบต่อกันมาจากบรรพบุรุษดู เรื่องที่ว่าหากใครสามารถไปถึงยอดของภูเขาแห่งนาวิกได้ จะสามารถขอพรได้หนึ่งประการ

เมื่อนั้นเองนีอาจึงเลือกที่จะปล่อยให้งานบริหารกิจการค้าเป็นของพี่น้องคนอื่น ๆ ของเธอ และออกเดินทางไปยังยัลลีเวียร์...

คาแรกเตอร์: เป็นคนที่ดูใจเย็น และมักจะมองภาพรวมก่อนตัดสินใจอะไรตลอด เป็นมิตรกับผู้คนที่ดีกับเธอ และไม่ไว้ใจคนที่ร้ายกับเธอ ด้วยความแตกต่างกันในวัฒนธรรมและสภาพแวดล้อมของบ้านเมือง นีอามองว่าการรบราฆ่าฟันหรือการบุกปล้นชิงทรัพย์ของดินแดนในแถบนี้เป็นอะไรที่ไม่เจริญเลย ทว่าก็ไม่ได้สนใจอะไรและมักจะหลีกเลี่ยงปัญหาพวกนี้ตลอด หากเป็นคนที่เธอไม่รู้จักด้วยแล้ว นีอาจะไม่แม้แต่เหลียวมองด้วยซ้ำ ทว่าหากมันเกี่ยวข้องกับเธอแลพคนที่เป็นมิตรด้วย หรือเธอได้ผลประโยชน์ด้วยแล้วล่ะก็ เธอก็พร้อมจะสละความใจเย็นและเข้ามายุ่งเกี่ยวกับปัญหาเหล่านั้นในทันที และเช่นเดียวกันหากเธอได้ผลประโยชน์จากการฆ่าคนแล้วก็จะทำอย่างไม่ลังเล จะบอกว่าเป็นคนที่เห็นแก่ตัว และมองผลประโยชน์ก่อนคุณธรรมก็อาจจะได้ ทว่าเธอก็ไม่ใช่คนชั่วที่ชอบเอาเปรียบคนอื่นหรอก

แม้ว่าจะมีความมั่นใจในการตัดสินใจก็ตาม เธอก็ไม่ได้ฉลาดหลักแหลมเสียทุกเรื่อง ยังไร้เดียงสาอยู่ในบางเรื่องจึงทำให้บางครั้งความมั่นใจของเธอก็เป็นดาบสองคมได้ นอกจากนี้แล้วแม้จะดูใจเย็นก็ตามแต่ความจริงคือเธอเป็นคนที่โกรธง่ายมาก เพียงแค่จะเป็นคนที่โกรธแบบเงียบ ๆ เท่านั้นเอง เธอไม่ชอบยอมรับความพ่ายแพ้ ไม่ชอบแสดงในด้านอ่อนแอของตน และเกลียดการถูกดูถูกเหยียดหยามเป็นที่สุด หากต้องอดทนเรื่องนี้เข้ามาก ๆ เธอก็อาจฉุนจนทำเรื่องโง่ ๆ ออกมาได้เหมือนกัน

เธอเป็นคนที่ไม่ค่อยสนใจในเรื่องการเย็บปักถักร้อย หรือการทำงานบ้าน พวกงานของผู้หญิงเท่าไรนัก เธอชอบที่จะออกเดินทางตลอด และฝึกยิงธนู ทว่าเธอจะไม่ใช่สัตว์เป็นเป้ายิง และจะออกล่าสัตว์เฉพาะเวลาจำเป็นเท่านั้น โดยเธอเองก็แอบใจอ่อนต่อสัตว์อยู่เหมือนกัน บางทีอาจจะใจอ่อนต่อสัตว์มากกว่าชีวิตมนุษย์ด้วยกันอีกก็ได้ เพราะว่าพวกมันน่ารักกว่า ส่วนในด้านกิีริยามารยาทนั้นจะดูมีกลิ่นอายของสุภาพสตรีอยู่ด้วย นีอาจึงเป็นคนที่คบหาง่าย พูดจาสบาย ๆ ทั้งหญิงและชายด้วยความที่บุคลิกของเธอดูเป็นการผสมผสานระหว่างชายและหญิงเข้าด้วยกัน... ทว่าแม้จะพูดเช่นนั้น เธอก็ไม่ค่อยจะแสดงด้านที่เป็นผู้หญิงออกมาให้เห็นหรอก

อาวุธ: ที่เธอพกติดตัวนั้นมีเพียงคันธนูธรรมดา ๆ เท่านั้น ซื้อมาจากเมืองของเธอ ทำจากไม้ที่ค่อนข้างแข็งแรงพอจะรับดาบได้อยู่สี่ถึงห้าคราว ทว่าก็ไม่ได้มีเวทมนตร์พิเศษติดไว้แต่อย่างใด นอกจากนี้แล้วเธอก็ไม่ได้พกลูกศรธนูไว้ด้วยเพราะเกะกะในการเดินทาง
พลังธาตุ: ดิน, เหล็ก

กระบวนท่า: พลังของเธอนั้นโดยคร่าวแล้วคือการควบคุมแร่เหล็กได้ดังใจนึก รวมไปถึงแร่เหล็กในเลือดหรือบนทรายต่าง ๆ นานา โดยในการควบคุมในที่นี้ไม่ใช่แบบการบังคับให้ดาบเอียงไปทางนู้นทางนี้ดังใจนึก แต่เป็นการควบคุมหรือเปลี่ยนแปลงรูปร่างของมันต่างหาก ซึ่งมีวิธีการใช้ที่หลากหลายมากและแทบไม่มีที่สิ้นสุด ทว่าก็มีกฏเพียงอย่างหนึ่งคือเธอไม่สามารถควบคุมแร่เหล็กในร่างกายของสิ่งมีชีวิตได้ โดยมีข้อยกเว้นเพียงร่างกายของเธอเอง (สร้างดาบขึ้นมาจากในตัวศัตรูและก็แทงทะลุคอหอยมันไปเลย อย่างนี้คือ no no too op)

ด้วยพลังของนีอานั้น เธอสามารถควบคุมแร่เหล็กในบริเวณนั้นขึ้นมาและสร้างละอองเหล็กชนิดพิเศษขึ้นมาปกคลุมตัว กระทำให้ร่างกายของเธอเกิดการสะท้อนแสงและกลมกลืนกับพื้นหลัง เป็นการล่องหนในแบบหนึ่งซึ่งใช้ได้เฉพาะในพื้นที่ที่มีแสง สามารถใช้กับคนอื่นได้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้เธอยังประยุกต์นี้ของเธอ ควบคุมแร่เหล็กภายในเลือดและทำให้มันล่องหนได้ ซึ่งจะใช้ในยามที่ตนบาดเจ็บและต้องหลบหนีจากนักล่าคนอื่น ทว่ามิได้ใช้บ่อยนัก และมีผลล่องหนเพียงชั่วโมงเดียวเท่านั้น

เป็นพลังหลักของนีอา และจัดเป็นหนึ่งในไพ่ตายของเธอเลยก็ว่าได้ ด้วยพลังในการควบคุมแร่เหล็กของเธอนั้น เธอสามารถที่จะสร้างสิ่งของหรืออาวุธขึ้นมาได้โดยใช้แร่เหล็กในสภาพแวดล้อมหรือในร่างกายของเธอนั้นเองเป็นทรัพยากร โดยเธอสามารถสร้างได้แทบทุกสิ่งที่ตนเคยเห็นมาเลยหากมีทรัพยากรที่เพียงพอ ดาบ ลูกศร โล่ มีด กับดักล่าสัตว์ หรือแม้แต่ของใช้ทั่วไปอย่าง ถ้วย ชาม ช้อน ส้อม ก็สามารถทำได้ตราบใดที่รู้ว่ามันหน้าตาเป็นไง นอกจากนี้แล้วเธอยังควบคุมสิ่งของที่ทำจากเหล็กเปลี่ยนแปลงรูปร่างของมัน เปลี่ยนจานให้กลายเป็นมีด เปลี่ยนดาบให้กลายเป็นก้อนเหล็ก ถือว่าแทบจะไร้ขอบเขตเลยทีเดียว โดยในการสร้างและควบคุมนั้น ขอเพียงอยู่ในรัศมีสิบห้าเมตรก็สามารถทำได้แล้ว ทว่าทำได้อย่างมากเพียงสองอย่างต่อครั้งเท่านั้นเพราะต้องใช้สมาธิในระดับหนึ่ง (กล่าวคือทำ 10 อันทีเดียวไม่ได้)

แม้ว่าจะมีข้อบังคับที่ไม่สามารถควบคุมแร่เหล็กในร่างกายของสิ่งมีชีวิตได้ ทว่าร่างกายของเธอเป็นข้อยกเว้น ด้วยเหตุนั้นเธอจึงสามารถเปลี่ยนแปลงแร่เหล็กในร่างกายของเธอได้ ด้วยการเคลือบผิวหนังและกระดูกของเธอด้วยเหล็ก ร่างกายของเธอสามารถที่จะรับการโจมตีที่ปกติจะสามารถฉีกกระชากมนุษย์ได้โดยไร้รอยขีดข่วน ด้วยผิวหนังที่ดาบไม่มีวันเจาะเข้า และกระดูกที่ไม่มีวันแตกหัก ถือเป็นการป้องกันขั้นสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว ทว่ามีข้อเสียคือด้วยแร่เหล็กจำนวนมหาศาลนั้นจะทำให้การเคลื่อนไหวของเธอช้าลงมาก เพราะน้ำหนักเพิ่มขึ้น อีกทั้งจะทำให้การหายใจติดขัด และใช้พลังนี้ได้ไม่นานนัก สู.สุดคงจะได้ราว ๆ 5 นาที

จุดประสงค์ในการเดินทางไปนาวิก/พรที่ต้องการให้เป็นจริง: เพื่อรักษาผู้ติดเชื้อโรคประหลาดนั้น หรือก็คือเพื่อช่วยพ่อของเธอ
เพิ่มเติม: (รายละเอียดปลีกย่อย จะใช้หมดหรือทิ้งอย่างสองอย่างก็แล้วแต่ครับ)

Spoiler:

 

รูป: Shanoa


ชื่อ: เฮนเรียตต้า เลิฟเลซ (Henrietta Lovelace)
ฉายาตัวละคร: อสูรกายผมแดง (Red-Haired Demon) - ถูกเรียกโดยพวกไวกิ้ง เหตุผลตามประวัติ
อายุ: 26
เผ่า: ต่างแดน

ประวัติ: เฮนเรียตต้า เกิดในครอบครัวช่างตีดาบ พ่อของเธอเป็นช่างตีดาบฝีมือดีในหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง เมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่นพ่อของเธอเกิดป่วยและเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ทำให้เธอต้องรับช่วงต่อจากพ่อของเธอ ในระหว่างนั้นเธอพบรักกับอัศวินหนุ่มรูปงามผู้มาใช้บริการตีดาบกับเธอและได้ตกหลุมรักเธอเข้าอย่างจัง ไม่นานทั้งสองจึงได้แต่งงานกัน หลังจากชีวิตคู่กำลังไปได้ดีและมีความสุข วันที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของเฮนเรียตต้าก็มาถึง เมื่อพวกไวกิ้งเข้ามาบุกรุกในหมู่บ้านของเธอ อัศวินคนรักของเธอได้ปกป้องเธอไว้จนตัวตาย เฮนเรียตต้าเห็นคนรักของตนเสียชีวิตต่อหน้าต่อตา ทำให้เธอเสียสติทันที และระเบิดความแค้นทั้งหมดด้วยการฆ่าพวกไวกิ้งที่เข้ามาบุกรุกจนไม่เหลือ เมื่อเธอได้สติกลับมาอีกครั้งและตระหนักได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ เธอก็ได้สาบานกับตัวเองว่าจะทำลายพวกไวกิ้งให้สูญสิ้น และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความเกลียดชังต่อพวกไวกิ้งของเฮนเรียตต้า

เฮนเรียตต้าเริ่มออกล่าพวกไวกิ้งด้วยดาบที่เธอตีขึ้นเอง เธอเข่นฆ่าพวกไวกิ้งอย่างโหดร้ายทารุณด้วยเพลิงแค้นและความเกลียดชังของตน เพราะพลังเพลิงของเธอทำให้ร่างของเธอเหมือนปกคลุมด้วยสีแดงตลอดเวลา พวกไวกิ้งจึงเรียกเธอว่า "อสูรกายผมแดง" (Red-Haired Demon) และกลายเป็นที่หวาดกลัวต่อพวกไวกิ้ง แต่กระนั้นก็มีพวกไวกิ้งหลายคนอยากลองดีเพราะไม่เชื่อว่าผู้หญิงอย่างเธอจะมีพิษสงอะไร ซึ่งไวกิ้งพวกนั้นก็ไม่เคยได้มีชีวิตกลับมา วันหนึ่งเฮนเรียตต้าได้ยินเรื่องราวของ "นาวิก" จากพวกไวกิ้ง ที่จะทำให้พรของใครก็ตามเป็นจริงได้ เธอจึงเดินทางไปยังดินแดนยัลลิเวียร์ทันที เพื่อต้องการให้นาวิกชุบชีวิตคนรักของเธอขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งอีกเหตุผลนึงของเธอที่เดินทางมาที่นี่ก็เพื่อตามล่าพวกไวกิ้งในดินแดนแห่งนี้ด้วยเช่นกัน

คาแรกเตอร์: เกลียดพวกไวกิ้งเข้ากระดูกดำ ไม่ว่าจะเป็นเผ่าไหนหรือจะเป็นใคร ถ้าเป็นไวกิ้งเธอจะเข้าโจมตีทันทีโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง แต่ก็มีบางครั้งที่เธอจะไว้ชีวิตพวกไวกิ้งบ้างหากเธอรู้สึกได้ว่าไวกิ้งคนนั้นไม่ใช่คนชั่วช้า แต่ยังไงถ้าเห็นว่าเป็นไวกิ้งเธอก็จะเข้าบวกก่อนอยู่ดี อารมณ์ประมาณแทงก่อนค่อยถาม และเนื่องจากความรู้สึกของเธอเหมือนถูกทำลายจนป่นปี้หมดแล้วตั้งแต่คนรักของเธอเสียชีวิต ทำให้เธอดูเป็นคนเย็นชา ไม่แสดงอารมณ์และความรู้สึกของมามากนัก และไม่แคร์อะไรทั้งสิ้นนอกจากหมกมุ่นอยู่กับการเข่นฆ่าพวกไวกิ้งเพื่อแก้แค้น แต่ก็มีบางครั้งที่อาจจะได้เห็นเธอหลั่งน้ำตาอยู่คนเดียวเงียบๆเมื่อเธอนึกถึงคนรักของเธอที่จากไป

อาวุธ: Vengeance - ดาบที่ถูกตีขึ้นจากเพลิงแค้นของเฮนเรียตต้า
พลังธาตุ: ไฟ

กระบวนท่า:
-สร้างเพลิงขึ้นมาห่อหุ้มดาบของตัวเอง เป็นกระบวนท่าหลักที่จะใช้ก่อนทุกครั้งเมื่อต่อสู้
-ฟาดฟันดาบจนเกิดเป็นคลื่นเพลิงเผาไหม้เป้าหมายตรงหน้า
-ปกป้องตัวเองด้วยม่านไฟแห่งเพลิง
-สร้างทะเลเพลิงที่เผาไหม้ทุกสิ่งทุกอย่างบริเวณโดยรอบจนไม่เหลือแม้กระทั่งซาก เป็นกระบวนท่าที่รุนแรงที่สุดของเฮนเรียตต้า ความร้อนของมันรุนแรงถึงขนาดตัวผู้ใช้อย่างเธอเองยังรู้สึกปวดแสบปวดร้อนเหมือนถูกเผาทั้งเป็น แน่นอนว่ามันไม่ใช่ท่าที่ถูกใช้บ่อยๆ และมักจะถูกใช้เมื่อเฮนเรียตต้าถูกความโกรธแค้นครอบงำจนเสียสติ

จุดประสงค์ในการเดินทางไปนาวิก/พรที่ต้องการให้เป็นจริง: คืนชีพให้คนรักของตนเอง

เพิ่มเติม: -